“เพื่อไทย” ระดมสมองแกนนำพรรค-สก. “ทักษิณ” เป็นวิทยากรพิเศษ

รร.เอสซี ปาร์ค 7 เม.ย.- “พรรคเพื่อไทย” ระดมสมอง แกนนำพรรค-สก. ลุย “ปรับกรุง ปรุงใหม่ เพื่อ กทม. แบบไหนที่ใช่คุณ” ด้าน “ทักษิณ” ร่วมเป็นวิทยากรพิเศษ เน้นความสำคัญการทำงาน ลดช่องว่างระหว่างนโยบายกับชีวิตประจำวันของประชาชน


นายสรวงศ์ เทียนทอง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา ในฐานะเลขาธิการพรรคเพื่อไทย เป็นประธานเปิดการเสวนาและกิจกรรมเชิงปฏิบัติการ (Policy Workshop) ภายใต้ชื่อ “ปรับกรุง ปรุงใหม่ เพื่อ กทม. แบบไหนที่ใช่คุณ” ซึ่งพรรคเพื่อไทยจัดขึ้น ณ โรงแรมเอสซี ปาร์ค กรุงเทพมหานคร เพื่อรับฟังปัญหาการดำเนินงานและปัญหาในพื้นที่จาก สก. พรรคเพื่อไทย พร้อมร่วมวิเคราะห์ และระดมแนวทางแก้ไขที่ตอบโจทย์ชีวิตประจำวันของประชาชนในทุกมิติ โดยมีนายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี เข้าร่วมกิจกรรมในฐานะวิทยากรพิเศษ พร้อมประธานโซน กทม. นำโดย นางสาวธีรรัตน์ สำเร็จวาณิชย์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย และ สส.กทม. พรรคเพื่อไทย, นายพงศ์กวิน จึงรุ่งเรืองกิจ ที่ปรึกษารัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม และรองหัวหน้าพรรคเพื่อไทย, นายดนุพร ปุณณกันต์ สส.บัญชีรายชื่อ และโฆษกพรรคเพื่อไทย และนายพลภูมิ วิภัติภูมิประเทศ ผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำกระทรวงวัฒนธรรม รวมถึง นายจิรายุ ห่วงทรัพย์ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี และอดีต สส.กทม., นายวิชาญ มีนชัยนันท์ อดีต สส.กทม., นายสุรชาติ เทียนทอง อดีต สส.กทม., นายจิรวัฒน์ อรัณยกานนท์ รองโฆษกพรรคเพื่อไทย และนายสากล ม่วงศิริ อดีต สส.กทม. เข้าร่วมกิจกรรมเวิร์กชอปเชิงนโยบาย ภายใต้แนวคิด “เจาะปม – ระดมไอเดีย – เจียระไนความคิด – เพื่อชาวกรุง” ในช่วงเช้า และกิจกรรม “Policy Workshop” ที่มุ่งเน้นการวิเคราะห์ปัญหาอย่างรอบด้าน ก่อนจะสรุปแนวทางแก้ไขอย่างสร้างสรรค์และตรงจุด พร้อมให้ข้อมูลแนวทางการแก้ไขปัญหาในระดับชุมชน การกระจายทรัพยากรและการปรับปรุงระบบสาธารณูปโภคให้ครอบคลุมและมีประสิทธิภาพมากขึ้น

โดยนายทักษิณ ในฐานะวิทยากรพิเศษ กล่าวเน้นย้ำถึงความสำคัญของการทำงานเพื่อประชาชนอย่างแท้จริง พร้อมกระตุ้นให้ทุกคนปรับตัวให้ทันกับความท้าทายของเมืองใหญ่ที่เปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว เพื่อไม่ให้เกิดช่องว่างระหว่างนโยบายกับความเป็นจริงในชีวิตประจำวันของประชาชน ทั้งยังสนับสนุนการนำทฤษฎี 3E (Education Engineering Enforcement) เพื่อใช้แก้ปัญหาการจราจรในกรุงเทพมหานคร พร้อมทั้งสนับสนุนให้นโยบายรถ Feeder เอื้ออำนวยประชาชนในการใช้ขนส่งสาธารณะประสบความสำเร็จอีกด้วย


ขณะที่นายสรวงศ์ กล่าวว่า วันนี้ถือเป็นการ ‘Re-Unite’ ของครอบครัวผู้ทำงานเพื่อประชาชนชาวกรุงเทพมหานคร มาร่วมกันวิเคราะห์ปัญหาแต่ละเขต รวมถึงอุปสรรคที่ทีม สก. พบเจอในภาคสนาม เพื่อเชื่อมโยงนโยบายของพรรคกับการปฏิบัติจริงได้อย่างมีประสิทธิภาพ อยากให้ทุกท่านเปิดใจและแลกเปลี่ยนไอเดียใหม่ๆ เพื่อปรับวิธีการทำงานให้ทันสมัยและตอบโจทย์ความต้องการของคนกรุงได้อย่างแท้จริง

“พรรคเพื่อไทยพร้อมรับฟังเสียงสะท้อนจากประชาชนและนำข้อวิพากษ์วิจารณ์มาปรับปรุงการทำงาน พร้อมเชิญชวนให้ผู้เข้าร่วมทุกคนทุ่มเทในการทำเวิร์กชอป เพื่อร่วมกันผลักดันให้เกิดแผนแก้ไขปัญหาที่เป็นรูปธรรม” เลขาธิการพรรคเพื่อไทย กล่าว

สำหรับกิจกรรมเชิงปฏิบัติการ (Policy Workshop) ภายใต้ชื่อ “ปรับกรุง ปรุงใหม่ เพื่อ กทม. แบบไหนที่ใช่คุณ” มีการนำเสนอผลงานและข้อเสนอจากประธานโซน กทม. ทั้ง 4 โซน จากการลงพื้นที่จริง พร้อมถอดบทเรียนจากประสบการณ์ในการทำงานกับชุมชน อาทิ การกระจายอุปกรณ์แพทย์และยาอย่างทั่วถึง การส่งเสริมกิจกรรมสันทนาการเพื่อคนทุกวัย ตลอดจนการยกระดับโครงสร้างพื้นฐานในด้านสุขภาพและการคมนาคม โดยทุกฝ่ายเห็นพ้องว่า การสื่อสารอย่างใกล้ชิดกับประชาชน และการประเมินผลลัพธ์อย่างต่อเนื่อง จะช่วยให้เกิดการปรับแผนการทำงานได้ทันท่วงทีและสอดคล้องกับความต้องการที่แท้จริง


โดยโครงการที่เริ่มดำเนินไปแล้ว อาทิ การปรับปรุงลานกีฬาชุมชน ซึ่งเปลี่ยนลานเก่าและพื้นที่ว่างในชุมชนให้เป็นลานกีฬาและพื้นที่สาธารณะที่ปลอดภัย ส่งเสริมสุขภาพและกิจกรรมสร้างสรรค์ในย่านต่างๆ การขยายระบบ Telemedicine เพื่อใช้เทคโนโลยีทางไกลในการให้คำปรึกษาทางการแพทย์เบื้องต้น อำนวยความสะดวกให้ประชาชนที่เดินทางลำบากหรืออยู่ห่างไกลโรงพยาบาล ตู้ห่วงใย (Health Station) ที่ติดตั้งจุดบริการตรวจสุขภาพขั้นพื้นฐานในชุมชน เพื่อลดภาระของโรงพยาบาลหลักและให้คำแนะนำด้านการดูแลสุขภาพ จุด Standby รถพยาบาลฉุกเฉิน ซึ่งช่วยให้การช่วยเหลือรวดเร็วขึ้น โดยเพิ่มจุดสแตนด์บายตามจุดเสี่ยงและถนนสายสำคัญ รวมถึงการปรับปรุงทางเท้าและขุดลอกคูคลอง เพื่อแก้ปัญหาทางเท้าชำรุดและการระบายน้ำ รองรับฤดูฝน ลดความเสี่ยงน้ำท่วมขังและอุบัติเหตุในพื้นที่

งานในครั้งนี้จึงเปรียบเสมือน “จุดเริ่มต้น” ของการนำแนวคิด “ปรับกรุง ปรุงใหม่ เพื่อ กทม.ที่ใช่สำหรับทุกคน” มาสู่การปฏิบัติจริงอย่างเป็นระบบและต่อเนื่อง เพื่อให้กรุงเทพฯ ก้าวไปข้างหน้า และกลายเป็นเมืองที่เหมาะสมกับคนทุกกลุ่มอย่างแท้จริง โดยพรรคเพื่อไทยยืนยันว่าจะมุ่งหน้ารับฟังเสียงของประชาชน และทำงานเคียงข้างพี่น้องชาวกรุงเทพฯ อย่างไม่หยุดยั้ง.-316-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

ผู้ใหญ่บ้านมอบตัว คดียิงชายใหม่ของเมียเก่า ดับคากระบะ

นนทบุรี 20 พ.ค. – ผู้ใหญ่บ้านหึงโหด บุกยิงกิ๊กของอดีตภรรยา 6 นัด เสียชีวิตคารถกระบะ มอบตัวแล้ว เบื้องต้นถูกแจ้งหลายข้อหาหนัก ขณะที่เจ้าตัวฝากขอโทษครอบครัวผู้เสียชีวิต นายอานนท์ อายุ 40 ปี ผู้ใหญ่บ้านแห่งหนึ่งใน อ.องครักษ์ จ.นครนายก หึงโหด บุกยิงนายพลาธิป อายุ 34 ปี อาชีพขับรถส่งหมู ซึ่งเป็นกิ๊กของอดีตภรรยา เสียชีวิตภายในรถกระบะที่จอดอยู่ในซอยลาดปลาดุก ถนนบางไผ่-หนองเพรางาย ต.บางบัวทอง อ.บางบัวทอง จ.นนทบุรี เหตุเกิดเมื่อเวลา 21.30 น.ที่ผ่านมา (19 พ.ค.) จากภาพจะเห็นว่าเมื่อเวลา 21.02 น. เห็นผู้ตายขับรถกระบะมาจอดริมทาง ก่อนมีรถกระบะสีดำอีกคันตามมาจอดปิดท้าย จากนั้นผู้ก่อเหตุอยู่ในชุดสวมเสื้อยืดสีดำ กางเกงขาสั้น เดินลงจากรถ ใช้อาวุธปืนยิงใส่ผู้ตายที่ยังนั่งอยู่ในรถ แล้วหลบหนีไป ช่วงสายที่ผ่านมา (20 พ.ค.) พนักงานสอบสวน สภ.บางบัวทอง เบิกตัวนายอานนท์ ผู้ก่อเหตุ มาสอบปากคำเพิ่มเติมอีกครั้ง หลังเมื่อราวตี […]

ขุดลึกลงไป 5 เมตร ยังไม่พบผู้สูญหาย

กทม. 19 พ.ค.-ทีมค้นหาฝังแผ่นเหล็กชีทไพล์ รอบหลุมเสาเข็ม เพื่อขุดค้นหาผู้ประสบเหตุ ซึ่งขุดลึกลงไป 5 เมตร ยังไม่พบผู้สูญหาย เวลา 17.00 น. เจ้าหน้าที่ทีมค้นหา ทั้ง กรมป้องกัน และบรรเทาสาธารณะภัย (ปภ.) Usar Thailand เจ้าหน้าที่มูลนิธิร่วมกตัญญู และบริษัทรับเหมาเจาะเสาเข็ม ได้ใช้แบคโฮ เริ่มฝังแผ่นเหล็กชีทไพล์ ความยาวประมาณ 16 เมตร รอบหลุมเสาเข็ม 4 ด้าน เพื่อป้องกันดินสไลด์ปิดทับปากหลุมที่รถแบ็คโฮจะทำการขุด เพื่อค้นหาผู้ประสบเหตุ โดยการฝั่งแผ่นชีทไพล์ รอบหลุมเสาเข็ม เนื่องจากการประเมินของเจ้าหน้าที่ผู้เชี่ยวชาญทางด้านวิศวกรรม พบว่าดินที่สไลด์ลงมาส่งผลกระทบรุนแรงต่อโครงสร้างอาคาร และเสาไฟฟ้า ในบริเวณที่เกิดเหตุ ดังนั้นเพื่อเป็นการป้องกันปัญหาอาคารทรุดตัว เอน และ พังถล่ม จึงจำเป็นต้องนำแผ่นชีทไพล์มากั้น ก่อนทำการขุดดิน และเริ่มค้นหาผู้ประสบเหตุ และหลังจากฝังชีทไพล์ เสร็จสิ้นในเวลา 18.30 น. โดยก่อนหน้านี้เจ้าหน้าที่ได้นำเครื่องโซน่า ลงไปในหลุม เพื่อค้นหาร่างผู้ประสบเหตุ ซึ่งจากการใช้ โซน่าสแกน ร่างของผู้ประสบเหตุ ฝังอยู่ในหลุมลึก […]

พบศพ “ดีเจเตเต้” ถูกอุ้มมัดมือไพล่หลังทิ้งกลางไร่อ้อย

กาญจนบุรี 18 พ.ค. – พบแล้วศพ “ดีเจเตเต้” ถูกอุ้มมัดมือไพล่หลัง นำศพทิ้งกลางไร่อ้อย เมืองกาญจน์ หลังครอบครัวแจ้งช่วยตามหาตัวตั้งแต่คืนวันที่ 14 พ.ค. ตั้งปมสังหารเรื่องชู้สาว ความคืบหน้ากรณี “ดีเจเตเต้” ถูกขับรถตามประกบ ก่อนอุ้มขึ้นรถหายตัวไป เหตุเกิดเมื่อเวลา 03.53 น. ของวันที่ 14 พ.ค. ภายในหมู่บ้านแห่งหนึ่งริมถนนแสงชูโต ต.ท่ามะขาม อ.เมือง จ.กาญจนบุรี ซึ่งหลังเกิดเหตุพ่อของดีเจเตเต้ ได้ออกมาอัดคลิปลงเฟซ บุ๊กเพื่อขอความช่วยเหลือในการตามหาตัวลูกชายที่หายตัวไป ก่อนที่ล่าสุดจะพบว่า กลายเป็นศพอยู่กลางไร่อ้อยเชิงเขาบ้านทุ่งนานางหรอก โดยวันนี้เวลาประมาณ 10.30 น. นายธนพล เสือส่าน กำนันบ้านทุ่งนานางหรอก ได้รับแจ้งจากชาวบ้านว่าพบศพอยู่บริเวณไร่อ้อย หมู่ 3 บ้านทุ่งนานางหรอก ต.ลาดหญ้า อ.เมือง จ.กาญจนบุรี คนที่ไปเจอ เป็นน้าชายของนายกอล์ฟคนในหมู่บ้าน ที่ออกไปหาของป่าแล้วไปเจอศพ ในสภาพนอนตะแคง ถูกมือถูกมัดไขว้หลัง แล้วมาบอกหลานชายคือนายกอล์ฟไปดูด้วยกัน แล้วนายกอล์ฟจึงแจ้งให้กำนันทราบ ทางกำนันก็แจ้งเรื่องต่อไปยังตำรวจ สภ.ลาดหญ้า ซึ่งเบื้องต้นศพสวมเสื้อผ้าตรงกับที่เป็นข่าว […]

หาความจริง “แก๊งแม่ชีพันล้าน” ยันไม่ใช่เรื่องจริง

สมุทรสาคร 18 พ.ค. – วงการสงฆ์ยังไม่แผ่ว กระแสแก๊งแม่ชีพันล้านโผล่อีก สำนักพุทธลงตรวจสอบแล้ว แม่ชีที่ถูกกล่าวหา ตอบได้ทุกคำถาม ยืนยันไม่ใช่เรื่องจริง จากกระแสเมื่อวานนี้ (17 พ.ค.) มีเพจหนึ่งนำภาพกลุ่มแม่ชีหลายภาพพร้อมกองธนบัตร และภาพแม่ชีที่แอดมินระบุอ้างว่าเป็นการใส่วิกผม มาโพสต์ลงโซเชียล พร้อข้อความเขียนแจงอย่างละเอียดว่า กรณีมีเพจดังโพสต์ภาพแม่ชีพร้อมข้อความระบุข้อความเด็ดว่า ทำนองว่า “แก๊งแม่ชีพันล้านคุมวัดเบ็ดเสร็จไร้เงาพระ! 1. แม่ชี 2 พี่น้องบริหารวัดลำพังไม่มีไวยาวัจกร ไม่มีกรรมการ ไม่มีมัคทายก ครอบครองที่ดินนับพันไร่แต่ชื่อเจ้าของไม่ใช่วัด บางแปลงเป็นชื่อแม่ชี อาจเข้าข่าย “ถือครองแทน” หรือใช้วัดบังหน้า? ยอดกฐินปีละเกือบ 100 ล้าน! รายชื่อผู้บริจาคซ้ำๆ เดิมๆ ส่วนใหญ่เป็นแม่ชี-คนในวัด ไม่มีอาชีพ ไม่มีธุรกิจ แต่ “บริจาคเป็นล้านทุกปี” ระบบโบนัสแม่ชีสาวช่วยหาทุนได้มาก พาเที่ยวรีสอร์ตหรูปีละครั้ง ใส่วิกเต็มยศ นั้น วันนี้ผู้สื่อข่าวพร้อม นส.สวาท แซ่ตัน ผู้อำนวยการสำนักงานพระพุทธศาสนา จ.สมุทรสาคร นายอิทธิธร สีเหลือง นักวิชาการศาสนาปฏิบัติการ เดินทางไปที่วัดที่แม่ชีในภาพบวชอยู่ ต.บางโทรัด […]

ข่าวแนะนำ

“แพทองธาร” ลั่น สส.ย้ายพรรค อยู่ที่ความสมัครใจ เหมือนย้ายองค์กร

ทำเนียบ 20 พ.ค.-“แพทองธาร” ลั่น สส.ย้ายพรรค อยู่ที่ความสมัครใจ ห้ามไม่ได้ เปรียบเหมือนสมัครงาน-ย้ายองค์กร หาสิ่งที่ใช่ นี่เป็นวงการของเรา วงการการเมือง นางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ให้สัมภาษณ์หลังการประชุมคณะรัฐมนตรี ถึงกรณีที่ฝ่ายค้านวิจารณ์ว่า นายกฯ ปล่อยให้ พรรคร่วมรัฐบาลดูด สส. เพื่อมาสนับสนุนรัฐบาล ซึ่งก่อนหน้านี้ นายกฯ ระบุว่า ไม่อยากเห็นภาพการซื้อ สส. มาร่วมรัฐบาล โดยนายกฯ ย้อนถามสื่อว่า แล้วเขาซื้อหรือไม่ ขณะที่สื่อตอบกลับว่า ไม่ได้ซื้อ นายกฯ จึงกล่าวว่า เขามาด้วยความสมัครใจใช่หรือไม่ สื่อจึงตอบว่า ถ้ามาด้วยความสมัครใจได้ใช่หรือไม่ นายกฯ กล่าวว่า ขึ้นอยู่กับแต่ละพรรคจัดการ ซึ่งต้องไปถามหัวหน้าพรรคแต่ละพรรค ว่าจัดการแบบไหน และอยากได้ใครเข้ามาเพิ่ม “เส้นทางการเมืองที่ดิฉันพบเจอมา เป็นความเชื่อ เป็นความเข้าใจของแต่ละคน ว่าเวลานั้นรู้สึกว่าสังกัดพรรคไหนแล้วเป็นตัวเอง สังกัดพรรคไหนแล้วตอบโจทย์ เหมือนกับเราสมัครงาน ถ้าเราสมัครที่ไหนแล้วรู้สึกว่าใช่ องค์กรนี้ใช่เราหรือไม่ ก็ห้ามไม่ได้ว่าใครจะอยากย้ายไปองค์กรไหน สื่อจะอยู่สื่อเดิมหรือสื่อใหม่ก็ย้ายได้เช่นกัน เป็นสิ่งที่แล้วแต่ทุกคนจะชอบ นี่เป็นวงการของเรา […]

ผู้ใหญ่บ้านมอบตัว คดียิงชายใหม่ของเมียเก่า ดับคากระบะ

นนทบุรี 20 พ.ค. – ผู้ใหญ่บ้านหึงโหด บุกยิงกิ๊กของอดีตภรรยา 6 นัด เสียชีวิตคารถกระบะ มอบตัวแล้ว เบื้องต้นถูกแจ้งหลายข้อหาหนัก ขณะที่เจ้าตัวฝากขอโทษครอบครัวผู้เสียชีวิต นายอานนท์ อายุ 40 ปี ผู้ใหญ่บ้านแห่งหนึ่งใน อ.องครักษ์ จ.นครนายก หึงโหด บุกยิงนายพลาธิป อายุ 34 ปี อาชีพขับรถส่งหมู ซึ่งเป็นกิ๊กของอดีตภรรยา เสียชีวิตภายในรถกระบะที่จอดอยู่ในซอยลาดปลาดุก ถนนบางไผ่-หนองเพรางาย ต.บางบัวทอง อ.บางบัวทอง จ.นนทบุรี เหตุเกิดเมื่อเวลา 21.30 น.ที่ผ่านมา (19 พ.ค.) จากภาพจะเห็นว่าเมื่อเวลา 21.02 น. เห็นผู้ตายขับรถกระบะมาจอดริมทาง ก่อนมีรถกระบะสีดำอีกคันตามมาจอดปิดท้าย จากนั้นผู้ก่อเหตุอยู่ในชุดสวมเสื้อยืดสีดำ กางเกงขาสั้น เดินลงจากรถ ใช้อาวุธปืนยิงใส่ผู้ตายที่ยังนั่งอยู่ในรถ แล้วหลบหนีไป ช่วงสายที่ผ่านมา (20 พ.ค.) พนักงานสอบสวน สภ.บางบัวทอง เบิกตัวนายอานนท์ ผู้ก่อเหตุ มาสอบปากคำเพิ่มเติมอีกครั้ง หลังเมื่อราวตี […]

ครม. เคาะตั้ง “ชูศักดิ์” คุมดีเอสไอ แทน “ทวี”

ทำเนียบ 20 พ.ค.- ครม. เคาะ “ชูศักดิ์” คุมดีเอสไอ แทน “ทวี” หลังศาล รธน.สั่งหยุดทำหน้าที่ชั่วคราว คดีฮั้วเลือก สว. ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) ที่มีน.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี เป็นประธาน มีมติมอบหมายให้นายชูศักดิ์ ศิรินิล รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี รักษาราชการแทนในการบริหารสั่งการกรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) หลังจาก พ.ต.อ.ทวี สอดส่อง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม ถูกศาลรัฐธรรมนูญมีคำสั่งให้หยุดปฏิบัติหน้าที่ในฐานะกำกับดูแลดีเอสไอ และรองประธานคณะกรรมการคดีพิเศษ จากกรณีที่สมาชิกวุฒิสภา (สว.) จำนวนหนึ่งเข้าชื่อเสนอคำร้องต่อประธานวุฒิสภา ว่า พ.ต.อ.ทวีใช้ดีเอสไอเป็นเครื่องมือแทรกแชงกระบวนการตรวจสอบการเลือกสมาชิกวุฒิสภา ส่วนกรณีของนายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ซึ่งนายกรัฐมนตรี ได้เคยมอบหมายให้ดูแลรับผิดชอบกระทรวงยุติธรรมอยู่แล้ว สำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา เห็นว่าได้รับมอบหมายให้ดูแลด้านความมั่นคง ซึ่งรวมถึงกรมสอบสวนคดีพิเศษอยู่แล้วจึงไม่จำเป็นต้องขอมติที่ประชุมคณะรัฐมนตรี ในการมอบหมายอีก .-316 -สำนักข่าวไทย

คนงานตกหลุม

เร่งช่วยคนงานตกหลุมเสาเข็ม เปิดหน้าดินค้นหา

20 พ.ค.- เร่งช่วยคนงานตกหลุมเสาเข็ม ไซต์งานก่อสร้างรถไฟฟ้าสายสีส้ม สถานีหลานหลวง เจ้าหน้าที่ทำการเปิดหน้าดินค้นหาต่อเนื่อง เบื้องต้นยังไม่พบ สำนักป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยกรุงเทพมหานคร (สปภ.กทม.) เปิดเผยว่า จากเหตุคนงานตกหลุมเสาเข็มขณะก่อสร้างรถไฟฟ้าปฏิบัติการช่วยเหลือตั้งแต่ช่วงค่ำวานนี้ (19 พ.ค. 2568) มีการปักเหล็กชีทไพล์ (Sheet Pile) เพื่อป้องกันการสไลด์ของหน้าดิน ทำระบบค้ำยันเบรสซิ่ง (Bracing) ป้องกันเหล็กชีทไพล์พังทลายจากแรงอัดมวลดิน ควบคู่กับการใช้รถแบ็กโฮเปิดหน้างานเพื่อค้นหาร่างผู้สูญหาย เวลา 07.00 น. วันนี้ (20 พ.ค.2568) ทีมช่างของผู้รับเหมาได้ทำเวลเลอร์ที่ระดับความลึก 6 เมตร เพื่อป้องกันเหล็กชีทไพล์ (Sheet Pile) พังทลาย เนื่องจากพื้นที่ทำงานจำกัดจึงใช้อุปกรณ์ Auger ทำการเปิดหน้าดินหลุมดินด้านข้างเพื่อให้ดินสไลด์ออกด้านข้างแทน .-สำนักข่าวไทย