เม็กซิโกซิตี 11 ก.ย.- เม็กซิโกประกาศจะขึ้นภาษีศุลกากรยานยนต์นำเข้าจากประเทศที่ไม่มีข้อตกลงการค้ากับเม็กซิโก ซึ่งครอบคลุมถึงไทย เป็นร้อยละ 50 และจะขึ้นภาษีสินค้าอีกหลายประเภทด้วย เพื่อปกป้องคนทำงานในประเทศ
นายมาร์เซโล เอบาร์ด รัฐมนตรีเศรษฐกิจของเม็กซิโก ตอบข้อถามผู้สื่อข่าวเมื่อวันพุธตามเวลาท้องถิ่นเรื่องภาษีศุลกากรยานยนต์นำเข้าจากจีนที่ปัจจุบันเม็กซิโกเก็บที่อัตราร้อยละ 20 ว่า เม็กซิโกจะขึ้นเป็นอัตราสูงสุดเท่าที่ทำได้ เพราะหากไม่มีการปกป้องในระดับหนึ่ง เม็กซิโกก็แทบจะไม่สามารถแข่งขันได้ มาตรการนี้อยู่ภายใต้ข้อกำหนดขององค์การการค้าโลก มีจุดประสงค์เพื่อปกป้องการจ้างงานในเม็กซิโก เนื่องจากยานยนต์จีนเข้าตลาดเม็กซิโกในราคาที่ต่ำกว่าราคาอ้างอิง รัฐบาลจะนำมาตรการนี้เข้าสู่รัฐสภาที่รัฐบาลครองเสียงข้างมากเพื่อขอความเห็นชอบต่อไป ก่อนหน้านี้เมื่อต้นปีนายเอบาร์ดแสดงความคัดค้านการขึ้นภาษีว่า เป็นอุปสรรคต่อการขยายตัวทางเศรษฐกิจและการควบคุมอัตราเงินเฟ้อ
กระทรวงเศรษฐกิจเม็กซิโกออกประกาศว่า จะบังคับใช้อัตราภาษีศุลกากรใหม่กับประเทศที่ไม่มีข้อตกลงการค้ากับเม็กซิโก โดยเฉพาะจีน เกาหลีใต้ อินเดีย อินโดนีเซีย รัสเซีย ตุรกีหรือทูร์เคีย และไทย ซึ่งจะกระทบต่อสินค้านำเข้าประมาณร้อยละ 8.6 และจะปกป้องคนทำงานภาคอุตสาหกรรมและภาคการผลิตได้ราว 325,000 คน ภาษีใหม่นี้ยังครอบคลุมถึงภาษีร้อยละ 35 ที่จะเก็บกับเหล็ก ของเล่น และรถจักรยานยนต์ ภาษีร้อยละ 10-50 ที่จะเก็บกับสิ่งทอ
มารีอานา กัมเปโร แห่งโครงการอเมริกาส์ (Americas Program) ของศูนย์ยุทธศาสตร์และนานาชาติศึกษา (CSIS) ชี้ว่า ความเคลื่อนไหวนี้มีขึ้นในช่วงที่สหรัฐกำลังกดดันประเทศในลาตินอเมริกาให้จำกัดความสัมพันธ์ทางเศรษฐกิจกับจีน สหรัฐจะไม่ยอมให้จีนใช้เม็กซิโกเป็นประตูหลังในการเข้าถึงสหรัฐ ขณะที่เม็กซิโกขาดดุลการค้าให้จีนเพิ่มขึ้นถึง 2 เท่าในช่วงทศวรรษที่ผ่านนมา โดยขาดดุลถึง 120,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ (ราว 3.8 ล้านล้านบาท) เมื่อปี 2567
ด้านนายจอห์น ไพรซ์ กรรมการผู้จัดการของอเมริกาส์มาร์เก็ตอินเทลลิเจนซ์ (Americas Market Intelligence) ที่เป็นบริษัทวิจัยในลาตินอเมริกามองว่า เม็กซิโกซึ่งส่งออกยานยนต์จำนวนมากเข้าสหรัฐ กำลังหาทางเอาใจสหรัฐควบคู่ไปกับการปกป้องนโยบายเศรษฐกิจที่ใช้ได้ผลตลอด 30 ปีที่ผ่านมา.-814.-สำนักข่าวไทย