เซี่ยงไฮ้ 9 ธ.ค. – จีนปรับลดวงเงินสูงสุดที่ผู้ถือบัตรชาวจีนสามารถถอนจากตู้เอทีเอ็มในมาเก๊าได้ในแต่ละวันลงกว่าครึ่งขณะพยายามควบคุมเงินทุนไหลออกนอกประเทศจากปัจจัยเงินหยวนอ่อนค่า
หนังสือพิมพ์เซาท์ไชน่ามอร์นิ่งโพสต์ของฮ่องกงรายงานวันนี้ว่า ตั้งแต่วันเสาร์เป็นต้นไป ผู้ถือบัตรยูเนี่ยนเพย์สามารถถอนเงินสดจากตู้เอทีเอ็มในมาเก๊าได้สูงสุดเพียง 5,000 ปาตากาส์ต่อวัน (ราว 22,300 บาท ) ลดลงจากก่อนหน้านี้ที่สามารถถอนได้สูงสุด 10,000 หยวนต่อวัน (ราว 51,700 บาท ) บริษัท ยูเนี่ยนเพย์ อินเตอร์เนชั่นแนลแถลงว่า ทางบริษัทยังไม่มีการเปลี่ยนแปลงนโยบายกำหนดวงเงินสูงสุดที่ถอนได้ในต่างประเทศ โดยในแต่ละปีผู้ถือบัตรยังคงสามารถกดเงินจากตู้เอทีเอ็มได้สูงสุด 100,000 หยวนต่อปี (ราว 517,000 บาท) ทั้งนี้ ขึ้นอยู่กับกฎระเบียบและกฎหมายที่ออกโดยหน่วยงานที่กำกับดูแลด้วย
นักวิเคราะห์จากเจพีมอร์แกน เชส แอนด์ โคในฮ่องกงอธิบายว่า เป็นการส่งสัญญาณจากทางการจีนที่ต้องการจะป้องกันความเสี่ยงจากเงินไหลออกนอกประเทศท่ามกลางเงินทุนสำรองระหว่างประเทศที่ลดลงอย่างต่อเนื่อง เมื่อเดือนพฤศจิกายน เงินทุนสำรองระหว่างประเทศของจีนลดลงเป็นเดือนที่ 5 ติดต่อกันอยู่ที่ 3.05 ล้านล้านดอลลาร์สหรัฐ (ราว 108.711 ล้านล้านบาท) ส่งผลให้ทางการต้องออกมาตรการควบคุมเงินทุนไหลออก
นักวิเคราะห์เผยอีกว่า การลดวงเงินที่สามารถถอนได้จากตู้เอทีเอ็มของรัฐบาลจีนจะส่งผลกระทบต่อรายได้ของอุตสาหกรรมการพนันในมาเก๊า เพราะยูเนี่ยนเพย์เป็นระบบเครดิตการ์ดของชาวจีนแผ่นดินใหญ่ เทียบได้กับวีซ่าและมาสเตอร์การ์ด ดังนั้นการตัดวงเงินก็เหมือนกับการตัดท่อน้ำเลี้ยงของอุตสาหกรรมการพนันในมาเก๊า.-สำนักข่าวไทย