TNA News-Now-Next: “แคชเมียร์” ชนวนสงครามอินเดีย-ปากีสถาน

Barbed wire in Srinagar, Indiaรั้วลวดหนามที่ศรีนคร เมืองหลวงของรัฐจัมมูและแคชเมียร์

แคชเมียร์ 24 เม.ย.- เหตุกลุ่มคนร้ายกราดยิงนักท่องเที่ยวในรัฐจัมมูและแคชเมียร์ของอินเดียเมื่อ 2 วันก่อน เป็นเหตุร้ายครั้งล่าสุดในภูมิภาคแถบเทือกเขาหิมาลัยที่เป็นพื้นที่ชนวนสงครามระหว่างอินเดียและปากีสถานตั้งแต่เมื่อครั้งได้รับเอกราชจากอังกฤษ


แดนสวรรค์เปื้อนเลือด

เมืองพาฮัลกัม (Pahalgam) ในรัฐจัมมูและแคชเมียร์ ทางตะวันตกเฉียงเหนือของอินเดีย เป็นเมืองท่องเที่ยวยอดนิยม อากาศเย็นสบาย ห่างออกไปไม่ถึง 5 กิโลเมตรเป็นหุบเขาไบซาราน (Baisaran Valley) ที่มีทุ่งหญ้าบนยอดเขาเขียวขจี รายล้อมไปด้วยป่าสน สวยงามจนได้รับสมญานามว่า มินิสวิตเซอร์แลนด์


Shutdown in Indian Kashmir's Pahalgam after militant attack
เมืองพาฮัลกัม

แดนสวรรค์แห่งนี้ต้องกลายเป็นแดนเปื้อนเลือด เมื่อกลุ่มคนร้ายกราดยิงใส่กลุ่มนักท่องเที่ยวเมื่อวันที่ 22 เมษายน ทำให้มีผู้เสียชีวิต 26 คน เป็นชาวอินเดีย 25 คน และชาวเนปาล 1 คน และมีผู้ได้รับบาดเจ็บ 17 คน ตำรวจอินเดียระบุว่า ผู้ต้องสงสัย 2 ใน 3 คน เป็นชาวปากีสถาน

Funeral for victims of militant attack in Kashmir
พิธีศพนักท่องเที่ยว

เหตุการณ์นี้เป็นเหตุร้ายครั้งรุนแรงที่สุดของอินเดีย นับจากเหตุกลุ่มติดอาวุธในปากีสถานก่อการร้ายพร้อมกันหลายจุดในนครมุมไบ เมืองหลวงเชิงพาณิชย์ของอินดียเป็นเวลา 4 วันเมื่อวันที่ 26-29 พฤศจิกายน 2551 ครั้งนั้นมีคนถูกสังหารมากถึง 175 คน และคนได้รับบาดเจ็บมากกว่า 300 คน

รู้จักกลุ่มอ้างตัวก่อเหตุ


กลุ่มต่อต้านแคชเมียร์ (Kashmir Resistance) หรือแนวร่วมต่อต้าน (The Resistance Front) หรือทีอาร์เอฟ (TRF) โพสต์สื่อสังคมออนไลน์อ้างตัวว่าเป็นผู้ลงมือ สาเหตุเพราะไม่พอใจที่มี “คนนอก” เข้ามาตั้งรกรากในภูมิภาคนี้มากกว่า 85,000 คน จนลักษณะทางประชากรศาสตร์เปลี่ยนแปลงไป

Indian police release sketches of suspects involved in Kashmir attack
ตร.อินเดียโพสต์ภาพสเก็ตช์ผู้ต้องสงสัย

ข้อมูลของ South Asia Terrorism Portal ซึ่งเป็นหน่วยงานวิชาการในอินเดียระบุว่า ทีอาร์เอฟปรากฏขึ้นในปี 2562 เชื่อว่าแยกตัวออกมาจากกลุ่มลัชการ์-อี-ไทบา (Lashkar-e-Taiba) หรือแอลอีที (LeT) ในปากีสถานที่ถูกสหรัฐขึ้นบัญชีเป็นกลุ่มก่อการร้ายต่างชาติ จากการก่อเหตุร้ายในอินเดียและชาติตะวันตก รวมถึงการก่อการร้ายที่นครมุมไบในปี 2551 ที่ผ่านมาทีอาร์เอฟไม่ได้ก่อเหตุใหญ่ และก่อเหตุโดยมีอิสระบางประการ แต่ยังคงรับคำสั่งจากแอลอีที

กระทรวงมหาดไทยอินเดียแถลงต่อรัฐสภาในปี 2566 ว่า ทีอาร์เอฟพัวพันกับการวางแผนสังหารเจ้าหน้าที่ความมั่นคงและพลเรือนในรัฐจัมมูและแคชเมียร์ นอกจากนี้ยังมีส่วนร่วมในการรับสมัครสมาชิกติดอาวุธ  ลักลอบค้าอาวุธและยาเสพติดข้ามพรมแดนอินเดีย-ปากีสถาน หน่วยข่าวกรองอินเดียเปิดเผยว่า กลุ่มนี้ได้ใช้การข่มขู่ทางออนไลน์กับกลุ่มสนับสนุนอินเดียตลอด 2 ปีที่ผ่านมา ขณะที่ปากีสถานปฏิเสธว่า ไม่ได้สนับสนุนและให้เงินทุนกลุ่มติดอาวุธในแคชเมียร์ โดยให้เพียงกำลังใจและการสนับสนุนทางการทูตเท่านั้น

แคชเมียร์ ดินแดนชนวนสงคราม

แคชเมียร์หรือกัศมีร์ เป็นภูมิภาคทางตะวันออกเฉียงเหนือสุดของอนุทวีปอินเดีย ปัจจุบันครอบคลุมพื้นที่ของ 3 ประเทศ คือ อินเดีย ปากีสถานและจีน โดยเป็นชนวนสงครามอินเดีย-ปากีสถานโดยตรงมาแล้ว 2 ครั้ง

ป้ายชื่อประเทศอินเดียและปากีสถาน (ไม่ทราบเวลาและสถานที่)

ปมความขัดแย้งเกิดขึ้นหลังจากอังกฤษให้เอกราชแก่อินเดียและปากีสถานในปี 2490 โดยมีการขีดเส้นแบ่งประเทศ ส่วนแคชเมียร์ซึ่งมีประชากรส่วนใหญ่เป็นมุสลิม แต่มีผู้ปกครองเป็นมหาราชาฮินดู อังกฤษให้เลือกว่าจะเข้าร่วมกับประเทศใดประเทศหนึ่งหรือคงความเป็นเอกราช มหาราชาได้ตัดสินใจเข้าเป็นส่วนหนึ่งของอินเดีย เนื่องจากถูกกลุ่มชนเผ่าในปากีสถานบุกรุกและประชาชนก่อกบฏ นำมาซึ่งสงครามอินเดีย-ปากีสถานครั้งแรก สหประชาชาติเข้าไกล่เกลี่ยจนกระทั่งมีการหยุดยิงในปี 2492 และมีการแบ่งแคชเมียร์ โดยให้อินเดียปกครอง 2 ใน 3 ส่วน ประกอบด้วยหุบเขาแคชเมียร์ จัมมู และลาดักห์ ส่วนปากีสถานปกครอง 1 ใน 3 ประกอบด้วยอะซัด แคชเมียร์และกิลกัต-บัลติสถาน ต่อมาในช่วงที่จีนและอินเดียทำสงครามเป็นเวลา 1 เดือน ในปี 2505 จีนได้ยึดครองพื้นที่ที่ส่วนใหญ่ไม่มีคนอยู่อาศัย

อินเดียและปากีสถานทำสงครามใหญ่แย่งชิงแคชเมียร์อีกครั้งในปี 2508 แต่ก็ไม่ได้ทำให้สถานภาพของดินแดนแห่งนี้เปลี่ยนไปแต่อย่างใด ส่วนการทำสงครามครั้งที่ 3 ระหว่างอินเดียและปากีสถานในปี 2514 นำมาซึ่งการตั้งประเทศบังกลาเทศ

แคชเมียร์ในส่วนของอินเดียมีประชากร 7 ล้านคน ในจำนวนนี้เกือบร้อยละ 70 เป็นมุสลิม กลุ่มติดอาวุธที่ต้องการแยกตัวเป็นเอกราชหรือต้องการรวมกับปากีสถานเริ่มเคลื่อนไหวก่อเหตุไม่สงบในแคชเมียร์ส่วนของอินเดียตั้งแต่ปี 2532 อินเดียตอบโต้ด้วยการส่งกำลังทหารจำนวนมากไปปราบปราม และมีคนล้มตายมากมาย อินเดียกล่าวหาปากีสถานว่า ให้อาวุธและให้การฝึกฝนกลุ่มติดอาวุธ แต่ปากีสถานปฏิเสธ

เปลี่ยนดินแดนขัดแย้งเป็นแหล่งท่องเที่ยว

ปี 2562 รัฐบาลนายกรัฐมนตรีนเรนทรา โมดีและพรรคภารติยะชนตะที่ปกครองอินเดียมาตั้งแต่ปี 2557 ได้ยกเลิกมาตราในรัฐธรรมนูญก่อตั้งประเทศที่ให้สถานภาพปกครองตนเองแก่ดินแดนแห่งนี้ โดยให้เหตุผลว่า เพื่อให้แคชเมียร์เป็นส่วนหนึ่งของประเทศได้อย่างกลมกลืนมากขึ้น

ทางการอินเดียอ้างว่า สถานการณ์ความรุนแรงในแคชเมียร์เบาบางลงในช่วงหลายปีมานี้ มีการก่อเหตุร้ายขนาดใหญ่น้อยลง และมีนักท่องเที่ยวเข้าไปเยือนมากขึ้น รัฐบาลโมดีชูเป็นความสำเร็จครั้งใหญ่ว่า สามารถนำสันติภาพและการพัฒนามาสู่ดินแดนแห่งนี้ อย่างไรก็ดี ยังคงมีรายงานเจ้าหน้าที่ความมั่นคงและพลเรือนถูกสังหาร

ผลพวงจากเหตุการณ์ร้ายล่าสุด

ทางการอินเดียปิดเมืองพาฮัลกัมตั้งแต่วันที่ 22 เมษายน หนึ่งวันหลังเกิดเหตุร้าย นอกจากนี้ยังได้ประกาศมาตรการหลายอย่างเพื่อลดระดับความสัมพันธ์กับปากีสถาน เช่น ระงับการใช้สนธิสัญญาแม่น้ำสินธุปี 2503 (Indus Waters Treaty) ที่กำหนดการใช้แม่น้ำร่วมกัน ซึ่งจะทำให้ปากีสถานที่อยู่ปลายน้ำได้รับผลกระทบ เนื่องจากต้องใช้น้ำในการผลิตไฟฟ้าพลังน้ำและการชลประทาน

India closes land border crossing with Pakistan following Kashmir attack
อินเดียปิดด่านทางบกกับปากีสถาน

อินเดียยังได้ปิดด่านข้ามแดนทางบกระหว่าง 2 ประเทศที่มีอยู่เพียงแห่งเดียว และกำหนดให้ผู้ที่ข้ามมาในอินเดียแล้วต้องกลับออกไปก่อนวันที่ 1 พฤษภาคม ประกาศให้ที่ปรึกษาด้านกลาโหมทั้งหมดในคณะข้าหลวงใหญ่ปากีสถานประจำอินเดียเป็นบุคคลไม่พึงปรารถนา และต้องออกจากอินเดียภายใน 1 สัปดาห์ ขณะเดียวกันอินเดียจะเรียกตัวคณะที่ปรึกษาด้านกลาโหมในปากีสถานกลับประเทศ และลดจำนวนคณะข้าหลวงใหญ่อินเดียประจำปากีสถานจาก 55 คน ลงเหลือ 30 คน นอกจากนี้ยังมีการเคลื่อนไหวประท้วงต่อต้านปากีสถานในหลายพื้นที่ของอินเดีย

นายกรัฐมนตรีนเรนทรา โมดีของอินเดียได้เรียกประชุมทุกพรรคการเมืองรวมทั้งพรรคฝ่ายค้านในวันนี้ เพื่อแจ้งให้ทราบถึงมาตรการที่รัฐบาลดำเนินการ ขณะที่นายกรัฐมนตรีเชบาซ ชารีฟของปากีสถานได้เรียกประชุมคณะกรรมการความมั่นคงแห่งชาติในเช้าวันนี้ หลังจากอินเดียประกาศมาตรการกับปากีสถาน

India's PM posts after militant attack in Kashmir
นายกฯ อินเดียโพสต์ประณาม

Final Thought: จนถึงขณะนี้รัฐบาลทั้ง 2 ฝ่ายได้เพิ่มมาตรการรักษาความปลอดภัย และเตรียมพร้อมรับมือกับสถานการณ์ที่อาจบานปลาย แนวโน้มขึ้นกับว่า แต่ละฝ่ายจะใช้มาตรการตอบโต้กันอย่างไร สิ่งที่เกิดขึ้นสะท้อนให้เห็นว่า ทั้ง 2 ประเทศที่ต่างมีอาวุธนิวเคลียร์ในครอบครองยังไม่สามารถใช้วิถีทางทางการทูตในการแก้ไขความขัดแย้งที่ดำเนินมาร่วม 80 ปี และปะทุขึ้นเป็นครั้งคราว จนกว่าจะมีทางออกที่ยั่งยืน.-814.-สำนักข่าวไทย  

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

“ภูมิธรรม” แบ่งงาน 2 รมช.มหาดไทย เจ้าตัวคุม “โยธาฯ-ปค.”

กระทรวงมหาดไทย 14 ก.ค. –“ภูมิธรรม” แบ่งงาน 2 รมช.มหาดไทยแล้ว เจ้าตัวคุม “โยธาฯ – ปค.” ฟาก “เดชอิศม์” คุม “ที่ดิน – สถ.” สางปัญหาที่ดิน นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกฯ และรมว.มหาดไทย รักษาราชการนายกฯ กล่าวว่า ขณะนี้ตนได้แบ่งงานกับทั้ง 2 รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทยเป็นที่เรียบร้อยแล้ว ซึ่งการทำงานของทั้ง 3 คนเราทำงานเป็นทีมเดียวกัน ส่วนหลักเกณฑ์การแบ่งก็กระจายให้ทั่วถึงเพื่อช่วยกันดูแล โดยตนกำกับดูแลกรมโยธาธิการและผังเมือง กรมการปกครอง สำนักปลัดกระทรวงมหาดไทย สำนักงานรัฐมนตรี กระทรวงมหาดไทย การประสานงานส่วนราชการในสังกัด กระทรวงมหาดไทยตาม พ.ร.บ.การบริหารราชการจังหวัดชายแดนภาคใต้ พ.ศ.2553 การไฟฟ้าส่วนภูมิภาค การประปาส่วนภูมิภาค และดูหน่วยงานส่วนที่เหลือทั้งหมด โดยทั้งหมดสงวนไว้ในส่วนที่เกี่ยวข้องกับงบประมาณ และบุคคลซึ่งตนเป็นผู้ดูแล นายภูมิธรรม กล่าวต่อว่า ได้มอบหมายให้ น.ส.ธีรรัตน์ สำเร็จวาณิชย์ รมช.มหาดไทย กำกับดูแล กรมการพัฒนาชุมชน เพราะเป็นเรื่องเกี่ยวกับสตรีและการดำเนินการเรื่องผ้าไทย รวมถึงกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย […]

รถพ่วงเบรกแตกลงเขา ชนแหลก 10 คัน เจ็บ 3

นครราชสีมา 13 ก.ค. – รถพ่วงเบรกแตกลงเขามอกลางดง ชนแหลกรวมสิบคัน บาดเจ็บ 3 คน ทำถนนมิตรภาพรถติดยาวหลายกิโลเมตร คนขับรถพ่วงบาดเจ็บ แต่ยังให้การได้ รถพ่วงบรรทุกตู้คอนเทนเนอร์ ชนแหลกนับ 10 คัน บนถนนมิตรภาพ ขาเข้ากรุงเทพมหานคร ช่วงลงเขามอกลางดง กิโลเมตรที่ 37-38 อ.ปากช่อง จ.นครราชสีมา ตำรวจ สภ.กลางดง พร้อมเจ้าหน้าที่กู้ภัยหลายหน่วยระดม เข้าตรวจสอบที่เกิดเหตุ และช่วยเหลือผู้บาดเจ็บ ที่เกิดเหตุพบรถบรรทุกตู้คอนเทนเนอร์คันต้นเหตุ ยี่ห้อฮีโน่ สีขาว ทะเบียน กรุงเทพมหานคร ด้านหน้าหัวลากพังยับ นายวิทยา อายุ 34 ปี คนขับ ได้รับบาดเจ็บที่ขาซ้าย ยังนั่งอยู่บริเวณที่นั่งข้างคนขับ โดยเล่าว่า บรรทุกของมาเต็มตู้คอนเทนเนอร์ ช่วงลงเขาเกิดเบรกไม่อยู่ เนื่องจากลมหมด จึงทำให้พุ่งชนท้ายรถพ่วงบรรทุกไม้อีกคันที่อยู่ด้านหน้า จนกระเด็นไปคนละทิศละทาง ไม้กระจายเกลื่อนถนน ด้วยความแรงยังวิ่งไปเฉี่ยวชนกับรถที่วิ่งอยู่ด้านหน้าเสียหายอีก 8 คัน เป็นรถกระบะ 5 คัน, รถเก๋ง […]

มส.มีมติสั่งปลด-ถอดสมณศักดิ์ พระอาบัติปาราชิก เรียกพระ 5 รูปแจงด่วน

กรุงเทพฯ 13 ก.ค.-มหาเถรสมาคม ประชุมนัดพิเศษ มีมติสั่งปลด-ถอดสมณศักดิ์ พระอาบัติปาราชิก เผยสึกแล้ว 6 คน ยังติดต่อไม่ได้ 2 คน เตรียมแก้กฎมหาเถรสมาคม อ้างสุดล้าหลังกว่า 50 ปี ขณะที่พระเทพพัชราภรณ์ เจ้าอาวาสวัดชูจิตฯ ชิงลาออกแล้ว นายอินทพร จั่นเอี่ยม ผอ.สำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ (พศ.) แถลงข่าวภายหลังการประชุมมหาเถรสมาคมนัดพิเศษ ครั้งที่ 1/2568 ว่า สมเด็จพระสังฆราชห่วงใยต่อกระแสข่าวที่เกิดขึ้น จึงมีพระบัญชาให้มหาเถรสมาคม นิมนต์กรรมการฯประชุมเร่งด่วน ซึ่งทางกรรมการฯ มีข้อห่วงใย และมีการอภิปรายกันอย่างกว้างขวาง โดยมีมติ ดังนี้ -พระที่ถูกกล่าวหา ต้องอาบัติปราชิก ถือว่าสิ้นสุดความเป็นพระภิกษุทางวินัย และต้องสึกโดยทันที ส่วนพระที่ยังไม่ถึงขั้นปราชิก ก็ให้ปลดออกจากตำแหน่งเจ้าคณะพระสังฆาธิการทุกรูป และจะมีมติขอพระราชทานพระบรมราชานุญาตถอดสมณศักดิ์-ในระยะเร่งด่วน ให้เจ้าคณะผู้ปกครองสงฆ์ทุกระดับ ตรวจสอบดูแลและกำกับพฤติกรรมองพระในปกครองอย่างใกล้ชิด หากพบพฤติกรรมละเมิดพระธรรมวินัยให้ดำเนินการสอบสวน และรายงานมหาเถรสมาคมโดยเร็ว-กรณีพระภิกษุถูกกล่าวหาผิดพระธรรมวินัย ประเภทครุกาบัติ ให้ออกคำสั่พักการปฏิบัติหน้าที่ และให้เจ้าหน้าที่ดำเนินการตามกฏหมาย พร้อมขอให้ระมัดระวังการให้ข้อมูลต่อสื่อมวลชนและสาธารณชน เนื่องจากยังเป็นเพียงผู้ถูกกล่าวหา-และทบทวนปรับปรุงกฎระเบียบคณะสงฆ์ว่าด้วยการประทำผิดพระธรรมวินัย ประเภทครุกาบัติ โดยมหาเถรสมาคม เห็นควรขอประทานพระวินิจฉัยสมเด็จพระสังฆราช มีพระบัญชาโปรดให้แต่งตั้งคณะกรรมการพิเศษเพื่อคุ้มครองพระพุทธศาสนาคณะหนึ่ง […]

ส่งตัวดำเนินคดี นักท่องเที่ยวไทยทำร้ายทหารกัมพูชา

สุรินทร์ 13 ก.ค.-ทบ. เผยนักท่องเที่ยวไทยต่อยทหารกัมพูชา ที่ปราสาทตาเมือนธม เป็นอดีตทหารพราน ส่งตัวให้ตำรวจดำเนินคดีตามกฎหมาย เมื่อวันที่ 13 ก.ค.68 พล.ต.วินธัย สุวารี โฆษกกองทัพบกกล่าวถึงกรณีที่งนักท่องเที่ยวชาวไทย ทำร้ายร่างกายเจ้าหน้าที่ทหารกัมพูชาชุดประสานงาน ที่บริเวณปราสาทตาเมือนธม จังหวัดสุรินทร์ ว่า กองทัพบกได้รับรายงานจากกองกำลังสุรนารี ว่า เมื่อเวลาประมาณ 10.20 น. ได้เกิดเหตุการณ์นักท่องเที่ยวชาวไทยทำร้ายร่างกายเจ้าหน้าที่ทหารกัมพูชาชุดประสานงาน ณ บริเวณปราสาทตาเมือนธม โดยผู้ก่อเหตุได้ชกเจ้าหน้าที่กัมพูชา ทั้งทางด้านหลังและด้านหน้า ก่อนจะหลบหนีออกจากพื้นที่ ซึ่งเจ้าหน้าที่ฝ่ายไทยสามารถติดตามและควบคุมตัวได้ในเวลาต่อมา จากการตรวจสอบเบื้องต้น ทราบว่าผู้ก่อเหตุคือ นายสมหมาย ศรีศุกรานันทน์ อดีตอาสาสมัครทหารพราน ปัจจุบันดำรงตำแหน่งประธานชมรมทหารพรานจิตอาสาค่ายปักธงชัย และประธานเครือข่ายทหารผ่านศึกจังหวัดสมุทรสาคร ทั้งนี้ เนื่องจากบริเวณพื้นที่เกิดเหตุเป็นสถานที่ท่องเที่ยว ทางเจ้าหน้าที่ทหารฝ่ายไทย ได้ทำความเข้าใจกับผู้เสียหายไปแล้วในเบื้องต้น เพื่อพยายามไม่ให้กระทบความสัมพันธ์ในระดับเจ้าหน้าที่ทั้งสองฝ่าย สำหรับผู้ก่อเหตุ ได้ให้ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจ ดำเนินการไปตามขั้นตอนของกฎหมายต่อไป.-313.-สำนักข่าวไทย

ข่าวแนะนำ

“ทักษิณ” ซัดผู้นำกัมพูชาไร้จริยธรรม แต่คนไทยกลับเชื่อ

17 ก.ค. – “ทักษิณ” ซัดผู้นำกัมพูชาไร้จริยธรรม แต่คนไทยกลับเชื่อ งงทำไมคนไทยไม่รักกัน ตอกพรรคที่เพิ่งหลุดร่วมรัฐบาลไป เป็นเขมรหรือไทย หลังติง “ลูกอิ๊งค์” ขายชาติ บอกปัจจุบันการเมืองไม่มีเสถียรภาพเหมือนสมัยรัฐบาล “คึกฤทธิ์” นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ปาฐกถาพิเศษ หัวข้อ “ปลดล็อกอนาคตประเทศไทย สู้วิกฤติโลก พลิกเกมเศรษฐกิจไทย” และ “พลิกเกมเศรษฐกิจไทย สู่อนาคต” จัดโดย บริษัท อสมท จำกัด (มหาชน) โดยมี น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรีและรมว.วัฒนธรรม พร้อมครม. อาทิ นายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ รองนายกฯ และรมว.คมนาคม นายประเสริฐ จันทรรวงทอง รองนายกฯ และรมว.ดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม นายชูศักดิ์ ศิรินิล รมต.ประจำสำนักนายกรัฐมนตรี นายสุชาติ ตันเจริญ รมต.ประจำสำนักนายกรัฐมนตรี น.ส.จิราพร สินธุไพร รมต.ประจำสำนักนายกรัฐมนตรี นายมาริษ เสงี่ยมพงษ์ […]

เสวนา “ปลดล็อกอนาคตประเทศไทย สู้วิกฤติโลก”

17 ก.ค. – หลายหน่วยงานรวมพลังขับเคลื่อนเศรษฐกิจ ในงานเสวนา “ปลดล็อกอนาคตประเทศไทย สู้วิกฤติโลก” โดย บมจ.อสมท นายสุชาติ ตันเจริญ รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวเปิดงานสัมมนา “ปลดล็อกอนาคตประเทศไทย…สู้วิกฤติโลก” ยอมรับว่า นับว่าปัญหาเศรษฐกิจโลกกระทบมายังไทย จากภาษีศุลกากรของสหรัฐกระทบมายังประชาชน ผู้ผลิต เอสเอ็มอีรายย่อย ความร่วมมือของภาครัฐ เอกชน ประชาชน จึงต้องร่วมมือกันปลดล็อกอนาคตประเทศไทย…สู้วิกฤติโลก” โดยได้จัดเวทีใหญ่ให้ผู้กำหนดนโยบายและทิศทางของประเทศ และภาคเอกชน มาร่วมแสดงความเห็น ด้านเศรษฐกิจ นายเผ่าภูมิ โรจนสกุล รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการคลัง กล่าวในหัวข้อ เกาะติดมาตรการกระทรวงการเงินการคลัง พลิกฟื้นกำลังซื้อในประเทศ และแนวโน้มเศรษฐกิจ และสงครามการค้า ภาษีนำเข้าของสหรัฐ ว่าทีมไทยแลนด์ นำโดยนายพิชัย ชุณหวชิร รองนายกฯ และ รมว.คลัง กำหนดเจรจากับผู้แทนการค้าสหรัฐช่วงค่ำวันนี้ ต้องชั่งน้ำหนัก ทั้ง 2 มิติ คือ ผลกระทบที่ผู้ส่งออก และผู้ผลิตในประเทศทั้งภาคอุตสาหกรรม และเกษตรกร รัฐบาลไม่มอง เพียงจะเจรจาภาษีได้เท่าไหร่ ยอมรับไม่มีอะไรได้มาฟรีๆ แต่จะสานประโยชน์ให้ตกกับทุกฝ่าย […]

ทบ. เร่งตรวจสอบวิเคราะห์ “ทุ่นระเบิด” คาดผลชัด 2-3 วัน

17 ก.ค.- โฆษก ทบ. แจงเร่งตรวจสอบเหตุกำลังพลเหยียบกับระเบิดชายแดนช่องบก คาดใช้เวลา 2-3 วัน ชัดเจนเรื่องชนิดและห้วงเวลาที่มีการนำทุ่นระเบิดมาติดตั้ง ยังไม่ยืนยันว่าเป็นทุ่นระเบิดใหม่ พลตรี วินธัย สุวารี โฆษกกองทัพบก เปิดเผยภายหลังได้รับทราบรายงานจากกองทัพภาคที่ 2 กรณีเมื่อช่วงบ่ายวานนี้ (16 ก.ค.68) เกิดเหตุกำลังพลกองร้อยทหารราบที่ 6021 เหยียบกับระเบิดระหว่างการลาดตระเวนในพื้นที่ช่องบก จ.อุบลราชธานี ทำให้กำลังพลได้รับบาดเจ็บ 3 นาย ปัจจุบันทุกนายอาการปลอดภัยอยู่ในระหว่างการพักสังเกตอาการที่โรงพยาบาลค่ายสรรพสิทธิประสงค์ จ.อุบลราชธานี อย่างใกล้ชิด สำหรับรายละเอียดเกี่ยวกับทุ่นระเบิดดังกล่าวนั้น ปัจจุบันอยู่ในระหว่างการเข้าพื้นที่เกิดเหตุและเก็บหลักฐาน มาดำเนินการวิเคราะห์โดยผู้เชี่ยวชาญด้านวัตถุระเบิดอย่างละเอียด ซึ่งขั้นตอนนี้ คาดว่าจะใช้เวลาประมาณ 2 – 3 วัน เพื่อให้ได้ข้อเท็จจริงที่ชัดเจน ในเรื่องของชนิดและห้วงเวลาที่มีการนำทุ่นระเบิดมาติดตั้ง ตามที่สังคมได้ให้ข้อสังเกตว่าอาจเป็นทุ่นระเบิดที่ถูกวางขึ้นใหม่ ไม่ใช่ทุ่นระเบิดที่ตกค้างอยู่ในพื้นที่การสู้รบเดิม ทั้งนี้ โฆษกกองทัพบก ยังได้กล่าวว่า หลังจากนี้หน่วยในพื้นที่ชายแดน จะได้มีการตรวจสอบพิสูจน์ทราบเพิ่มเติมว่า ทางกัมพูชาได้มีการนำทุ่นระเบิดมาใช้ในพื้นที่หรือไม่ เพราะในปัจจุบันทั้งไทยและกัมพูชา ได้ให้สัตยาบันในการเข้าร่วมเป็นประเทศภาคีในอนุสัญญาออตตาวา ว่าด้วยการห้ามใช้ทุ่นระเบิดสังหารบุคคล อย่างเป็นทางการ ตั้งแต่เมื่อปี พ.ศ. 2542.-สำนักข่าวไทย

มทภ.2 สั่งดูแลสิทธิสวัสดิการ-ปูนบำเหน็จ ทหารเหยียบกับระเบิด

17 ก.ค.- แม่ทัพภาค 2 สั่งดูแลสิทธิสวัสดิการ-ปูนบำเหน็จ ทหารเหยียบกับระเบิดขาขาด เลื่อนยศ “สิบเอก” รับบำนาญเกือบ 30,000 บาท/เดือน เงินช่วยเหลือกว่า 1 ล้านบาท บรรจุทายาทรับราชการ เมื่อวันที่ 17 ก.ค.68 รายงานข่าวจากกองทัพภาคที่ 2 เปิดเผยว่า พล.ท.บุญสิน พาดกลาง แม่ทัพภาคที่ 2 ได้สั่งการให้ฝ่ายกำลังพลกองทัพภาคที่ 2 ได้ตรวจสอบสิทธิของข้าราชการทหารในการปฏิบัติราชการสนาม และให้ดำเนินการปูนบำเหน็จแก่พลทหารธนพัฒน์ หุยวัน สูงสุด เพราะ เป็นการปฏิบัติภารกิจเพื่อปกป้องอธิปไตยในการ ออกลาดตระเวนและเหยียบกับระเบิดที่เนิน 481 วานนี้ โดย ได้รับการปูนบำเหน็จ เลื่อนชั้นเป็นสิบเอก (ส.อ.) หลังจากรักษาตัวแล้วเสร็จ ปลดเหตุสูญเสียฯจากการรบ ได้รับบำนาญเดือนละ 15,600 บาท ซึ่งเมื่อรวม เงินรายเดือน จากหน่วยงาน/องค์กรต่าง ๆ แล้ว คาดว่าจะได้รับเงิน รวม 29,800 บาท/เดือน (โดยประมาณ) […]