นักข่าวสื่อดังขอโทษพระมหาไพรวัลย์ กล่าวหาอู้ฟู่หลายร้อยล้าน

30 พ.ย. – นักข่าวสื่อดังอินบ็อกซ์ขอโทษ “พระมหาไพรวัลย์” กล่าวหาบวช 18 ปี อู้ฟู่หลายร้อยล้าน ยอมรับผิดนำข้อมูลของบุคคลที่โพสต์ในโลกออนไลน์มาเขียนข่าวโดยไม่ได้ตรวจสอบให้ดีก่อน และจะลงข่าวขอโทษ


กลายเป็นที่อือฮา หลังเมื่อคืนวันอาทิตย์ พระมหาไพรวัลย์ได้เปลี่ยนชื่อเพจเฟซบุ๊กเป็น “ไพรวัลย์ วรรณบุตร” หลายคนจึงมีคำถามว่าท่านจะสึกหรือไม่ ล่าสุดเมื่อวานนี้ได้รับคำยืนยันจากพระมหาสมปอง แล้วว่ามีกำหนดสึกจริง ช่วง 4-5 ธันวาคมนี้

เมื่อวานนี้ทีมข่าวพยายามติดต่อพระมหาไพรวัลย์ทางโทรศัพท์ ได้รับคำตอบสั้นๆ ว่าขอโทษด้วยยังไม่สะดวกคุย ก่อนจะลงพื้นที่ไปยังวัดสร้อยทอง พบว่าพระมหาไพรวัลย์เดินทางไปรับกิจนิมนต์ที่ จ.เชียงใหม่ ตั้งแต่เช้า แต่ได้พบกับพระมหาสมปอง ตาลปุตโต เปิดเผยกับทีมข่าวว่า พระมหาไพรวัลย์ได้มากระซิบบอกว่าจะสึกในวันที่ 4 หรือ 5 ธันวาคมนี้ สาเหตุหลักคือ ปมแต่งตั้งเจ้าอาวาส จากเจ้าคุณอุทัย หรือพระราชปัญญาสุธี ที่รักษาการเจ้าอาวาสขณะนี้ เป็นรูปอื่น เพราะไม่สามารถดูแลควบคุม 2 พส. ได้ และอีกเหตุผลคือจะกลับไปดูแลโยมแม่ที่ป่วยเป็นมะเร็ง ซึ่งตนเองในฐานะพี่ชายจึงต้องเคารพการตัดสินใจของพระมหาไพรวัลย์ เนื่องจากเคยพูดคุยมาหลายครั้งแล้ว เพื่อขอไม่ให้สึก


พระมหาสมปองบอกด้วยว่า 2 พส. จะเดินทางไปรับกิจนิมนต์ที่ จ.เชียงใหม่ ระหว่างวันที่ 30 พ.ย.-2 ธ.ค.นี้ พร้อมหน้ากันเป็นครั้งสุดท้าย ในฐานะพระกับพระ และอาจมีโอกาสได้ไลฟ์ผ่านทางเพจเฟซบุ๊ก ซึ่งช่วงนี้พระมหาไพรวัลย์ฝากบอกว่ายังไม่พร้อมให้สัมภาษณ์สื่อมวลชน แต่จะมีการแถลงข่าวหลังจากสึก เพราะจะพูดได้มากขึ้น ไม่ต้องมีข้อจำกัด

สิ่งที่หลายคนอยากรู้ว่าพระมหาไพรวัลย์สึกออกไปจะไปทำอาชีพอะไร พระมหาสมปอง บอกว่าคงเดินหน้าด้านโซเซียลอย่างเต็มตัว และอาจทำร้านกาแฟ ซึ่งเป็นสิ่งที่ชื่นชอบ พร้อมแย้มอาตมาอาจสึกตามน้องไปในอีก 1-2 ปีนี้

นักข่าวโผล่อินบ็อกซ์ขอโทษพระมหาไพรวัลย์ ยอมรับไม่ได้ตรวจสอบข้อมูล
ขณะที่ความเคลื่อนไหวของพระมหาไพรวัลย์ ยังคงเกิดขึ้นต่อเนื่องในเพจเฟซบุ๊ก โดยเมื่อคืนที่ผ่านมา พระมหาไพรวัลย์ถามหาทนายหลังสึก เตรียมฟ้องสื่อสำนักหนึ่ง หลังกล่าวหาอู้ฟู่หลายร้อยล้าน โดยระบุว่า “หลังอาตมาสึก ทนายท่านไหนอยากได้เงินไว้เลี้ยงชีพ อาตมาจะมอบอำนาจให้นะ อาตมาจะฟ้อง เงินที่ได้จากการฟ้องจากสื่อขยะ อาตมาจะไม่เอาสักบาท อาตมาจะมอบให้ทนายท่านนั้น” ทั้งนี้ ได้โพสต์ภาพของสำนักข่าวแห่งหนึ่งที่ระบุข้อความถึงความร่ำรวยของพระมหาไพรวัลย์


แต่หลังจากผ่านมา 1 ชั่วโมง พระมหาไพรวัลย์ได้โพสต์อีกครั้ง มีข้อความว่า “จะชอบจะชังอาตมาไม่ว่า แต่อย่าทำร้ายกันด้วยความเท็จที่ไม่จริงเลย อย่าเป็นเหยื่อของความเกลียดชัง อย่าเป็นเหยื่อของความอคติ อย่าทำร้ายใครเพียงเพราะเขาเห็นตรงกันข้ามกับเรา อาตมาจะรอการขอโทษอย่างเป็นทางการนะ แล้วอาตมาจะยุติการดำเนินคดี”

พร้อมนำข้อความสนทนาซึ่งคาดว่าที่เป็นผู้เขียนข่าวดังกล่าวที่ระบุว่าจะลบข่าวให้ และได้ขอโทษที่เขียน อีกทั้งยังระบุว่าเป็นการเขียนข่าว โดยเพียงนำข้อมูลของบุคคลที่โพสต์ในโลกออนไลน์มาเขียนเป็นข่าว โดยไม่ได้ตรวจสอบ และจะลงข่าวขอโทษให้พระมหาไพรวัลย์ ซึ่งทางพระมหาไพรวัลย์ได้ระบุว่าสั้นๆ ว่า “จะรอดู”

“วิษณุ” เชื่อปัญหาวงการสงฆ์จะไม่บานปลาย
ประเด็นนี้ผู้สื่อข่าวไปสอบถามนายวิษณุ เครืองาม รองนายกรัฐมนตรี ถึงปัญหาในวงการพระพุทธศาสนาขณะนี้ว่า เรื่องปัญหาต่างๆ ทางสำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ (พศ.) ยังไม่คิดจะทำอะไร แต่ พศ. ก็รู้ว่าจะต้องทำอะไร ซึ่งเรื่องในวงการศาสนาไม่เหมือนราชการ ที่เป็นความรับผิดชอบของรัฐบาล 100% แต่ศาสนานั้น พศ. มีบทบาทและหน้าที่ แต่จำกัดอยู่ส่วนหนึ่ง อีกส่วนหนึ่งเป็นเรื่องของพระ เป็นเรื่องของประชาชน เพราะฉะนั้นทุกฝ่ายต้องทำหน้าที่ของตัวเองให้ดีที่สุด โดยตนไม่คิดว่าเรื่องจะใหญ่โตบานปลายอะไร เพราะเรื่องก็เกิดขึ้นเป็นแบบนี้อยู่ทุกยุคทุกสมัย

เมื่อถามว่าส่วนตัวมั่นใจว่าปัญหาที่เกิดขึ้นในวงการสงฆ์จะไม่บานปลายใหญ่โตใช่หรือไม่ นายวิษณุ กล่าวว่า ไม่มีอะไร ส่วน พศ. จะต้องเข้ามาเคลียร์ใช่หรือไม่ นายวิษณุ กล่าวว่า พศ. อาจจะเคลียร์ได้ไม่หมด บางอย่างเกี่ยวกับใคร ผู้นั้นก็ต้องเคลียร์ อย่างมหาเถรสมาคม (มส.) ทาง พศ. ไปทำอะไรไม่ได้ เพราะเป็นฝ่ายเลขาฯ ฉะนั้นไม่ต้องไปตื่นเต้นตกใจอะไร.-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

ไฟไหม้รถยนต์ อดีต สส.ศิริโชค วอดทั้งคัน

สงขลา 5 ก.ค.-“ศิริโชค” อดีต สส.ปชป. เผยเหตุระทึก รถยนต์ PHEV ไฟลุกไหม้วอดทั้งคันกลางดึก ทั้งที่ไม่ได้ชาร์จ ภาพคลิปเหตุการณ์ไฟไหม้รถยนต์ส่วนตัวของนายศิริโชค โสภา อดีต สส.สงขลา พรรคประชาธิปัตย์ ซึ่งจอดอยู่บริเวณบ้านพักที่ อ.นาทวี จ.สงขลา ช่วงตี 3 เมื่อเช้ามืดที่ผ่านมา (5 ก.ค.68) โดยเพจเฟซบุ๊ก “ศิริโชค โสภา” ได้โพสต์คลิปเหตุการณ์ พร้อมระบุข้อความว่า “อุทาหรณ์สยอง! ผมตื่นมากับเปลวเพลิงกลางดึก-ไฟลุกท่วมรถ PHEV ทั้งคัน ทั้งที่ไม่ได้ชาร์จ! เช้ามืดวันนี้ ผมสะดุ้งตื่นขึ้นมาพร้อมเสียง “ปะทุ” ดังสนั่นกลางความเงียบของตีสาม…เมื่อรีบวิ่งออกมาดู สิ่งที่ผมเห็นคือเปลวไฟสีส้มแดงกำลังลุกโชนอย่างบ้าคลั่งจากรถยนต์ PHEV ที่จอดนิ่งหน้าบ้าน ตอนนั้นผมไม่ได้เสียบชาร์จไว้ด้วยซ้ำ-จอดไว้เฉยๆ แต่จู่ๆ ไฟกลับลุกขึ้นมาเอง โดยไม่มีสัญญาณเตือนล่วงหน้าแม้แต่นิดเดียว รถดับเพลิงต้องใช้เวลาหลายนาทีกว่าจะควบคุมเพลิงได้ และเมื่อไฟดับลง… สิ่งที่เหลืออยู่คือซากรถที่ไหม้เกรียมทั้งคันนี่ไม่ใช่แค่ความเสียหาย แต่คือคำเตือนที่น่ากลัวสำหรับผู้ใช้รถ EV และ PHEVแม้ไม่ได้ชาร์จ แม้จอดนิ่ง แบตเตอรี่ก็ยังมีโอกาสลุกไหม้ได้เองโดยไม่ทันตั้งตัว ไฟฟ้าเงียบ-แต่มันเผาผลาญทุกอย่างได้ในพริบตา ต่อมาผู้สื่อข่าวได้ […]

ตาขับรถทับศีรษะหลานวัย 1 ขวบ ดับสลด

สุราษฎร์ธานี 5 ก.ค. – สุดสลด ตาขับรถกระบะไม่ทันดู เหยียบศีรษะหลานสาว วัย 1 ขวบ 5 เดือนเสียชีวิตคาที่ ตายายร้องไห้แทบขาดใจ สุดสลด ตาขับรถกระบะไม่ทันดู เหยียบศีรษะหลานสาว วัย 1 ขวบ 5 เดือนเสียชีวิตคาที่ หลังจากที่ตากลับจากซื้อของที่ตลาด เมื่อมาถึงบ้านซึ่งเปิดเป็นร้านขายของชำในอำเภอพระแสง จังหวัดสุราษฎร์ธานี ได้ขนของลงจากรถเสร็จ ระหว่างจะนำรถไปจอดไม่ทันสังเกตว่าหลานวิ่งอ้อมรถมา รู้อีกทีล้อรถหน้าด้านคนขับเหยียบเข้าที่ศีรษะของหลานแล้ว ทำให้หลานเสียชีวิตทันที เมื่อเห็นร่างหลาน ตาและยายร้องไห้แทบขาดใจ เพราะเลี้ยงหลานคนนี้มาตั้งแต่เล็กๆ ก่อนนำร่างส่งชันสูตรที่โรงพยาบาลพระแสงต่อไป.- สำนักข่าวไทย

อ.อ๊อด ชี้เป็นเหตุการณ์ที่ไม่ปกติ กรณีรถยนต์ไฟฟ้า อดีตสส.สงขลา ไฟไหม้

นครปฐม 5 ก.ค. – อาจารย์อ๊อด นักวิชาการสาขาเคมีอินทรีย์ แสดงความคิดเห็นว่า กรณีรถยนต์ไฟฟ้าของนายศิริโชค โสภา อดีต สส.สงขลา เกิดไฟไหม้ ถือเป็นเหตุการณ์ไม่ปกติ และแบตเตอรี่อาจจะมีปัญหา จากกรณีเพจเฟซบุ๊ก Sirichok Sopha หรือ นายศิริโชค โสภา อดีต สส.สงขลา พรรคประชาธิปัตย์ แชร์ประสบการณ์ โดยระบุข้อความว่า “เช้ามืดวันนี้ ผมสะดุ้งตื่นขึ้นมาพร้อมเสียง “ปะทุ” ดังสนั่นกลางความเงียบของตีสาม…เมื่อรีบวิ่งออกมาดู สิ่งที่ผมเห็นคือเปลวไฟสีส้มแดงกำลังลุกโชนอย่างบ้าคลั่งจากรถยนต์ PHEV ที่จอดนิ่งหน้าบ้าน รถคันนี้ซื้อจากศูนย์หาดใหญ่เมื่อ 2 ปีก่อน ผมใช้งานตามปกติ และที่สำคัญคือ ตอนนั้นผมไม่ได้เสียบชาร์จไว้ด้วยซ้ำ-จอดไว้เฉยๆแต่จู่ๆ ไฟกลับลุกขึ้นมาเอง โดยไม่มีสัญญาณเตือนล่วงหน้าแม้แต่นิดเดียวรถดับเพลิงต้องใช้เวลาหลายนาทีกว่าจะควบคุมเพลิงได้ และเมื่อไฟดับลง… สิ่งที่เหลืออยู่คือ ซากรถที่ไหม้เกรียมทั้งคันนี่ไม่ใช่แค่ความเสียหาย แต่คือคำเตือนที่น่ากลัวสำหรับผู้ใช้รถ EV และ PHEVแม้ไม่ได้ชาร์จ แม้จอดนิ่ง แบตเตอรี่ก็ยังมีโอกาสลุกไหม้ได้เองโดยไม่ทันตั้งตัวไฟฟ้าเงียบ-แต่มันเผาผลาญทุกอย่างได้ในพริบตา” รศ.ดร.วีรชัย พุทธวงศ์ หรือ อาจารย์อ๊อด นักวิชาการสาขาเคมีอินทรีย์ ผู้ช่วยอธิการบดีฝ่ายนวัตกรรมและกิจการเพื่อสังคม […]

สพฐ. จัดทีมนิติกรช่วยครูการเงิน

กทม. 5 ก.ค.-สพฐ. จัดทีมนิติกรช่วยครูการเงิน กรณีถูกชี้มูลร่วมลงชื่อเบิกจ่ายค่าอาหารกลางวัน วันที่ 4 กรกฎาคม 2568 ว่าที่ร้อยตรี ธนุ วงษ์จินดา เลขาธิการคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน เปิดเผยว่า ตามที่มีรายงานข่าวผ่านสื่อสังคมออนไลน์ กรณีข้าราชการครูผู้รับผิดชอบงานการเงินของโรงเรียนแห่งหนึ่งในจังหวัดกาญจนบุรี ได้ร้องขอความเป็นธรรมภายหลังถูกชี้มูลความผิดร่วมกับอดีตผู้อำนวยการโรงเรียน จากการลงนามในเอกสารเบิกจ่ายค่าอาหารกลางวัน โดยยืนยันว่าไม่ได้มีส่วนร่วมในการกระทำความผิดนั้น สำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (สพฐ.) ได้ตรวจสอบข้อเท็จจริงร่วมกับสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาต้นสังกัด และยืนยันว่า ขณะนี้ยังไม่มีคำสั่งลงโทษทางวินัยออกโดยเขตพื้นที่ฯ แต่อย่างใด สำหรับการดำเนินการในขั้นต่อไป สพฐ. ได้จัดเตรียมนิติกรจากส่วนกลาง เพื่อสนับสนุนการให้คำปรึกษาทางกฎหมายและการรวบรวมข้อมูลที่เกี่ยวข้อง เพื่อให้ครูสามารถใช้สิทธิในการอุทธรณ์ต่อคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (คณะกรรมการ ป.ป.ช.) ตามมาตรา 99 แห่งพระราชบัญญัติ ป.ป.ช. พ.ศ. 2561 ได้อย่างเต็มที่ เลขาธิการ กพฐ. ระบุว่า กรณีนี้สะท้อนถึงความจำเป็นที่ต้องทบทวนบทบาทภาระงานของครูในภารกิจที่ไม่เกี่ยวข้องกับการจัดการเรียนการสอน โดยเฉพาะงานด้านการเงินและพัสดุ ซึ่งมีความซับซ้อนและมีความเสี่ยงเชิงกฎหมายสูง สพฐ. จึงอยู่ระหว่างการปรับปรุงระบบสนับสนุนภายในโรงเรียน เพื่อให้โครงสร้างงานสนับสนุนมีความเหมาะสมกับวิชาชีพครูมากยิ่งขึ้น “ข้าราชการครูที่ปฏิบัติหน้าที่ด้วยความสุจริตจะไม่ต้องเผชิญกระบวนการตามลำพัง สพฐ. พร้อมอยู่เคียงข้างและสนับสนุนในทุกขั้นตอน เพื่อให้สามารถใช้สิทธิและเข้าถึงความเป็นธรรมได้อย่างมั่นใจครับ” เลขาธิการ กพฐ. กล่าว.-416.-สำนักข่าวไทย

ข่าวแนะนำ

“ศิริโชค” เชื่อรถถูกเผาโยงการเมือง ตร.เร่งหาเบาะแสคนร้าย

6 ก.ค.- “ศิริโชค” ฟันธงเหตุรถยนต์ถูกลอบวางเพลิงมาจากเรื่องการเมือง ด้านตำรวจเร่งหาเบาะแสคนร้าย ส่วนบริษัทเจ้าของรถออกหนังสือชี้แจงสาเหตุไฟไหม้ ความคืบหน้าเหตุการณ์ไฟไหม้ รถ GWM HAVAL H6 PHEV ของนายศิริโชค โสภา อดีต สส.สงขลา พรรคประชาธิปัตย์ 4 สมัย ซึ่งจอดอยู่ในบริเวณบ้านพักที่ อ.นาทวี จ.สงขลา เมื่อช่วงตี 3 วานนี้ (5ก.ค.68) ทำให้รถเสียหายทั้งคันและได้เข้าแจ้งความกับตำรวจสภ.นาทวี เพื่อให้ตรวจสอบว่าเป็นความบกพร่องของรถหรือลอบวางเพลิง ล่าสุดในทางคดีมีการยืนยันชัดเจนแล้วว่า เป็นการจงใจลอบวางเพลิง โดยหลังจากที่วานนี้ พนักงานสอบสวน สภ.นาทวี และตำรวจพิสูจน์หลักฐานเข้าตรวจสอบหาสาเหตุเพลิงไหม้รถยนต์คันนี้ ปรากฏว่าพบมียางรถยนต์จำนวน 6 เส้นถูกเผาเหลือแต่เส้นใยเหล็ก พร้อมด้วยตับสิเหรงที่ใช้มุงหลังคา ซึ่งน่าจะเป็นเชื้อเพลิงในการจุดไฟเพื่อทำการเผารถยนต์คันนี้อยู่บริเวณใต้ท้องรถ จึงเก็บไว้เป็นหลักฐานและประสานชุดสืบสวนลงพื้นที่หาเบาะแสผู้ก่อเหตุ ไม่ใช่เป็นอุบัติเหตุหรือความบกพร่องของรถแต่อย่างใด ด้านนายศิริโชค เปิดเผยว่า ตอนนี้ชัดเจนแล้วว่าเป็นการวางเพลิงโดยใช้ยางรถยนต์ ตับสิเหรง และใช้น้ำมันเบนซินราด จากที่ตนสังเกตแม้ว่าทางศูนย์หลักฐานจะยังไม่ยืนยันอย่างเป็นทางการ แต่ว่าดูจากรูปการแล้วพุ่งเป้าไปที่คนวางเพลิง ไม่ใช่ความบกพร่องของรถ แต่มีความตั้งใจที่จะให้เป็นความบกพร่องของรถเพราะเป็นรถไฟฟ้า แต่สุดท้ายจากหลักฐานที่พบบ่งชี้ไปที่การวางเพลิง มองว่ามาจากเรื่องการเมืองมากกว่าเรื่องการสร้างสถานการณ์ด้านความมั่นคงหรือเรื่องส่วนตัว เพราะตนไม่มีความแค้นส่วนตัวกับใครไม่ได้ทำธุรกิจในพื้นที่ ไม่มีเรื่องชู้สาว สิ่งที่เดียวที่มีคือการเป็นนักการเมือง […]

รวบ “สังข์” ผู้ต้องหาแหกห้องขัง สภ.เมืองสกลนคร

6 ก.ค.- ตำรวจบุกรวบ “สังข์” ผู้ต้องหาคดีอาวุธปืนและยาเสพติด หลังก่อเหตุแหกห้องขัง สภ.เมืองสกลนคร จนมุมบนขบวนรถไฟ ขณะเตรียมหลบหนีเข้ากรุงเทพฯ ตำรวจสอบสวนกลาง หรือ CIB จับกุมนายเกียรติศักดิ์ หรือ สังข์ อายุ 39 ปี ผู้ต้องหาคดีอาวุธปืนและยาเสพติด ได้บนขบวนรถไฟ ขณะเตรียมหลบหนีเข้ากรุงเทพฯ เบื้องต้นเจ้าหน้าที่ได้ควบคุมตัวมาลงบันทึกการจับกุมที่ สน.เตาปูน และอยู่ระหว่างการควบคุมตัวกลับมาดำเนินคดีที่ สภ.เมืองสกลนคร นายเกียรติศักดิ์ ก่อเหตุหลบหนีจากห้องควบคุม สภ.เมืองสกลนคร เมื่อช่วงเช้ามืดของวันที่ 13 มิถุนายน เจ้าหน้าที่พบเบาะแสหลบซ่อนตัวบนเทือกเขาภูพาน ขณะเดียวกันโซเชียลพากันแชร์ภาพนายเกียรติศักดิ์ พบว่า เป็นบุคคลอันตรายที่อาจมีอาวุธ หากใครพบเห็นห้ามเข้าใกล้ ทั้งนี้ สภ.เมืองสกลนคร ได้ปูพรมค้นหาตามล่าตัวและตั้งรางวัลนำจับ เป็นเงิน 3 หมื่นบาทให้กับผู้แจ้งเบาะแส .-สำนักข่าวไทย

เจ้าอาวาสวัดดังพิษณุโลก ย่องลาสิกขา หลังพัวพันข่าวดัง

พิษณุโลก 6 ก.ค.- “พระ ส.” เจ้าอาวาสวัดดัง จ.พิษณุโลก ย่องลาสิกขาเงียบ หลังพัวพันข่าวดัง ขณะทางวัดยังไม่แถลงชี้แจงเกี่ยวกับสาเหตุ เจ้าอาวาสวัดแห่งหนึ่งในจังหวัดพิษณุโลก ได้ลาสิกขาอย่างเงียบ ๆ โดย พระครูวิโรจน์ธรรมากร เจ้าอาวาสวัดกรุงกรัก เจ้าคณะตำบลท่านางงาม เขต 2 เลขานุการเจ้าคณะอำเภอบางระกำ เป็นผู้ทำพิธีลาสิกขาให้พระ ส. ท่ามกลางกระแสข่าวว่าเป็นสามีคนแรกของหญิงสาวที่รู้จักในฉายา “น้องดอกไม้” หรือสีกา ก. และยิ่งได้รับความสนใจเมื่อมีข้อมูลระบุว่า น้องดอกไม้มีบุตรสาววัย 13 ปี ซึ่งอาจเกี่ยวข้องกับความสัมพันธ์ในอดีตของพระ ส. ขณะทางวัดยังไม่มีการออกแถลงชี้แจงเกี่ยวกับสาเหตุของการลาสิกขา แต่แหล่งข่าวใกล้ชิดเผยว่าเป็นการตัดสินใจส่วนตัวของเจ้าอาวาส เพื่อหลีกเลี่ยงผลกระทบต่อภาพลักษณ์ของวัดและศาสนา -สำนักข่าวไทย

ไทยเปิดด่านกรณีพิเศษ ช่วยนายพลกัมพูชาป่วยฉุกเฉิน

สระแก้ว 6 ก.ค.- เพื่อมนุษยธรรม! ไทยเปิดด่านเป็นกรณีพิเศษ ช่วยเหลือนายทหารระดับสูงกัมพูชา ป่วยฉุกเฉิน ส่งรักษาโรงพยาบาล อ.อรัญประเทศ สถานการณ์ชายแดนไทย-กัมพูชา ที่ยังคงตึงเครียดและมีการปิดจุดผ่านแดนถาวรบ้านคลองลึก อ.อรัญประเทศ ได้เกิดภาพความประทับใจ เมื่อหน่วยงานความมั่นคงของไทย ร่วมกันตัดสินใจเปิดด่านเป็นกรณีพิเศษ เพื่อให้ความช่วยเหลือด้านมนุษยธรรมแก่นายทหารระดับสูงกัมพูชา โดยเจ้าหน้าที่ไทยจากทุกหน่วยงานที่เกี่ยวข้องได้ร่วมกันอำนวยความสะดวกบริเวณสะพานมิตรภาพไทย-กัมพูชา เพื่อนำตัวส่งโรงพยาบาลเกษมราษฎร์อินเตอร์เนชั่นแนลอรัญประเทศ อ.อรัญประเทศ เพื่อทำการรักษาให้ทันท่วงที ปัจจุบันด่านคลองลึก ยังคงปิดทำการจากปัญหาชายแดนที่ยังไม่คลี่คลาย แต่การดำเนินการดังกล่าวสะท้อนให้เห็นว่า หลักมนุษยธรรมและความสัมพันธ์อันดีที่มีต่อกันนั้นอยู่เหนือปัญหาความขัดแย้งใด ๆ ทั้งปวง และยังแสดงถึงมิตรภาพที่แน่นแฟ้นของเจ้าหน้าที่ระดับปฏิบัติงานของทั้งสองประเทศ -สำนักข่าวไทย