ออสเตรเลีย 25 ก.ค.-ผู้เชี่ยวชาญด้านการแพทย์แนะวิธีในการป้องกันและต่อสู้กับโรคมะเร็งที่ดีที่สุดคือการออกกำลังกาย
ผู้เชี่ยวชาญด้านการแพทย์แนะวิธีในการป้องกันและต่อสู้กับโรคมะเร็ง ภัยร้ายที่ยังคงคุกคามชีวิตของมวลมนุษยชาติ อาวุธสำคัญที่จะใช้ต่อสู้กับโรคมะเร็งก็คือการออกกำลังกาย ผู้เชี่ยวชาญระบุว่า ปัจจุบันมีหลักฐานยืนยันแน่ชัดว่า การออกกำลังกาย ไม่ว่าจะเป็นการเดิน วิ่ง ปั่นจักรยาน หรือแม้แต่ยกน้ำหนักล้วนมีส่วนช่วยฟื้นฟูร่างกายของผู้ป่วยหลังเข้ารับการผ่าตัดและให้เคมีบำบัดรักษาโรคมะเร็ง
นิโคล คูเปอร์ ที่ดูแข็งแรงและสุขภาพดี ไม่น่าเชื่อว่าตรวจพบเป็นมะเร็งลำไส้ระยะสุดท้าย เชื้อมะเร็งกระจายไปตามส่วนต่างๆ ของร่างกาย รวมทั้งตับ ปอด และต่อมน้ำ เหลือง แพทย์ตัดสินใจใช้วิธีการรักษาด้วยเคมีบำบัดและการออกกำลังกาย
คูเปอร์เล่าว่าเธอต้องให้เคมีบำบัดถึง 20 ครั้ง ควบคู่ไปกับการออกกำลัง ผลจากความพยายามในการรักษาและการออกกำลังกายอย่างเคร่งครัดตามคำแนะนำของแพทย์ อาการป่วยของคูเปอร์ดีขึ้นจนแพทย์ถึงกับประหลาดใจ วารสารการแพทย์ออสเตรเลีย ระบุว่า การออกกำลังกายช่วยลดอัตราเสี่ยงไม่ให้ผู้ป่วยกลับมาเป็นโรคมะเร็งซ้ำอีกได้ถึงร้อยละ 25 ถึง 35 รวมทั้งช่วยลดอัตราเสี่ยงโรคมะเร็งเต้านม มะเร็งต่อมลูกหมาก และมะเร็งลำไส้ลงได้ถึงร้อยละ 25 ถึง 40 สำหรับผู้ป่วยโรคมะเร็ง แพทย์แนะนำให้ออกกำลังกายแบบปานกลางให้ได้อย่างน้อยสัปดาห์ละ 150 นาที ส่วนการออกกำลังกายแบบแอโรบิก อย่างเช่นการเดิน วิ่ง ขี่จักรยาน และว่ายน้ำ แพทย์แนะนำให้ทำอย่างน้อยสัปดาห์ละ 75 นาที
นอกจากนี้ แพทย์ยังแนะนำให้ผู้ป่วยมะเร็งออกกำลังกายด้วยการยกน้ำหนักเสริมด้วย ดร.เดวิด สปีคแมน จากศูนย์มะเร็งปีเตอร์ แมคคัลลัม ย้ำว่า ตารางการออกกำลังกายของผู้ป่วยมะเร็งเป็นส่วนหนึ่งของแผนการรักษา และต้องอยู่ภายใต้การดูแลของแพทย์และผู้เชี่ยวชาญ นอกจากผู้ป่วยโรคมะเร็งที่ต้องออกกำลังกายแล้ว คนปกติก็ต้องหมั่นออกกำลังกายด้วยเนื่องจากเป็นวิธีป้องกันโรคมะเร็งที่ได้ผลอย่างดียิ่ง.-สำนักข่าวไทย
