ฮิวสตัน 1 ก.ค. – เจ้าหน้าที่สหรัฐกล่าววานนี้ว่า มีผู้เสียชีวิตอย่างน้อย 13 ราย จากสภาพอากาศที่ร้อนจัดทางภาคใต้ของสหรัฐมาเป็นเวลา 2 สัปดาห์แล้วในขณะที่อากาศในพื้นที่ส่วนอื่น ๆ ของประเทศมีสภาพเป็นมลพิษจากควันไฟของไฟไหม้ป่าในแคนาดา
เขตเว็บบ์ เคาน์ตี้ ในรัฐเท็กซัส ใกล้ชายแดนติดกับเม็กซิโก มียอดผู้เสียชีวิตมากที่สุดที่ 11 ราย เจ้าหน้าที่ท้องถิ่นกล่าวในแถลงการณ์ที่ส่งถึงกับสำนักข่าวเอเอฟพีว่า นับจนถึงวันพุธ มีผู้เสียชีวิตแล้วรวมทั้งสิ้น 11 ราย โดยผู้เสียชีวิตรายที่ 11 มาจากเขตใกล้เคียงกับเว็บบ์ เคาน์ตี้ที่ถูกส่งตัวมารักษาที่โรงพยาบาลในท้องถิ่นและเสียชีวิตในเวลาต่อมา เมื่อสัปดาห์ที่แล้ว เด็กชายอายุ 14 ปีคนหนึ่งเสียชีวิตในระหว่างที่กำลังท่องเที่ยวในอุทนยานแห่งชาติบิ๊กเบนด์ ในรัฐเทกซัส ซึ่งมีอุณหภูมิสูงถึง 48 องศาเซลเซียส และเหตุการณ์น่าเศร้าไปอีกเมื่อบิดาบุญธรรมของเขาเสียชีวิตจากอุบัติเหตุทางรถยนต์ในขณะที่เขากำลังเร่งรีบเดินทางไปช่วยเหลือ นอกจากนั้น สตรีวัย 62 ปี รายหนึ่ง เสียชีวิตที่รัฐหลุยเซียนา เมื่อสัปดาห์ที่แล้ว หลังจากพายุทำให้ครอบครัวหลายพันหลังคาเรือนไม่มีไฟฟ้าใช้ทำให้ไม่สามารถเปิดเครื่องปรับอากาศเพื่อบรรเทาความร้อนได้
ในขณะที่กระแสลมในสหรัฐกำลังพัดลงทิศใต้ ทำให้พื้นที่บริเวณกว้างในสหรัฐที่มีประชาชนมากกว่า 120 ล้านคน ตั้งแต่เขตมิดเวสต์ไปจนถึงบริเวณอีสต์โคสต์ ยังคงเผชิญกับสภาพอากาศที่เป็นมลพิษจากควันไฟจากไฟไหม้ป่าในแคนาดา ในเมืองนิวยอร์กและฟิลาเดลเฟีย สภาพอากาศยังอยู่ระดับที่เป็นอัตรายต่อสุขภาพ.-สำนักข่าวไทย