“ชลน่าน” ลั่น “ยุทธการเด็ดหัว สอยนั่งร้าน” ไม่ได้แพ้

รัฐสภา 23 ก.ค. – “ชลน่าน” ระบุ “ยุทธการเด็ดหัว สอยนั่งร้าน” ไม่ได้แพ้ ยอมรับเสียงข้างมากในสภาฯ แต่ไม่ตรงกับเสียงประชาชนนอกสภา จ่อยื่น ป.ป.ช. – ศาล ตรวจสอบต่อ


แกนนำพรรคร่วมฝ่ายค้าน นำโดย นายแพทย์ชลน่าน ศรีแก้ว หัวหน้าพรรคเพื่อไทย นายสุทิน คลังแสง ประธานวิปฝ่ายค้าน แถลงภายหลังการลงมติอภิปรายไม่ไว้วางใจรัฐมนตรีเป็นรายบุคคล ว่า เมื่อเห็นผลคะแนนและเป็นเรื่องที่สร้างความผิดหวังให้กับประชาชนและเป็นการสวนทางกับความตั้งใจที่พรรคฝ่ายค้านได้ทำงานมาโดยตลอด

นายแพทย์ ชลน่าน ศรีแก้ว กล่าวว่า คะแนนความไม่ไว้วางใจ ไม่ถึงกึ่งหนึ่งของจำนวนสมาชิก ก็ชัดเจนว่าสภาลงมติไว้วางใจให้รัฐมนตรีที่ถูกอภิปรายทำหน้าที่ต่อไป ซึ่งฝ่ายค้านยอมรับผลการลงมติในครั้งนี้ว่าเป็นไปตามกลไกของระบบรัฐสภา ที่ยึดเสียงข้างมากเป็นหลัก ผลคะแนนที่ออกมา ซึ่งแม้ว่าสิ่งที่ทำหน้าที่ไปจากข้อกล่าวหาและหลักฐานข้อเท็จจริงที่นำมาแสดงจะชัดเจนเพียงใดแต่การลงมติก็เหมือนกับที่ทุกคนได้เห็น


นพ.ชลน่าน กล่าวว่า ขอแสดงความยินดีกับนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีที่ถูกอภิปรายที่ยังสามารถอยู่ในตำแหน่งต่อไปได้ด้วยระบบกลไกของสภา แต่ขอแสดงความเสียใจกับประชาชนที่ผลคะแนน โหวตโดยตรง ไม่ไว้วางใจถึงร้อยละ 98.3 ชี้ให้เห็นว่าคะแนนที่ลงจากประชาชนนอกสภาโดยตรงนั้น แตกต่างจากคะแนนของสภา

ทั้งนี้ ตนยอมรับกับเสียงข้างมาก แม้จะมีกลไกต่างๆ เข้ามาแทรกแซงอย่างที่ทราบในการบิดเบือนและทำลายระบอบประชาธิปไตย แต่ยุทธการเด็ดหัว สอยนั่งร้าน ในครั้งนี้ ไม่ได้พ่ายแพ้ แต่จะทำในการเลือกตั้งที่จะเกิดขึ้น ซึ่งมั่นใจว่าพรรคเพื่อไทยจะสามารถทำได้

ขณะที่นายประเสริฐ จันทรรวงทอง ส.ส.นครราชสีมา เลขาธิการพรรคเพื่อไทย กล่าวว่า ผิดหวังเสียงในสภา แต่การเลือกตั้งครั้งหน้า คือประชาชนจะได้ลงเสียง เพื่อเป็นตัวชี้วัดอย่างหนึ่ง รัฐมนตรีหลายคนได้คะแนนต่ำสุด เช่น นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ ได้คะแนนต่ำสุด 241 เสียง แสดงให้เห็นถึงความไม่เป็นเอกภาพของรัฐบาล โดยพรรคเพื่อไทยและฝ่ายค้านจะทำงานอย่างหนักต่อไป เพื่อดูแลและปกป้องผลประโยชน์ของประชาชน ซึ่งหลังจากนี้จะรวบรวมหลักฐานที่ชี้ให้เห็นถึงการทุจริต ปล่อยปละละเลยของรัฐมนตรี-นายกฯ ยื่นต่อ คณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ หรือ ป.ป.ช. ศาลและองค์กรอิสระที่เกี่ยวข้องต่อไป.-สำนักข่าวไทย


ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

มุกใหม่มิจฉาชีพ

มุกใหม่มิจฉาชีพ! ป่วนโทรแจ้ง ตร. เกิดเหตุร้ายที่บ้านเหยื่อ

อินฟลูฯ สาว สายทำอาหาร ถูกมิจฉาชีพอ้างเป็นตำรวจโทรหา แต่เธอไม่เชื่อ โดนท้าอีก 10 นาทีเจอกัน ปรากฏว่า มีตำรวจจาก 2 โรงพักบุกมาที่บ้านจริง

“วราวุธ” ระบุการแข่งขัน อบจ.-สุพรรณบุรี ไม่มีปัญหา

“วราวุธ” ระบุการแข่งขัน อบจ.-สุพรรณบุรี ไม่มีปัญหา บอกสนามใหญ่ ไม่เข้าไปก้าวก่ายสนามท้องถิ่น ซ้ายก็เพื่อน ขวาก็พวก

ครม.เคาะแจกเงินหมื่นเฟส 2 ผู้สูงอายุ 60 ปี

“จุลพันธ์” เผย ครม.เห็นชอบโครงการกระตุ้นเศรษฐกิจผ่านกลุ่มผู้สูงอายุ วงเงิน 4 หมื่นล้านบาท คาดว่าจะดำเนินการทันก่อน 29 ม.ค.68 รวม 3 มาตรการ สร้างเม็ดเงินหมุนเวียนในระบบ 1.4-1.5 แสนล้านบาท

ข่าวแนะนำ

คุมฝากขัง “เอ็ม เอกชาติ” คดี “แบงค์ เลสเตอร์”

ผบช.ภ.2 เผยคดี “แบงค์ เลสเตอร์” แจ้งข้อหา “เอ็ม” กระทำโดยประมาทเป็นเหตุให้ผู้อื่นถึงแก่ความตาย มอบตัวรับสารภาพตลอดข้อกล่าวหา คุมฝากขังค้านประกันตัว

หยุดยาววันแรก การจราจรขาออก กทม. มุ่งสู่อีสานเริ่มแน่น

เริ่มหยุดยาววันแรก การจราจรบนท้องถนนขาออกกรุงเทพฯ มุ่งสู่อีสานเริ่มแน่นตั้งแต่เมื่อคืน เช้านี้ ถนนมิตรภาพ ช่วง ต.กลางดง อ.ปากช่อง ชะลอเคลื่อนตัวไปได้เรื่อยๆ ส่วนถนนพหลโยธิน ขาเข้าหนองแค รถเริ่มแน่น

วันแรก ตาย 52 อุบัติเหตุ 322 ครั้ง บาดเจ็บ 318 คน

สถิติวันแรก 10 วันอันตราย ตาย 52 อุบัติเหตุ 322 ครั้ง บาดเจ็บ 318 คน​ “เพิ่มพูน” เน้นทุกฝ่ายช่วยกันดูแลความปลอดภัย อำนวยความสะดวก เข้มเรื่องกฎหมาย