สน.เตาปูน 25 เม.ย. – “ทนายตั้ม” ให้การเพิ่มเติมพนักงานสอบสวน สน.เตาปูน หลังหอบหลักฐานให้แล้ว 2 ครั้ง ส่วนตัวมองว่าการทำคดี “บิ๊กต่อ” ยาก พนักงานสอบสวนไม่ให้ความร่วมมือ
นายษิทรา เบี้ยบังเกิด หรือ ทนายตั้ม ได้เดินทางมายัง สน.เตาปูน เนื่องจากพนักงานสอบสวนได้นัดหมายให้มาให้ข้อมูลเพิ่มเติม ซึ่งถือว่าเป็นการให้ข้อมูลกับพนักงานสอบสวน ครั้งที่ 3 โดยทางพนักงานสอบสวนบอกว่า อาจจะนัดหมายให้ตนเข้ามาให้ข้อมูลอีกหลายรอบ โดยทนายตั้ม ระบุว่า วันนี้ตนได้นำผังเปรียบเทียบเส้นทางการเงิน ที่ใช้ในการแถลงข่าวเมื่อวันที่ 23 เม.ย.ที่ผ่านมา มามอบให้กับทางพนักงานสอบสวน ส่วนประเด็นที่พนักงานสอบสวนยังติดใจนั้นยังไม่ได้แจ้งว่าเป็นประเด็นใด โดยในการให้ข้อมูลครั้งนี้มีเจ้าหน้าที่ บก.น.2 ร่วมสอบสวนด้วย
อย่างไรก็ตาม ทนายตั้ม มองว่าคดีที่ตนร้องฯ ไม่ค่อยคืบหน้า มีแค่ บก.น.2 ที่รับผิดชอบ และทางนครบาลไม่ได้ตั้งคณะทำงานเหมือนกับคดีของ พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ หักพาล อดีตรอง ผบ.ตร. ซึ่งตนมองว่าคดีนี้ควรใช้คณะทำงานชุดเดียวกันไปเลย เพราะมีรายละเอียดของคดีเว็บพนัน BNK Master อยู่แล้ว หากตั้งคณะกรรมการชุดใหม่ก็เหมือนเริ่มใหม่ทั้งหมด ส่วนคำให้การของพยานที่ตนเคยพามาให้ข้อมูลก่อนหน้านี้ ยังไม่มีความคืบหน้า ทั้งที่ตนได้ทำคำให้การมาส่งให้ทั้งหมดแล้ว ซึ่งวันนี้ก็จะมาติดตามส่วนนี้ด้วย
อีกทั้งทนายตั้ม ยังระบุอีกว่า การดำเนินคดีกับ พล.ต.อ.ต่อศักดิ์ สุขวิมล ผบ.ตร. ยากมาก พนักงานสอบสวนไม่ให้ความร่วมมือ โดยอ้างว่าไม่อยู่ในอำนาจ และพยายามจะโอนสำนวนไปที่อื่น ซึ่งในอนาคตมีโอกาสฟ้อง ม.157 กับพนักงานสอบสวน ถ้ามีการโอนสำนวน หรือไม่ทำอะไรกับสำนวนเลย
ส่วนมูลค่าของคดีเว็บนี้ ทนายตั้มมองว่า อาจไม่เข้าข่ายกรมสอบสวนคดีพิเศษ (DSI) ที่ต้องเข้ามาทำคดี แต่การส่งส่วย 18 ธุรกิจสีเทา พบว่าหนึ่งในบัญชีม้า มีเงินเข้าในบัญชีกว่า 800 ล้านบาทต่อปี อาจเข้าข่ายของกรมสอบสวนคดีพิเศษ ซึ่งเรื่องนี้ต้องรอทางกองบังคับการป้องกันปราบปรามการทุจริตและประพฤติมิชอบ หรือ บก.ปปป. ตรวจสอบเส้นทางการเงิน และรวบรวมหลักฐานในการดำเนินคดี อย่างไรก็ตาม ทนายตั้มมีความกังวลว่า การดำเนินคดีกับ พล.ต.อ.ต่อศักดิ์ อาจจะมีขบวนการช่วยเหลืออยู่เบื้องหลัง
ส่วนกรณี พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ ถอนคำร้องการตรวจสอบนายกรัฐมนตรีที่ ป.ป.ช. โดยระบุว่านายกฯ ถูกหลอก แต่ตนมองว่า พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ นั่นแหละที่ถูกหลอก และเชื่อว่ามีบุคคลที่พยายามให้เหตุผลว่านายกฯ ไม่รู้เรื่องกับเหตุการณ์ดังกล่าว เพื่อให้ พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ ไปยื่นถอนคำร้องมากกว่า ในส่วนคณะกรรมการพิจารณาเรื่องร้องเรียนตำรวจ (ก.ร.ตร.) วันนี้ทางสายลับที่มีข้อมูลเรื่องนี้ ได้เดินทางเข้าไปให้ข้อมูลโดยตรงกับ พล.ต.ท.อำนวย นิ่มมะโน และ พล.ต.ท.เรวัช กลิ่นเกษร เพื่อให้ข้อมูล ก่อนที่วันพรุ่งนี้สายลับจะเข้าพบคณะกรรมการสอบสวนข้อเท็จจริงที่นายกรัฐมนตรีแต่งตั้งขึ้นอีกครั้ง
ซึ่งเมื่อวานนี้ตนได้นำผังชาร์จ จำแนกตำรวจ 3 กลุ่ม เกี่ยวกับเว็บพนันไปมอบให้กับพนักงานสอบสวน บก.ปปป. กลับไม่พบ ทางด้าน พล.ต.ต.จรูญเกียรติ ปานแก้ว รองผู้บัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง และไม่สามารถติดต่อได้ จึงตั้งข้อสังเกตว่า พยายามหลบหน้าตนเองหรือไม่ จึงอยากฝากว่า อย่าเป็นเหมือนที่คนอื่นปรามาส ขอให้ดำเนินการเหมือนกัน หาหลักฐานและดำเนินคดีไม่เว้นแม้เป็นผู้บังคับบัญชา และในสัปดาห์หน้าตนจะเดินทางไปยื่นเอกสารหลักฐานถึง เลขาฯ ปปง. ตรวจสอบเส้นทางการเงินของ “รองฟาง” และ “ดาบยาว” ลูกน้องคนสนิทของ พล.ต.อ.ต่อศักดิ์ ให้เข้าสู่กระบวนการสืบทรัพย์ ยึดทรัพย์ต่อไป. -420-สำนักข่าวไทย