DSI จ่อออกหมายเรียก 40 วิศวกรสอบปากคำ คดีตึก สตง.ถล่ม

ศูนย์ราชการ 24 เม.ย.-DSI เผยคดีนอมินี ตึก สตง. พบเอกสารแก้ไขแบบก่อสร้างรวม 9 ครั้ง เตรียมออกหมายเรียก 40 วิศวกรสอบปากคำ เริ่ม 28 เม.ย.นี้ เหตุอาจถูกอ้างชื่อควบคุมงาน ขีดเส้น 30 วัน แก้ข้อกล่าวหา “3 นอมินีไทย บ.ไชน่า เรลเวย์ฯ” หากไม่ยื่นเอกสารชี้แจง ถือว่าสละสิทธิ์

นายสมบูรณ์ ม่วงกล่ำ ที่ปรึกษา รมว.ยุติธรรม พ.ต.ต.ยุทธนา แพรดำ อธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ พ.ต.ท.อนุรักษ์ โรจนนิรันดร์กิจ รองอธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ ร.ต.อ.สุรวุฒิ รังไสย์ รองอธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ พ.ต.ต.วรณัน ศรีล้ำ ผอ.กองคดีคุ้มครองผู้บริโภค และ พ.ต.ต.ณฐพล ดิษยธรรม ผู้เชี่ยวชาญเฉพาะด้านคดีคุ้มครองผู้บริโภคและสิ่งแวดล้อม ร่วมกันแถลงความคืบหน้าคดีพิเศษที่อยู่ในความสนใจของประชาชน


โดย พ.ต.ต.ยุทธนา แพรดำ อธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ เปิดเผยว่า สำหรับคดีตึกถล่มจากเหตุแผ่นดินไหว ได้มีผู้มาร้องขอให้ดีเอสไอสอบสวนเป็นคดีพิเศษ ซึ่งขณะนี้ดีเอสไอสอบสวนอยู่ 4 เรื่อง โดยรับไว้เป็นคดีพิเศษแล้ว 3 เรื่อง คือ 1.ความผิดตาม พ.ร.บ.การประกอบธุรกิจของคนต่างด้าว พ.ศ. 2542 หรือนอมินี 2.เรื่องฮั้วประมูล และ 3.เรื่องใบกำกับภาษีปลอมของบริษัทจำหน่ายเหล็ก ขณะที่เรื่องมาตรฐานผลิตภัณฑ์อุตสาหกรรม (เหล็กตกมาตรฐาน) และเรื่องฝุ่นแดงจากโรงงาน อยู่ระหว่างการสืบสวน ดังนั้น ในคดีพิเศษที่ 32/2568 กรณี คดีนอมินี บริษัท ไชน่า เรลเวย์ นัมเบอร์ 10 (ประเทศไทย) จำกัด นั้น ดีเอสไอได้สอบสวนและขยายผลจับกุมผู้เกี่ยวข้องแล้ว 5 หมายจับ คือ 3 กรรมการคนไทยของบริษัทไชน่า เรลเวย์ นัมเบอร์ 10 (ประเทศไทย) จำกัด ได้แก่ นายประจวบ (สงวนนามสกุล) นายมานัส (สงวนนามสกุล) นายโสภณ (สงวนนามสกุล) และกรรมการคนจีน คือ นายชวนหลิง จาง ส่วนนิติบุคคล คือ บริษัท ไชน่า เรลเวย์ นัมเบอร์ 10 (ประเทศไทย) จำกัด นอกจากนี้ ในเรื่องการฮั้วประมูลนั้น ดีเอสไอก็ดูเรื่องของการเสนอราคา ขณะนี้อยู่ระหว่างพิจารณาเรื่องรายละเอียด

พ.ต.ต.ยุทธนา เผยว่า ผู้ต้องหามีสิทธิจะให้การหรือไม่ให้การอย่างไรก็ได้ และคำพูดของเขา เราไม่สามารถใช้ยืนยันอะไรได้มากนัก เรามีหน้าที่รวบรวมหลักฐานอื่น แต่เขาพูดอะไรเราก็รับฟังได้ แต่ถ้าจะต้องดำเนินคดี ขยายผล เราก็ไม่อาจรับฟังเพียงคำให้การของผู้ต้องหาเพียงอย่างเดียว


ด้าน ร.ต.อ.สุรวุฒิ รังไสย์ รองอธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ ในฐานะหัวหน้าคณะพนักงานสอบสวนคดีนอมินี บ.ไชน่า เรลเวย์ฯ กล่าวว่า ทั้งหมดที่ดีเอสไอได้สืบสวนสอบสวนขยายผล จนจับกุมผู้เกี่ยวข้องไปแล้ว 4 ราย และ 1 นิติบุคคล ล้วนมีความเกี่ยวพันกันเป็นทอด ๆ จากเรื่องความผิดการประกอบธุรกิจของคนต่างด้าว จะขยายไปต่อในเรื่องฮั้วประมูลได้ ซึ่งอยู่ระหว่างดำเนินการ เบื้องต้นเมื่อ 4 ผู้ต้องหาได้เข้าสู่กระบวนการแล้ว ดีเอสไอก็เหลือเวลาเร่งให้แล้วเสร็จภายใน 30 วันในส่วนของคดีนอมินี ส่วนหลังจากนั้นจะได้นำผลมาดูต่อเนื่องในส่วนของคดีฮั้วประมูล ทั้งนี้ ภายใน 30 วันจะมีผู้ต้องหาเพิ่มเติมหรือไม่นั้น ตอนนี้ยังไม่มี แต่เราต้องทำให้แล้วเสร็จภายในกรอบเวลา นับจากวันจับกุมผู้ต้องหาคนแรก หากนับจากตรงนี้ก็มีเวลาประมาณ 3 ผัด หรือประมาณ 30 วันโดยประมาณ และภายหลังจากที่ศาลได้อนุญาตปล่อยชั่วคราวทั้ง 4 ราย จากนี้จะมีบางรายที่ต้องชี้แจงเป็นเอกสารเพื่อแก้ข้อกล่าวหาภายใน 30 วัน หรือจะเดินทางมาด้วยตัวเองก็ได้ คือ นายประจวบ นายมานัส และนายโสภณ โดยจะต้องชี้แจงเรื่องที่ไม่ได้ตอบในชั้นสอบสวน ได้แก่ เป็นการถือหุ้นแทนใคร เอาเงินที่ใดมาลงทุน เป็นต้น แต่ถ้าหากไม่ส่งคำชี้แจงก็ถือว่าเป็นการสละสิทธิ์ ส่วนนายชวนหลิง จาง ได้ให้การไว้ค่อนข้างครบถ้วนแล้ว แต่นายจาง ยืนยันว่าไม่ได้เกี่ยวข้องกับพวกบริษัท วีล มาร์ท (ประเทศไทย) จำกัด , บริษัท เอวาน่า อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด , บริษัท สันติภาพ พร็อพเพอร์ตี้ จำกัด บอกเพียงว่าเกี่ยวข้องกับบริษัท ไชน่า เรลเวย์ฯ เท่านั้น ส่วนกรณีของนายบินลิง วู ตอนนี้เรายังคงดำเนินการสอบสวน โดยไล่ดูกลุ่มบริษัทที่ใกล้ชิดกับเขา ที่มีการใช้ 3 คนไทยไปเป็นกรรมการถือหุ้นเหมือนกัน

ร.ต.อ.สุรวุฒิ กล่าวต่อว่า กรณีที่นายจาง มีการอ้างว่าเป็นเจ้าหน้าที่รัฐวิสาหกิจจากจีนมาลงทุนในไทยนั้น ก่อนหน้านี้ได้มีตัวแทนมาพบดีเอสไอแล้ว มีการนำหนังสือรับรองมายืนยันว่าเป็นเจ้าหน้าที่รัฐวิสาหกิจของบริษัทโดยที่รัฐถือหุ้น เพื่อมาลงทุนในไทยจริง และยังให้การปฏิเสธเรื่องนอมินี โดยบอกว่ามันคือการที่เขามาลงทุนร่วมกับคนไทย

ร.ต.อ.สุรวุฒิ กล่าวอีกว่า กรณีของบริษัท ไชน่าฯ ที่ได้ประมูลงานโครงการรัฐไปจำนวนมาก และหลายโครงการยังไม่ได้ดำเนินการนั้น จะต้องมีการประสานรัฐบาลยกเลิกสัญญาหรือไม่ เช่น โครงการรถไฟฟ้าความเร็วสูงกรุงเทพฯ – นครราชสีมา หรือสร้างอาคารพักอาศัยต่าง ๆ นั้น ตนขอเรียนว่าบริษัทได้โครงการรัฐไปทั้งหมด 27 สัญญา แต่ยังไม่ได้มีการประสานเช่นนั้น เพราะต้องสอบสวนให้แล้วเสร็จก่อน ส่วนว่ามีการใช้กลอุบายมาอำพรางตัวเองว่าเป็นคนต่างด้าวหรือไม่ ก็หากชัดเจน เราก็จะได้ประสานดำเนินการในส่วนที่เกี่ยวข้องต่อไป


ร.ต.อ.สุรวุฒิ กล่าวด้วยว่า สำหรับข้อมูลที่มีทางตัวแทนของ สตง. เข้ามาชี้แจงกับดีเอสไอนั้น เบื้องต้นมีการประสานขอข้อมูลเอกสารที่เกี่ยวข้อง ซึ่ง สตง. ก็ได้มีการทยอยส่งมาแล้ว โดยเราจะดูเรื่องการได้มาซึ่งสัญญาของรัฐ รวมถึงการแก้ไขแบบแปลนด้วย

ส่วนกรณีของนายสมเกียรติ ชูแสงสุข ประธานคลินิกช่าง วิศวกรรมสถานแห่งประเทศไทย ที่เข้าพบดีเอสไอก่อนหน้านี้เนื่องจากถูกปลอมลายเซ็นและแอบอ้างชื่อควบคุมงานก่อสร้างนั้น ร.ต.อ.สุรวุฒิ กล่าวว่า เราได้สอบถามนายสมเกียรติ 3 ครั้ง โดยให้เขาเข้ามาดูเอกสาร ที่เราไปตรวจค้นได้จากบริษัทผู้ควบคุมงาน ซึ่งได้มีการชี้ว่าเอกสารใดที่ไม่ใช่ของเจ้าตัว แล้วก็ได้ดูเอกสารที่มีการแก้ไข และได้ชี้ว่าส่วนใดไม่ใช่ของเขาบ้าง ซึ่งเราจะได้รวบรวมส่งสถาบันนิติวิทย์ โดยเอกสารที่เราได้ตรวจสอบมี 16 รายการ และอยู่ในแบบแปลน 3-4 รายการ ที่เขาชี้ในเอกสารจากทั้งหมด 12 ลัง แต่ขอดูแค่ 2 ลัง ส่วนว่าใครเป็นผู้ปลอมลายเซ็นและแอบอ้างชื่อนายสมเกียรตินั้น อยู่ระหว่างการตรวจสอบ นอกจากนี้ สำหรับบรรดา 51 วิศวกรที่พบว่าอาจเกี่ยวข้องกับการถูกแอบอ้างว่าควบคุมงานตึก สตง.นั้น เราได้ออกหมายเรียกพยานไปแล้ว 40 ราย โดยจะเริ่มสอบสวนปากคำพยานวันที่ 28 เม.ย.นี้ เพื่อถามเรื่องมีการควบคุมงานทิพย์หรือไม่ และตนยังไม่ขอระบุว่าเป็นวิศวกรที่อยู่ในบริษัทหรือกิจการร่วมค้าใด

ส่วนกรณีของนายพิมล เจริญยิ่ง วิศวกรอายุ 85 ปี ร.ต.อ.สุรวุฒิ กล่าวว่า วานซืนที่ผ่านมา สน.บางซื่อ และเจ้าหน้าที่ดีเอสไอได้ร่วมกันสอบปากคำนายพิมลเรียบร้อยแล้ว โดยเป็นการทำงานร่วมกัน แต่สอบคนละสำนวนกัน ซึ่งเจ้าตัวได้ให้การคร่าวๆ ไว้แล้วว่าเป็นเพียงที่ปรึกษาของบริษัท

ร.ต.อ.สุรวุฒิ กล่าวด้วยว่า ตึก สตง. ตามเอกสารพบว่ามีการแก้ไขแบบทั้งหมด 9 ครั้ง แต่ที่เกี่ยวข้องกับปัญหาจะอยู่ในการแก้ไขแบบครั้งที่ 1 ครั้งที่ 2 ครั้งที่ 4 และครั้งที่ 6 ซึ่งเราจะไปลงรายละเอียดต่อไปว่ามีประเด็นใดบ้าง ส่วนการแก้ไขแบบที่มีปัญหาจริง ๆ คือ การขอแก้ไขครั้งที่ 4 และครั้งที่ 6 ที่ปรากฏชื่อลายเซ็นของนายสมเกียรติ ชูแสงสุข ซึ่งมันมีการแก้ไขเรื่องโครงสร้าง เป็นปัญหาเรื่องปล่องลิฟต์ ตามที่เป็นข่าว

ขณะที่ พ.ต.ต.วรณัน ศรีล้ำ ผอ.กองคดีคุ้มครองผู้บริโภค เผยว่า สำหรับการลงพื้นที่จุดเกิดเหตุ เราได้ประสานการปฏิบัติกับพนักงานสอบสวนตำรวจและสำนักงานมาตรฐานผลิตภัณฑ์อุตสาหกรรม รวมถึงกรมโยธาธิการและผังเมือง สถาบันนิติวิทยาศาสตร์ กรมพัฒนาธุรกิจการค้า และกรุงเทพมหานคร เพราะหลังจากตึกถล่ม ในช่วง 10 วันแรกจะเป็นเรื่องของการช่วยเหลือผู้ประสบเหตุ แต่พอได้เข้าพื้นที่ร่วมกับหน่วยงานพันธมิตรที่เกี่ยวข้องแล้ว เราก็ได้รวบรวมพยานหลักฐานในบริเวณตึกถล่ม เพื่อประกอบการพิจารณาตามประเด็นสำคัญ 2 ส่วน คือ 1.เรื่องเหล็กที่ใช้ก่อสร้างมีการตกมาตรฐานหรือไม่ ซึ่งในประเด็นนี้ ดีเอสไอ และ สมอ. ได้ร่วมกันเข้าเก็บตัวอย่างเหล็ก ซึ่งการเก็บตัวอย่างมาจาก 2 ส่วน ได้แก่ 1)เป็นเหล็กที่อยู่ในโครงสร้าง ที่มีการพังทลายแล้ว กับ 2)เป็นเหล็กชนิดเดียวกันที่อยู่ในไซต์งานแต่ยังไม่ถูกใช้งาน เพื่อนำไปเปรียบเทียบตรวจทั้งสองส่วน ตามวิธีการทางเทคนิคของ สมอ. เพื่อจะได้นำไปตรวจสอบว่าหากเป็นกรณีเหล็กตกมาตรฐานแล้วถูกใช้ก่อสร้าง ทาง สมอ. จะได้มีหนังสือร้องทุกข์กล่าวโทษมายังดีเอสไอต่อไป ทั้งนี้ เรื่องที่ 2 คือ เรื่องปูนซีเมนต์ โดยส่วนสำคัญที่สุดคือกรมโยธาธิการฯ ซึ่งทำหน้าที่ตอบเชิงวิศวกรรมว่าตึกถล่มเพราะเหตุอะไร แล้วเกี่ยวข้องกับวัสดุหรือไม่ ทั้งนี้ เรายังคงมีการส่งเจ้าหน้าที่ดีเอสไอไปร่วมเก็บตัวอย่างทั้งหมดกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เพื่อส่งตรวจพิสูจน์แล้วนำมาประกอบการทำงานกับทางกรมโยธาธิการฯ เพื่อตรวจเรื่องการถล่มทางวิศวกรรม

พ.ต.ต.วรณัน เผยอีกว่า ส่วนตัวเลขตัวอย่างเหล็กเส้นและคอนกรีตที่ได้เก็บจากตัวอาคารทั้ง 4 โซน (ZONE : A B C D) ดังนี้ ตัวเหล็กมีการเก็บทั้งหมด 240 ตัวอย่าง ส่วนคอนกรีตบริเวณโซน บี ซี และดี ได้มีการเก็บปูนเป็นก้อนไปแล้ว 59 ตัวอย่าง จากทั้งหมด 299 ตัวอย่าง (ตัวเลข ณ วันที่ 24 เม.ย.68) ทั้งนี้ พื้นที่ที่จัดเก็บคอนกรีตไม่ได้เลย คือ บริเวณโซนเอ เพราะเป็นพื้นที่ถล่มค่อนข้างเป็นชิ้นเล็กชิ้นน้อย และเป็นพื้นที่ที่เจ้าหน้าที่ทำงาน ทำให้บริเวณนั้นเสื่อมสภาพไปพอสมควร แต่อย่างไรก็ตาม เราก็ทำ

พ.ต.ต.วรณัน เผยต่อว่า สำหรับเรื่องการตรวจสอบปูนนั้น หน่วยงานที่จัดเก็บ คือ กองพิสูจน์หลักฐานกลาง และกรมโยธาฯ ซึ่งปูน บางส่วนมันใช้พิสูจน์เรื่องอาคารพังถล่มได้ โดยใช้หลักทางวิศวกรรม และใช้สนับสนุนสำนวนของตำรวจได้ ว่าตึกพังเพราะเหตุจากประมาทหรือไม่ หรือเกิดจากการก่อสร้างไม่ถูกต้องหรือไม่ หรือวัสดุที่ใช้มีผลต่อการถล่มหรือไม่ ทั้งนี้ เป็นการเก็บตัวอย่างปูนตามหลักกรมโยธาธิการฯ เก็บทั้งเสา ทั้งพื้น เป็นต้น

พ.ต.ต.วรณัน เผยด้วยว่า ส่วนกรณีบริษัท ซิน เคอ หยวน สตีล จำกัด จังหวัดระยอง ซึ่งดีเอสไอได้เข้าตรวจค้นร่วมกับกระทรวงอุตสาหกรรมนั้น เรื่องบริษัทนี้ มีอยู่ 2 ส่วน คือ ส่วนที่มีการกล่าวอ้างว่ามีเหล็กของบริษัทนี้ถูกนำมาใช้กับตึก สตง. ทราบว่า สมอ. ที่เข้าไปเก็บหลักฐาน หากพบความผิดจะได้มีการร้องทุกข์กล่าวโทษมายังดีเอสไอให้ดำเนินการ ส่วนที่สอง คือ เรื่องเหล็กที่คณะทำงานรัฐมนตรีกระทรวงอุตสาหกรรมได้เข้าตรวจค้นโรงงานแล้วพบเหล็กอาจตกมาตรฐาน ซึ่งทราบว่ากำลังทำรายงาน หากมีเกณฑ์เข้าเป็นคดีพิเศษ ก็อาจกล่าวโทษมายังดีเอสไอ รับดำเนินการต่อได้ ส่วนเรื่องที่ดีเอสไอรับสืบสวนไว้แล้วนั้น คือ เรื่องฝุ่นแดงประมาณเกือบ 50,000 ตัน ที่เป็นผลผลิตจากการผลิตเหล็ก ว่าเป็นการผลิตถูกต้องหรือไม่ โดยมีการทำหนังสือมาถึงอธิบดีดีเอสไอแล้ว เพื่อขอความร่วมมือสืบสวนกับกรมโรงงานอุตสาหกรรม และอธิบดีฯ ได้อนุมัติการสืบสวนเรื่องฝุ่นแดงแล้ว มีการตั้งคณะทำงานสืบสวนโดยมีตนเองเป็นหัวหน้าคณะฯ โดยจะได้นัดหมายกระทรวงอุตสาหกรรมหารือร่วมกันต่อไป

ด้าน นายสมบูรณ์ ม่วงกล่ำ ที่ปรึกษา รมว.ยุติธรรม ระบุว่า สำหรับจำนวนผู้ต้องหาในคดีมอมินีจะมีเพิ่มเติมหรือไม่ เราต้องให้เวลาพวกเขาในการให้ปากคำ หรือให้เขาได้หาพยานหลักฐานมาแสดงตามที่ได้อ้างไว้ จึงเชื่อว่าจะแล้วเสร็จภายใน 30 วัน.-313.-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

ผู้ใหญ่บ้านมอบตัว คดียิงชายใหม่ของเมียเก่า ดับคากระบะ

นนทบุรี 20 พ.ค. – ผู้ใหญ่บ้านหึงโหด บุกยิงกิ๊กของอดีตภรรยา 6 นัด เสียชีวิตคารถกระบะ มอบตัวแล้ว เบื้องต้นถูกแจ้งหลายข้อหาหนัก ขณะที่เจ้าตัวฝากขอโทษครอบครัวผู้เสียชีวิต นายอานนท์ อายุ 40 ปี ผู้ใหญ่บ้านแห่งหนึ่งใน อ.องครักษ์ จ.นครนายก หึงโหด บุกยิงนายพลาธิป อายุ 34 ปี อาชีพขับรถส่งหมู ซึ่งเป็นกิ๊กของอดีตภรรยา เสียชีวิตภายในรถกระบะที่จอดอยู่ในซอยลาดปลาดุก ถนนบางไผ่-หนองเพรางาย ต.บางบัวทอง อ.บางบัวทอง จ.นนทบุรี เหตุเกิดเมื่อเวลา 21.30 น.ที่ผ่านมา (19 พ.ค.) จากภาพจะเห็นว่าเมื่อเวลา 21.02 น. เห็นผู้ตายขับรถกระบะมาจอดริมทาง ก่อนมีรถกระบะสีดำอีกคันตามมาจอดปิดท้าย จากนั้นผู้ก่อเหตุอยู่ในชุดสวมเสื้อยืดสีดำ กางเกงขาสั้น เดินลงจากรถ ใช้อาวุธปืนยิงใส่ผู้ตายที่ยังนั่งอยู่ในรถ แล้วหลบหนีไป ช่วงสายที่ผ่านมา (20 พ.ค.) พนักงานสอบสวน สภ.บางบัวทอง เบิกตัวนายอานนท์ ผู้ก่อเหตุ มาสอบปากคำเพิ่มเติมอีกครั้ง หลังเมื่อราวตี […]

ขุดลึกลงไป 5 เมตร ยังไม่พบผู้สูญหาย

กทม. 19 พ.ค.-ทีมค้นหาฝังแผ่นเหล็กชีทไพล์ รอบหลุมเสาเข็ม เพื่อขุดค้นหาผู้ประสบเหตุ ซึ่งขุดลึกลงไป 5 เมตร ยังไม่พบผู้สูญหาย เวลา 17.00 น. เจ้าหน้าที่ทีมค้นหา ทั้ง กรมป้องกัน และบรรเทาสาธารณะภัย (ปภ.) Usar Thailand เจ้าหน้าที่มูลนิธิร่วมกตัญญู และบริษัทรับเหมาเจาะเสาเข็ม ได้ใช้แบคโฮ เริ่มฝังแผ่นเหล็กชีทไพล์ ความยาวประมาณ 16 เมตร รอบหลุมเสาเข็ม 4 ด้าน เพื่อป้องกันดินสไลด์ปิดทับปากหลุมที่รถแบ็คโฮจะทำการขุด เพื่อค้นหาผู้ประสบเหตุ โดยการฝั่งแผ่นชีทไพล์ รอบหลุมเสาเข็ม เนื่องจากการประเมินของเจ้าหน้าที่ผู้เชี่ยวชาญทางด้านวิศวกรรม พบว่าดินที่สไลด์ลงมาส่งผลกระทบรุนแรงต่อโครงสร้างอาคาร และเสาไฟฟ้า ในบริเวณที่เกิดเหตุ ดังนั้นเพื่อเป็นการป้องกันปัญหาอาคารทรุดตัว เอน และ พังถล่ม จึงจำเป็นต้องนำแผ่นชีทไพล์มากั้น ก่อนทำการขุดดิน และเริ่มค้นหาผู้ประสบเหตุ และหลังจากฝังชีทไพล์ เสร็จสิ้นในเวลา 18.30 น. โดยก่อนหน้านี้เจ้าหน้าที่ได้นำเครื่องโซน่า ลงไปในหลุม เพื่อค้นหาร่างผู้ประสบเหตุ ซึ่งจากการใช้ โซน่าสแกน ร่างของผู้ประสบเหตุ ฝังอยู่ในหลุมลึก […]

พบศพ “ดีเจเตเต้” ถูกอุ้มมัดมือไพล่หลังทิ้งกลางไร่อ้อย

กาญจนบุรี 18 พ.ค. – พบแล้วศพ “ดีเจเตเต้” ถูกอุ้มมัดมือไพล่หลัง นำศพทิ้งกลางไร่อ้อย เมืองกาญจน์ หลังครอบครัวแจ้งช่วยตามหาตัวตั้งแต่คืนวันที่ 14 พ.ค. ตั้งปมสังหารเรื่องชู้สาว ความคืบหน้ากรณี “ดีเจเตเต้” ถูกขับรถตามประกบ ก่อนอุ้มขึ้นรถหายตัวไป เหตุเกิดเมื่อเวลา 03.53 น. ของวันที่ 14 พ.ค. ภายในหมู่บ้านแห่งหนึ่งริมถนนแสงชูโต ต.ท่ามะขาม อ.เมือง จ.กาญจนบุรี ซึ่งหลังเกิดเหตุพ่อของดีเจเตเต้ ได้ออกมาอัดคลิปลงเฟซ บุ๊กเพื่อขอความช่วยเหลือในการตามหาตัวลูกชายที่หายตัวไป ก่อนที่ล่าสุดจะพบว่า กลายเป็นศพอยู่กลางไร่อ้อยเชิงเขาบ้านทุ่งนานางหรอก โดยวันนี้เวลาประมาณ 10.30 น. นายธนพล เสือส่าน กำนันบ้านทุ่งนานางหรอก ได้รับแจ้งจากชาวบ้านว่าพบศพอยู่บริเวณไร่อ้อย หมู่ 3 บ้านทุ่งนานางหรอก ต.ลาดหญ้า อ.เมือง จ.กาญจนบุรี คนที่ไปเจอ เป็นน้าชายของนายกอล์ฟคนในหมู่บ้าน ที่ออกไปหาของป่าแล้วไปเจอศพ ในสภาพนอนตะแคง ถูกมือถูกมัดไขว้หลัง แล้วมาบอกหลานชายคือนายกอล์ฟไปดูด้วยกัน แล้วนายกอล์ฟจึงแจ้งให้กำนันทราบ ทางกำนันก็แจ้งเรื่องต่อไปยังตำรวจ สภ.ลาดหญ้า ซึ่งเบื้องต้นศพสวมเสื้อผ้าตรงกับที่เป็นข่าว […]

หาความจริง “แก๊งแม่ชีพันล้าน” ยันไม่ใช่เรื่องจริง

สมุทรสาคร 18 พ.ค. – วงการสงฆ์ยังไม่แผ่ว กระแสแก๊งแม่ชีพันล้านโผล่อีก สำนักพุทธลงตรวจสอบแล้ว แม่ชีที่ถูกกล่าวหา ตอบได้ทุกคำถาม ยืนยันไม่ใช่เรื่องจริง จากกระแสเมื่อวานนี้ (17 พ.ค.) มีเพจหนึ่งนำภาพกลุ่มแม่ชีหลายภาพพร้อมกองธนบัตร และภาพแม่ชีที่แอดมินระบุอ้างว่าเป็นการใส่วิกผม มาโพสต์ลงโซเชียล พร้อข้อความเขียนแจงอย่างละเอียดว่า กรณีมีเพจดังโพสต์ภาพแม่ชีพร้อมข้อความระบุข้อความเด็ดว่า ทำนองว่า “แก๊งแม่ชีพันล้านคุมวัดเบ็ดเสร็จไร้เงาพระ! 1. แม่ชี 2 พี่น้องบริหารวัดลำพังไม่มีไวยาวัจกร ไม่มีกรรมการ ไม่มีมัคทายก ครอบครองที่ดินนับพันไร่แต่ชื่อเจ้าของไม่ใช่วัด บางแปลงเป็นชื่อแม่ชี อาจเข้าข่าย “ถือครองแทน” หรือใช้วัดบังหน้า? ยอดกฐินปีละเกือบ 100 ล้าน! รายชื่อผู้บริจาคซ้ำๆ เดิมๆ ส่วนใหญ่เป็นแม่ชี-คนในวัด ไม่มีอาชีพ ไม่มีธุรกิจ แต่ “บริจาคเป็นล้านทุกปี” ระบบโบนัสแม่ชีสาวช่วยหาทุนได้มาก พาเที่ยวรีสอร์ตหรูปีละครั้ง ใส่วิกเต็มยศ นั้น วันนี้ผู้สื่อข่าวพร้อม นส.สวาท แซ่ตัน ผู้อำนวยการสำนักงานพระพุทธศาสนา จ.สมุทรสาคร นายอิทธิธร สีเหลือง นักวิชาการศาสนาปฏิบัติการ เดินทางไปที่วัดที่แม่ชีในภาพบวชอยู่ ต.บางโทรัด […]

ข่าวแนะนำ

จนท.อัดอากาศเข้าหลุม ใช้คนลงไปขุดหาตัวผู้ประสบภัย

กทม. 20 พ.ค.-เจ้าหน้าที่อัดอากาศเข้าไปในหลุม เตรียมความพร้อมส่งชุดค้นหา โรยตัวใช้มือขุดหาตัวผู้ประสบภัย เวลา 19.00 น. ชุดค้นหาผู้สูญหายได้นำท่ออัดอากาศเข้าไปภายในหลุมที่คนงานพลัดตกลงไป ที่ไซต์งานก่อสร้างโครงการรถไฟฟ้าสายสีส้ม ช่วงบางขุนนนท์-ศูนย์วัฒนธรรมแห่งประเทศไทย บริเวณปากซอยหลานหลวง 6 และซอยหลานหลวง 8 แขวงคลองมหานาค เขตป้อมปราบศัตรูพ่าย ซึ่งขณะนี้ทีมเจ้าหน้าที่สามารถขุดลงไปได้ลึกในระดับ 9 เมตร และเตรียมส่งชุดค้นหาลงไปใช้วิธีสำรวจโดยการขุดด้วยมือแทนการใช้เครื่องจักร เนื่องจากกังวลว่า หากขุดดินลึกลงไปในระดับที่มากกว่า 10 เมตร แรงสั่นสะเทือนเครื่องจักรจะส่งผลกระทบต่อโครงสร้างอาคารใกล้เคียงจุดเกิดเหตุ แต่ขณะนี้ยังไม่สามารถส่งเจ้าหน้าที่ลงไปภายในหลุมดังกล่าวได้เนื่องจากภายในหลุมมีออกซิเจนเบาบาง ซึ่งอาจจะทำให้เกิดอันตรายต่อชุดค้นหาได้ ทำให้ต้องอัดอากาศเข้าไปเบื้องต้นก่อน และคาดว่า ชุดเจ้าหน้าที่สามารถโรยตัวลงไปสำรวจได้ในเวลา 20.00 น. ซึ่งการลงไปในหลุมดังกล่าว เจ้าหน้าที่จะสามารถลงไปได้เพียงครั้งละ 2 คน ใช้เวลารอบละไม่เกิน 15 นาที เวลา 20.00 น. ชุดค้นหานำอุปกรณ์ขุดเจาะ พร้อมโรยตัวลงไปในหลุม เพื่อหย่อนน้ำยาเบนโทไนต์ ซึ่งเป็นสารเคมีชนิดหนึ่ง ที่ควบคุมการไหลของน้ำ และป้องกันการพังทลายของพื้นดินช่วงที่มีการเจาะ ด้วยคุณสมบัติที่ดูดซับน้ำและเพิ่มความหนืดให้กับดินจะทำให้ดินไม่ทรุดตัว โดยชุดค้นหาให้ข้อมูลจากทีมข่าวว่า ตลอดทั้งคืนอย่างต่อเนื่อง ซึ่งคาดว่า ผู้สูญหายน่าจะติดค้างอยู่ในระยะความลึกประมาณ 16 […]

กว่า 24 ชั่วโมง ยังกู้ร่างคนงานพลัดตกหลุมไม่สำเร็จ

ศรีสะเกษ 20 พ.ค. – กว่า 24 ชั่วโมงแล้ว ปฏิบัติการค้นหาร่างคนงานชาวศรีสะเกษพลัดตกหลุมฝังเสาเข็ม ตลอดทั้งวันเจ้าหน้าที่จากหลายหน่วยงานเร่งทำงานอย่างยากลำบาก ท่ามกลางฝนโปรยปรายลงมาตลอด ดินเลื่อนไหลอ่อนตัว ส่วนญาติคนงานที่ศรีสะเกษ รอร่างกลับบ้าน นายชัชชาติ สิทธิพันธุ์ ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร ลงพื้นที่เกาะติดภารกิจค้นหาร่างนายศราวุฒิ จันทะสนธ์ หรือดาว อายุ 33 ปี คนงานชาวศรีสะเกษ ที่ พลัดตกหลุมฝังเสาเข็มจากดินสไลด์ทับฝังร่างมิดความลึก 19 เมตร คาดว่าเสียชีวิตแล้ว ที่งานก่อสร้างโครงการรถไฟฟ้าสายสีส้มช่วงบางขุนนนท์ – ศูนย์วัฒนธรรมแห่งประเทศไทย บริเวณปากซอยหลานหลวง 6 และซอยหลานหลวง 8 แขวงคลองมหานาค เขตป้อมปราบศัตรูพ่าย โดยมีนายภุชพงศ์ สัญญโชติ ผู้อำนวยการกองปฏิบัติการดับเพลิงและกู้ภัย 3 สำนักป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย กรุงเทพมหานคร ร่วมวางแผนประเมินสถานการณ์ภารกิจในการค้นหา ร่วมกับหลายหน่วยงาน เปิดเผยว่า ขณะนี้ขุดดินลึกลงไปได้แล้ว 9 เมตร จากการตรวจสอบดินที่นำขึ้นมา พบเพียงเศษวัสดุอุปกรณ์ก่อสร้างในระยะ 8 เมตร เช่น เสียม […]

ศาลฎีกาสั่งจำคุก “เสก โลโซ” 2 ปี 12 เดือน 20 วัน

กทม. 20 พ.ค.-ศาลฎีกาสั่งจำคุก “เสก โลโซ” 2 ปี 12 เดือน 20 วัน คดีต่อสู้เจ้าพนักงาน-เสพยา-ปืน ช่วงตำรวจบุกบ้านปี 60 คุมตัวเข้าเรือนจำพิเศษมีนบุรี ศาลอาญามีนบุรี ถนนสีหบุรานุกิจ อ่านคำพิพากษาศาลฎีกา คดีที่พนักงานอัยการ เป็นโจทก์ยื่นฟ้อง นายเสกสรรค์ ศุขพิมาย หรือ เสก โลโซ จำเลยคดีหมายเลขคดีดำ อ.1662/2561 แดง อ.8288/2561 ความผิดฐานต่อสู้ขัดขวางเจ้าพนักงานในการปฏิบัติตามหน้าที่ เสพยาเสพติด และมีอาวุธปืนและเครื่องกระสุนปืนไว้ในความครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาต ตาม พ.ร.บ.อาวุธปืนและเครื่องกระสุนปืนฯ พ.ศ. 2490 กรณีนายเสกสรรค์ ถูกจับกุมเมื่อวันที่ 31 ธันวาคม 2560 ที่บ้านพัก หลังจากศาลจังหวัดนครศรีธรรมราช ออกหมายจับในข้อหาเกี่ยวกับการยิงปืนขึ้นฟ้าโดยไม่มีเหตุอันสมควร ในระหว่างการจับกุม เสก โลโซ ได้ขัดขืนและขู่จะใช้ปืน หากเจ้าหน้าที่บุกเข้ามา เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงต้องใช้หน่วยอรินทราชเข้าช่วยเหลือในการควบคุมตัว โดยอัยการโจทก์ฟ้องว่า จำเลยมีอาวุธปืนพกออโตเมติกซึ่งมีทะเบียน พร้อมกระสุนปืน และต่อสู้หรือขัดขวางเจ้าพนักงานในการปฏิบัติการตามหน้าที่ โดยมีหรือใช้อาวุธปืน […]

“แพทองธาร” ลั่น สส.ย้ายพรรค อยู่ที่ความสมัครใจ เหมือนย้ายองค์กร

ทำเนียบ 20 พ.ค.-“แพทองธาร” ลั่น สส.ย้ายพรรค อยู่ที่ความสมัครใจ ห้ามไม่ได้ เปรียบเหมือนสมัครงาน-ย้ายองค์กร หาสิ่งที่ใช่ นี่เป็นวงการของเรา วงการการเมือง นางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ให้สัมภาษณ์หลังการประชุมคณะรัฐมนตรี ถึงกรณีที่ฝ่ายค้านวิจารณ์ว่า นายกฯ ปล่อยให้ พรรคร่วมรัฐบาลดูด สส. เพื่อมาสนับสนุนรัฐบาล ซึ่งก่อนหน้านี้ นายกฯ ระบุว่า ไม่อยากเห็นภาพการซื้อ สส. มาร่วมรัฐบาล โดยนายกฯ ย้อนถามสื่อว่า แล้วเขาซื้อหรือไม่ ขณะที่สื่อตอบกลับว่า ไม่ได้ซื้อ นายกฯ จึงกล่าวว่า เขามาด้วยความสมัครใจใช่หรือไม่ สื่อจึงตอบว่า ถ้ามาด้วยความสมัครใจได้ใช่หรือไม่ นายกฯ กล่าวว่า ขึ้นอยู่กับแต่ละพรรคจัดการ ซึ่งต้องไปถามหัวหน้าพรรคแต่ละพรรค ว่าจัดการแบบไหน และอยากได้ใครเข้ามาเพิ่ม “เส้นทางการเมืองที่ดิฉันพบเจอมา เป็นความเชื่อ เป็นความเข้าใจของแต่ละคน ว่าเวลานั้นรู้สึกว่าสังกัดพรรคไหนแล้วเป็นตัวเอง สังกัดพรรคไหนแล้วตอบโจทย์ เหมือนกับเราสมัครงาน ถ้าเราสมัครที่ไหนแล้วรู้สึกว่าใช่ องค์กรนี้ใช่เราหรือไม่ ก็ห้ามไม่ได้ว่าใครจะอยากย้ายไปองค์กรไหน สื่อจะอยู่สื่อเดิมหรือสื่อใหม่ก็ย้ายได้เช่นกัน เป็นสิ่งที่แล้วแต่ทุกคนจะชอบ นี่เป็นวงการของเรา […]