ดีเอสไอ รับคดีอั้งยี่ ปมเลือก สว. เป็นคดีพิเศษเพิ่ม จาก 2 พื้นที่

ศูนย์ราชการ 24 เม.ย.-ดีเอสไอ รับคดีอั้งยี่ ปมเลือก สว. 2567 เป็นคดีพิเศษเพิ่ม จาก 2 พื้นที่ เดินหน้าสอบพยาน เส้นเงิน ส่อโยงการเมือง

นายสมบูรณ์ ม่วงกล่ำ ที่ปรึกษารัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม พร้อมด้วยพ.ต.ต.ยุทธนา แพรดำ อธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ พ.ต.ท.อนุรักษ์ โรจนนิรันดร์กิจ รออธิบดีดีเอสไอ พ.ต.ต.วรณัน ศรีล้ำ ผู้อำนวยการกองคดีคุ้มครองผู้บริโภค และโฆษกดีเอสไอ และ พ.ต.ต.ณฐพล ดิษยธรรม ผู้เชี่ยวชาญเฉพาะด้านคดีคุ้มครองผู้บริโภคและสิ่งแวดล้อมร่วมแถลงกรณีดีเอสไอรับคดีอั้งยี่ฮั้งเลือก สว.เป็นคดีพิเศษ


โดย พ.ต.ต.ยุทธนา กล่าวว่า การเลือก สว.ได้มีผู้มาร้องขอให้ดีเอสไอดำเนินการสอบสวนเป็นคดีพิเศษหลายเรื่อง ไม่ว่าจะเป็นความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา ความผิดตามพระราชบัญญัติการป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน แล้วความผิดเกี่ยวกับการเลือกตั้ง ซึ่งเมื่อมีการสืบสวนแล้วคณะกรรมการคดีพิเศษได้ชี้ขาดให้มีการรับคดีฟอกเงินเป็นคดีพิเศษ ขณะนี้ได้มีการสอบสวนและประสานงานร่วมกับสำนักงานคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) อย่างต่อเนื่อง ทั้งการสอบพยาน มีการตั้งในส่วนของดีเอสไอเป็นอนุกรรมการ รวมถึงตรวจสอบภาพนิ่งภาพเคลื่อนไหว และข้อมูลทางด้านไอทีต่างๆ

อีกทั้งเมื่อวานที่ผ่านมา (23 เม.ย.) สภ.รัตนาธิเบศร์ และสภ.โกสุมพิสัย ได้ส่งเรื่องความผิดอาญาฐานอั้งยี่ที่เขาได้มีการรับเรื่องไว้มายังดีเอสไอ ซึ่งได้มีการพิจารณาแล้วก็มีการรับเป็นเรื่องต่อเนื่องเกี่ยวพันกับคดีพิเศษฐานฟอกเงินที่ได้รับไว้ ซึ่งเป็นอำนาจตามพ.ร.บ.คดีพิเศษ มาตรา 21 วรรคสอง ถือว่าเป็นการกระทำความผิดหลายบท หรือเกี่ยวพันกันกับคดีพิเศษ ให้ถือว่าคดีที่เกี่ยวพันกันนั้นเป็นคดีพิเศษด้วย จึงถือว่าขณะนี้ได้รับคดีอั้งยี่เป็นคดีพิเศษแล้ว ก็จะมีการสอบสวนรวบรวมพยานหลักฐานในขั้นตอนต่อไป


ด้านพ.ต.ท.อนุรักษ์ กล่าวว่า สำหรับเจ้าที่ดีเอสไอ 3 คนที่ไปรวมกับกกต.ในการสืบสวนสอบสวน ทางกกต.ได้มีคำสั่งตั้งเมื่อวันที่ 19 มี.ค.2568 โดยได้บูรณาการร่วมกันในการทำงานคู่ขนานไปกับคดีพิเศษของดีเอสไอ โดยการทำงานมีการส่งต่อข้อมูลและช่วยเหลือสนับสนุนข้อมูลซึ่งกันและกัน โดยในส่วนของการสอบสวนพยานบุคคลที่มีเกี่ยวข้องทั้งคดีพิเศษ และคดีที่เกี่ยวข้องกับกกต. ก็จะมีการสอบสวนร่วมไปในคราวเดียวเพื่อไม่ให้พยานเสียเวลา โดยจะมีอัยการมาร่วมด้วย

โดยปัจจุบันมีการสอบสวนไปแล้วจำนวน 30 ปาก ในการรวบรวมพยานหลักฐานเราจะรวบรวมความเชื่อมโยงทางการเงินทางโทรศัพท์ และจะนำเอไอมาใช้เพื่อวิเคราะห์พฤติกรรมบุคคลที่ได้เข้าไปอยู่ในสถานที่ที่มีการเลือกสว.ระดับประเทศ ที่อิมแพค เมืองทองธานี รวมถึงมีการวิเคราะห์พฤติกรรมในการลงคะแนน ซึ่งจะต้องรอผู้เชี่ยวชาญเข้ามาวิเคราะห์อีกครั้ง

ด้านนายสมบูรณ์ กล่าวว่า มีคนเข้ามาร้องกับดีเอสไอเป็นจำนวนมากว่าได้รับผลกระทบ และมองว่ากันเลือกสว.ไม่ถูกต้อง วันนี้ผู้ที่จะมาประสงค์เป็นพยานให้ข้อเท็จจริงในเรื่องการเลือกสว.ตั้งแต่ 9 มิ.ย.2567 ที่มีการเลือกตั้งระดับอำเภอ 16 มิ.ย.2567 ระดับจังหวัด และ 26 มิ.ย.2567 ระดับประเทศ ท่านสามารถเข้ามาหาพนักงานสืบสวนดีเอสไอ ได้ทันที เราพร้อมที่จะรับท่านบันทึกปากคำเป็นพยานในคดีทั้งฟอกเงิน และอั้งยี่


เมื่อถามว่าหลังจากนี้ทางดีเอสไอ และกกต.จะยังสอบสวนร่วม หรือแยกกแยกกันสอบสวนในแต่ละคดี พ.ต.ต.ยุทธนา กล่าวว่า แยกกันสอบ พิสูจน์ความผิดกันคนละกฎหมาย กกต.จะพิสูจน์ความเห็นเกี่ยวกับกฎหมายเลือกตั้ง ดีเอสไอก็จะพิสูจน์ความผิดเกี่ยวกับการฟอกเงิน และอั้งยี่ ซึ่งความผิดอาจจะซ้อนกันบ้างแต่คนละสำนวน

เมื่อถามอีกว่าได้มีการแจ้งข้อห้าอั้งยี่กับใครแล้วหรือไม่ พ.ต.ต.ยุทธนา กล่าวว่า เมื่อวานยังไม่ได้มีการแจ้งข้อหาอั้งยี่ เพียงแต่ได้มีการรับคดีไว้เท่านั้น ที่สภ.ท้องที่ได้มีการรับคำกล่าวโทษ เนื่องจากมีบุคคลเข้าไปกล่าวโทษในความผิดฐานอั้งยี่ และมีพฤติการณ์ว่าใครเกี่ยวข้องอะไรอย่างไร ซึ่งสภ.ท้องที่ได้พิจารณาแล้วเห็นว่าเป็นเรื่องที่เกี่ยวพันกับคดีพิเศษที่ดีเอสไอได้สอบสวนอยู่เขาส่งเรื่องมา ซึ่งตนมองว่าเป็นเรื่องที่เกี่ยวพันกัน จึงรับเข้ามาสอบสวน ซึ่งมีบุคคลต้องสงสัยแล้วเป็นจำนวนมาก

ด้านนายสมบูรณ์ กล่าวว่า ในการหาพยานหลักฐานของดีเอสไอ โดยเฉพาะคดีอั้งยี่จะต้องประกอบด้วยพยานบุคคล พยานเอกสาร พยานสถานที่ พยานวัตถุ และพยานวิทยาศาสตร์ซึ่งทุกอย่างประกอบกัน ซึ่งเมื่อมีการเลือกสว.ในระดับประเทศ ที่เมืองทองธานี จะต้องไปดูสถานที่ว่ากล้องวงจรปิดเป็นอย่างไร มีความสัมพันธ์กันอย่างไร ซึ่งเรื่องดังกล่าวพยานหลักฐานกรอบกว้างมาก ระยะเวลาที่ทำมามีเสียงที่บอกกล่าวกันว่าดีเอสไอ รีบเร่งดำเนินการ จริงๆไม่ใช่รีบเร่ง เพราะมีการรับสืบสวนตั้งแต่เดือนก.ย.2567 หลังจากมีผู้มาร้องเรียน เราใช้เวลาสืบสวนจนกระทั่งเมื่อวันที่ 25 ก.พ.2568 ผ่านมา 5 เดือนจึงจะเข้าคณะกรรมการคดีพิเศษในการประชุมครั้งแรก และวันที่ 6 มี.ค.2568 จึงรับเป็นคดีพิเศษ เพราะฉะนั้นระยะเวลา 5-6 เดือน ดีเอสไอสืบสวนรวบรวมพยานไว้ทั้งพยานบุคคล พยานเอกสาร พยานวัตถุไว้พอสมควร

เมื่อถามเพิ่มเติมว่า เส้นทางการเงินที่เราพบในฐานความผิดคดีฟอกเงินพอจะไปเชื่อมโยงถึงพรรคการเมืองที่เกี่ยวข้องกับการเลือกสว.ได้หรือไม่ พ.ต.ต.ยุทธนา กล่าวว่า ขณะนี้ยังไม่ปรากฏ กำลังติดตามข้อมูลอยู่ ซึ่งทางสถาบันการเงินทยอยส่งข้อมูล

ด้าน พ.ต.ต.ณฐพล กล่าวว่าในวันพรุ่งนี้ (25 เม.ย.) เวลา 14.00น. ตนได้รับมอบหมาย โดยทีมแผนที่ภูมิศาสตร์สารสนเทศดีเอสไอ เราได้ประสานไปยังเมืองทองธานีเพื่อไปเก็บทำแผนที่ที่เกิดเหตุที่มีการเลือก สว.ระดับประเทศทั้งหมด รวมถึงใช้กระบวนการทางนิติวิทยาศาสตร์ในการเก็บแผนที่ว่ามีเหตุการณ์อะไรเกิดขึ้นบ้างในวันเลือก สว. โดยจะใช้เครื่องมือพิเศษทั้งหมดในการเก็บข้อมูล.-313.-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

ชูความสำเร็จทีมไทยแลนด์ ปิดดีลภาษีสหรัฐที่ 19%

ทำเนียบ 1 ส.ค.-โฆษกรัฐบาล เผย ปิดดีลภาษีนำเข้าสหรัฐสำเร็จที่ 19% เกาะกลุ่มระดับใกล้เคียงกับประเทศในภูมิภาค ชู เป็นอีกหนึ่งความสำเร็จสำคัญของทีมไทยแลนด์ ในแนวทาง Win-Win นายจิรายุ ห่วงทรัพย์ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า รัฐบาลไทยสามารถเจรจาและบรรลุข้อตกลงเกี่ยวกับอัตราภาษีนำเข้าต่างตอบแทน (Reciprocal Tariffs) กับสหรัฐอเมริกาได้สำเร็จ โดยขณะนี้ รัฐบาลสหรัฐได้ประกาศแล้วว่าจะเรียกเก็บอัตราภาษีนำเข้าฯ จากสินค้าของไทยในอัตรา 19 % ซึ่งข้อตกลงดังกล่าวจะมีผลบังคับใช้ตั้งแต่วันนี้วันที่ 1 สิงหาคม 2568 เป็นต้นไป นายจิรายุ กล่าวว่า อัตราภาษีดังกล่าวที่ ต่ำกว่า อัตราเดิม 36 % และเกาะอยู่อยู่ในระดับใกล้เคียงกับประเทศในภูมิภาค อาทิ เวียดนาม ฟิลิปปินส์ และญี่ปุ่น สามารถรักษาการแข่งขันได้ เมื่อเทียบกับประเทศอื่นในภูมิภาคอาเซียน ซึ่งได้เจรจากับสหรัฐสำเร็จแล้วก่อนหน้านี้ “การปิดดีลครั้งนี้ของรัฐบาลไทย ในระดับภาษีนำเข้าฯ ไว้ที่ 19% ถือเป็นอีกหนึ่งความสำเร็จสำคัญของทีมไทยแลนด์ ในแนวทาง Win-Win เพื่อรักษาฐานการส่งออกและเสถียรภาพทางเศรษฐกิจของประเทศในระยะยาว ย้ำถึงศักยภาพของประเทศไทยในเวทีการค้าโลก ท่ามกลางความเปลี่ยนแปลงในนโยบายการค้าระหว่างประเทศ” นายจิรายุกล่าว […]

รพ.สรรพสิทธิประสงค์ แจ้งยกเลิกรับผู้ป่วยกัมพูชาชั่วคราว

อุบลราชธานี 31 ก.ค. – โรงพยาบาลสรรพสิทธิประสงค์ จังหวัดอุบลราชธานี ออกหนังสือขอยกเลิกการให้บริการผู้ป่วยชาวกัมพูชา และยกเลิกการปฏิบัติงานชั่วคราวของผู้ช่วยสื่อสารภาษากัมพูชา เนื่องจากสถานการณ์ความไม่สงบแนวชายแดนไทย-กัมพูชา ซึ่งส่งผลต่อความมั่นคงของประเทศ เมื่อวานนี้ (30 ก.ค.) พล.ท.บุญสิน พาดกลาง แม่ทัพภาคที่ 2 ลงพื้นที่เยี่ยมให้กำลังใจผู้ได้รับบาดเจ็บจากสถานการณ์ความไม่สงบในพื้นที่ชายแดนไทย-กัมพูชา พร้อมทั้งให้กำลังใจแก่เจ้าหน้าที่ผู้ปฏิบัติ งานด้านการแพทย์และพยาบาล ณ โรงพยาบาลสรรพสิทธิประสงค์ จังหวัดอุบลราชธานี นายแพทย์ มนต์ชัย วิวัฒนาสิทธิพงศ์ ผู้อำนวยการโรงพยาบาลสรรพสิทธิประสงค์ พร้อมด้วยคณะผู้บริหาร ให้การต้อนรับและรายงานความคืบหน้าการดูแลรักษาผู้ได้รับบาดเจ็บ รวมถึงการเตรียมความพร้อมด้านการรักษาพยาบาลรองรับสถานการณ์ฉุกเฉินในพื้นที่ชายแดน รพ.สรรพสิทธิประสงค์ แจ้งยกเลิกรับผู้ป่วยกัมพูชาชั่วคราวขณะที่ในวันเดียวกัน โรงพยาบาลสรรพสิทธิประสงค์ ได้ออกเอกสารขอยกเลิกการให้บริการผู้ป่วยชาวกัมพูชา และยกเลิกการปฏิบัติงานชั่วคราวของผู้ช่วยสื่อสารภาษากัมพูชา ใจความในหนังสือว่า “โรงพยาบาลสรรพสิทธิประสงค์ได้ให้การตรวจรักษาพยาบาลแก่ผู้ป่วยทั้งชาวไทยและชาวต่างชาติ รวมถึงผู้ป่วยชาวกัมพูชาที่เดินทางเข้ามารักษาอย่างต่อเนื่อง เนื่องจากสถานการณ์ความไม่สงบแนวชายแดนไทย-กัมพูชา ซึ่งส่งผลต่อความมั่นคงของประเทศ และจากมติที่ประชุมคณะกรรมการคลินิกพิเศษนอกเวลาราชการ โรงพยาบาลสรรพสิทธิประสงค์ มีมติดังนี้ 1.ยกเลิกการปฏิบัติงานชั่วคราวของผู้ช่วยสื่อสารภาษากัมพูชา และจิตอาสาภาษาต่างประเทศ2.ปิดการให้บริการ SMC Premium ชั่วคราว3.ยกเลิกการรับยาแทน และงดรับเคสใหม่ผู้ป่วยชาวกัมพูชา4.ผู้ป่วยชาวกัมพูชาที่ยังนอนอยู่ในโรงพยาบาลให้จำกัดพื้นที่ชัดเจน ในการนี้ให้มีผลตั้งแต่วันที่ 31 กรกฎาคม 2568 ถึงวันที่ 10 […]

รมช.มท. โฟนอินผู้ว่าฯ อุบลฯ ตอบกลางสภา ยันไม่มีปัญหาเบิกจ่ายงบ

รัฐสภา 31 ก.ค.-สส.ศรีสะเกษ ภูมิใจไทย ทวงถามเงินช่วยเหลือเยียวยาจังหวัดชายแดนไทย-กัมพูชา ชี้ตั้งแต่วันแรกยังไม่ได้เงินรัฐบาลสักบาท ซัด “ผู้ว่าฯ อุบล” อ้างกลัวติดคุกไม่กล้าเบิกงบ ด้าน รมช.มหาดไทย ต่อสายโฟนอิน ผู้ว่าฯ ตอบกลางสภา ยืนยันไม่มีปัญหาเบิกจ่ายงบ ในการประชุมสภาผู้แทนราษฎร ที่มีนายวันมูหะมัดนอร์ มะทา ประธานสภาผู้แทนราษฎร ทำหน้าที่ประธานการประชุม พิจารณากระทู้ถามสดด้วยวาจา โดยนายธนา กิจไพบูลย์ชัย สส.ศรีสะเกษ พรรคภูมิใจไทย สอบถามกรณีเหตุปะทะชายแดนไทย-กัมพูชา ซึ่งนายกรัฐมนตรี มอบหมาย นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรี และรมว.มหาดไทย เป็นผู้ตอบกระทู้ แต่เนื่องจากนายภูมิธรรม ติดภารกิจจึงมอบหมายให้ น.ส.ธีรรัตน์ สำเร็จวาณิชย์ รมช.มหาดไทย ชี้แจงแทน นายธนา กล่าวว่า จากเหตุปะทะบริเวณชายแดนไทย-กัมพูชา ส่งผลกระทบต่อประชาชนในพื้นที่ 4 จังหวัดชายแดน ทั้งศรีสะเกษ สุรินทร์ บุรีรัมย์ และอุบลราชธานี ตั้งแต่เกิดเหตุจนถึงขณะนี้ ยังไม่มีงบประมาณจากส่วนกลางลงพื้นที่แม้แต่บาทเดียว ทุกวันนี้เราอาศัยเงินบริจาคเป็นหลัก และนำงบขององค์การปกครองส่วนท้องถิ่น (อปท.) […]

ทูตไทยตอบโต้กัมพูชา หลังยกกรณีปัญหาชายแดนที่ยูเอ็น

นิวยอร์ก 31 ก.ค. – เอกอัครราชทูตผู้แทนถาวรไทยประจำองค์การสหประชาชาติ โต้ผู้แทนกัมพูชา ซึ่งหยิบประเด็นชายแดนไทย-กัมพูชา ขึ้นพูดผิดกาลเทศะ ผิดวาระ ในที่ประชุมสหประชาชาติ วาระสำคัญของการประชุมระดับสูงระหว่างประเทศในเวทีสหประชาชาติ ที่นครนิวยอร์ก ประเทศสหรัฐ เมื่อวานนี้ คือการผลักดันเพื่อระงับข้อพิพาทปัญหาปาเลสไตน์โดยสันติวิธี แต่ปรากฏว่านาย เจีย แก้ว เอกอัครราชทูตกัมพูชาประจำสหประชาชาติ กลับพูดในประเด็นที่ไม่เกี่ยวข้องกับวาระการประชุม โดยพาดพิงถึงไทยเกี่ยวกับสถานการณ์ชายแดนไทย-กัมพูชา นายเชิดชาย ใช้ไววิทย์ เอกอัครราชทูต ผู้แทนถาวรไทยประจำสหประชาชาติ จึงกล่าวตอบโต้โดยชี้แจงข้อมูลความจริงในประเด็นที่กัมพูชาละเมิดข้อตกลงหยุดยิง โดยระบุว่า เป็นที่น่าเสียดายที่มีคณะผู้แทนหยิบยกประเด็นที่ไม่เกี่ยวข้องขึ้นมาในที่ประชุม ซึ่งเป็นเวทีที่หลายฝ่ายรอคอย และมีวัตถุประสงค์เพื่อส่งเสริมการสนับสนุนจากประชาคมระหว่างประเทศต่อการแก้ไขปัญหาความขัดแย้งระหว่างอิสราเอลและปาเลสไตน์อย่างเป็นธรรม ถาวร และครอบคลุม ผ่านแนวทางสันติวิธีโดยการดำเนินการตามแนวทางสองรัฐ นายเชิดชาย กล่าวในที่ประชุมว่า ประเทศไทยไม่ได้มีเจตนาจะนำเรื่องทวิภาคีเข้าสู่เวทีสำคัญดังกล่าว แต่ต้องขอชี้แจงข้อเท็จจริงเพื่อป้องกันความเข้าใจผิด โดยย้ำว่าเมื่อวันที่ 28 กรกฎาคม 2568 ไทยและกัมพูชา ได้บรรลุข้อตกลงหยุดยิง โดยได้รับความร่วมมือเป็นอย่างดีจากนายกรัฐมนตรีมาเลเซีย ในฐานะประธานอาเซียน แต่หลังจากที่ข้อตกลงหยุดยิงมีผลบังคับใช้ในวันที่ 29 กรกฎาคม อีกฝ่ายกลับใช้อาวุธข้ามพรมแดน และบุกรุกเข้ามาในดินแดนของไทยอีกครั้ง ซึ่งถือเป็นการละเมิดข้อตกลงอย่างร้ายแรง ประเทศไทยจึงขอเรียกร้องให้ประเทศเพื่อนบ้านปฏิบัติตามข้อตกลงหยุดยิงอย่างเคร่งครัด และยืนยันความมุ่งมั่นของไทยที่จะใช้กลไกทวิภาคีที่มีอยู่ในการแก้ไขปัญหา หลีกเลี่ยงการเผยแพร่ข้อมูลที่เป็นเท็จหรือทำให้เข้าใจผิด และให้มีส่วนร่วมด้วยเจตนาดี.-810.-813.-สำนักข่าวไทย

ข่าวแนะนำ

มทภ.2 ยันไม่เคยสั่งกำลังพลไปเก็บศพเขมร อย่าเชื่อข่าวปลอม

5 ส.ค. – แม่ทัพภาคที่ 2 ยืนยันไม่เคยมีคำสั่งให้กำลังพลไปเก็บศพชาวกัมพูชา บริเวณชายแดน ขออย่าหลงเชื่อข่าวปลอม เมื่อวันที่ 5 ส.ค.68 พล.ท.บุญสิน พาดกลาง แม่ทัพภาคที่ 2 เปิดเผยว่า จากกรณีที่สื่อโซเชียลมีเดียได้ลงข้อความอันเป็นเท็จ ที่ทำให้พี่น้องประชาชนเข้าใจผิดว่า แม่ทัพภาคที่ 2 ได้สั่งให้กำลังพลไปเก็บศพชาวกัมพูชาที่อยู่บริเวณชายแดนนั้น ตนยืนยันว่าไม่เป็นความจริง และไม่เคยมีคำสั่งให้กำลังพลไปปฏิบัติอย่างนั้น ผู้เสียชีวิตนั้นเป็นชาวกัมพูชา ไม่ได้เกี่ยวอะไรกับทางประเทศไทย “ผมไม่เคยมีคำสั่งแบบนี้ และขอยืนยันว่า ข่าวที่ออกมานั้นเป็นข่าวปลอม ขอให้พี่น้องประชาชนอย่าได้หลงเชื่อ“ แม่ทัพภาคที่ 2 กล่าว.-313-สำนักข่าวไทย

ทหารไทยยอมรับได้กลิ่นศพทหารกัมพูชาจริง

ศรีสะเกษ 5 ส.ค. – วันนี้ยังมีการเก็บกู้ระเบิดที่กัมพูชายิงเข้ามาในพื้นที่พลเรือนฝั่งไทย ส่วนเมื่อคืนนี้ (4 ส.ค.) เป็นคืนแรกของการประชุม GBC ชุด ชรบ.หมู่บ้านแนวชายแดน อ.กันทรลักษ์ จึงออกตรวจตราเข้มข้น ขณะที่ทหารแนวหน้ายอมรับได้กลิ่นศพทหารกัมพูชาจริง ทีมข่าวมีโอกาสได้พูดคุยกับทหารที่ปฏิบัติหน้าที่ตามแนวชายแดนไทย-กัมพูชา สอบถามถึงเรื่องที่กำลังเป็นประเด็น คือกลิ่นศพของทหารกัมพูชา ทหารยอมรับว่ามีกลิ่นจริง และมีศพทหารกัมพูชาถูกทิ้งไว้จริง แต่ไม่สามารถทำอะไรได้ เพราะอยู่ในระหว่างการปฏิบัติหน้าที่ หากมีหน้ากากอนามัยเชื่อว่าจะช่วยบรรเทาได้บ้าง อย่างไรก็ตาม ขณะนี้มีหน้ากาก N95 ส่งถึงพื้นที่บ้างแล้ว พร้อมขอบคุณพี่น้องประชาชนที่ส่งกำลังใจ ทหารยังพร้อมปฏิบัติหน้าที่อย่างเต็มกำลังความสามารถ วันนี้ทีมข่าวยังเกาะติดภารกิจเก็บกู้ระเบิดที่กัมพูชายิงใส่พื้นที่พลเรือนของไทยใน อ.กันทรลักษ์ จ.ศรีสะเกษ จุดแรก จรวด BM-21 ถูกกัมพูชายิงตกใส่ลงทุ่งนาของชาวบ้าน พื้นที่ ต.ทุ่งใหญ่ เมื่อวันที่ 24 กรกฎาคม วันเดียวกับที่ยิงใส่ปั๊ม ปตท.บ้านผือ โดยห่างกันราว 1 กิโลเมตร ส่วนอีกจุดเป็นการทำลายลูกจรวด PG-7 ที่ถูกยิงจากเครื่องยิงจรวด RPG ตกลงในสวนยางพาราของชาวบ้าน ต.เสาธงชัย อ.กันทรลักษ์ ที่ถูกพบในสภาพพร้อมทำงาน จุดนี้อยู่ห่างจากชายแดนกัมพูชาเพียง […]

เปิดศักยภาพ Gripen เขี้ยวเล็บใหม่กองทัพอากาศไทย

5 ส.ค. – เปิดคุณสมบัติโดดเด่นของ “กริพเพน” เครื่องบินรบฝูงใหม่ ซึ่งกองทัพอากาศและประเทศไทยกำลังจะทำสัญญาจัดซื้อจากสวีเดน .-สำนักข่าวไทย

มทภ.2 ขึ้นภูมะเขือ ย้ำกำลังพลไม่ประมาท นำร้องเพลงชาติไทย

5 ส.ค.- แม่ทัพภาค 2 ตรวจเยี่ยมภูมะเขือ ย้ำกำลังพลไม่ประมาท ปกป้องอธิปไตย พร้อมร่วมร้องเพลงชาติ เมื่อเวลา 17.00 น. วันที่ 5 ส.ค.68 พล.ท.บุญสิน พาดกลาง แม่ทัพภาคที่ 2 ลงพื้นที่หน่วยเฉพาะกิจที่ 1 กองกำลังสุรนารี พื้นที่ภูมะเขือ อำเภอกันทรลักษ์ จังหวัดศรีสะเกษ โดยได้ทำการเดินลาดตระเวน ตรวจเยี่ยมให้กำลังใจกำลังพลที่วางกำลังฐานปฏิบัติการ ทั้งนี้ มีพระสงฆ์จำนวน 3 รูปจากวัดใกล้เคียง มารอแม่ทัพภาคที่ 2 เพื่อมอบวัตถุมงคลและให้กำลังใจในการปฏิบัติหน้าที่ พร้อมให้พรกำลังพลทุกนาย ให้แคล้วคลาดปลอดภัยจากอันตรายต่างๆ จากนั้นแม่ทัพภาคที่ 2 ได้ฟังบรรยายสรุปสถานการณ์ในพื้นที่ภูมะเขือ โดยเน้นย้ำให้อยู่ในความไม่ประมาท ปฏิบัติหน้าที่รักษาอธิปไตยของชาติ ด้วยความปลอดภัยและให้ดูแลรักษาสุขภาพให้ดี จากนั้น พล.ท.บุญสิน ได้ให้กำลังพลเปลี่ยนธงชาติไทยผืนใหญ่กว่าเดิม นำร้องเพลงชาติบนยอดภูมะเขือร่วมกัน ก่อนเดินทางกลับได้มอบเครื่องอุปโภคบริโภคและถ่ายรูปร่วมกับกำลังพล -สำนักข่าวไทย