นายกฯ ซัดฝ่ายค้านปมกล่าวหาถูกพ่อครอบงำ

รัฐสภา 25 มี.ค.- นายกฯ ซัดฝ่ายค้าน ปมกล่าวหาถูกพ่อครอบงำ ย้อนผู้นำฝ่ายค้านฯ ก็ถูกครอบงำจากคนที่ไม่ใช่พ่อ อัด “ดีลปีศาจ” ทั้งที่เคยดีลตั้งรัฐบาล ทวงบุญคุณโหวตเลือกแคนดิเดตนายกฯ ให้หลายครั้ง แต่ที่จำได้พรรคสีส้มไม่เคยโหวตให้เพื่อไทย ท้า กลางสภาฯ สมัยหน้าจะจับมือกับพรรคใดบ้าง เอาให้ชัดเจน


เมื่อเวลา 21.18 น. นางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ได้อภิปรายชี้แจงรอบที่ 2 ของวันนี้ (25 มี.ค.) ในการประชุมอภิปรายไม่ไว้วางใจ ระบุว่า เป็น 2 วันที่ได้ยินชื่อตนเองมากที่สุดในชีวิต ซึ่งเชื่อว่าทุกท่านได้ทำหน้าที่ของตนเองอย่างเต็มที่ เต็มความสามารถ ซึ่งอะไรที่เป็นเนื้อหาสาระที่เป็นประโยชน์จะส่งผลดีต่อประชาชน ส่วนที่กระทบกระทั่งกันบ้างถือว่าเป็นเรื่องปกติ และคิดว่าเราสามารถทำงานร่วมกันต่อไปได้ โดยผู้นำฝ่ายค้านฯ ได้เน้นย้ำถึงภาวะผู้นำ และการถูกครอบงำหลายครั้ง ซึ่งคนที่ย้ำเรื่องเดิมๆ หลายครั้ง ไม่แน่ใจว่านั่นคือสิ่งที่ตนเองขาดหรือไม่ ซึ่งจะไม่คิดแบบนั้นก็ได้ เพราะไม่ใช่มีแค่ตัวเองที่ถูกกล่าวหาเรื่องของการถูกครอบงำ ท่านถูกกล่าวหาว่าถูกครอบงำเช่นเดียวกัน แต่ต่างกันตรงที่ตนเองถูกกล่าวหาว่าถูกครอบงำโดยคุณพ่อ แต่ของท่านถูกครอบงำจากคนที่ไม่ใช่พ่อ ซึ่งไม่อยากให้ใครมาพูดเช่นนี้ ตนเองเคารพและให้เกียรติผู้นำฝ่ายค้านฯ และไม่เคยสงสัยในภาวะผู้นำของท่าน ความเป็นจริงเรามีอายุใกล้เคียงกัน ควรมีความเข้าใจกัน และเส้นทางทางการเมืองก็มีความคล้ายกันอยู่

”การมาอยู่ตรงนี้ได้ เราทั้งคู่ก็เจอกับชะตากรรมของพรรคการเมือง เพราะหากพรรคของตนเอง ไม่ถูกกระทำทางการเมืองในวันนี้ เราอาจจะยังมีนายกรัฐมนตรีที่ชื่อ นายทักษิณ ชินวัตร ก็ได้ และพรรคของท่าน อาจจะยังมีหัวหน้าพรรคชื่อ นายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ ก็ได้ ซึ่งความเป็นจริงไม่ได้เป็นเช่นนั้นแต่ชะตากรรมทางการเมืองมาแบบนี้ ซึ่งเราควรต้องทำหน้าที่ของตนเองให้ดีที่สุด และการด้อยค่าคนอื่นตนคิดว่าอย่าทำเลย“ นางสาวแพทองธาร กล่าว


นายกรัฐมนตรี ยังระบุอีกว่า การที่ตนเองเป็นลูกสาวนายทักษิณ แน่นอนว่าถูกวิจารณ์และปรามาส มาตั้งแต่เป็นนิสิตนักศึกษา จวบจนมาถึงทุกวันนี้ที่ได้เป็นนายกรัฐมนตรี ถือว่าไม่ใช่เรื่องแปลกอะไรแ ละคงไม่ใช่เรื่องเสียหายเช่นกัน ที่ตนจะรับฟังและนำคำแนะนำของนายทักษิณ มาใช้หรือพิจารณา เพราะนายทักษิณ ก็เป็นคนที่มีความรู้ความสามารถ เป็นที่ยอมรับ ทั้งในประเทศและต่างประเทศ หากความคิดของนายทักษิณ จะเป็นประโยชน์ให้กับประเทศชาติและประชาชน ตนก็มั่นใจว่าจะเป็นสิ่งที่ดี นอกจากนี้ยังมีนักการเมืองอีกหลายคนที่ถูกตัดสิทธิ์ทางการเมืองจากการยุบพรรค แต่ทุกคนก็ยังเดินหน้าทำงานการเมืองอยู่ ไม่ว่าจะเป็นเรื่องการทำนโยบาย การเดินหาเสียง ยังสามารถทำได้ แต่ทำไมเป็นนายทักษิณคนเดียว ที่ทำแล้วเป็นประเด็น หรือว่านายทักษิณ ถูกตัดสิทธิ์ยกกำลังสองซึ่งก็ไม่แน่ใจ

นายกรัฐมนตรี ยังชี้แจงเรื่องของการส่ง 40 อุยกูร์ กลับประเทศจีน ว่า ขณะนี้ยังไม่มีกฎหมายผู้ลี้ภัย หากมีการลักลอบเข้าเมืองผิดกฎหมาย ต้องถูกดำเนินคดีตามขั้นตอน โดยจะยึดหลักมนุษยธรรมและสิทธิมนุษยชน ซึ่งการกักขังชาวอุยกูร์ เป็นระยะเวลา 10 ปี ขณะที่ประเทศจีนที่เป็นประเทศแม่ก็แสดงเจตจำนงขอรับ และมีการทวงถามโดยที่ประเทศที่ 3 ไม่เคยมาทวงถามอย่างเป็นทางการ ซึ่งรัฐบาลได้พูดคุยกับประเทศจีน และต้องการให้มั่นใจในเรื่องความปลอดภัย ซึ่งทางประเทศประเทศจีนมีความจริงจังในการทำหนังสือออกมา ถือเป็นพันธะสัญญากับสังคมโลก รัฐบาลไทยจึงรีบส่งกลับไป ซึ่งคณะของนายภูมิธรรม เดินทางไปจีนและยืนยันว่าทุกคนปลอดภัย ซึ่งเรื่องนี้เป็นเรื่องที่ดีสำหรับทุกฝ่ายและดีกับประเทศไทย ส่วนที่มีบางประเทศมาประณามหรือไม่ยอมรับ ซึ่งประเทศไทยเคารพทุกความคิดเห็น สิ่งที่เราสามารถทำได้คือการใช้เวลาและอธิบาย เพื่อให้ทุกประเทศเข้าใจ เพราะประเทศเหล่านั้น ไม่ทราบว่าไทยกับจีนพูดคุยอะไรกัน จึงถือว่าเป็นเรื่องที่เข้าใจได้และไม่แปลก และการกล่าวหาในเรื่องนี้อยากทราบว่า ได้มองครบทุกมิติในโลกแล้วหรือไม่ และการเป็นนักสิทธิมนุษยชนที่ใช้มาตรฐานเดียวกันทั่วโลก ก็ไม่แน่ใจว่าท่านใช้สองมาตรฐานหรือไม่ กับรัฐบาลนี้โดยเฉพาะหรือไม่ เพราะเท่าที่จำได้ไม่มีนโยบายจากพรรคการเมืองไหนเลย ที่เกี่ยวข้องกับการช่วยเหลือผู้ลี้ภัย ซึ่งสามารถใช้เวทีนี้ประกาศไปเลยว่าจะตามที่ผู้ลี้ภัยต้องการทุกกรณี หรือจะมีแนวทางอย่างไรบ้าง ประชาชนจะได้รับฟัง

ขณะที่เรื่องแก้ไขรัฐธรรมนูญ นายกรัฐมนตรี ระบุว่า เป็นนโยบายของพรรคเพื่อไทย ที่เป็นฝ่ายค้านร่วมกันเคยลงสัตยาบันเพื่อแก้ไขรัฐธรรมนูญหลายครั้ง แต่ทำไม่สำเร็จ และเมื่อเพื่อไทยเป็นรัฐบาลก็ได้แถลงนโยบายดังกล่าวต่อรัฐสภา ซึ่งจุดยืนคือการแก้ไขโดยไม่แตะหมวด 1 และหมวด 2 แต่ข้อกฎหมายที่ซับซ้อนทำให้การแก้ไขดำเนินการไปได้ยาก และมีข้อเห็นต่างจากพรรคร่วมรัฐบาลและวุฒิสภา เช่น จำนวนครั้งในการทำประชามติ ซึ่งเราพยายามเดินต่อไปข้างหน้า และที่พวกท่านเรียกร้องให้แสดงภาวะผู้นำ ตนได้ทำอยู่ตลอดเวลา และมีการหารือกับพรรคร่วมรัฐบาลตลอดในทุกนโยบาย เพื่อแสวงหาจุดร่วมสงวนจุดต่างให้ชัดเจน โดยล่าสุดพรรคร่วมรัฐบาลมีจุดยืนร่วมกันที่จะส่งเรื่องนี้ให้ศาลรัฐธรรมนูญพิจารณา แม้ว่าจะช้าหรือไม่ทันใจแต่ถือเป็นโอกาสแห่งความสำเร็จ


“สำหรับภาวะผู้นำของตนต้องมีความอดทน ที่เป็นผู้นำรัฐบาลจากพรรครวมหลายพรรค และต้องมีเหตุผลและต้องมีความจริงใจ หากดันทุลังไปแล้วพังทุกรอบจะไม่เป็นผลสำเร็จขณะที่วันนี้มีสมาชิกมีที่อภิปรายเรื่องการต่อสู้ของประชาชน ซึ่งรัฐบาลนี้เคารพต่อสิทธิและเสรีภาพการแสดงออกของทุกฝ่าย และไม่เคยลืมว่าครั้งหนึ่งเคยบอบช้ำและเจ็บปวดแค่ไหน ซึ่งพรรคของเราเต็มไปด้วยนักการเมืองที่ต่อสู้เคียงข้างประชาชนคนเสื้อแดงหลายคน และมีลูกหลานของคนเสื้อแดงที่อยู่ในพรรค ถึงจะไม่ได้พกหมวกหรือผ้าพันคอมา แต่เราก็แสดงเรื่องนี้อย่างจริงใจและอยู่ในใจเสมอ“ นางสาวแพทองธาร กล่าว

นายกรัฐมนตรี กล่าวถึงดีลแลกประเทศ ว่า หากคำว่าดีลหมายถึงการเจรจาหาข้อสรุปร่วมกัน การเมืองทุกทุกที่บนโลกใบนี้ต้องมีดีล และก่อนหน้านี้รัฐบาลที่นำโดยพรรคเพื่อไทยก็เคยดีลกับพรรคของท่านและพรรคของท่านก็มาดีลกับพรรคของเรา แล้วเราก็ยกมือโหวตให้กับแคนดิเดตนายกรัฐมนตรีจากพรรคของท่าน ด้วยความเชื่อที่ว่าพวกท่านสามารถรวมเสียงจากสมาชิกวุฒิสภาสำเร็จแล้ว ซึ่งเป็นการดีล เช่นนั้นไม่ว่าจะเป็นระดับสองคน หรือระดับทุกคนในพรรค จึงทำให้เราดีลด้วย

“ที่ผ่านมา เรารักษาคำพูดของเราเสมอ ซึ่งท่านก็ดีลกับเรามาเสมอเช่นกัน เมื่อปี 2562 พรรคเพื่อไทยก็ดีล กับพรรคของท่าน ที่มาดีลกับเราให้ยกมือกับแคนดิเดตนายกรัฐมนตรีของพรรคท่าน ที่ขณะนั้นพรรคของท่านมีเสียงสส. เป็นอันดับ 3 และเมื่อการเลือกตั้งปี 2566 ท่านเป็นพรรคอันดับหนึ่ง มาดีลกลับพรรคเราซึ่งก็ตอบ แล้วก็ยกมือให้กับแคนดิเดตนายกรัฐมนตรีของพรรคท่านอีกครั้ง ซึ่งครั้งแรกไม่ผ่านเราก็ยกมือให้กับท่านเป็นครั้งที่สอง ตามที่ดีลกันไว้ และยกมือให้กับแคนดิเดตนายกรัฐมนตรีของพรรคท่านมาโดยตลอด แต่เท่าที่จำได้ท่านไม่เคยยกมือให้กับแคนดิเดตนายกรัฐมนตรีของพรรคเราเลย และเมื่อท่านตั้งรัฐบาลไม่สำเร็จ เราก็เดินหน้าตั้งรัฐบาลต่อไป ซึ่งเป็นเรื่องปกติของระบบรัฐสภา ซึ่งรู้ดีว่าการตั้งรัฐบาลครั้งนี้เราต้องพบเจอกับความยากลำบาก ต้องอธิบายให้ประชาชนฟัง“ นางสาวแพทองธาร กล่าว

นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า เรามีความตั้งใจอย่างมากที่จะผลักดันนโยบายสู่ประชาชนจริงๆ ซึ่งตัวเลขได้บ่งบอกว่าศักยภาพของประเทศไทยเติบโตช้ามาเป็นระยะเวลา 10 ปี เพราะฉะนั้นหากไม่เริ่มแต่วันนั้นจะมีนโยบายที่ออกไปถึงมือประชาชนแบบวันนี้หรือไม่ การที่ กล่าวหาว่านโยบายไม่ตรงปก แต่เงิน 10,000 ถึงมือประชาชน ไปถามประชาชนแล้วหรือยังว่ามีความสุขกับสิ่งนั้นหรือไม่ ซึ่งการกระตุ้นเศรษฐกิจ เกิดขึ้นแล้ว หากไม่กระตุ้นเลยจะกระเตื้องแบบนี้หรือไม่ หากไม่เริ่มนับหนึ่งตั้งแต่วันนั้น วันนี้ก็ยังคงจะติดลบอยู่ และเมื่อไหร่ประเทศไทยจะเคลื่อนไปข้างหน้า ซึ่งเป็นเรื่องที่รัฐบาลหรือพรรคเพื่อไทยต้องแบกเรื่องนี้ไว้และทำความเข้าใจกับประชาชน เป็นสิ่งที่พรรคเพื่อไทยภูมิใจที่ได้ดำเนินนโยบายต่างๆ และเดินสายไปต่างประเทศนำเงินเข้าประเทศ แล้วทำให้การลงทุนของประเทศไทย สูงสุดในรอบ 10 ปี ทั้งที่เราเป็นรัฐบาลยังไม่ถึงหนึ่งปี เป็นเพียง 6 เดือนเท่านั้น

นายกรัฐมนตรี ยังเชื่อว่า ไม่มีใครที่อยากถูกกล่าวหา ซึ่งในวันนี้ให้เกิดความชัดเจน และสร้างการเมืองแบบใหม่ ก็ให้ท่านประกาศให้ชัดเจนเลยว่าสมัยหน้าท่านจะร่วมหรือไม่ร่วมกับใคร พูดให้ชัดเสียตั้งแต่วันนี้ ประชาชนจะได้เกิดความสบายใจ.-315 -สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

ผู้โดยสารรถทัวร์สยอง นั่งร่วมกับศพจากโคราชถึงลำปาง

ลำปาง 17 มิ.ย. – ไม่รู้นั่งมากับศพทั้งคืน ผู้โดยสารรถทัวร์สายนครราชสีมา-เชียงใหม่ ถึงขนส่งลำปาง ผวาทั้งคัน หลังรถเข้าจอดชานชาลาพบหนุ่มวัย 38 ปี เสียชีวิต ตรวจสอบเบื้องต้นพบขามีรอยช้ำ เลือดไหล แพทย์คาดเสียชีวิตจากโรคประจำตัว ช่วง 05.30 น. วานนี้ (16 มิ.ย.) ตำรวจ สภ.เมืองลำปาง แพทย์นิติเวช โรงพยาบาลลำปาง เจ้าหน้าที่กู้ภัยสว่างลำปาง รับแจ้งมีผู้เสียชีวิตบนรถทัวร์โดยสาร สายนครราชสีมา-เชียงใหม่ จอดอยู่บริเวณสถานีขนส่งผู้โดยสารจังหวัดลำปาง เทศบาลนครลำปาง ผู้เสียชีวิตเป็นชายอายุ 38 ปี ชาว ต.พิชัย อ.เมืองลำปาง นั่งมากับรถทัวร์โดยสารปรับอากาศ 2 ชั้น ผู้เสียชีวิตนั่งอยู่ชั้น 2 ฝั่งซ้ายโซนด้านหลัง ซึ่งเป็นที่นั่งเดียว ขึ้นรถต้นทางจาก จ.นครราชสีมา ปลายทาง จ.ลำปาง โดยรถเข้าจอดที่ชานชาลา เจ้าหน้าที่ของบริษัททัวร์ได้เชิญผู้โดยสารทั้งหมดลงมาจากรถ จากนั้นแพทย์เวรโรงพยาบาล เจ้าหน้าที่กู้ภัย ร่วมชันสูตรศพ ทำเอาผู้โดยสารที่นั่งมาในรถคันเดียวกัน โดยเฉพาะผู้ที่นั่งด้านหน้าและหลัง ถึงกับสยอง […]

Hun Sen delivers speech in Cambodia's Senate

“ฮุน เซน” ขู่ให้ไทยเปิดด่านทั้งหมดภายในวันนี้

พนมเปญ 16 มิ.ย.- นายฮุน เซน ประธานวุฒิสภาของกัมพูชาประกาศว่า ไทยต้องเปิดจุดผ่านแดนกับกัมพูชาทั้งหมดภายใน 24 ชั่วโมง ไม่เช่นนั้นกัมพูชาจะปิดจุดผ่านแดนกับไทยทั้งหมด และห้ามสินค้าไทยทุกอย่างเข้ากัมพูชา เว็บไซต์หนังสือพิมพ์แขมร์ไทมส์ของกัมพูชารายงานวันนี้ว่า นายฮุน เซนยื่นคำขาดระหว่างกล่าวสุนทรพจน์พิเศษก่อนการประชุมวุฒิสภาในเช้าวันนี้ว่า เดิมกัมพูชาจะปิดจุดผ่านแดนกับไทยทั้งหมดในวันนี้ แต่รัฐบาลได้เลื่อนการตัดสินใจออกไป หลังจากที่เขาและนายกรัฐมนตรีฮุน มาเนตได้สนทนาทางโทรศัพท์กับนายกรัฐมนตรีแพรทองธาร ชินวัตรของไทย หากไทยไม่เปิดจุดผ่านแดนกับกัมพูชาทั้งหมดอีกครั้งตั้งแต่วันพรุ่งนี้เป็นต้นไป กัมพูชาจะห้ามผักและผลไม้ผ่านจุดผ่านแดนทั้งหมดของกัมพูชา นอกจากนี้กัมพูชาจะยกเลิกมาตรการจำกัดการผ่านแดนกับไทยที่ใช้อยู่ในขณะนี้ หากทางการไทยกลับมาเปิดจุดผ่านแดนตั้งแต่เวลา 06.00-22.00 น.ตามเดิม นายฮุน เซนประกาศชัดเจนว่า ทางการกัมพูชาจะไม่มีวันนั่งโต๊ะเจรจากับทางการไทยเรื่องการจำกัดการผ่านแดน เนื่องจากไทยเป็นฝ่ายเริ่มก่อน โดยได้ตั้งคำถามว่า กองทัพไทยเป็นฝ่ายจำกัดการผ่านแดน และเมื่อกัมพูชาทำเช่นเดียวกัน ก็ต้องการเจรจาเพื่อรักษาหน้าเช่นนั้นหรือ พร้อมกับสำทับว่า กัมพูชาจะไม่ปล่อยให้ชื่อเสียงประเทศตกอยู่ในความเสี่ยงเพราะความผิดพลาดของคนอื่น.-814.-สำนักข่าวไทย

ครูสาวเขียนจดหมายระบายความอัดอั้น ก่อนคิดสั้น-ศธ.สั่งสอบข้อเท็จจริง

บุรีรัมย์ 17 มิ.ย. – ครูสาวโรงเรียนแห่งหนึ่งใน อ.ชำนิ จ.บุรีรัมย์ เขียนจดหมายระบายความอัดอั้น “งานครูหนักและเครียดมากจนทนไม่ไหว” ก่อนตัดสินใจคิดสั้น ด้าน ศธ. สั่งสอบข้อเท็จจริง ยอมรับครูรับภาระหนัก ตำรวจพร้อมกู้ภัยได้รับแจ้งว่ามีผู้เสียชีวิตในบ้านหลังหนึ่ง อ.ลำปลายมาศ จ.บุรีรัมย์ พบร่างของครูมัท วัย 39 ปี ครูโรงเรียนแห่งหนึ่งใน อ.ชำนิ โดยครูตัดสินใจลาโลกด้วยตัวเอง ข้างร่างของครูมีจดหมายลาที่เขียนถึง 5 หน้ากระดาษ หน้าซองจดหมายเขียนไว้ว่า “จดหมายส่วนตัวถึงครอบครัวของฉัน” เจ้าหน้าที่จึงเก็บไว้เป็นหลักฐาน โดยหน้าที่ 1-4 ผู้ตายเขียนถึงพี่สาวซึ่งเป็นข้าราชการครู ลูกสาววัย 10 ขวบ และพ่อแม่ ส่วนหน้าที่ 5 เขียนถึงการทำงาน ถึงสาเหตุที่ลาโลกใบนี้ เพราะไม่สบายกายและไม่สบายใจ มีปัญหาเรื่องการทำงาน การเงิน การบัญชี ซึ่งพอกพูนจนแก้ไขได้ยาก ปัญหาที่เกิดขึ้นไม่ได้เป็นเพราะครูมัทเพียงคนเดียว เกิดจากกระบวนการทำงานที่ไม่มีประสิทธิภาพภายในโรงเรียน ทำงานไม่เป็นระบบ ให้เบิกเงินก่อนเคลียร์เอกสารทีหลัง สุดท้ายนิ่งเฉย ไม่มีใครมาเคลียร์ให้ อันไหนเคลียร์เองได้ก็ดีไป แต่อันไหนเคลียร์ไม่ได้ก็ต้องมานั่งเครียดเองจนหัวจะระเบิด เป็นไมเกรนแทบทุกวัน […]

สาวโพสต์ถูกไฟดูดจากตู้กดบัตรจอดรถอัตโนมัติห้างดัง

กรุงเทพฯ 16 มิ.ย. – สาวโพสต์ถูกไฟตู้กดบัตรจอดรถอัตโนมัติห้างดังดูดมือ ต้องรักษาตัวที่โรงพยาบาลหลายวัน ทำงานไม่ได้ กินข้าวไม่ได้ ชีวิตพัง ห้างโยนภาระให้เดินเอกสารเบิกกับโรงพยาบาลเอง สาวโพสต์ภาพพร้อมเล่าเรื่องราวเมื่อช่วงบ่ายวันที่ 10 มิถุนายนที่ผ่านมา กำลังขับรถเข้าลานจอดรถห้างฯ แห่งหนึ่ง แล้วลดกระจกเอามือโบกระบบเซ็นเซอร์เพื่อรับบัตรจอด ปรากฏว่าถูกไฟดูดทั้งที่มือไม่ได้แตะโดนเครื่อง เพราะระบบเซ็นเซอร์ไม่ต้องสัมผัสโดน แค่โบกหน้าเครื่อง ตนเองรู้สึกไฟดูด แขนชา จี๊ดขึ้นหัว และชาลงไปถึงขา บัตรก็ไหลออกมาจากเครื่อง แต่ไม้กั้นรถไม่เปิด คาดว่าไฟฟ้าในเครื่องน่าจะขัดข้อง และไม่มีเจ้าหน้าที่อยู่บริเวณนั้นเลย จะกดปุ่ม SOS ขอความช่วยเหลือที่ตัวเครื่องก็ไม่กล้า เพราะกลัวถูกไฟดูดรอบ 2 จึงพยายามบีบแตรเรียกหลายครั้งกว่าจะมีเจ้าหน้าที่เข้ามาหา พอเจ้าหน้าที่มาตนก็บอกว่าถูกไฟดูด แต่เจ้าหน้าที่มาเปิดไม้กั้นให้และไม่พูดอะไรต่อ เลยรีบเอารถเข้าไปในลานจอด จากนั้นรีบเดินไปที่จุดบริการลูกค้า เพื่อขอความช่วยเหลือ เพราะตอนนั้นชาไปครึ่งตัว เจ้าหน้าที่พาไปห้องพยาบาล เอาเจลเย็นมาประคบอยู่นานก็ไม่รู้สึกดีขึ้น แขนเริ่มไม่มีแรงยก เจ้าหน้าที่เห็นอาการหนักเลยพาไปโรงพยาบาลที่มีสัญญากับห้าง หมอตรวจคลื่นไฟฟ้าหัวใจกับตรวจเลือดแล้วค่าปกติดี หมอสั่งยาและให้กลับบ้าน ทั้งที่ยังไม่หายชา ถึงขนาดแขนไม่มีแรงแม้แต่จะเซ็นเอกสาร หมอบอกว่าคุณไม่เคยข้อศอกกระแทกโต๊ะเหรอ ชาๆ เหมือนกัน เดี๋ยวก็หายเอง ตนเองจึงตั้งคำถามว่าจะหายเองจริงเหรอ เพราะยังทำอะไรไม่ได้เลย ตอนกลางคืนลองยกแขนนิ้วยังสั่นอยู่เลย กินยาคลายกล้ามเนื้อก็ไม่มีอะไรดีขึ้น […]

ข่าวแนะนำ

มทภ.2 ไม่ติดใจนายกฯ ปมคลิปเสียง ขอทำเพื่อชาติ-ปชช.

อีสาน 18 มิ.ย.- “พล.ท.บุญสิน” มทภ.2 ไม่ติดใจ “นายกฯ อิ๊งค์” ปมคลิปเสียง ขอทำงานเพื่อชาติ-ประชาชน พร้อมเดินทางเยี่ยมลูกน้องบาดเจ็บจากภารกิจชายแดน พล.ท.บุญสิน พาดกลาง แม่ทัพภาคที่ 2 เปิดเผยว่า นางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ได้โทรมาปรับความเข้าใจ พร้อมทั้งอธิบายเนื้อหาในการสนทนากับสมเด็จฮุน เซน เพื่อต้องการให้สถานการณ์ชายแดนไทย-กัมพูชา เบาบางลง เป็นการพูดคุยกันหลังบ้าน โดยตนได้บอกกับนายกฯ ไปว่า “ผมไม่มีอะไรครับ ผมเข้าใจ” ทั้งนี้ นายกฯ ได้ขอบคุณที่เข้าใจ ถือว่าคุยแล้วเข้าใจแล้ว ก็ไม่ติดใจอะไร ตนทำเพื่อประเทศชาติ เพื่อประโยชน์ส่วนรวมของพี่น้องประชาชน พล.ท.บุญสิน ยังระบุต่อว่า วันนี้กำลังเดินทางไปเยี่ยมผู้ใต้บังคับบัญชาที่ได้รับบาดเจ็บจากภารกิจชายแดน ตนทำงานตามปกติ ไม่มีอะไร.-313.-สำนักข่าวไทย

“อนุทิน” บอก “จบแล้วครับนาย” ขออย่าปรามาส จะเป็นฝ่ายค้านให้ดู

กทม. 18 มิ.ย.-“อนุทิน” สั่ง จนท.ขนของออกจากกระทรวง บอก “จบแล้วครับนาย” ไม่ต้องคุยนายกฯ หลัง “หมอมิ้ง” ยื่นไพ่ใบสุดท้าย ขออย่าปรามาส จะเป็นฝ่ายค้านให้ดู เตรียมซ้อมกับ “ไอซ์ รักชนก” เวลา 13.35 น. วันที่ 18 มิ.ย.68 ที่ทำเนียบรัฐบาล นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย ให้สัมภาษณ์หลังนายกฯ ระบุว่ายังไม่แจ้งเงื่อนไขการปรับ ครม. ว่า ตนยังไม่ได้ยิน ซึ่งเมื่อวานนี้ได้คุยกับ นพ.พรหมินทร์ เลิศสุริย์เดช เลขาธิการนายกฯ ซึ่งเราก็บอกท่าทีเราไปแล้ว เมื่อถามว่า การขนของออกจากห้องทำงาน ถือเป็นการปิดประตูเจรจาหรือไม่ นายอนุทิน กล่าวว่า ได้คุยกับ นพ.พรหมินทร์ ชัดเจนแล้วว่า เราคงไม่ได้เปลี่ยนอะไร และ นพ.พรหมินทร์ ได้ย้ำเงื่อนไขของพรรคเพื่อไทยว่าเป็นแบบนี้ เมื่อถามต่อว่า ต้องคุยกับนายกฯ อีกครั้งหรือไม่ นายอนุทิน กล่าวว่า ตนยังไม่ได้คุยกับนายกฯ และเมื่อวาน […]

นายกฯ รับคลิปเสียงจริง ซัด “ฮุนเซน” ปล่อยหวังรัฐบาล-กองทัพแตกแยก

ทำเนียบ 18 มิ.ย.- นายกฯ รับคลิปเสียงคุย “ฮุนเซน” เป็นของจริง แจงปมบอกแม่ทัพภาคที่ 2 เป็นฝ่ายตรงข้าม เป็นเทคนิคการเจรจาต่อรองสร้างสันติภาพ หลัง “ฮุนเซน” โกรธ ชี้จุดประสงค์หวังสร้างคะแนนนิยมรัฐบาลกัมพูชาที่ไม่สนความสัมพันธ์ระหว่างประเทศ รับไม่ไว้ใจ จากนี้ไม่ขอคุยส่วนตัว ปัดตอบสัมพันธ์ 2 ตระกูล น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี แถลงด่วนกรณีมีคลิปเสียงสนทนาระหว่างที่พูดคุยกับสมเด็จฮุน เซน ประธานวุฒิสภากัมพูชา เผยแพร่ออกมาผ่านโซเชียลมีเดีย โดยยอมรับว่าเป็นคลิปจริง เป็นการคุยกันเมื่อวันอาทิตย์ที่ผ่านมา ซึ่งตนได้ทราบข้อมูลจากล่ามที่แปลว่า ทางสมเด็จฮุน เซน โกรธแม่ทัพภาคที่ 2 ที่มีการพูดกันก่อนหน้านั้น เมื่อได้คุยกัน ตนจึงบอกว่า แม่ทัพภาคที่ 2 พูดกันแบบนี้ ในเมื่อเราทั้งไทยและกัมพูชาเป็นฝั่งตรงข้ามกันอยู่แล้ว ในตอนนั้นก็ต้องพูดแบบนี้ อย่าไปคิดเลย ซึ่งเป็นสิ่งที่พยายามจะทำความเข้าใจ เพราะทางฝั่งสมเด็จฮุน เซน โกรธเรื่องนี้ และเป็นเทคนิคในการพูดหลังไมค์หลังบ้านแบบส่วนตัว ซึ่งการคุยโทรศัพท์ก็ไม่ควรเอามาเปิดเผย เพราะเป็นเทคนิคในการเจรจาพูดคุยต่อรอง ส่วนตัวคิดว่า ตนทำเพราะมีจุดมุ่งหมายและมีประเด็นที่จะรักษาไว้ซึ่งความสงบสุขของบ้านเมืองและรักษาอธิปไตยของไทยไว้ ให้ผลประโยชน์อยู่กับประเทศชาติและประชาชน ตนก็คุยด้วยความซอฟต์และความนุ่มนวล เพราะบางทีเวลาคุยกันส่วนตัวก็เรียกกันลุงหลาน […]

กัมพูชาห้ามผัก-ผลไม้ไทยผ่านช่องจอมวันแรก

สุรินทร์ 18 มิ.ย. – จุดผ่านแดนถาวรช่องจอม อ.กาบเชิง จ.สุรินทร์ วันนี้ กัมพูชาตรวจเข้มไม่ให้ผัก-ผลไม้ไทยเล็ดลอดแม้แต่ชิ้นเดียว ทำให้พ่อค้าแม่ค้าเดือดร้อนอย่างหนัก วอนทางการไทยตอบโต้สินค้าจากกัมพูชาที่เข้ามาโกยเงินคนไทยบ้าง เวลา 08.00 น. ได้เวลาเปิดจุดผ่านแดนถาวรช่องจอม อ.กาบเชิง จ.สุรินทร์ ในฝั่งไทย ในห้วงสถานการณ์ชายแดนตึงเครียดที่ลดเหลือ 3 วันต่อสัปดาห์ คือ วันจันทร์ วันพุธ และวันศุกร์ ชาวกัมพูชาต่างเข้าแถวรอข้ามแดน พร้อมกลุ่มรถมอเตอร์ไซค์รับจ้าง ไปรอรับส่งชาวกัมพูชาเที่ยวละ 20 บาท ที่เห็นต่อแถวยาวเหยียด เข้าคิวรอตั้งแต่เมื่อวานคือ รถบรรทุกที่จะเข้าไปซื้อมันสำปะหลังในฝั่งกัมพูชา คนกัมพูชาที่กลับประเทศวันนี้มีทั้งกลุ่มคนที่เข้าๆ ออกๆ ไปทำธุระส่วนตัวเล็กน้อย และกลุ่มที่กลับไปตั้งหลักรอดูสถานการณ์ จึงเห็นสัมภาระจำพวกเครื่องใช้ส่วนตัว ซึ่งเจ้าหน้าที่เน้นตรวจค้นสิ่งของผิดกฎหมายและจำพวกอุปกรณ์ก่อสร้างที่ห้ามนำออกราชอาณาจักรไทย แม้แต่ไฟโซลาร์เซลล์ก็ถูกยึดไว้ เมื่อผ่านจุดตรวจเพื่อความมั่นคงชายแดนของกองกำลังสุรนารีได้แล้ว อีกจุดคือด่านตรวจคนเข้าเมือง ได้เวลา 09.00 น. ประตูฝั่งกัมพูชาจึงจะเปิด ซึ่งพบว่ามีการตรวจเข้มตามนโยบายกดดันทางการไทย โดยประกาศชัดว่าจะไม่ให้นำผักผลไม้เข้าไปแม้แต่ชิ้นเดียว กรรมกรชาวกัมพูชาคนนี้เดินทางมาจากกรุงเทพฯ แวะซื้อเงาะและลองกองที่ อ.ปราสาท จ.สุรินทร์ ไม่ทราบว่าทางการกัมพูชาจะเข้มงวดถึงขั้นห้ามนำไปกินในครอบครัว วันนี้ (18 […]