นักวิชาการชี้ “มหาสงครามโลกครั้งที่ 3” เกิดแน่ถ้าโลกยังตึงเครียด

มหาสงครามโลก

กรุงเทพฯ 4 เม.ย. – นักวิชาการด้านความมั่นคงและการต่างประเทศระดับแนวหน้าของไทย มีความเห็นตรงกันว่า หากผู้นำชาติมหาอำนาจไม่เร่งลดระดับความตึงเครียดสถานการณ์โลก จะมีความเป็นไปได้อย่างยิ่งที่จะเกิดมหาสงครามโลก ครั้งที่ 3


ท่ามกลางสถานการณ์ภูมิรัฐศาสตร์โลกที่ร้อนแรง ทั้งสงครามหลายจุดทั่วโลก และนโยบายของผู้นำชาติมหาอำนาจ คณะศิลปศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ได้จัดงานเสวนาในหัวข้อ “เจาะลึกเกมอำนาจ : ทรัมป์ ปะทะ สี จิ้นผิง ใครกำหนดเกมในภูมิภาครัสเซีย เกาหลี และอาเซียน” โดยมีผู้รู้ผู้เชี่ยวชาญด้านการต่างประเทศและความมั่นคง ร่วมเป็นองค์ปาฐกจากหลายสถาบัน คือ รศ.วรศักดิ์ มหัทธโนบล ผู้เชี่ยวชาญด้านจีนศึกษา รศ.ดร.ปณิธาน วัฒนายากร ผู้เชี่ยวชาญด้านความมั่นคงและการต่างประเทศ ดร.ภราดร รังสิมาภรณ์ นักการทูตชำนาญการพิเศษ กองยุโรปตะวันออก กรมยุโรป กระทรวงการต่างประเทศ ผู้เชี่ยวชาญด้านรัสเซียและยูเรเซียศึกษา และผศ.ดร. กมล บุษบรรณ์ ผู้อำนวยการหลักสูตรสหสาขาวิชาเกาหลีศึกษา (นานาชาติ) จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย

นักวิชาการทั้ง 4 มีความเห็นตรงกันว่า หากโลกยังคงตึงเครียดเช่นนี้ต่อไป มีความเป็นไปได้สูงที่จะเกิดสงครามโลกครั้งที่ 3 และจะไม่เกิดเป็นครั้งที่ 4 เนื่องจากโลกจะไม่มีอะไรเหลือเพราะเป้นการห้ำหั่นกันด้วยอาวุธนิวเคลียร์​


รศ.ดร.ปณิธาน วัฒนายากร ผู้เชี่ยวชาญด้านความมั่นคงและการต่างประเทศ ระบุว่า การดำเนินนโยบายของรัฐบาลโลกและไทยกำลังเข้าสู่สภาวะใหม่ ทั้งระยะสั้น ระยะกลาง และระยะยาว พร้อมอ้างอิงคำกล่าวของผู้เชี่ยวชาญชาวต่างชาติหลายคน ที่วิเคราะห์ว่าขณะนี้โลกกำลังเข้าสู่ภาวะสงครามแบบเบ็ดเสร็จ อันจะนำไปสู่มหาสงครามโลกครั้งที่ 3 เนื่องจากมหาอำนาจจะเผชิญหน้ากัน ไม่เฉพาะแต่สหรัฐกับจีน แต่จะรวมไปถึงนานาประเทศทั่วโลก หากไม่เร่งดำเนินการแก้ไขด้วยวิธีการที่สร้างสรรค์ ขณะเดียวกัน เชื่อว่าปีนี้สงครามต่าง ๆ ที่เกิดขึ้นทั่วโลกจะยังไม่สงบลงง่าย ๆ ดังนั้น หนทางที่ดีที่สุด คือ การดำเนินความพยายามให้ลดระดับลงจากปัจจุบัน เพื่อชะลอการเกิดมหาสงคราม และช่วยให้พอมีช่องทางในการแก้ปัญหาเฉพาะหน้าได้ เช่น ปัญหาแก๊ง call center

ขณะที่ รศ.วรศักดิ์ มหัทธโนบล ผู้เชี่ยวชาญด้านจีนศึกษา กล่าวถึงกรณีจีนได้เปรียบดุลการค้าสหรัฐว่า เป็นเรื่องจริง แต่หากย้อนมองไปในประวัติศาสตร์ จะเห็นได้ว่าการที่จีนได้เปรียบดุลการค้าสหรัฐในปัจจุบัน ก็เป็นผลมาจากนโยบายของรัฐบาลสหรัฐเอง เนื่องจากในช่วงทศวรรษที่ 1990 สหรัฐมีนโยบายให้สิทธิพิเศษทางการค้า ภาษีและศุลกากร กับประเทศกำลังพัฒนา รวมทั้งผลักดันให้จีน ได้เข้าเป็นสมาชิกองค์การการค้าโลก สถานการณ์ที่ต้องจับตาดูต่อไป คือ จีนจะตอบโต้นโยบายสงครามการค้าล่าสุดของสหรัฐภายใต้การนำของประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ อย่างไร แต่ไม่ว่าจะตอบโต้อย่างไร จีนก็ต้องได้รับผลกระทบเช่นกัน ขณะเดียวกัน หากมองปัญหาในเชิงภูมิรัฐศาสตร์ปัจจุบัน เห็นชัดว่า สหรัฐ พยายามหาเรื่องให้เกิดสงครามขนาดใหญ่ หรือ มหาสงคราม (Great War) ด้วยการยั่วยุผ่านจุดเปราะบางต่าง ๆ ในโลก เช่น ประกาศสงครามทางการค้า และการเข้าไปข้องเกี่ยวกับสงครามรัสเซีย-ยูเครน ส่วนประเด็นความสัมพันธ์ระหว่างจีนกับเกาหลีเหนือและเกาหลีใต้นั้น ยังคงไม่เปลี่ยนแปลง คือ จะป้องกันไม่ให้เกิดเหตุใด ๆ บนคาบสมุทรเกาหลีเด็ดขาด เพื่อความมั่นคงปลอดภัยของจีน นอกจากนี้ รศ.วรศักดิ์ มหัทธโนบล ยังให้ความเห็นว่า ปัจจัยสำคัญที่ทำให้สหรัฐใช้นโยบายแข็งกร้าวเข้มข้น และยังคงยืนหยัดอยู่ได้จนถึงทุกวันนี้ คือ สหรัฐมีฐานทัพอยู่ทั่วโลก

ดร.ภราดร รังสิมาภรณ์ นักการทูตชำนาญการพิเศษ กองยุโรปตะวันออก กรมยุโรป กระทรวงการต่างประเทศ ผู้เชี่ยวชาญด้านรัสเซียและยูเรเซียศึกษา กล่าวว่า สถานการณ์โลกปัจจุบัน รัสเซีย จีน และสหรัฐ ยังคงเป็นผู้เล่นที่สำคัญ แต่รัสเซีย ดูจะเป็นผู้คุมเกมมากกว่า สิ่งสำคัญที่บรรดาผู้นำชาติมหาอำนาจต้องพิจารณา คือ ข้อขัดแย้งปัจจุบัน ที่ยังไม่สามารถหาข้อยุติได้ มิฉะนั้น ก็มีแนวโน้มที่ความขัดแย้งต่าง ๆ อาจนำไปสู่สงครามโลกครั้งที่ 3 และหากสงครามโลกครั้งที่ 3 เกิดขึ้นจริง คงไม่มีครั้งที่ 4 อีก เพราะโลกคงไม่เหลืออะไรอีกต่อไป เนื่องจากจะเป็นสงครามที่ห้ำหั่นกันด้วยอาวุธนิวเคลียร์


ในเวทีเสวนาครั้งนี้ ผศ.ดร. กมล บุษบรรณ์ ผู้อำนวยการหลักสูตรสหสาขาวิชาเกาหลีศึกษา (นานาชาติ) จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ชวนมองความสำคัญของประเทศอำนาจขนาดกลาง (Middle Power) อย่างเกาหลีใต้ เนื่องจากเป็นประเทศที่สามารถผ่านพ้นวิกฤตจากสถานการณ์โลกต่าง ๆ ได้อยู่เสมอ และเติบโตขึ้นทุกครั้ง ทั้งนี้ เพราะเกาหลีใต้ มีศักยภาพด้านเศรษฐกิจ และทรัพยากรมนุษย์ มีกลยุทธ์สำคัญ คือ เผยแพร่วัฒนธรรม soft power นอกจากนี้ ยังไม่เอาตัวเองผูกกับการเมืองโลก ความเป็น Middle Power ที่ดี มีกลยุทธ์แข็งแกร่ง ทำให้เกาหลีใต้ไต่ระดับขึ้นเรื่อย ๆ สู่ความเป็น Major Power เวทีโลก

ความเป็นไปได้ที่นานาประเทศในกลุ่มโลกโต้ หรือ Global South จะดำเนินการเพื่อความอยู่รอด หลังจากรัฐบาลทรัมป์ประกาศนโยบายการค้าล่าสุด มี 3 แนวทาง คือ แต่ละประเทศจะเจรจาต่อรองโดยตรงกับสหรัฐ, นานาประเทศจะรวมตัวกันเพื่อเจรจาต่อรองผลประโยชน์กับสหรัฐ และแนวทางที่สุด ซึ่งไม่ควรเกิดขึ้นคือ การเผชิญหน้า โดยตรง นอกจากนี้ ยังมีความเป็นไปได้ที่บรรดาประเทศกำลังพัฒนา จะรวมตัวกันตอบโต้สหรัฐมากขึ้นผ่านกรอบสมาชิก เช่น BRICS ซึ่งเป็นกลุ่มประเทศตลาดเกิดใหม่ และ BIMSTEC กลุ่มประเทศความริเริ่มแห่งอ่าวเบงกอล

ส่วนประเทศไทย ซึ่งเป็นประเทศอำนาจขนาดกลาง ควรจะดำเนินบทบาทตั้งรับอย่างไรในสถานการณ์โลกปัจจุบัน รศ.ดร.ปณิธาน วัฒนายากร ชี้ว่า ควรเร่งหาผลกระทบและความเสียหาย รวมทั้งแก้กฎหมายที่จะทำให้ประเทศเดินหน้าด้านการค้าระหว่างประเทศต่อไปได้ ขณะที่ รศ.วรศักดิ์ มหัทธโนบล ผู้เชี่ยวชาญด้านจีนศึกษาระบุชัดว่า ประเทศไทยต้องมีผู้นำและนโยบายที่ชัดเจน ลงมือเร็ว.-811

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

เขยโหดบุกยิงแม่ยาย-ญาติ ดับ 3 ก่อนจบชีวิตตัวเอง

ปทุมธานี 3 ก.ย. – เขยปืนโหด ถูกจับได้ว่าแอบคบกับน้องเมียวัย 13 ปี บุกยิงยกครัวเมียที่บ้านพัก ย่านปทุมธานี แม่ยาย-น้องเมีย-น้า เสียชีวิต ก่อนจบชีวิตตัวเองหนีความผิด เหตุดังกล่าว เกิดขึ้นเมื่อเวลา 23.10 น. ที่ผ่านมา พนักงานสอบสวน สภ.คลองห้า จ.ปทุมธานี ประสานเจ้าหน้าที่ตำรวจพิสูจน์หลักฐาน และอาสาสมัครมูลนิธิร่วมกตัญญู ร่วมตรวจสอบบ้านหลังหนึ่ง ในพื้นที่หมู่ 7 ต.คลองเจ็ด อ.คลองหลวง จ.ปทุมธานี จุดเกิดเหตุอยู่ด้านหลังบ้าน ซึ่งเป็นพื้นที่เปิดโล่ง พบร่างนางทัศนี อายุ 46 ปี นอนเสียชีวิตอยู่ด้านข้างโต๊ะกินข้าว ตามร่างกาย มีบาดแผลถูกยิงเข้าที่ศีรษะ ข้างกันพบปลอกกระสุนปืนขนาด.380 ตกอยู่จำนวนหนึ่ง นอกจากนี้ ยังพบร่างนายชัยวัฒน์ อายุ 43 ปี น้องชายนางทัศนีย์ ได้รับบาดเจ็บ ส่วนในบ้านพบ ด.ญ.วันเพ็ญ อายุ 13 ปี ลูกสาวนางทัศนีย์ ได้รับบาดเจ็บอีกราย เจ้าหน้าที่กู้ชีพและกู้ภัยฯ […]

พรรคร่วมฯ ใหม่ ตบเท้าร่วมแถลงข่าวจัดตั้งรัฐบาลกับ “ภูมิใจไทย”

รัฐสภา 3 ก.ย.-พรรคร่วมฯ ใหม่ ตบเท้าร่วมแถลงข่าวจัดตั้งรัฐบาลกับ “ภูมิใจไทย” ก๊วน “สุชาติ-ธรรมนัส-สันติ” ร่วมด้วย ด้านงูเห่า “เพื่อไทย-ปชป.” โผล่โชว์ตัว บรรยากาศการประชุมพรรคภูมิใจไทย ภายหลังพรรคประชาชนมีมติโหวตให้นายอนุทิน เป็นนายกรัฐมนตรี ซึ่งพรรคร่วมรัฐบาลต่างทยอยเดินทางมาเพื่อรอแถลงข่าวจัดตั้งรัฐบาลในเวลา 11:00 น. โดยมีนายสุชาติ ชมกลิ่น สส.รวมไทยสร้างชาติ นำกลุ่ม 18 สส. เดินทางมาเป็นกลุ่มแรก อย่างไรก็ตามไม่พบว่ามี สส.ของพรรครวมไทยสร้างชาติ ของกลุ่มนายพีระพันธุ์ สาลีรัฐวิภาค หัวหน้าพรรครวมไทยสร้างชาติ เดินทางมาร่วมแต่อย่างใด ขณะที่ตัวแทนจากพรรคพลังประชารัฐ นำโดย ชัยมงคล ไชยรบ สส.สกลนคร และรองหัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ ตามมาด้วยนายสันติ พร้อมพัฒน์ รองหัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ ที่นำ สส.เพชรบูรณ์ มาร่วมด้วย จากนั้น พรรคกล้าธรรม นำโดย ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า ประธานที่ปรึกษาพรรคกล้าธรรม พร้อมแกนนำพรรค เช่น นางนฤมล ภิญโญสินวัฒน์ หัวหน้าพรรค นายไผ่ […]

“ทักษิณ” รับผิดไว้ใจ “ธรรมนัส” มากเกินไป

กรุงเทพฯ 2 ก.ย.- “ทักษิณ” ยอมรับผิด ไว้วางใจ “ธรรมนัส” มากเกินไป ส่วนการจัดตั้งรัฐบาล ต้องรอดูพรรคประชาชน ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อช่วงค่ำวันที่ 1 ก.ย. สส.พรรคเพื่อไทย ประมาณ 10 คน ได้นัดเลี้ยงสังสรรค์ให้นายฉลาด ขามช่วง ที่ได้รับเลือกให้เป็นดำรงตำแหน่งรองประธานสภาฯ คนที่ 1 เมื่อเรื่องรู้ถึงนายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี นายทักษิณ จึงเดินทางมาร่วมแสดงความยินดีกับนายฉลาด ด้วย โดยในวงรับประทานอาหาร นายทักษิณ พูดถึงกรณีที่ ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า ประธานที่ปรึกษาพรรคกล้าธรรม ถอนตัวจากรัฐบาลพรรคเพื่อไทย โดยยอมรับผิดว่า “ไว้วางใจ ร.อ.ธรรมนัส มากเกินไป พี่ผิดไปแล้ว พี่ดูคนผิด” ทำให้ สส. ที่ร่วมวงอยู่นั้นสวนทันทีว่านายทักษิณ โดนคนหลอกตลอด ซึ่ง สส.ที่ร่วมวง ต่างเห็นตรงกันว่า ไม่เคยเห็นนายทักษิณ ยอมรับผิดแบบนี้มาก่อน เห็นได้ว่านายทักษิณ ได้แสดงท่าทีรู้สึกผิดมาก พร้อมกันนี้ สส. […]

เปิดชื่อ 20 สส.เพื่อไทย ส่งศาล รธน. ปมตุลาการหมดวาระ

พรรคเพื่อไทย 2 ก.ย.- เปิดชื่อ 20 สส.เพื่อไทย เข้าชื่อส่งศาล รธน. ปมตุลาการหมดวาระ แต่ยังปฏิบัติหน้าที่ ผู้สื่อข่าวรายงานว่า 20 สส.เพื่อไทย นำโดย นายวิสุทธิ์ ไชยณรุณ สส.บัญชีรายชื่อ ประธานวิปรัฐบาล ได้ทำหนังสือถึงประธานสภาผู้แทนราษฎร ขอให้ส่งคำร้องไปยังศาลรัฐธรรมนูญ เพื่อพิจารณาความชอบด้วยกฎหมายของกระบวนการพิจารณาวินิจฉัย เรื่องพิจารณาที่ 17/2568 กรณีที่ศาลรัฐธรรมนูญมีมติ 6 ต่อ 3 วินิจฉัยให้ น.ส.แพทองธาร ชินวัตร สิ้นสุดความเป็นนายกรัฐมนตรี โดยเมื่อวันที่ 29 ส.ค.2568 ซึ่งเป็นวันวินิจฉัยคดีของศาลรัฐธรรมนูญ ได้มีประกาศพระบรมราชโองการแต่งตั้งให้ นายสราวุธ ทรงศิวิไล ดำรงตำแหน่งตุลาการศาลรัฐธรรมนูญ ตั้งแต่วันที่ 29 สิงหาคม 2568 เป็นต้นไป แทน นายปัญญา อุดชาชน ตุลาการศาลรัฐธรรมนูญ ซึ่งพ้นจากตำแหน่งเนื่องจากครบวาระการดำรงตำแหน่ง ดังนั้น เมื่อได้รับทราบถึงการมีประกาศพระบรมราชโองการแต่งตั้งนายสราวุธ แทนนายปัญญา ซึ่งพ้นจากตำแหน่งตามวาระแล้ว จึงไม่ควรที่จะให้ นายปัญญา […]

ข่าวแนะนำ

อุตุฯ เตือน “อีสาน กลาง ใต้” รับมือฝนถล่ม

6 ก.ย.- กรมอุตุฯ เตือนภาคอีสาน ภาคกลาง และภาคใต้ รับมือฝนถล่ม อาจทำให้เกิดน้ำท่วมฉับพลัน น้ำป่าไหลหลาก กรมอุตุนิยมวิทยาเผยภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ภาคกลาง และภาคใต้มีฝนตกหนักบางแห่ง โดยมีฝนตกหนักมากบางพื้นที่ในกรุงเทพมหานครและปริมณฑล และภาคตะวันออกบริเวณจังหวัดนครนายก ปราจีนบุรี และตราด ระวังอันตรายจากฝนตกหนักถึงหนักมากและฝนที่ตกสะสม ซึ่งอาจทำให้เกิดน้ำท่วมฉับพลันและน้ำป่าไหลหลาก โดยเฉพาะพื้นที่ลาดเชิงเขาใกล้ทางน้ำไหลผ่านและพื้นที่ลุ่ม เนื่องจากร่องมรสุมพาดผ่านภาคเหนือตอนล่าง ภาคกลางตอนบน และภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนล่าง ประกอบกับมรสุมตะวันตกเฉียงใต้กำลังปานกลางยังคงพัดปกคลุมทะเลอันดามัน ภาคใต้ และอ่าวไทย สำหรับคลื่นลมบริเวณทะเลอันดามันตอนบนมีกำลังปานกลาง โดยมีคลื่นสูงประมาณ 2 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 2 เมตร ทะเลอันดามันตอนล่าง และอ่าวไทยตอนบนมีคลื่นสูง 1-2 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 2 เมตร ขอให้ชาวเรือเดินเรือด้วยความระมัดระวังและหลีกเลี่ยงการเดินเรือในบริเวณที่มีฝนฟ้าคะนอง อนึ่ง พายุดีเปรสชันบริเวณทะเลจีนใต้ตอนบน คาดว่าจะเคลื่อนขึ้นฝั่งบริเวณประเทศจีนตอนใต้ในช่วงวันที่ 8 – 9 ก.ย. โดยพายุนี้ไม่ส่งผลกระทบโดยตรงต่อลักษณะอากาศของประเทศไทย – สำนักข่าวไทย

อดีตนายกฯ โพสต์พร้อมทุ่มเททำหน้าที่ฝ่ายค้าน-ตรวจสอบรัฐบาล

กรุงเทพ 5 ก.ย.- “แพทองธาร” ระบุ จากวันนี้เพื่อไทยทุ่มเททำหน้าที่ฝ่ายค้าน ตรวจสอบการทำงานรัฐบาล บอก ไม่มีส่วนรับผิดชอบต่อสิ่งที่จะเกิดขึ้นจากรัฐบาลชุดใหม่ พร้อมขอบคุณผู้สนับสนุน จะผ่านวันนี้ไปด้วยกัน และจะกลับมาด้วยหัวใจเพื่อประชาชน นางสาวแพทองธาร ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี โพสต์ข้อความผ่านโซเชียลมีเดีย ระบุว่า ตลอดระยะเวลาการทำงานของพรรคเพื่อไทย เราผ่านสถานการณ์ทุกรูปแบบ ทั้งช่วงเวลาแห่งความสุข และช่วงเวลาที่ต้องแบกรับความยากลำบากร่วมกัน แต่สิ่งที่เราไม่เคยละวาง คือความหวัง โอกาส และอนาคตที่ดีกว่าของประชาชน จากวันนี้ เราจะทุ่มเททำหน้าที่ฝ่ายค้าน ตรวจสอบการทำงานของรัฐบาล รักษาระบบรัฐสภาให้เดินหน้าตามวิถีทางประชาธิปไตย เราไม่มีส่วนรับผิดชอบต่อสิ่งที่จะเกิดขึ้นจากรัฐบาลชุดใหม่นี้ แต่เราจะรับผิดชอบต่อพี่น้องประชาชน ด้วยความมุ่งมั่นและจิตวิญญาณของพรรคเพื่อไทย ขอบคุณกำลังใจและการสนับสนุนจากทุกท่าน เราทราบดีว่า การเดินทางร่วมกับพรรคเพื่อไทยจนถึงวันนี้ ต้องใช้ความเข้มแข็งและอดทนถึงเพียงไหน เราจะผ่านวันนี้ไปด้วยกัน และจะกลับมาด้วยหัวใจเพื่อประชาชน .-316 -สำนักข่าวไทย

“อนุทิน” ก้มกราบพ่อ หลังได้รับโหวตนั่งเก้าอี้นายกฯ

รัฐสภา 5 ก.ย.- “อนุทิน” ก้มกราบพ่อ หลังได้รับโหวตนั่งเก้าอี้นายกรัฐมนตรี คนที่ 32 นายอนุทิน ชาญวีรกูล ว่าที่นายกรัฐมนตรี คนที่ 32 เดินทางไปเยี่ยม นายชวรัตน์ ชาญวีรกูล บิดา ที่โรงพยาบาลรามาธิบดี ภายหลังได้รับการโหวตจากสภาผู้แทนราษฎรให้เป็นนายกรัฐมนตรี คนที่ 32 ด้วยคะแนน 311 เสียง ทันทีที่ถึงโรงพยาบาล นายอนุทินได้ก้มกราบที่ตักพ่อ พร้อมสวมกอดระหว่างที่พ่อกำลังรับประทานอาหารเย็น ทั้งคู่มีสีหน้ายิ้มแย้ม สดใส ทั้งนี้ มีรายงานว่า นายอนุทินจะเดินทางเข้าที่ทำการพรรคภูมิใจไทย ในเวลา 20.00 น. ของวันนี้.-315 -สำนักข่าวไทย

เริ่มลงตัว! เปิดโผ​ “ครม.อนุทิน​ 1” แบ่งโควตาคนนอก 5 เก้าอี้

กทม.5 ก.ย.- เช็กโผ​ “ครม.อนุทิน​ 1” เริ่มลงตัว “ภูมิใจไทย” 12 เก้าอี้ แบ่งโควตาคนนอกอีก 5 เก้าอี้ มีชื่อ “เศรษฐพุฒิ” อดีตผู้ว่าฯ แบงก์ชาติ นั่งขุนคลัง ผู้สื่อข่าวรายงานว่าภายหลังจากที่นายอนุทิน​ ชาญวีรกูล​ สส.บัญชีรายชื่อและหัวหน้าพรรคภูมิใจไทย ได้รับความเห็นชอบให้ดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรี​ จากสภาผู้แทนราษฎร ความเคลื่อนไหวการจัดตั้ง “ครม.อนุทิน 1” ก็ขยับทันที​ โดยมีการจัดสรรโควตาตามจำนวนเสียงที่ประกาศจัดตั้งรัฐบาลเสียง​ข้างน้อย​ ร่วมกัน​ 146 ประกอบด้วย พรรคภูมิใจไทย​ 12 เก้าอี้ เนื่องจากมีโควตาของคนนอก ที่จะไม่นับรวม อีก 5 เก้าอี้​ ส่วนพรรคกล้าธรรม 7 เก้าอี้ แบ่งเป็น 4 รัฐมนตรีว่าการ​ และ 3 รัฐมนตรีช่วยว่าการ ขณะที่​ พรรคพลังประชารัฐ​ 4​ เก้าอี้ กลุ่มนายสุชาติ​ ชมกลิ่น​ จากพรรครวมไทยสร้างชาติ 4 […]