5 ก.ย. – ควันหลงจากพิธีสวนสนามวันแห่งชัยชนะของจีนที่โลกได้เห็นบุตรสาวของนายคิม จองอึน ผู้นำเกาหลีเหนือ ปรากฏตัวในต่างประเทศเป็นครั้งแรก รายงาน 9 ทันโลก พาไปติดตามว่ามีนัยสำคัญอย่างไร
พิธีใหญ่ระดับโลกที่จีนเป็นอีกครั้งที่ตอกย้ำความคาดหมายจากผู้สันทัดกรณีว่าผู้ที่ถูกวางตัวเป็นทายาทของผู้นำสูงสุดเกาหลีเหนือ น่าจะเป็นบุตรสาวของเขา ผู้ซึ่งแม้ยังเป็นวัยรุ่นแต่เริ่มมีบทบาท
เมื่อผู้นำสูงสุดเกาหลีเหนือปรากฏตัว บุตรสาวคนนี้มักอยู่เคียงข้างราวกับเงาตามตัว ครั้งนี้ร่วมภารกิจของนายคิม จองอึน บนเวทีนานาชาติครั้งแรก และเป็นครั้งสำคัญที่สุดของบิดา ร่วมการสวนสนามวันแห่งชัยชนะในกรุงปักกิ่งของจีน ที่ยังเป็นวาระสำคัญในการสำแดงแนวร่วมแห่งระเบียบโลกใหม่ของผู้นำจีนด้วย หรือผู้นำเกาหลีเหนือต้องการบอกว่านี่คือทายาทการเมืองเขา
ทุกอย่างยังเป็นปริศนาในระบอบปกครองแบบสืบสายเลือดของเกาหลีเหนือ แม้แต่ชื่อบุตรสาวคนนี้ของนายคิม จองอึน ยังเป็นเพียงคำบอกเล่าของเดนิส ร็อดแมน นักบาสเกตบอลเอ็นบีเอ เพื่อนรักของนายคิม เปิดเผยกับสื่อเมื่อครั้งไปเยือนเกาหลีเหนือเมื่อกว่า 10 ปีก่อน รายงานของสำนักงานข่าวกรองเกาหลีเมื่อปี 2017 ระบุว่า นายคิม มีบุตรกับภรรยา รี โซลจู 3 คน คิม จูแอ เป็นคนที่สอง เกิดปี 2013 จึงคาดเดาว่าอายุระหว่าง 12-13 ปี ชื่นชอบการว่ายน้ำ สกี และขี่ม้า
โดยยังมีพี่ชายอายุมากว่าราว 3 ปี แล้วยังมีน้องคนสุดท้องไม่ทราบเพศ เกิดปี 2017 แต่นั่นไม่ตัดโอกาสที่เธอจะเป็นสมาชิกตระกูลคิมคนที่ 4 ที่ปกครองเกาหลีเหนือ
คิม จูแอ ปรากฏตัวต่อสาธารณะครั้งแรกเมื่อราว 2 ปีก่อน ที่ไปร่วมกับบิดาชมการทดสอบยิงขีปนาวุธข้ามทวีป ในครั้งนั้นมีความเชื่อว่าเขาเพียงต้องการแสดงภาพลักษณ์ความเป็นบิดาต่อสายตาประชาชน
หลายเดือนต่อมาร่วมการสวนสนามวันสถาปนากองทัพประชาชนเกาหลี เวลานั้นสื่อของรัฐบาลเรียกขานเธอว่า บุตรีที่เคารพ ในบางโอกาสใช้คำยกย่องว่าเป็นบุคคลเป็นเลิศผู้ให้คำชี้แนะ ซึ่งมักใช้กับผู้นำอาวุโส จากนั้นในช่วงปีที่ผ่าน การปรากฏตัวถี่ขึ้นในวาระสำคัญใหญ่น้อย และขยายไปครอบคลุมภารกิจด้านการทหาร การเมือง และเศรษฐกิจ ดังนั้น ผู้สันทัดกรณีทั้งชาวเกาหลีใต้และต่างชาติ ฟันธงว่า คิม จูแอ คือตัวเต็งสืบทอดบัลลังก์ที่กำลังฟูมฟัก ปลูกฝัง และถ่ายทอด เมื่อต้นปีที่แล้วสำนักงานข่าวกรองเกาหลีใต้ยังได้ยกให้เธอเป็นผู้ที่มีโอกาสสูงสุดในการสืบทอดตำแหน่ง แล้วสังคมเกาหลีเหนือพร้อมที่จะมีผู้นำหญิงแล้วหรือ
นักวิเคราะห์ที่เชี่ยวชาญเกาหลีเหนือต่างยอมรับว่าไม่เคยเชื่อที่ผู้หญิงจะเป็นผู้นำสูงสุดของเกาหลีเหนือที่มีการปกครองสายการบังคับบัญชาที่เคร่งครัด ในสังคมที่ผู้ชายเป็นใหญ่ แต่การส่งสัญญาณต่างๆ โดยเฉพาะการไปเยือนจีนในวาระสำคัญเช่นนี้ บ่งบอกการยอมรับของรัฐบาลปักกิ่ง ถึงการวางตัวทายาทผู้นำของประเทศพันธมิตร แม้แต่นายคิม จองอิล บิดาของนายคิม จองอึน ขณะยังมีชีวิตยังไม่เคยนำลูกชายร่วมภารกิจต่างแดนเช่นนี้
คุณยาง มูจิน แห่งมหาวิทยาลัยเกาหลีเหนือศึกษา ในเกาหลีใต้ เชื่อว่ารัฐบาลจีนยอมรับจุดยืนของนายคิม ส่งสัญญาณที่จะสืบสานพันธมิตรทางสายเลือดต่อไปถึงรุ่นลูกของนายคิม ส่วนชาวเกาหลีเหนือ ภาพที่ออกมาตอกย้ำบทบาทของบุตรสาว ไม่เฉพาะในประเทศ แต่เป็นระดับนานาชาติด้วย
ศาสตราจารย์ โทชิมิตซึ ชิเงมูระ ผู้เชี่ยวชาญตระกูลคิม ให้ความเห็นว่า ในสังคมที่ยึดถือลัทธิขงจื้ออย่างเกาหลี ผู้หญิงจะขึ้นเป็นผู้นำประเทศยากมาก ผู้ชายที่อาวุโสกว่า โดยเฉพาะนายทหารต่างๆ จะต่อต้าน หากขึ้นเป็นผู้นำจริงๆ ซึ่งน่าจะเกิดขึ้นเมื่อสิ้นยุคบิดาไป เธอจะไม่มีผู้หนุนหลัง และจะถูกท้าทายอำนาจจากที่ผ่านมาในการสืบสายเลือดผู้นำเกาหลีเหนือ ผู้นั้นต้องมีอายุ 20 ปีขึ้นไป และมีตำแหน่งทางการอยู่ก่อน แต่ทุกอย่างอาจเปลี่ยนแปลงได้ เธออาจได้รับการวางตัวอย่างเป็นทางการในการประชุมสมัชชาพรรคคนงานเกาหลีในเดือนมกราคม.-สำนักข่าวไทย