นายกฯ ซัดฝ่ายค้านปมกล่าวหาถูกพ่อครอบงำ

รัฐสภา 25 มี.ค.- นายกฯ ซัดฝ่ายค้าน ปมกล่าวหาถูกพ่อครอบงำ ย้อนผู้นำฝ่ายค้านฯ ก็ถูกครอบงำจากคนที่ไม่ใช่พ่อ อัด “ดีลปีศาจ” ทั้งที่เคยดีลตั้งรัฐบาล ทวงบุญคุณโหวตเลือกแคนดิเดตนายกฯ ให้หลายครั้ง แต่ที่จำได้พรรคสีส้มไม่เคยโหวตให้เพื่อไทย ท้า กลางสภาฯ สมัยหน้าจะจับมือกับพรรคใดบ้าง เอาให้ชัดเจน


เมื่อเวลา 21.18 น. นางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ได้อภิปรายชี้แจงรอบที่ 2 ของวันนี้ (25 มี.ค.) ในการประชุมอภิปรายไม่ไว้วางใจ ระบุว่า เป็น 2 วันที่ได้ยินชื่อตนเองมากที่สุดในชีวิต ซึ่งเชื่อว่าทุกท่านได้ทำหน้าที่ของตนเองอย่างเต็มที่ เต็มความสามารถ ซึ่งอะไรที่เป็นเนื้อหาสาระที่เป็นประโยชน์จะส่งผลดีต่อประชาชน ส่วนที่กระทบกระทั่งกันบ้างถือว่าเป็นเรื่องปกติ และคิดว่าเราสามารถทำงานร่วมกันต่อไปได้ โดยผู้นำฝ่ายค้านฯ ได้เน้นย้ำถึงภาวะผู้นำ และการถูกครอบงำหลายครั้ง ซึ่งคนที่ย้ำเรื่องเดิมๆ หลายครั้ง ไม่แน่ใจว่านั่นคือสิ่งที่ตนเองขาดหรือไม่ ซึ่งจะไม่คิดแบบนั้นก็ได้ เพราะไม่ใช่มีแค่ตัวเองที่ถูกกล่าวหาเรื่องของการถูกครอบงำ ท่านถูกกล่าวหาว่าถูกครอบงำเช่นเดียวกัน แต่ต่างกันตรงที่ตนเองถูกกล่าวหาว่าถูกครอบงำโดยคุณพ่อ แต่ของท่านถูกครอบงำจากคนที่ไม่ใช่พ่อ ซึ่งไม่อยากให้ใครมาพูดเช่นนี้ ตนเองเคารพและให้เกียรติผู้นำฝ่ายค้านฯ และไม่เคยสงสัยในภาวะผู้นำของท่าน ความเป็นจริงเรามีอายุใกล้เคียงกัน ควรมีความเข้าใจกัน และเส้นทางทางการเมืองก็มีความคล้ายกันอยู่

”การมาอยู่ตรงนี้ได้ เราทั้งคู่ก็เจอกับชะตากรรมของพรรคการเมือง เพราะหากพรรคของตนเอง ไม่ถูกกระทำทางการเมืองในวันนี้ เราอาจจะยังมีนายกรัฐมนตรีที่ชื่อ นายทักษิณ ชินวัตร ก็ได้ และพรรคของท่าน อาจจะยังมีหัวหน้าพรรคชื่อ นายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ ก็ได้ ซึ่งความเป็นจริงไม่ได้เป็นเช่นนั้นแต่ชะตากรรมทางการเมืองมาแบบนี้ ซึ่งเราควรต้องทำหน้าที่ของตนเองให้ดีที่สุด และการด้อยค่าคนอื่นตนคิดว่าอย่าทำเลย“ นางสาวแพทองธาร กล่าว


นายกรัฐมนตรี ยังระบุอีกว่า การที่ตนเองเป็นลูกสาวนายทักษิณ แน่นอนว่าถูกวิจารณ์และปรามาส มาตั้งแต่เป็นนิสิตนักศึกษา จวบจนมาถึงทุกวันนี้ที่ได้เป็นนายกรัฐมนตรี ถือว่าไม่ใช่เรื่องแปลกอะไรแ ละคงไม่ใช่เรื่องเสียหายเช่นกัน ที่ตนจะรับฟังและนำคำแนะนำของนายทักษิณ มาใช้หรือพิจารณา เพราะนายทักษิณ ก็เป็นคนที่มีความรู้ความสามารถ เป็นที่ยอมรับ ทั้งในประเทศและต่างประเทศ หากความคิดของนายทักษิณ จะเป็นประโยชน์ให้กับประเทศชาติและประชาชน ตนก็มั่นใจว่าจะเป็นสิ่งที่ดี นอกจากนี้ยังมีนักการเมืองอีกหลายคนที่ถูกตัดสิทธิ์ทางการเมืองจากการยุบพรรค แต่ทุกคนก็ยังเดินหน้าทำงานการเมืองอยู่ ไม่ว่าจะเป็นเรื่องการทำนโยบาย การเดินหาเสียง ยังสามารถทำได้ แต่ทำไมเป็นนายทักษิณคนเดียว ที่ทำแล้วเป็นประเด็น หรือว่านายทักษิณ ถูกตัดสิทธิ์ยกกำลังสองซึ่งก็ไม่แน่ใจ

นายกรัฐมนตรี ยังชี้แจงเรื่องของการส่ง 40 อุยกูร์ กลับประเทศจีน ว่า ขณะนี้ยังไม่มีกฎหมายผู้ลี้ภัย หากมีการลักลอบเข้าเมืองผิดกฎหมาย ต้องถูกดำเนินคดีตามขั้นตอน โดยจะยึดหลักมนุษยธรรมและสิทธิมนุษยชน ซึ่งการกักขังชาวอุยกูร์ เป็นระยะเวลา 10 ปี ขณะที่ประเทศจีนที่เป็นประเทศแม่ก็แสดงเจตจำนงขอรับ และมีการทวงถามโดยที่ประเทศที่ 3 ไม่เคยมาทวงถามอย่างเป็นทางการ ซึ่งรัฐบาลได้พูดคุยกับประเทศจีน และต้องการให้มั่นใจในเรื่องความปลอดภัย ซึ่งทางประเทศประเทศจีนมีความจริงจังในการทำหนังสือออกมา ถือเป็นพันธะสัญญากับสังคมโลก รัฐบาลไทยจึงรีบส่งกลับไป ซึ่งคณะของนายภูมิธรรม เดินทางไปจีนและยืนยันว่าทุกคนปลอดภัย ซึ่งเรื่องนี้เป็นเรื่องที่ดีสำหรับทุกฝ่ายและดีกับประเทศไทย ส่วนที่มีบางประเทศมาประณามหรือไม่ยอมรับ ซึ่งประเทศไทยเคารพทุกความคิดเห็น สิ่งที่เราสามารถทำได้คือการใช้เวลาและอธิบาย เพื่อให้ทุกประเทศเข้าใจ เพราะประเทศเหล่านั้น ไม่ทราบว่าไทยกับจีนพูดคุยอะไรกัน จึงถือว่าเป็นเรื่องที่เข้าใจได้และไม่แปลก และการกล่าวหาในเรื่องนี้อยากทราบว่า ได้มองครบทุกมิติในโลกแล้วหรือไม่ และการเป็นนักสิทธิมนุษยชนที่ใช้มาตรฐานเดียวกันทั่วโลก ก็ไม่แน่ใจว่าท่านใช้สองมาตรฐานหรือไม่ กับรัฐบาลนี้โดยเฉพาะหรือไม่ เพราะเท่าที่จำได้ไม่มีนโยบายจากพรรคการเมืองไหนเลย ที่เกี่ยวข้องกับการช่วยเหลือผู้ลี้ภัย ซึ่งสามารถใช้เวทีนี้ประกาศไปเลยว่าจะตามที่ผู้ลี้ภัยต้องการทุกกรณี หรือจะมีแนวทางอย่างไรบ้าง ประชาชนจะได้รับฟัง

ขณะที่เรื่องแก้ไขรัฐธรรมนูญ นายกรัฐมนตรี ระบุว่า เป็นนโยบายของพรรคเพื่อไทย ที่เป็นฝ่ายค้านร่วมกันเคยลงสัตยาบันเพื่อแก้ไขรัฐธรรมนูญหลายครั้ง แต่ทำไม่สำเร็จ และเมื่อเพื่อไทยเป็นรัฐบาลก็ได้แถลงนโยบายดังกล่าวต่อรัฐสภา ซึ่งจุดยืนคือการแก้ไขโดยไม่แตะหมวด 1 และหมวด 2 แต่ข้อกฎหมายที่ซับซ้อนทำให้การแก้ไขดำเนินการไปได้ยาก และมีข้อเห็นต่างจากพรรคร่วมรัฐบาลและวุฒิสภา เช่น จำนวนครั้งในการทำประชามติ ซึ่งเราพยายามเดินต่อไปข้างหน้า และที่พวกท่านเรียกร้องให้แสดงภาวะผู้นำ ตนได้ทำอยู่ตลอดเวลา และมีการหารือกับพรรคร่วมรัฐบาลตลอดในทุกนโยบาย เพื่อแสวงหาจุดร่วมสงวนจุดต่างให้ชัดเจน โดยล่าสุดพรรคร่วมรัฐบาลมีจุดยืนร่วมกันที่จะส่งเรื่องนี้ให้ศาลรัฐธรรมนูญพิจารณา แม้ว่าจะช้าหรือไม่ทันใจแต่ถือเป็นโอกาสแห่งความสำเร็จ


“สำหรับภาวะผู้นำของตนต้องมีความอดทน ที่เป็นผู้นำรัฐบาลจากพรรครวมหลายพรรค และต้องมีเหตุผลและต้องมีความจริงใจ หากดันทุลังไปแล้วพังทุกรอบจะไม่เป็นผลสำเร็จขณะที่วันนี้มีสมาชิกมีที่อภิปรายเรื่องการต่อสู้ของประชาชน ซึ่งรัฐบาลนี้เคารพต่อสิทธิและเสรีภาพการแสดงออกของทุกฝ่าย และไม่เคยลืมว่าครั้งหนึ่งเคยบอบช้ำและเจ็บปวดแค่ไหน ซึ่งพรรคของเราเต็มไปด้วยนักการเมืองที่ต่อสู้เคียงข้างประชาชนคนเสื้อแดงหลายคน และมีลูกหลานของคนเสื้อแดงที่อยู่ในพรรค ถึงจะไม่ได้พกหมวกหรือผ้าพันคอมา แต่เราก็แสดงเรื่องนี้อย่างจริงใจและอยู่ในใจเสมอ“ นางสาวแพทองธาร กล่าว

นายกรัฐมนตรี กล่าวถึงดีลแลกประเทศ ว่า หากคำว่าดีลหมายถึงการเจรจาหาข้อสรุปร่วมกัน การเมืองทุกทุกที่บนโลกใบนี้ต้องมีดีล และก่อนหน้านี้รัฐบาลที่นำโดยพรรคเพื่อไทยก็เคยดีลกับพรรคของท่านและพรรคของท่านก็มาดีลกับพรรคของเรา แล้วเราก็ยกมือโหวตให้กับแคนดิเดตนายกรัฐมนตรีจากพรรคของท่าน ด้วยความเชื่อที่ว่าพวกท่านสามารถรวมเสียงจากสมาชิกวุฒิสภาสำเร็จแล้ว ซึ่งเป็นการดีล เช่นนั้นไม่ว่าจะเป็นระดับสองคน หรือระดับทุกคนในพรรค จึงทำให้เราดีลด้วย

“ที่ผ่านมา เรารักษาคำพูดของเราเสมอ ซึ่งท่านก็ดีลกับเรามาเสมอเช่นกัน เมื่อปี 2562 พรรคเพื่อไทยก็ดีล กับพรรคของท่าน ที่มาดีลกับเราให้ยกมือกับแคนดิเดตนายกรัฐมนตรีของพรรคท่าน ที่ขณะนั้นพรรคของท่านมีเสียงสส. เป็นอันดับ 3 และเมื่อการเลือกตั้งปี 2566 ท่านเป็นพรรคอันดับหนึ่ง มาดีลกลับพรรคเราซึ่งก็ตอบ แล้วก็ยกมือให้กับแคนดิเดตนายกรัฐมนตรีของพรรคท่านอีกครั้ง ซึ่งครั้งแรกไม่ผ่านเราก็ยกมือให้กับท่านเป็นครั้งที่สอง ตามที่ดีลกันไว้ และยกมือให้กับแคนดิเดตนายกรัฐมนตรีของพรรคท่านมาโดยตลอด แต่เท่าที่จำได้ท่านไม่เคยยกมือให้กับแคนดิเดตนายกรัฐมนตรีของพรรคเราเลย และเมื่อท่านตั้งรัฐบาลไม่สำเร็จ เราก็เดินหน้าตั้งรัฐบาลต่อไป ซึ่งเป็นเรื่องปกติของระบบรัฐสภา ซึ่งรู้ดีว่าการตั้งรัฐบาลครั้งนี้เราต้องพบเจอกับความยากลำบาก ต้องอธิบายให้ประชาชนฟัง“ นางสาวแพทองธาร กล่าว

นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า เรามีความตั้งใจอย่างมากที่จะผลักดันนโยบายสู่ประชาชนจริงๆ ซึ่งตัวเลขได้บ่งบอกว่าศักยภาพของประเทศไทยเติบโตช้ามาเป็นระยะเวลา 10 ปี เพราะฉะนั้นหากไม่เริ่มแต่วันนั้นจะมีนโยบายที่ออกไปถึงมือประชาชนแบบวันนี้หรือไม่ การที่ กล่าวหาว่านโยบายไม่ตรงปก แต่เงิน 10,000 ถึงมือประชาชน ไปถามประชาชนแล้วหรือยังว่ามีความสุขกับสิ่งนั้นหรือไม่ ซึ่งการกระตุ้นเศรษฐกิจ เกิดขึ้นแล้ว หากไม่กระตุ้นเลยจะกระเตื้องแบบนี้หรือไม่ หากไม่เริ่มนับหนึ่งตั้งแต่วันนั้น วันนี้ก็ยังคงจะติดลบอยู่ และเมื่อไหร่ประเทศไทยจะเคลื่อนไปข้างหน้า ซึ่งเป็นเรื่องที่รัฐบาลหรือพรรคเพื่อไทยต้องแบกเรื่องนี้ไว้และทำความเข้าใจกับประชาชน เป็นสิ่งที่พรรคเพื่อไทยภูมิใจที่ได้ดำเนินนโยบายต่างๆ และเดินสายไปต่างประเทศนำเงินเข้าประเทศ แล้วทำให้การลงทุนของประเทศไทย สูงสุดในรอบ 10 ปี ทั้งที่เราเป็นรัฐบาลยังไม่ถึงหนึ่งปี เป็นเพียง 6 เดือนเท่านั้น

นายกรัฐมนตรี ยังเชื่อว่า ไม่มีใครที่อยากถูกกล่าวหา ซึ่งในวันนี้ให้เกิดความชัดเจน และสร้างการเมืองแบบใหม่ ก็ให้ท่านประกาศให้ชัดเจนเลยว่าสมัยหน้าท่านจะร่วมหรือไม่ร่วมกับใคร พูดให้ชัดเสียตั้งแต่วันนี้ ประชาชนจะได้เกิดความสบายใจ.-315 -สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

ทุจริตยาโรงพยาบาลทหารผ่านศึก

รวบ “พ.อ.หญิง-แพทย์หญิง” เครือข่ายทุจริตยา รพ.ทหารผ่านศึก

ตำรวจ ปปป. และ ป.ป.ช. จับ “พ.อ.หญิง” และ “ แพทย์หญิง” เครือข่ายทุจริตยาโรงพยาบาลทหารผ่านศึก พบเส้นเงินเชื่อมโยง 10 ล้านบาท

ซบพรรคกล้าธรรม

“เอกราช” จ่อซบ “กล้าธรรม” ยันไม่ถึงขั้นแตกหัก “อนุทิน-ภท.”

“เอกราช” เตรียมย้ายซบ “กล้าธรรม” เพื่อความสบายใจในการทำงาน ยันไม่ถึงขั้นแตกหักกับ “อนุทิน-ภูมิใจไทย” คาดเตรียมขับออกเร็วๆ นี้ เผยผูกพันกับ “ธรรมนัส ” กว่า 10 ปี

ไฟไหม้ท้ายรถบัสทัศนศึกษา นักเรียน-ครู ปลอดภัย

หวิดเกิดเหตุสลด รถบัสทัศนศึกษากำลังกลับโรงเรียน เกิดไฟไหม้ท้าย โชคดีอพยพทัน นักเรียนชั้น ป.6 ทั้ง 35 คน กับครู 7 คน ปลอดภัย

รวบไรเดอร์-วิน จยย.รุมทำร้ายนักท่องเที่ยวต่างชาติ

ไรเดอร์ร่วมกับวิน จยย. รุมทำร้ายนักท่องเที่ยวชาวเยอรมันจนน่วม ตำรวจตามจับได้ 3 คน ยังอ้างรุมทำร้ายโดยไม่รู้ที่มาที่ไป คิดว่าชายต่างชาติทำร้ายคนไทย ทนไม่ได้จึงเข้าช่วย

ข่าวแนะนำ

ศาล รธน.รับวินิจฉัย “ภูมิธรรม-ทวี” แทรกแซง กกต. คดีฮั้ว สว.

ศาล รธน.สั่งรับวินิจฉัย “ภูมิธรรม-ทวี” ฝ่าฝืนจริยธรรม เหตุใช้อำนาจหน้าที่แทรกแซง กกต. กรณีดีเอสไอรับคดีฮั้ว สว. เป็นคดีพิเศษ แต่ไม่สั่งให้หยุดปฏิบัติหน้าที่ หากผิดหลุดตำแหน่ง ให้ยื่นคำชี้แจงแก้ข้อกล่าวหาภายใน 15 วัน

ย้ายด่วน หัวหน้า อช.หมู่เกาะสิมิลัน เร่งสอบปมขายตั๋วไม่โปร่งใส

อธิบดีกรมอุทยานฯ สั่งย้ายด่วน หัวหน้าอุทยานแห่งชาติหมู่เกาะสิมิลัน หลัง ป.ป.ช. สุ่มตรวจสอบการจำหน่ายตั๋วที่เกาะสี่และเกาะแปด โดยไม่แจ้งล่วงหน้า พบการจำหน่ายตั๋วส่อไม่โปร่งใส

Trump says administration is looking into Signal, thinks Waltz should not apologize

“ทรัมป์” ชี้แชทรั่วไม่มีข่าวกรองชั้นความลับ

วอชิงตัน 26 มี.ค.- ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ของสหรัฐ บอกปัดกรณีแชทรั่วไปถึงนักข่าวว่า ไม่มีข้อมูลข่าวกรองชั้นความลับ และไม่มีใครต้องขอโทษ ขณะที่ สว.เดโมแครตรุมตำหนิผู้ที่เกี่ยวข้องเรียกร้องให้ลาออก นายทรัมป์แสดงความหนุนหลังทีมงานด้านความมั่นคงของเขาด้วยการตอบคำถามสื่อในเรื่องนี้ที่ทำเนียบขาวเมื่อวานนี้ตามเวลาท้องถิ่นว่า ไม่มีข้อมูลชั้นความลับถูกเปิดเผยในกลุ่มแชทสนทนาแอปพลิเคชัน ซิกนัล (Signal) ของกลุ่มเจ้าหน้าที่ด้านความมั่นคง ซึ่งนายไมเคิล วอลซ์ ที่ปรึกษาความมั่นคงได้เชิญนักข่าวคนหนึ่งเข้าไปรวมอยู่ด้วยโดยไม่ตั้งใจ นายทรัมป์กล่าวด้วยว่า รัฐบาลจะพิจารณาเรื่องการใช้แอปพลิเคชันสนทนานี้และคิดว่านายวอลซ์ ไม่จำเป็นต้องขอโทษในเรื่องนี้ ขณะที่นายวอลซ์ให้สัมภาษณ์ในรายการของฟ็อกซ์นิวส์ ยืนยันขอเป็นผู้รับผิดชอบในเรื่องนี้ เพราะสิ่งที่เกิดขึ้นเป็นเรื่องน่าอับอาย กลุ่มแชทที่เขาสร้างขึ้นมีรายละเอียดเรื่องแผนการโจมตีเยเมนจริง แต่ยืนกรานว่าไม่มีข้อมูลชั้นความลับ หลังจากนายเจฟฟรีย์ โกลด์เบิร์ก บรรณาธิการข่าวของนิตยสารดิแอตแลนติก (The Atlantic) ออกมาเปิดเผยว่า ถูกรวมอยู่ในกลุ่มแชทเข้ารหัสโดยไม่รู้ตัวเมื่อวันที่ 13 มีนาคม และได้เห็นโพสต์ของนายปีเตอร์ เฮกเซธ รัฐมนตรีกลาโหมเรื่องแผนการทำสงครามก่อนสหรัฐเปิดฉากโจมตีเยเมนระลอกแรกเมื่อวันที่ 15 มีนาคม ด้านสมาชิกวุฒิสภา (สว.) พรรคเดโมแครตพากันตำหนินางทัลซี แกบบาร์ด ผู้อำนวยการสำนักข่าวกรองแห่งชาติและนายจอห์น แรตคลิฟฟ์ ผู้อำนวยการสำนักงานข่าวกรองกลางหรือซีไอเอ (CIA) ที่ไปให้ปากคำต่อคณะกรรมการข่าวกรองในวุฒิสภาว่า ฉาบฉวย ไร้ความสามารถ และไม่ให้เกียรติคนทำงานข่าวกรอง นางแกบบาร์ดและนายแรตคลิฟฟ์อยู่ในกลุ่มสนทนาในแอปฯ ซิกนัลที่มีข่าวรั่วในครั้งนี้ […]

โหวตไว้วางใจ

นายกฯ โพสต์ขอบคุณหลังสภาผ่านฉลุยไว้วางใจ

นายกฯ โพสต์ขอบคุณหลังสภาผ่านฉลุยไว้วางใจ ยัน ชี้แจงทุกประเด็น ลั่น ทั้งเสียงหนุน-เสียงไม่ไว้วางใจ จะเป็นพลังให้มุ่งมั่นทำงานเพื่อประชาชน