โบบีญี 28 พ.ค.- ศาลฝรั่งเศสเปิดการไต่สวนคดีที่แม่และลูกสาวฟ้องเรียกค่าเสียหายจากทางการว่า ทำไห้พวกเธอไม่สบายเพราะมลพิษทางอากาศ
ศาลปกครองมงเทรย์ ทางตะวันออกของกรุงปารีสเปิดการไต่สวนคดีที่แม่ลูกคู่หนึ่งเรียกค่าเสียหาย 160,000 ยูโร (ราว 5.69 ล้านบาท) จากทางการ เนื่องจากไม่ดำเนินมาตรการที่มีประสิทธิภาพเรื่องมลพิษทางอากาศ โดยเฉพาะในช่วงที่มลพิษทางอากาศในกรุงปารีสสูงมากในเดือนธันวาคม 2559 ซึ่งเป็นช่วงที่พวกเธออาศัยอยู่ในเขตแซงต์อวน ชานกรุงปารีส ไม่ห่างจากถนนวงแหวนที่เต็มไปด้วยควันพิษ ถนนนี้เปิดใช้งานตั้งแต่ปี 2516 มียวดยานผ่านวันละ 1.1 ล้านคัน และเป็นฝันร้ายของคน 1 แสนคนที่อาศัยในละแวกนั้น มารดาวัย 52 ปี ต้องลางานบ่อย ส่วนบุตรสาววัย 16 ปี เป็นหอบหืด ทนายความเผยว่า พวกเธอย้ายไปอาศัยเมืองอื่นตามคำแนะนำของแพทย์และสุขภาพก็ดีขึ้นอย่างเห็นได้ชัด จึงฟ้องทางการฝรั่งเศสว่าไม่บังคับใช้ระเบียบในการปกป้องประชาชน ไม่ใช้มาตรการที่มีอยู่อย่างเต็มที่ และไม่ดำเนินมาตรการตามที่ได้ตกลงกันอย่างเหมาะสม
ปัจจุบันมีคนยื่นฟ้องทางการฝรั่งเศสในลักษณะเดียวกันนี้ประมาณ 50 ราย แต่คดีนี้เป็นคดีแรกที่เรื่องถึงศาล ข้อมูลของสำนักงานสาธารณสุขฝรั่งเศสระบุว่า มลพิษทางอากาศทำให้คนเสียชีวิตก่อนวัยอันควรปีละ 48,000 คน เดือนธันวาคม 2559 กรุงปารีสเผชิญมลพิษฤดูหนาวเลวร้ายที่สุดในรอบทศวรรษ ทางการต้องสั่งให้ยวดยานวิ่งตามเลขคู่เลขคี่ของป้ายทะเบียนเพื่อลดจำนวนยวดยานบนท้องถนน นับเป็นครั้งที่สี่ที่ใช้มาตรการนี้ หลังจากเคยใช้ในปี 2540, 2557 และ 2558 ส่วนเมื่อเดือนพฤษภาคมปีก่อนคณะกรรมาธิการยุโรปฟ้องฝรั่งเศสและอีกห้าชาติต่อศาลยุติธรรมยุโรปว่า ไม่ดำเนินมาตรการปรับปรุงคุณภาพอากาศทั้งที่ควรทำมานานแล้ว สหภาพยุโรป หรืออียูเตือนฝรั่งเศสมานาน 12 ปีแล้วว่า ฝุ่นละอองและระดับไนโตรเจนไดออกไซด์ในบางเมืองของฝรั่งเศส สูงกว่ามาตรฐานของอียูกว่าสองเท่า.-สำนักข่าวไทย