สหประชาชาติ 28 พ.ย.- เอกอัครราชทูตเกาหลีเหนือประจำสหประชาชาติหรือยูเอ็นชี้แจงปกป้องเรื่องเกาหลีเหนือปล่อยดาวเทียมจารกรรม
นายคิม ซง เอกอัครราชทูตเกาหลีเหนือประจำยูเอ็นกล่าวต่อที่ประชุมต่อคณะมนตรีความมั่นคงยูเอ็นหรือยูเอ็นเอสซีเมื่อวันจันทร์ตามเวลาท้องถิ่นว่า ไม่มีประเทศใดในโลกตกอยู่ในสถานการณ์ความมั่นคงที่วิกฤตเช่นเดียวกับเกาหลีเหนือ คู่ปรปักษ์อย่างสหรัฐกำลังข่มขู่เกาหลีเหนือด้วยอาวุธนิวเคลียร์ ดังนั้นเกาหลีเหนือในฐานะคู่ปรปักษ์อีกฝ่ายจึงมีสิทธิอันชอบธรรมที่จะพัฒนา ทดสอบ ผลิต และครอบครองระบบอาวุธที่เสมอกับสหรัฐเช่นกัน พร้อมกับถือโอกาสนี้เยาะเย้ยข้อกล่าวหาของสหรัฐที่ว่าเทคโนโลยีดาวเทียมได้ช่วยเสริมศักยภาพขีปนาวุธของเกาหลีเหนือด้วยการถามว่า สหรัฐใช้หนังสติ๊กยิงดาวเทียมเข้าสู่วงโคจรเช่นนั้นหรือ
ด้านนางลินดา โทมัส-กรีนฟิลด์ เอกอัครราชทูตสหรัฐประจำยูเอ็นไม่ยอมรับเรื่องที่เกาหลีเหนือยืนยันว่าเกาหลีเหนือทำไปเพื่อป้องกันตนเอง โดยกล่าวว่าการฝึกซ้อมทางทหารร่วมระหว่างสหรัฐกับเกาหลีใต้เป็นภารกิจปกติที่เป็นไปในลักษณะป้องกันตัว เพราะมีเจตนาจะลดความเสี่ยงและแสดงความโปร่งใสด้วยการประกาศล่วงหน้า ทั้งกำหนดวันเวลาและกิจกรรมที่จะดำเนินการ นอกจากนี้การฝึกซ้อมของสหรัฐและเกาหลีใต้ไม่ได้ละเมิดมติของยูเอ็นเอสซีแต่อย่างใด
ขณะที่นายเกิ๋ง ส่วง เอกอัครราชทูตจีนประจำยูเอ็นกล่าวหาสหรัฐว่า ทำให้เกิดความตึงเครียดและการเผชิญหน้ามากยิ่งขึ้น จากการเป็นพันธมิตรทางทหารกับเกาหลีใต้ ดังนั้นหากเกาหลืเหนือรู้สึกว่าถูกคุกคาม และความกังวลเรื่องความมั่นคงที่ชอบธรรมยังคงไม่ได้รับการแก้ไข คาบสมุทรเกาหลีจะสามารถไม่หลุดพ้นจากภาวะกลืนไม่เข้าคายไม่ออกด้านความมั่นคง แต่จะติดอยู่ในวงจรของการเคลื่อนไหวก้าวร้าวเพื่อตอบโต้กันไปมาเท่านั้น.-สำนักข่าวไทย