สภาฯ 9 ก.ย.-2 พระนักเทศน์ชื่อดัง เข้าชี้แจงต่อ กมธ.ศาสนาฯ หลังไลฟ์แล้วกลายเป็นกระแส พร้อมปรับแนวทาง ขอให้เชื่อในรูปแบบฐานะบรรยายธรรมมากว่า 20 ปี รู้จักกลุ่มเป้าหมาย พร้อมฝากธรรมะ “อย่าตัดสินแค่การมอง”
พระมหาสมปอง ตาลปุตโต และพระมหาไพรวัลย์ วรวณฺโณ 2 พระไลฟ์ธรรมะ เดินทางมาเข้าชี้แจงต่อกรรมาธิการการศาสนา ศิลปะและวัฒนธรรม ตามที่นายสุชาติ อุสาหะ ประธานกรรมาธิการฯ ได้นิมนต์มา โดยให้สัมภาษณ์ก่อนเข้าชี้แจงว่าไม่ได้รู้สึกตื่นเต้น นอนหลับปกติและไม่ได้เตรียมตัวมาชี้แจงอะไรเป็นพิเศษ แล้วแต่กรรมาธิการฯ จะตั้งคำถาม พร้อมรับฟังว่าส่วนไหนที่เกินเลยหรือขาดไปก็พร้อมที่จะปรับปรุง โดยส่วนที่เกินเลยอาจจะเป็นเสียงหัวเราะของพระมหาไพรวัลย์
พระมหาสมปอง กล่าวอีกว่า การไลฟ์สดครั้งแรกเหมือนเป็นการเรียนครั้งแรกที่ต้องทักทายนักเรียน เพื่อทำให้เด็กสนใจ แต่ถ้าต่อไปจะเข้าสู่เนื้อหาและสอดแทรกธรรมะ และเด็กอาจจะหลับในคาบต่อๆ ไป พร้อมเปรียบเทียบเหมือนเรียนคาบแรกแล้วถูก ผอ.ตำหนิ ซึ่งเมื่อผู้ใหญ่มาตักเตือนก็จะต้องมีการปรับปรุง
ด้านพระมหาไพรวัลย์ ยืนยันไม่กังวลกรณีที่ถูกวิพากษ์วิจารณ์ว่าการไลฟ์สดไม่สำรวม และที่ผ่านมาได้มีการพูดคุยกับหลายฝ่าย ยืนยันว่าไม่ใช่เรื่องคอขาดบาดตาย เสียงหัวเราะไม่น่าจะเป็นปัญหาระดับชาติ และวันนี้จะเป็นเวทีที่จะได้พูดคุยเต็มรูปแบบกับทางกรรมาธิการฯ สำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ ขณะที่พระมหาสมปอง กล่าวว่า ไม่กังวล ซึ่งผู้หลักผู้ใหญ่ในบ้านเมืองคงเป็นห่วง และกรรมาธิการศาสนามีหน้าที่ดูแลและคุ้มครองพระสงฆ์ อย่างไรก็ตาม หลังจากนี้หากมีฝ่ายใดจะเชิญไปชี้แจงก็พร้อม ขณะเดียวกันก็จะสอบถามกรรมาธิการฯ ด้วยว่าหลังจากนี้การแสดงธรรมรูปแบบใหม่ ท่านจะคุ้มครองหรือจะทำร้ายเรา
เมื่อถามว่าจะยังคงไลฟ์ต่อไปหรือไม่ พระมหาสมปอง กล่าวว่า ล.ร.ร. หรือ ไลฟ์เรียบร้อย อาจจะไม่เหมือนเดิม อาจมีการปรับรูปแบบให้มันดีขึ้น และขอให้เชื่อมือในฐานะที่บรรยายธรรมมากว่า 20 ปี รู้ดีว่าผู้ฟังแต่ละแบบเป็นอย่างไร ควรจะให้อะไรตอนไหน เรามีจังหวะของเรา
พระมหาสมปองยังฝากธรรมะให้คนทั่วไปว่า จงลืมเสียเถิดความหลังและสร้างปัจจุบันกับอนาคต เพราะบางคนชอบไปยึดติดกับความหลัง เช่น มีคนไปรื้อคลิปเก่าของพระมหาไพรวัลย์ สมัยคนฟังหลักสิบหลักร้อย พร้อมฝากธรรมะให้นักการเมืองด้วยว่า “เมื่อเราอยากเป็นก็ควรอยากทำงานด้วย ก็ต้องทำเพื่อพี่น้องประชาชนให้สมที่อยากเป็นตัวแทน” และยังทิ้งท้ายด้วยว่า “ธรรมชาติของคน ตาอยู่ต่ำกว่าสมอง จงอย่าตัดสินแค่การมอง จนลืมไตร่ตรองด้วยการใช้สมองที่สูงโปร่ง” เวลาเห็นอะไรให้ตัดสินใจดีๆ ก่อน เช่น เรื่องของเราสองคน ที่เมื่อเห็นแล้วก็มาต่อว่าทันที แต่ขอให้ดูหนังให้จบม้วนแล้วค่อยตัดสิน
พระมหาไพรวัลย์ กล่าวว่า ไม่มีทางที่จะไลฟ์ให้ทุกคนพอใจได้ ทิ้งท้ายด้วยว่า ถูกต้องทั้งหมดไม่มี ไม่ถูกต้องทั้งหมดก็ไม่มี ชั่งใจเอา จะทำให้ถูกใจทุกคนมันยาก อย่าว่าแต่หลักแสน คนดูหลักสิบยังตีกันเลย จึงเป็นเรื่องปกติ ด้านนายสุชาติ ยืนยันกรรมาธิการฯ มีอำนาจนิมนต์มาชี้แจง และต้องแยกเรื่องความเหมาะสมออก เพราะเป็นหน้าที่ของคณะผู้ปกครองสงฆ์ หรือเจ้าอาวาสที่เป็นผู้บังคับบัญชาตาม พ.ร.บ.คณะสงฆ์ และจะแถลงหลังประชุมเสร็จ.-สำนักข่าวไทย