นักวิชาการชี้ “มหาสงครามโลกครั้งที่ 3” เกิดแน่ถ้าโลกยังตึงเครียด

มหาสงครามโลก

กรุงเทพฯ 4 เม.ย. – นักวิชาการด้านความมั่นคงและการต่างประเทศระดับแนวหน้าของไทย มีความเห็นตรงกันว่า หากผู้นำชาติมหาอำนาจไม่เร่งลดระดับความตึงเครียดสถานการณ์โลก จะมีความเป็นไปได้อย่างยิ่งที่จะเกิดมหาสงครามโลก ครั้งที่ 3


ท่ามกลางสถานการณ์ภูมิรัฐศาสตร์โลกที่ร้อนแรง ทั้งสงครามหลายจุดทั่วโลก และนโยบายของผู้นำชาติมหาอำนาจ คณะศิลปศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ได้จัดงานเสวนาในหัวข้อ “เจาะลึกเกมอำนาจ : ทรัมป์ ปะทะ สี จิ้นผิง ใครกำหนดเกมในภูมิภาครัสเซีย เกาหลี และอาเซียน” โดยมีผู้รู้ผู้เชี่ยวชาญด้านการต่างประเทศและความมั่นคง ร่วมเป็นองค์ปาฐกจากหลายสถาบัน คือ รศ.วรศักดิ์ มหัทธโนบล ผู้เชี่ยวชาญด้านจีนศึกษา รศ.ดร.ปณิธาน วัฒนายากร ผู้เชี่ยวชาญด้านความมั่นคงและการต่างประเทศ ดร.ภราดร รังสิมาภรณ์ นักการทูตชำนาญการพิเศษ กองยุโรปตะวันออก กรมยุโรป กระทรวงการต่างประเทศ ผู้เชี่ยวชาญด้านรัสเซียและยูเรเซียศึกษา และผศ.ดร. กมล บุษบรรณ์ ผู้อำนวยการหลักสูตรสหสาขาวิชาเกาหลีศึกษา (นานาชาติ) จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย

นักวิชาการทั้ง 4 มีความเห็นตรงกันว่า หากโลกยังคงตึงเครียดเช่นนี้ต่อไป มีความเป็นไปได้สูงที่จะเกิดสงครามโลกครั้งที่ 3 และจะไม่เกิดเป็นครั้งที่ 4 เนื่องจากโลกจะไม่มีอะไรเหลือเพราะเป้นการห้ำหั่นกันด้วยอาวุธนิวเคลียร์​


รศ.ดร.ปณิธาน วัฒนายากร ผู้เชี่ยวชาญด้านความมั่นคงและการต่างประเทศ ระบุว่า การดำเนินนโยบายของรัฐบาลโลกและไทยกำลังเข้าสู่สภาวะใหม่ ทั้งระยะสั้น ระยะกลาง และระยะยาว พร้อมอ้างอิงคำกล่าวของผู้เชี่ยวชาญชาวต่างชาติหลายคน ที่วิเคราะห์ว่าขณะนี้โลกกำลังเข้าสู่ภาวะสงครามแบบเบ็ดเสร็จ อันจะนำไปสู่มหาสงครามโลกครั้งที่ 3 เนื่องจากมหาอำนาจจะเผชิญหน้ากัน ไม่เฉพาะแต่สหรัฐกับจีน แต่จะรวมไปถึงนานาประเทศทั่วโลก หากไม่เร่งดำเนินการแก้ไขด้วยวิธีการที่สร้างสรรค์ ขณะเดียวกัน เชื่อว่าปีนี้สงครามต่าง ๆ ที่เกิดขึ้นทั่วโลกจะยังไม่สงบลงง่าย ๆ ดังนั้น หนทางที่ดีที่สุด คือ การดำเนินความพยายามให้ลดระดับลงจากปัจจุบัน เพื่อชะลอการเกิดมหาสงคราม และช่วยให้พอมีช่องทางในการแก้ปัญหาเฉพาะหน้าได้ เช่น ปัญหาแก๊ง call center

ขณะที่ รศ.วรศักดิ์ มหัทธโนบล ผู้เชี่ยวชาญด้านจีนศึกษา กล่าวถึงกรณีจีนได้เปรียบดุลการค้าสหรัฐว่า เป็นเรื่องจริง แต่หากย้อนมองไปในประวัติศาสตร์ จะเห็นได้ว่าการที่จีนได้เปรียบดุลการค้าสหรัฐในปัจจุบัน ก็เป็นผลมาจากนโยบายของรัฐบาลสหรัฐเอง เนื่องจากในช่วงทศวรรษที่ 1990 สหรัฐมีนโยบายให้สิทธิพิเศษทางการค้า ภาษีและศุลกากร กับประเทศกำลังพัฒนา รวมทั้งผลักดันให้จีน ได้เข้าเป็นสมาชิกองค์การการค้าโลก สถานการณ์ที่ต้องจับตาดูต่อไป คือ จีนจะตอบโต้นโยบายสงครามการค้าล่าสุดของสหรัฐภายใต้การนำของประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ อย่างไร แต่ไม่ว่าจะตอบโต้อย่างไร จีนก็ต้องได้รับผลกระทบเช่นกัน ขณะเดียวกัน หากมองปัญหาในเชิงภูมิรัฐศาสตร์ปัจจุบัน เห็นชัดว่า สหรัฐ พยายามหาเรื่องให้เกิดสงครามขนาดใหญ่ หรือ มหาสงคราม (Great War) ด้วยการยั่วยุผ่านจุดเปราะบางต่าง ๆ ในโลก เช่น ประกาศสงครามทางการค้า และการเข้าไปข้องเกี่ยวกับสงครามรัสเซีย-ยูเครน ส่วนประเด็นความสัมพันธ์ระหว่างจีนกับเกาหลีเหนือและเกาหลีใต้นั้น ยังคงไม่เปลี่ยนแปลง คือ จะป้องกันไม่ให้เกิดเหตุใด ๆ บนคาบสมุทรเกาหลีเด็ดขาด เพื่อความมั่นคงปลอดภัยของจีน นอกจากนี้ รศ.วรศักดิ์ มหัทธโนบล ยังให้ความเห็นว่า ปัจจัยสำคัญที่ทำให้สหรัฐใช้นโยบายแข็งกร้าวเข้มข้น และยังคงยืนหยัดอยู่ได้จนถึงทุกวันนี้ คือ สหรัฐมีฐานทัพอยู่ทั่วโลก

ดร.ภราดร รังสิมาภรณ์ นักการทูตชำนาญการพิเศษ กองยุโรปตะวันออก กรมยุโรป กระทรวงการต่างประเทศ ผู้เชี่ยวชาญด้านรัสเซียและยูเรเซียศึกษา กล่าวว่า สถานการณ์โลกปัจจุบัน รัสเซีย จีน และสหรัฐ ยังคงเป็นผู้เล่นที่สำคัญ แต่รัสเซีย ดูจะเป็นผู้คุมเกมมากกว่า สิ่งสำคัญที่บรรดาผู้นำชาติมหาอำนาจต้องพิจารณา คือ ข้อขัดแย้งปัจจุบัน ที่ยังไม่สามารถหาข้อยุติได้ มิฉะนั้น ก็มีแนวโน้มที่ความขัดแย้งต่าง ๆ อาจนำไปสู่สงครามโลกครั้งที่ 3 และหากสงครามโลกครั้งที่ 3 เกิดขึ้นจริง คงไม่มีครั้งที่ 4 อีก เพราะโลกคงไม่เหลืออะไรอีกต่อไป เนื่องจากจะเป็นสงครามที่ห้ำหั่นกันด้วยอาวุธนิวเคลียร์


ในเวทีเสวนาครั้งนี้ ผศ.ดร. กมล บุษบรรณ์ ผู้อำนวยการหลักสูตรสหสาขาวิชาเกาหลีศึกษา (นานาชาติ) จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ชวนมองความสำคัญของประเทศอำนาจขนาดกลาง (Middle Power) อย่างเกาหลีใต้ เนื่องจากเป็นประเทศที่สามารถผ่านพ้นวิกฤตจากสถานการณ์โลกต่าง ๆ ได้อยู่เสมอ และเติบโตขึ้นทุกครั้ง ทั้งนี้ เพราะเกาหลีใต้ มีศักยภาพด้านเศรษฐกิจ และทรัพยากรมนุษย์ มีกลยุทธ์สำคัญ คือ เผยแพร่วัฒนธรรม soft power นอกจากนี้ ยังไม่เอาตัวเองผูกกับการเมืองโลก ความเป็น Middle Power ที่ดี มีกลยุทธ์แข็งแกร่ง ทำให้เกาหลีใต้ไต่ระดับขึ้นเรื่อย ๆ สู่ความเป็น Major Power เวทีโลก

ความเป็นไปได้ที่นานาประเทศในกลุ่มโลกโต้ หรือ Global South จะดำเนินการเพื่อความอยู่รอด หลังจากรัฐบาลทรัมป์ประกาศนโยบายการค้าล่าสุด มี 3 แนวทาง คือ แต่ละประเทศจะเจรจาต่อรองโดยตรงกับสหรัฐ, นานาประเทศจะรวมตัวกันเพื่อเจรจาต่อรองผลประโยชน์กับสหรัฐ และแนวทางที่สุด ซึ่งไม่ควรเกิดขึ้นคือ การเผชิญหน้า โดยตรง นอกจากนี้ ยังมีความเป็นไปได้ที่บรรดาประเทศกำลังพัฒนา จะรวมตัวกันตอบโต้สหรัฐมากขึ้นผ่านกรอบสมาชิก เช่น BRICS ซึ่งเป็นกลุ่มประเทศตลาดเกิดใหม่ และ BIMSTEC กลุ่มประเทศความริเริ่มแห่งอ่าวเบงกอล

ส่วนประเทศไทย ซึ่งเป็นประเทศอำนาจขนาดกลาง ควรจะดำเนินบทบาทตั้งรับอย่างไรในสถานการณ์โลกปัจจุบัน รศ.ดร.ปณิธาน วัฒนายากร ชี้ว่า ควรเร่งหาผลกระทบและความเสียหาย รวมทั้งแก้กฎหมายที่จะทำให้ประเทศเดินหน้าด้านการค้าระหว่างประเทศต่อไปได้ ขณะที่ รศ.วรศักดิ์ มหัทธโนบล ผู้เชี่ยวชาญด้านจีนศึกษาระบุชัดว่า ประเทศไทยต้องมีผู้นำและนโยบายที่ชัดเจน ลงมือเร็ว.-811

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

“พี สะเดิด” เปิดใจเป็นมะเร็งเต้านมนานเกือบ 20 ปี แพทย์ชี้พบได้น้อยมากในผู้ชาย

กรุงเทพฯ 13 ส.ค. – “พี สะเดิด” เจ้าของเพลงฮิต “จี่หอย” เผยเป็นมะเร็งเต้านมมานานเกือบ 20 ปี ตัดสินใจหยุดบุหรี่ หยุดเหล้า ทำให้ตัวเองแข็งแกร่งต่อสู้กับโรค จนค่ามะเร็งดีขึ้น แพทย์ชี้พบได้น้อยมากในผู้ชาย “พี สะเดิด” นักร้องลูกทุ่งชื่อดัง อายุ 46 ปี เปิดใจว่าป่วยเป็นมะเร็งเต้านม มาเกือบ 20 ปีแล้ว รักษาโรคนี้โดยที่ไม่บอกใครเลย เพราะกลัวครอบครัวเป็นห่วง ตอนแรกมีอาการเจ็บหน้าอก และพบว่าก้อนเนื้อมันขึ้นเรื่อยๆ ขนาดเท่าลูกมะนาว คิดว่าเป็นเพราะไม่ดูแลตัวเอง ทำงานหนัก กิน-นอนไม่เป็นเวลา แต่เพราะเป็นคนที่ตรวจสุขภาพตลอดทุก 6 เดือน พอเช็กดูเลยรู้ว่ามีเชื้อมะเร็งเต้านม หมอบอกว่าโอกาสน้อยที่จะเห็นผู้ชายเป็นมะเร็งเต้านม จะเป็นหนึ่งในล้าน หรือหนึ่งในสิบล้าน พี สะเดิด บอกว่าตอนแรกก็กลัว เลยตัดสินใจหันหน้าเข้าทางธรรม และปรับปรุงตัวเองควบคู่กันไป กินของที่มีประโยชน์ หยุดบุหรี่ หยุดเหล้า ทำให้ตัวเราแข็งแกร่งต่อสู้กับโรคมะเร็งของตัวเอง จนตอนนี้อยู่ทุกระยะค่ามะเร็งดีขึ้น ค่อยๆ ลดลงมา จนเหลือ 0 […]

“ชยพล” แฉ “กองทัพบก” ซื้ออุปกรณ์ฟิตเนสผู้ช่วยทูตทหารพนมเปญ

รัฐสภา 13 ส.ค.-“ชยพล” แฉ “กองทัพบก” ซื้ออุปกรณ์ฟิตเนสผู้ช่วยทูตทหารพนมเปญ ทั้งที่ตัดสัมพันธ์ทางการทูตกับกัมพูชาแล้ว ด้าน “อนุสรณ์” แจงยัน กมธ.ไม่ได้ตีเช็คเปล่า แต่ตรวจเช็กความพร้อมให้ทหาร การอภิปรายมาตรา 8 กระทรวงกลาโหม วงเงิน 9.51 หมื่นล้านบาท นายชยพล สท้อนดี สส.กทม. พรรคประชาชน (ปชน.) อภิปรายว่า ปีนี้ตัดงบกระทรวงกลาโหมยาก เมื่อถามหารายละเอียดจะมีคนพูดว่าปล่อยไปเถอะ ตอนนี้มีสถานการณ์ชายแดน ซึ่งตนเข้าใจถึงความจำเป็นที่ต้องใช้งบประมาณ เพราะเป็นห่วงทหารหน้างานเช่นกัน เลยต้องดูงบประมาณว่าใช้ถูกจุดหรือไม่ นายชยพล กล่าวต่อว่า ทั้งนี้ ตนเห็นงบเกี่ยวกับอุปกรณ์การแพทย์ คิดว่าเป็นอุปกรณ์ผ่าตัดแต่กลายเป็นว่าเป็นอุปกรณ์สำหรับม้า ตนหาอุปกรณ์ทางการแพทย์เพื่อดูว่าใส่ใจทหารมากแค่ไหน แต่กลับไม่พบอุปกรณ์สำหรับขันชะเนาะห้ามเลือดที่ใช้ได้ด้วยมือข้างเดียว มีแค่สายยางไส้ไก่ ถ้าอยู่คนเดียวจะทำอย่างไร อยากถามว่าเราใส่ใจบุคลากรของเราจริงหรือไม่ และที่ข้องใจคือเราตัดสัมพันธ์ทางการทูตกับกัมพูชา มีการเรียกทูตไทยประจำพนมเปญกลับ แต่ปรากฏว่ากองทัพบกสั่งอุปกรณ์ฟิตเนสไปเติมที่บ้านผู้ช่วยทูตทหารอยู่เลย จะมีใครได้อยู่ใช้หรือไม่ “นี่เป็นเหตุผลว่าแม้อยู่ในความขัดแย้งแต่ต้องตรวจสอบกองทัพอย่างเข้มข้น การที่รัฐบาลเซ็นเช็คเปล่าให้กองทัพโดยไม่ตรวจสอบ คือการทำให้กองทัพอ่อนแอ คนที่ชอบออกมาพูดเชียร์ทหารอยากให้คิดไว้ด้วยว่า หากรักชีวิตทหารจริง ก็อยากให้ฟังทหารชายแดนว่าเขาลำบากอย่างไร การทำงานของนายพลสะท้อนความต้องการคนเหล่านั้นจริงหรือไม่” ด้าน นายสรวุฒิ เนื่องจำนงค์ กมธ.เสียงข้างมากชี้แจงว่า […]

“สืบพงษ์” ขึ้นศาลสืบพยานนัดแรก กรณียื่นฟ้องรักษาการอธิบดี ม.รามฯ ข้อหาเบิกความเท็จ

ศาลอาญา 13 ส.ค. – ศาลนัดสืบพยาน “สืบพงษ์” ยื่นฟ้อง รักษาการ อธ.รามคำแหง พร้อมพวก ข้อหาเบิกความเท็จถูกยื่นถอดถอนเมื่อปี 65 ชี้ “ฮุนเซน” ทิ้งใบปริญญาลงโถส้วมเป็นการไม่ให้เกียรติมหาวิทยาลัย วอนยุติพฤติกรรมไม่เหมาะสม ที่ศาลอาญา ถนนรัชดาภิเษก ศาลนัดสืบพยานที่ นายสืบพงษ์ ปราบใหญ่ อดีตอธิการบดี ม.รามคำแหง เป็นโจทก์ยื่นฟ้อง นายวุฒิศักดิ์ ลาภเจริญทรัพย์ รักษาการอธิการบดี ม.รามคำแหง กับพวกรวม 2 คน ในความผิดฐาน “ฟ้องเท็จ / เบิกความเท็จ นายสืบพงษ์ เปิดเผยว่า ศาลนัดสืบพยานนัดแรกในคดีที่ตนได้ฟ้องผู้บริหารมหาวิทยาลัยรามคำแหงฟ้องตนที่ศาลแขวงพระนครเหนือโดยกล่าวหาตนว่ากระทำตนเป็นเจ้าพนักงานทั้ง ๆ ที่ไม่มีอำนาจ จากนั้นทางศาลได้ยกฟ้องคดีดังกล่าว ซึ่งได้ดำเนินคดีที่ศาลอาญาในข้อหาฟ้องเท็จและเบิกความเท็จ โดยวันนี้ตนเองเป็นพยานปากแรกที่ขึ้นเบิกความในวันนี้และจะมีพยานทั้งหมด 5 ปาก สืบพยานในวันนี้และวันที่ 14 ส.ค. ส่วนประเด็นที่ถูกถอดถอนอธิการบดีมหาวิทยาลัยรามคำแหงเมื่อปี 2565 นั้น มีการถอดถอนตนเองทั้งหมด 2 ครั้ง หลังจากที่ดำรงตำแหน่งอธิการบดีได้ […]

หนุ่มขี่จยย. พุ่งชนฝาคอนกรีต ตกบ่อร้อยสายไฟดับสลด

11 ส.ค.- หนุ่มวัย 26 ขี่รถจักรยานยนต์ฝ่าแนวกั้นพุ่งชนฝาคอนกรีต ร่างกระเด็นตกบ่อร้อยสายไฟใต้ดิน ลึก 10 เมตร จมน้ำดับสลด เมื่อเวลา 00.30 น.วันที่ 11 ส.ค.68 ร.ต.ท.เจนวิทย์ เหลือผล รองสารวัตร(สอบสวน) สน.ทุ่งสองห้อง รับแจ้งอุบัติเหตุรถจักรยานยนต์พุ่งตกบ่อร้อยสายไฟใต้ดิน ถนนแจ้งวัฒนะ ขาออก บริเวณหน้าศาลปกครอง แขวงทุ่งสองห้อง เขตหลักสี่ กทม. จึงรุดตรวจสอบพร้อมอาสาสมัครมูลนิธิป่อเต็กตึ๊ง ที่เกิดเหตุใกล้สถานีรถไฟฟ้า ศูนย์ราชการเฉลิมพระเกียรติ เป็นถนน 5 เลน บริเวณช่องทางซ้าย 3 เลนปิดเป็นพื้นที่ก่อสร้างโครงการร้อยสายไฟใต้ดิน พบรถจักรยานยนต์สีครีม ทะเบียน กทม. ล้มคว่ำหน้ารถพังยับพุ่งชนเครื่องปั่นไฟฟ้า ใกล้บ่อมีความลึก 10 เมตร เจ้าหน้าที่จึงใช้อุปกรณ์โรยตัวลงไปตรวจสอบพบผู้ขับขี่จมน้ำเสียชีวิต นำร่างขึ้นมาทราบชื่อนายสันติสุข (สงวนนามสกุล) อายุ 26 ปี สวมเสื้อยืดคอกลม แขนสั้น นุ่งกางเกงกีฬาขาสั้นสีน้ำเงิน ตามร่างกายมีบาดแผล กระโหลกศีรษะแตก เจ้าหน้าที่จึงบันทึกรวบรวมที่เกิดเหตุไว้เป็นหลักฐาน สอบถามคนงานที่อยู่บริเวณจุดเกิดเหตุให้การว่า […]

ข่าวแนะนำ

“ลุงพล” นอนคุกยาว ศาลไม่ให้ประกันตัว เกรงหลบหนี

14 ส.ค. – ศาลฎีกายกคำร้อง ไม่อนุญาตให้ประกันตัว “ลุงพล” คดีน้องชมพู่ ชี้เป็นคดีร้ายแรง เกรงจะหลบหนี ส่งผลให้ลุงพลต้องนอนคุกระหว่างฎีกา นายประยุทธ เพชรคุณ อธิบดีอัยการสำนักงานคดีศาลสูงภาค 4 กล่าวถึงความคืบหน้าในคดีที่ศาลอุทธรณ์ภาค 4 พิพากษาแก้เพิ่มโทษ “ลุงพล” ในคดีฆ่าเด็กหญิงอรวรรณ หรือน้องชมพู่ อายุ 3 ปี รวมเป็น 26 ปี เมื่อวานนี้ ลุงพลยื่นประกันตัวและศาลจังหวัดมุกดาหารส่งให้ศาลฎีกาพิจารณา เรื่องการปล่อยชั่วคราว โดยวันนี้ศาลฎีกา ได้มีคำสั่งออกมาว่า พฤติการณ์แห่งคดีเป็นเรื่องร้ายแรง กระทบต่อสังคมเป็นการลงโทษสถานหนัก ทั้งศาลอุทธรณ์พิพากษาลงโทษให้จำคุก 26 ปี และเกรงว่าจำเลยจะหลบหนี จึงไม่อนุญาตให้ปล่อยตัวชั่วคราวระหว่างฎีกา ยกคำร้องการประกันตัว ส่งผลให้จำเลยต้องคุมขังอยู่ในเรือนจำระหว่างฎีกา ทั้งนี้ มีรายงานว่า ในวันพรุ่งนี้ (15 ส.ค.) เจ้าหน้าที่จะนำตัวลุงพลไปคุมขังที่เรือนจำจังหวัดนครพนม เนื่องจากโทษจำคุกสูง.-สำนักข่าวไทย

บุกชิงทอง

ควงปืนชิงทองกลางห้างดังย่านบางบ่อ กวาดทอง 163 บาท ขี่ จยย.หนี

สมุทรปราการ 14 ส.ค. – คนร้ายสวมชุดไรเดอร์ควงปืนจี้ชิงทอง ร้านทองกลางห้าง ย่านบางบ่อ กวาดทอง 163 บาท มูลค่ากว่า 8 ล้านบาท ก่อนขี่จักรยานยนต์หลบหนี ตำรวจเร่งล่าตัว เมื่อช่วงบ่ายวันนี้ เกิดเหตุอุกอาจภายในห้างสรรพสินค้าแห่งหนึ่ง ย่านบางบ่อ จ.สมุทรปราการ คนร้ายรูปร่างสูงใหญ่ สวมชุดไรเดอร์ ใส่หมวกกันน็อกเต็มใบ สะพายกระเป๋าข้าง บุกเข้าไปในร้านทองพร้อมใช้อาวุธปืนข่มขู่พนักงาน กวาดสร้อยคอและสร้อยข้อมือทองคำ น้ำหนักรวมราว 163 บาท หรือคิดเป็นมูลค่ากว่า 8 ล้านบาท วิ่งขึ้นรถจักรยานยนต์ยามาฮ่า เอ็นแม็ก ที่จอดอยู่ด้านหน้า ขี่หลบหนีไปอย่างรวดเร็ว พนักงานรักษาความปลอดภัยของห้าง ให้ข้อมูลว่า เห็นคนร้ายเดินเข้ามา จึงบอกให้ถอดหมวกกันน็อก แต่คนร้ายไม่สนใจ ก่อนบุกเข้าไปก่อเหตุในร้านทอง พนักงานชายร้านทอง เล่าว่า ผู้ก่อเหตุปีนเข้ามาแล้วพูดว่า ‘หยิบทองมา’ จึงสั่งให้น้องพนักงานหมอบลงเพื่อความปลอดภัย เพราะเห็นว่าคนร้ายมีอาวุธปืน และไม่เคยเห็นหน้าของคนร้ายมาก่อน เจ้าหน้าที่กองพิสูจน์หลักฐาน และตำรวจ สภ.บางบ่อ พร้อมผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดสมุทรปราการ อยู่ระหว่างตรวจสอบที่เกิดเหตุ เร่งไล่ล่าตัวคนร้ายมาดำเนินคดีต่อไป. – […]

เปิดคำร้อง 36 สว. ปมคลิปเสียง ยกละเอียดยิบผิดจริยธรรมข้อใด

กทม.14 ส.ค.- เปิดคำร้อง 36 สว. ปมคลิปเสียง ยกละเอียดยิบผิดจริยธรรมข้อใด อ้างอิงเหตุการณ์คลิปเสียง และพฤติการณ์ที่นิ่งเฉย ไม่กำหนดมาตรการหรือความชัดเจนตอบโต้กัมพูชาในช่วงปะทะ ไล่เลียงตั้งแต่กัมพูชารุกล้ำพื้นที่อธิปไตยไทย 200 เมตร จนถึงวันปล่อยคลิปเสียง 18 มิ.ย.68 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ในคำร้องของ 36 สว. ต่อกรณีคลิปสนทนาของนางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี กับสมเด็จฮุน เซน ประธานวุฒิสภาแห่งกัมพูชา ที่ศาลนัดวินิจฉัยคำร้องในวันที่ 29 สิงหาคมนี้ ซึ่งในคำร้องขอให้ศาลสั่งให้ความเป็นนายกรัฐมนตรีของนางสาวแพทองธาร สิ้นสุดลงเฉพาะตัวตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 170 วรรคหนึ่ง (4) ประกอบกับมาตรา 160 (4)(5) ในเนื้อหาคำร้องอ้างอิงถึงคลิปสนทนาของนางสาวแพทองธาร กับสมเด็จฮุน เซน ที่มีการเอ่ยพาดพิงแม่ทัพภาคที่ 2 แม้นายกรัฐมนตรีพยายามแถลงข่าวชี้แจงกรณีคลิปเสียง แต่สมาชิกวุฒิสภาเห็นว่า ข้อกล่าวอ้างดังกล่าวฟังไม่ขึ้น เพราะเมื่อมีการเผยแพร่คลิปเสียงเช่นนี้แล้ว นายกรัฐมนตรีย่อมพยายามจะต้องหาข้อแก้ตัวอย่างไรก็ได้ โดยสมาชิกวุฒิสภาเห็นว่า หากนายกรัฐมนตรีมีเจตนาเจรจาเพื่อยุติปัญหาความขัดแย้งและการสู้รบระหว่างประเทศเพื่อผลประโยชน์ของประเทศชาติจริง นายกรัฐมนตรีสามารถดำเนินการตามหลักเกณฑ์ ขั้นตอน และวิธีการเจรจาทางการทูตตามหลักและมาตรฐานการดำเนินการที่ถูกต้องอย่างโปร่งใส ตามกระบวนการของกระทรวงการต่างประเทศและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องได้ ประการสำคัญ […]

“มาริษ” ตอบรับคำเชิญ “หวังอี้” ร่วมถก 3 ฝ่าย จีน-ไทย-กัมพูชา แก้ชายแดนสันติ

จีน 15 ส.ค.-“มาริษ” ตอบรับคำเชิญ “หวังอี้” ร่วมถก 3 ฝ่าย จีน-ไทย-กัมพูชา แก้ปัญหาชายแดนอย่างสันติ พร้อมขอบคุณที่เห็นความจำเป็นในการเก็บกู้ทุ่นระเบิด เห็นพ้องหลีกเลี่ยงการเผยแพร่ข้อมูลที่คลาดเคลื่อนในสื่อโซเชียล นายมาริษ เสงี่ยมพงษ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ ตอบรับคำเชิญของ นายหวัง อี้ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศของจีน ในการเข้าร่วมจิบน้ำชาและหารืออย่างไม่เป็นทางการระหว่างรัฐมนตรีต่างประเทศจีน ไทย และกัมพูชา ในห้วงการประชุมรัฐมนตรีต่างประเทศ กรอบความร่วมมือแม่โขง – ล้านช้าง (Mekong – Lancang Cooperation) หรือ MLC ครั้งที่ 10 ณ เมืองอันหนิง มณฑลยูนนาน สาธารณรัฐประชาชนจีน โดยนายมาริษ ได้แสดงความขอบคุณต่อบทบาทที่สร้างสรรค์ของจีน ในการสนับสนุนการแก้ไขปัญหาระหว่างไทย-กัมพูชาอย่างสันติ ผ่านกลไกทวิภาคีต่างๆ และการบังคับใช้ให้เกิดการดำเนินการตามข้อตกลงหยุดยิงอย่างเต็มประสิทธิภาพ โดยได้รับการสนับสนุนของอาเซียน พร้อมยังได้เน้นย้ำถึงความจำเป็นเร่งด่วน ที่ไทย-กัมพูชา ต้องร่วมมือกันในการเก็บกู้ทุ่นระเบิดตามแนวชายแดน ซึ่งทุกฝ่ายเห็นพ้องร่วมกันถึงความจำเป็นที่จะต้องหลีกเลี่ยงการเผยแพร่ข้อมูลที่คลาดเคลื่อนในสื่อโซเชียล เนื่องจากเป็นก้าวสำคัญในการลดความตึงเครียด และฟื้นฟูความเป็นปกติสุขในพื้นที่ชายแดน นอกจากนี้ นายมาริษ ยังได้กล่าวขอขอบคุณ นายหวัง อี้ […]