ธากา 6 ธ.ค.- องค์การระหว่างประเทศเพื่อการโยกย้ายถิ่นฐาน (ไอโอเอ็ม) เผยว่า ช่วง 2 เดือนมานี้มีชาวโรฮิงญาหนีเหตุรุนแรงในเมียนมาร์เข้าบังกลาเทศ 21,000 คน
หัวหน้าสำนักงานไอโอเอ็มในเขตค็อกซ์บาซาร์ ทางตะวันออกเฉียงใต้ของบังกลาเทศที่ติดกับรัฐยะไข่ ทางตะวันตกของเมียนมาร์อ้างข้อมูลของหน่วยงานสหประชาชาติ (ยูเอ็น) และองค์กรนอกภาครัฐระหว่างประเทศว่า ตั้งแต่วันที่ 9 ตุลาคม-2 ธันวาคม มีชาวโรฮิงญาข้ามพรมแดนมาจากเมียนมาร์แล้วราว 21,000 คน ส่วนใหญ่อาศัยตามที่พักชั่วคราว ค่ายผู้ลี้ภัยของทางการ และบ้านของชาวบ้าน แม้ว่าบังกลาเทศได้เพิ่มการลาดตระเวนตามพรมแดนเพื่อยับยั้งคลื่นผู้อพยพที่ทะลักเข้ามาตั้งแต่กองทัพเมียนมาร์ยกกำลังเข้าไปในรัฐยะไข่ตั้งแต่ต้นเดือนตุลาคมเพื่อกวาดล้างกลุ่มติดอาวุธที่บุกก่อเหตุกับป้อมตำรวจ
รัฐบาลบังกลาเทศถูกกดดันทั้งจากฝ่ายค้านและกลุ่มมุสลิมให้เปิดพรมแดนรับชาวโรฮิงญา ล่าสุดวันนี้ตำรวจสกัดชาวมุสลิมร่วมหมื่นคนไม่ให้เคลื่อนขบวนไปประท้วงหน้าสถานทูตเมียนมาร์ในกรุงธากา ปัจจุบันมีชาวโรฮิงญาอาศัยอยู่ในบังกลาเทศกว่า 230,000 คน ส่วนใหญ่อยู่อย่างผิดกฎหมาย มีเพียง 32,000 คนที่ได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นผู้ลี้ภัย
ด้านนางออง ซาน ซู จี เจ้าของรางวัลโนเบลสาขาสันติภาพและผู้นำเมียนมาร์โดยพฤตินัยประกาศเมื่อสัปดาห์ก่อนว่า จะสร้างสันติภาพและความปรองดองแห่งชาติ และว่าประเทศของเธอกำลังเผชิญความท้าทายหลายอย่าง แต่ไม่พูดถึงเหตุรุนแรงในรัฐยะไข่ หลังจากถูกนานาชาติกดดันเรื่องกองทัพใช้กำลังกับชาวโรฮิงญาตามที่เจ้าหน้าที่ยูเอ็นเปรียบว่าเป็นการล้างเผ่าพันธุ์.-สำนักข่าวไทย