กรุงเทพฯ 18 ต.ค. – ศาลให้ประกัน 4 วัยรุ่นแก๊งวัดม่วง คดีรุมทำร้าย “บาส มีดคู่” หลังญาติขอวางเงิน 30,000 บาท และขอติดกำไล EM ข้อเท้า ทั้งหมดจึงรอดนอนคุก และเดินทางกลับบ้านทันที
ฝากขังแก๊งรุมยำ “บาส” ค้านประกันตัว
ตั้งแต่ช่วงเช้า พนักงานสอบสวน สน.เพชรเกษม คุมตัวนายณัฐพล หรือบาย อายุ 22 ปี, นายภาสกร หรือนิด อายุ 37 ปี, นายปาราเมศ หรือบอล อายุ 23 ปี และนายพันกร หรือเย่อ อายุ 20 ปี 4 ผู้ต้องหาในคดียกพวกบุกบ้านคู่กรณีเพื่อเคลียร์ปัญา สุดท้ายถูกคู่กรณีคว้ามีดสู้ แทงเสียชีวิต 2 คน บาดเจ็บอีก 1 คน ไปส่งศาลอาญาธนบุรีฝากขังเป็นผัดแรกเป็นเวลา 12 วัน ตั้งแต่วันที่ 18-29 ตุลาคม พร้อมคัดค้านการประกันตัว ให้เหตุผลว่าการสอบสวนยังไม่เสร็จสิ้น ต้องสอบพยานอีก 7 ปาก และรอผลตรวจพิสูจน์ของกลาง ผลชันสูตรบาดแผล ผลตรวจสอบประวัติต้องโทษของผู้ต้องหา รวมถึงเป็นคดีอุกฉกรรจ์ที่สังคมให้ความสนใจ ความผิดมีอัตราโทษสูง เป็นการกระทำลักษณะกลุ่มคนร้าย อีกทั้งยังมีการข่มขู่คุกคามคู่กรณีและแม่ ผ่านโซเชียล หากทั้ง 4 คน ถูกปล่อยตัว เกรงเข้าไปยุ่งเหยิงกับพยานหลักฐาน หรือก่อเหตุอันตรายประการอื่น หรืออาจหลบหนีได้
นอกจากนี้ยังบรรยายพฤติการณ์ในสำนวนว่า ช่วงเย็นวันที่ 12 ตุลาคม ผู้ต้องหากับพวกรวม 6 คน บุกไปบ้านแฟนของนายณัฐวุฒิ หรือบาส ที่อยู่ย่านบางแค ก่อนตะโกนเรียกให้บาสออกมา เมื่อบาสไม่ออกมา ผู้ต้องหาและพวกได้ขว้างปาก้อนอิฐ สิ่งของเข้าไปในบ้านและตะโกนท้าทาย กระทั่งบาสวิ่งออกมา พร้อมอาวุธมีด 2 เล่ม ทำให้เกิดการต่อสู้ทำร้ายกัน โดยบาสบาดเจ็บแขนหัก ศีรษะมีแผล ส่วนฝั่งผู้ต้องหา นายสมเดช หรือต้น อายุ 25 ปี และนายธิติวุฒิ หรือแซม อายุ 19 ปี ถูกแทงเสียชีวิต และนายพันกร หรือเย่อ อายุ 20 ปี บาดเจ็บ
จากนั้นวันที่ 16 ตุลาคม ผู้ต้องหาทั้ง 4 คน ได้เข้าพบพนักงานสอบสวนเอง พนักงานสอบสวนเห็นว่าข้อกล่าวหามีพยานหลักฐานตามสมควร จึงแจ้งข้อกล่าวหาตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 297, 365, 392 คือ ร่วมกันทำร้ายร่างกาย ร่วมกันทำบุกรุกเคหสถาน และร่วมกันขู่เข็ญ ซึ่งในชั้นสอบสวนผู้ต้องหาทั้งหมดให้การปฏิเสธศาลพิจารณาคำร้องและความจำเป็นแล้ว อนุญาตให้ฝากขังได้
อย่างไรก็ตาม ภายหลังศาลมีคำตัดสิน ครอบครัวของ 4 ผู้ต้องหา ได้ยื่นคำร้องขอปล่อยชั่วคราว ซึ่งศาลอาญาธนบุรีพิจารณาแล้วตีราคาประกันคนละ 150,000 บาท แต่ครอบครัวของทั้ง 4 คน มีหลักทรัพย์ไม่พอ ขอวางเงิน 30,000 บาท และขอติดกำไล EM ข้อเท้า ศาลพิจารณาแล้วอนุญาต ทั้งหมดจึงรอดนอนคุก และเดินทางกลับบ้านทันที
ลุยค้นแก๊งเด็กวัดม่วง ควานหามือโพสต์ข่มขู่บาส
ส่วนกรณีมีข้อความโพสต์อ้างตัวเป็นแก๊งวัดม่วงข่มขู่คุกคามแม่บาสและหมอปลา พนักงานสอบสวนเร่งติดตามตัวมาดำเนินคดีในฐานความผิดข่มขู่คุกคาม โดย ผบ.ตร. สั่งว่าต้องดำเนินคดีทุกราย เพื่อไม่ให้เป็นเยี่ยงอย่าง ล่าสุดตำรวจเพชรเกษม ตำรวจสืบสวนนครบาล 9 และตำรวจ 191 นำหมายศาลอาญาธนบุรีปูพรมตรวจค้นชุมชนวัดม่วง 9 จุด 13 เป้าหมาย โดยมีแนวทางการตรวจสอบประเด็นการโพสต์ข้อความ แบ่งเป็น 3 กลุ่มคือ กลุ่มของบาส กลุ่มคู่กรณี 6 คน และกลุ่มที่โพสต์สร้างสถานการณ์ แต่การตรวจค้นไม่พบสิ่งผิดกฎหมาย รวมถึงไม่พบมือโพสต์ ทำให้ต้องสืบหากันต่อ
ขณะที่พลตำรวจตรีพงศ์อนันต์ คล้ายคลึง ผู้บังคับการตำรวจนครบาล 9 เปิดเผยว่า คดีนี้หากคู่กรณี 2 ฝ่าย เกรงว่าจะไม่ได้รับความปลอดภัย สามารถร้องขอให้ตำรวจไปดูแลความปลอดภัยได้ ยืนยันตำรวจจะให้ความเป็นธรรมกับทุกฝ่าย
ส่วนความเคลื่อนไหวของบาส ที่ตอนนี้หมอปลาพาไปอยู่เพชรบุรี หลังเจ้าตัวได้รับการผ่าตัดรักษาอาการแขนหัก แพทย์ได้ให้อยู่ดูอาการที่โรงพยาบาลก่อน อย่างไรก็ตาม ด้วยสถานกาณ์โควิด แพทย์ไม่ให้หมอปลาและแฟนเข้าเยี่ยมอาการน้องบาส หมอปลาจึง video call สอบถามอาการของน้องบาส และแม่
ทนายอนันต์ชัยโดดร่วมวงช่วยคดี “บาสถูกรุมยำ”
วันพุธนี้ ทนายอนันต์ชัย ไชยเดช จะมาหาบาส และคอยให้คำปรึกษาในคดีนี้ ซึ่งก่อนหน้านี้ทนายอนันต์ชัยเคยบอกว่าคดีนี้คล้ายคดี 7 โจ๋รุม ทำร้ายคนพิการจนเสียชีวิต แตกต่างกันเพียงกรณีบาสกลับเป็นฝั่งตรงข้ามที่เสียชีวิต โดยพฤติกรรมของแก๊งคู่กรณีแสดงให้เห็นว่ายังมีการอาฆาตแค้น ทำให้มองว่าแม้ในวันเกิดเหตุหากบาสอยู่ในบ้าน ไม่ออกมาสู้ ก็ไม่มีอะไรยืนยันได้ว่าอนาคตบาสจะปลอดภัย.-สำนักข่าวไทย