“เพื่อไทย” ระดมสมองแกนนำพรรค-สก. “ทักษิณ” เป็นวิทยากรพิเศษ

รร.เอสซี ปาร์ค 7 เม.ย.- “พรรคเพื่อไทย” ระดมสมอง แกนนำพรรค-สก. ลุย “ปรับกรุง ปรุงใหม่ เพื่อ กทม. แบบไหนที่ใช่คุณ” ด้าน “ทักษิณ” ร่วมเป็นวิทยากรพิเศษ เน้นความสำคัญการทำงาน ลดช่องว่างระหว่างนโยบายกับชีวิตประจำวันของประชาชน


นายสรวงศ์ เทียนทอง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา ในฐานะเลขาธิการพรรคเพื่อไทย เป็นประธานเปิดการเสวนาและกิจกรรมเชิงปฏิบัติการ (Policy Workshop) ภายใต้ชื่อ “ปรับกรุง ปรุงใหม่ เพื่อ กทม. แบบไหนที่ใช่คุณ” ซึ่งพรรคเพื่อไทยจัดขึ้น ณ โรงแรมเอสซี ปาร์ค กรุงเทพมหานคร เพื่อรับฟังปัญหาการดำเนินงานและปัญหาในพื้นที่จาก สก. พรรคเพื่อไทย พร้อมร่วมวิเคราะห์ และระดมแนวทางแก้ไขที่ตอบโจทย์ชีวิตประจำวันของประชาชนในทุกมิติ โดยมีนายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี เข้าร่วมกิจกรรมในฐานะวิทยากรพิเศษ พร้อมประธานโซน กทม. นำโดย นางสาวธีรรัตน์ สำเร็จวาณิชย์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย และ สส.กทม. พรรคเพื่อไทย, นายพงศ์กวิน จึงรุ่งเรืองกิจ ที่ปรึกษารัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม และรองหัวหน้าพรรคเพื่อไทย, นายดนุพร ปุณณกันต์ สส.บัญชีรายชื่อ และโฆษกพรรคเพื่อไทย และนายพลภูมิ วิภัติภูมิประเทศ ผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำกระทรวงวัฒนธรรม รวมถึง นายจิรายุ ห่วงทรัพย์ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี และอดีต สส.กทม., นายวิชาญ มีนชัยนันท์ อดีต สส.กทม., นายสุรชาติ เทียนทอง อดีต สส.กทม., นายจิรวัฒน์ อรัณยกานนท์ รองโฆษกพรรคเพื่อไทย และนายสากล ม่วงศิริ อดีต สส.กทม. เข้าร่วมกิจกรรมเวิร์กชอปเชิงนโยบาย ภายใต้แนวคิด “เจาะปม – ระดมไอเดีย – เจียระไนความคิด – เพื่อชาวกรุง” ในช่วงเช้า และกิจกรรม “Policy Workshop” ที่มุ่งเน้นการวิเคราะห์ปัญหาอย่างรอบด้าน ก่อนจะสรุปแนวทางแก้ไขอย่างสร้างสรรค์และตรงจุด พร้อมให้ข้อมูลแนวทางการแก้ไขปัญหาในระดับชุมชน การกระจายทรัพยากรและการปรับปรุงระบบสาธารณูปโภคให้ครอบคลุมและมีประสิทธิภาพมากขึ้น

โดยนายทักษิณ ในฐานะวิทยากรพิเศษ กล่าวเน้นย้ำถึงความสำคัญของการทำงานเพื่อประชาชนอย่างแท้จริง พร้อมกระตุ้นให้ทุกคนปรับตัวให้ทันกับความท้าทายของเมืองใหญ่ที่เปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว เพื่อไม่ให้เกิดช่องว่างระหว่างนโยบายกับความเป็นจริงในชีวิตประจำวันของประชาชน ทั้งยังสนับสนุนการนำทฤษฎี 3E (Education Engineering Enforcement) เพื่อใช้แก้ปัญหาการจราจรในกรุงเทพมหานคร พร้อมทั้งสนับสนุนให้นโยบายรถ Feeder เอื้ออำนวยประชาชนในการใช้ขนส่งสาธารณะประสบความสำเร็จอีกด้วย


ขณะที่นายสรวงศ์ กล่าวว่า วันนี้ถือเป็นการ ‘Re-Unite’ ของครอบครัวผู้ทำงานเพื่อประชาชนชาวกรุงเทพมหานคร มาร่วมกันวิเคราะห์ปัญหาแต่ละเขต รวมถึงอุปสรรคที่ทีม สก. พบเจอในภาคสนาม เพื่อเชื่อมโยงนโยบายของพรรคกับการปฏิบัติจริงได้อย่างมีประสิทธิภาพ อยากให้ทุกท่านเปิดใจและแลกเปลี่ยนไอเดียใหม่ๆ เพื่อปรับวิธีการทำงานให้ทันสมัยและตอบโจทย์ความต้องการของคนกรุงได้อย่างแท้จริง

“พรรคเพื่อไทยพร้อมรับฟังเสียงสะท้อนจากประชาชนและนำข้อวิพากษ์วิจารณ์มาปรับปรุงการทำงาน พร้อมเชิญชวนให้ผู้เข้าร่วมทุกคนทุ่มเทในการทำเวิร์กชอป เพื่อร่วมกันผลักดันให้เกิดแผนแก้ไขปัญหาที่เป็นรูปธรรม” เลขาธิการพรรคเพื่อไทย กล่าว

สำหรับกิจกรรมเชิงปฏิบัติการ (Policy Workshop) ภายใต้ชื่อ “ปรับกรุง ปรุงใหม่ เพื่อ กทม. แบบไหนที่ใช่คุณ” มีการนำเสนอผลงานและข้อเสนอจากประธานโซน กทม. ทั้ง 4 โซน จากการลงพื้นที่จริง พร้อมถอดบทเรียนจากประสบการณ์ในการทำงานกับชุมชน อาทิ การกระจายอุปกรณ์แพทย์และยาอย่างทั่วถึง การส่งเสริมกิจกรรมสันทนาการเพื่อคนทุกวัย ตลอดจนการยกระดับโครงสร้างพื้นฐานในด้านสุขภาพและการคมนาคม โดยทุกฝ่ายเห็นพ้องว่า การสื่อสารอย่างใกล้ชิดกับประชาชน และการประเมินผลลัพธ์อย่างต่อเนื่อง จะช่วยให้เกิดการปรับแผนการทำงานได้ทันท่วงทีและสอดคล้องกับความต้องการที่แท้จริง


โดยโครงการที่เริ่มดำเนินไปแล้ว อาทิ การปรับปรุงลานกีฬาชุมชน ซึ่งเปลี่ยนลานเก่าและพื้นที่ว่างในชุมชนให้เป็นลานกีฬาและพื้นที่สาธารณะที่ปลอดภัย ส่งเสริมสุขภาพและกิจกรรมสร้างสรรค์ในย่านต่างๆ การขยายระบบ Telemedicine เพื่อใช้เทคโนโลยีทางไกลในการให้คำปรึกษาทางการแพทย์เบื้องต้น อำนวยความสะดวกให้ประชาชนที่เดินทางลำบากหรืออยู่ห่างไกลโรงพยาบาล ตู้ห่วงใย (Health Station) ที่ติดตั้งจุดบริการตรวจสุขภาพขั้นพื้นฐานในชุมชน เพื่อลดภาระของโรงพยาบาลหลักและให้คำแนะนำด้านการดูแลสุขภาพ จุด Standby รถพยาบาลฉุกเฉิน ซึ่งช่วยให้การช่วยเหลือรวดเร็วขึ้น โดยเพิ่มจุดสแตนด์บายตามจุดเสี่ยงและถนนสายสำคัญ รวมถึงการปรับปรุงทางเท้าและขุดลอกคูคลอง เพื่อแก้ปัญหาทางเท้าชำรุดและการระบายน้ำ รองรับฤดูฝน ลดความเสี่ยงน้ำท่วมขังและอุบัติเหตุในพื้นที่

งานในครั้งนี้จึงเปรียบเสมือน “จุดเริ่มต้น” ของการนำแนวคิด “ปรับกรุง ปรุงใหม่ เพื่อ กทม.ที่ใช่สำหรับทุกคน” มาสู่การปฏิบัติจริงอย่างเป็นระบบและต่อเนื่อง เพื่อให้กรุงเทพฯ ก้าวไปข้างหน้า และกลายเป็นเมืองที่เหมาะสมกับคนทุกกลุ่มอย่างแท้จริง โดยพรรคเพื่อไทยยืนยันว่าจะมุ่งหน้ารับฟังเสียงของประชาชน และทำงานเคียงข้างพี่น้องชาวกรุงเทพฯ อย่างไม่หยุดยั้ง.-316-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

ผบ.พล.7 ของเขมร โดนกระสุนปืนใหญ่ยิงดับ บนช่องตาเฒ่า-ภูมะเขือ

26 ก.ค. – พลตรีดวง ซอมเนียง ผบ.พล.7 ถูกกระสุนปืนใหญ่ยิงเสียชีวิต ที่ช่องตาเฒ่า-ภูมะเขือ จากการปะทะแย่งชิงพื้นที่ระหว่างทหารไทย-กัมพูชา ตลอดวันนี้ ผู้สื่อข่าวรายงานว่า การปะทะระหว่างทหารไทย กับทหารกัมพูชา บริเวณภูมะเขือ และช่องตาเฒ่า ตั้งแต่เช้ามืดวันนี้ ทหารไทยสามารถปกป้องพื้นที่ภูมะเขือ และกดดันทหารกัมพูชาออกจากพื้นที่ได้สำเร็จ ในขณะที่ทหารกัมพูชา พยายามกลับเข้ามาโจมตีกลับ เพื่อยึดภูมะเขือ ส่งผลให้มีทหารกัมพูชาเสียชีวิตหลายนาย หนึ่งในนั้นคือ พลตรีดวง ซอมเนียง ผบ.พล.7 ถูกกระสุนปืนใหญ่ยิงเสียชีวิต ที่ช่องตาเฒ่า-ภูมะเขือ. – สำนักข่าวไทย

ทอ.ส่ง F-16 และ กริพเพน โจมตีสกัดอาวุธวิถีโค้งกัมพูชา

26 ก.ค.- กองทัพอากาศส่ง F-16 และ กริพเพน โจมตียุทธบริเวณ “ภูมะเขือ” สกัดอาวุธวิถีโค้งกัมพูชา อีกจุดปราสาทตาเมือนธม ผลปฏิบัติลุล่วงกลับฐานปฏิบัติด้วยความปลอดภัย เมื่อวันที่ 26 ก.ค.68 กองทัพอากาศ ส่งเครื่องบินขับไล่ F-16 จำนวน 2 ลำ และเครื่องบินกริพเพน จำนวน 2 ลำ ออกปฏิบัติการโจมตี พื้นที่ยุทธบริเวณเป้าหมายทหาร ของทางทหารกัมพูชาบริเวณภูมะเขือ หลังทหารกัมพูชาเตรียมใช้อาวุธวิธีโค้งยิงใส่ฝ่ายไทยหวังยึดภูมะเขือ ส่วนอีกจุดบริเวณปราสาทตาเหมือนธม โดยเป็นจุดที่ทางทหารกัมพูชาได้ตั้งปืนใหญ่และกำลังพลยิงข้ามมายังฝั่งประเทศไทยโดยไร้ทิศทาง ทั้งนี้ผลการปฏิบัติการ ทำลายเป้าหมายได้ทั้งสองจุด ลุล่วงไปด้วยดี และได้บินกลับฐานปฏิบัติด้วยความปลอดภัย ผู้สื่อข่าวรายงานว่า การขึ้นบินกริพเพนของกองทัพ ในภารกิจสู้รบตามแนวชายแดนไทย-กัมพูชา ครั้งนี้ ถือเป็น ‘ประวัติศาสตร์’ ของเครื่องบินขับไล่กริพเพนที่มีประจำการในหลายประเทศ ที่ใช้ในภารกิจสู้รบ-ใช้อาวุธจริงครั้งแรก ที่ผ่านมา กริพเพน ถูกใช้เพียงภารกิจบินรักษาอาณาเขต เช่น บริเวณทะเลบอลติกในทวีปยุโรป ในฐานะสมาชิก ‘นาโต้’ ผ่านเหตุการณ์สู้รบ ‘ยูเครน-รัสเซีย’ และภารกิจเฝ้าตรวจ-คุ้มกันน่านฟ้า ประเทศลิเบีย ที่กองทัพอากาศสวีเดนเข้าร่วมภารกิจ -สำนักข่าวไทย

กริพเพน

ทอ. ส่ง F16 – กริพเพน ปฏิบัติการรอบ 2 ทิ้งบอมบ์พื้นที่ทางทหารเขมร

26 ก.ค. – ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เครื่องบินขับไล่ F-16 จำนวน 2 ลำ และกริพเพน 2 ลำ ออกปฏิบัติการรอบสอง โจมตียุทธบริเวณทำลายพื้นที่ทหารกัมพูชา บริเวณปราสาทตาควาย อ.พนมดง จ.สุรินทร์ ภารกิจลุล่วง และกับฐานปฏิบัติโดยปลอดภัย สำหรับพื้นที่บริเวนนี้ ทหารไทยกับทหารกัมพูชา ปะทะกันดุเดือด โดยทหารไทยพยายามทำลายพื้นที่กัมพูชาวางกำลังไว้หลายระลอก ในขณะที่กัมพูชาโต้กลับและระดมกำลังทหารมาเพิ่มเติม ส่งผลให้พื้นที่บริเวนนี้มีการปะทะดุเดือดตั้งแต่วันที่ 24 ก.ค.ถึงวันนี้. – สำนักข่าวไทย

เปิดภาพคลังอาวุธทหารเชมร “สมรภูมิภูมะเขือ”

26 ก.ค.- เปิดภาพคลังอาวุธทหารเชมร “สมรภูมิภูมะเขือ” ทหารไทยยึดอาวุธปืน-โดรน 11 รายการ พร้อมมือถือ 7 เครื่อง ใช้ถ่ายคลิปยั่วยุทหารไทย เมื่อวันที่ 26 ก.ค.68 รายงานข่าวจากกองทัพภาคที่ 2 ระบุว่า สำหรับปฏิบัติการ ของเจ้าที่ทหารกองทัพภาคที่ 2 บนภูมะเขือที่สามารถยึดกลับคืนมาได้ ทำให้ทหารกัมพูชาเสียชีวิต 10 นาย พร้อมทั้งตรวจพบและสามารถยึดอาวุธ ยุทโธปกรณ์ จำนวน 11 รายการ ประกอบด้วย นอกจากนี้ยังพบโทรศัพท์มือถือ 7 เครื่อง ที่ทางทหารกัมพูชาชอบถ่ายในเวลาทำคลิปเมื่อเจอกับทหารไทยบริเวณแนวชายแดน -สำนักข่าวไทย

ข่าวแนะนำ

“มาริษ” ร่อนหนังสือประท้วง “อาเซียน-สหรัฐ-จีน-ยูเอ็น”

ก.ต่างประเทศ 29 ก.ค.-“มาริษ” ส่งหนังสือประท้วง “อาเซียน-สหรัฐ-จีน-ยูเอ็น” บอกต่อสายเพื่อนสนิทขอร่อนเอกสาร ยัน “กัมพูชา” ไม่จบ ยิงอีกรอบหลังจบเจรจา เปิดใจขอทุกคนไม่ต้องห่วง กต.ร่วมมือเต็มที่ปกป้องอธิปไตยไทยและบูรณภาพแห่งดินแดน ยัน “ไทย” เป็นสุภาพบุรุษ ไม่ต้องกลัวสายตาโลก บอกนานาชาติชื่นชมพรึ่บ! นายมาริษ เสงี่ยมพงษ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศแถลงสถานการณ์ชายแดนไทย-กัมพูชา โดยชี้แจงว่าหลังเกิดเหตุการณ์ปะทะกัน ระหว่างไทย-กัมพูชา กระทรวงการต่างประเทศได้ประท้วงหลายกรอบความร่วมมือ ไม่ว่าจะเป็นอนุสัญญาออตตาวา, อนุสัญญาเจนีวา, กฎหมายระหว่างประเทศ, การใช้ทุ่นระเบิดและการโจมตีพื้นที่ที่เป็นพื้นที่ของประชาชน ซึ่งที่นครนิวยอร์ก สหรัฐอเมริกา ตนได้เข้าไปในคณะมนตรีความมั่นคงแห่งสหประชาชาติ (UNSC) ได้พบผู้แทนระดับสูงของ UN และหลายประเทศ หารือในเรื่องที่เราดำเนินการแก้ไขทุกอย่างด้วยสันติวิธี และใช้ความอดทนอดกลั้นทั้งหมด ถึงแม้จะอดกลั้น แต่เราก็ยึดถือหลักสำคัญที่สุด คืออำนาจอธิปไตยและความปลอดภัยของประชาชนเป็นสำคัญ เป็นอันดับหนึ่ง ขณะเดียวกัน เราก็ให้ความสำคัญกับเรื่องกฎหมายระหว่างประเทศกฎหมาย, กฎบัตรสหประชาชาติ, กฎหมายอาเซียน, ความตกลงและความเป็นครอบครัวอาเซียนทุกประเทศ รวมทั้งประเทศไทยกับประเทศกัมพูชา ซึ่งก็พยายามใช้ความอดทนอดกลั้นพยายามไม่ให้สถานการณ์บานปลาย แต่อย่างไรก็ตาม เราถูกละเมิดอธิปไตย เราก็ต้องใช้สิทธิ์ตอบโต้ในสิ่งที่ประเทศไทยถูกละเมิดมาโดยตลอด นายมาริษ กล่าวว่า ภาพพจน์ของนานาประเทศที่ให้กับเรา ทำให้เราได้ประสบความสำเร็จในสิ่งที่เราต้องการ คือความเป็นประเทศรักสงบ […]

น้ำท่วมชุมชนชายแดนแม่สายเริ่มลด เร่งซ่อมพนังกั้นน้ำ

เชียงราย 29 ก.ค. – น้ำท่วมชุมชนชายแดน อ.แม่สาย เริ่มลดลงแล้ว แต่ยังมีน้ำท่วมขังในพื้นที่ลุ่มต่ำ ทิ้งดินโคลนและเศษขยะไว้มากมาย ด้านข้างสะพานมิตรภาพแม่น้ำสายแห่งที่ 1 จะเห็นว่าน้ำในลำน้ำสายที่กั้นพรมแดนไทย-เมียนมา ลดระดับต่ำกว่าท้องสะพาน กว่า 40 เซนติเมตร หลังระดับน้ำที่จุดวัดบ้านโจตาดาในเมียนมา ที่เป็นต้นน้ำ ลดลงต่ำกว่าตลิ่งแล้ว โดยทหารช่างยังเร่งวางบิ๊กแบ็กที่จุดฟันหลอของพนังกั้นน้ำสาย บริเวณคอสะพาน เพื่อป้องกันน้ำทะลักท่วมซ้ำ ขณะที่ด่านชายแดนไทย-เมียนมา ด้าน อ.แม่สาย ฝั่งท่าขี้เหล็ก เปิดให้ข้ามแดนได้ตามปกติ โดยน้ำสายที่ทะลักเข้าท่วมชุมชนชายแดนแม่สาย ลดลงเกือบทุกพื้นที่ แต่ทิ้งความเสียหายไว้จำนวนมาก อย่างตลาดสายลมจอย ตลาดสินค้าชายแดน ร้านค้าต่างๆ เต็มไปด้วยดินโคลน พ่อค้าแม่ขายในตลาดเริ่มเก็บล้างทำความสะอาดร้านค้ากันบ้างแล้ว อย่างพี่สายพิน บอกว่า เมื่อวานนี้น้ำมาเยอะมาแรง จนกำแพงอาคารที่ใช้เป็นพนังกันน้ำชั่วคราวแตก แต่ทหารช่างอุดไว้ได้ และมีการเก็บสินค้าออกไปล่วงหน้า จึงไม่เสียหายมากนัก จากภาพมุมสูงด้านชุมชนทางฝั่งขวาของสะพานมิตรภาพแม่น้ำสายแห่งที่ 1 อย่างชุมชนเกาะทราย ไม้ลุงขน และชุมชนเหมืองแดง ยังคงมีน้ำท่วมขังอยู่ในบางพื้นที่ อย่างบริเวณห้าแยกเกาะทราย ซึ่งเป็นพื้นที่ลุ่มต่ำ แต่คาดว่าภายในวันนี้สถานการณ์น่าจะดีขึ้นเรื่อยๆ.-สำนักข่าวไทย

ตร.ไซเบอร์ เชิญชวนคนไทยร่วมโพสต์แชร์ และแสดงพลังออนไลน์

บช.สอท. 29 ก.ค. – ตำรวจไซเบอร์ เชิญชวนคนไทยร่วมโพสต์แชร์ และแสดงพลังออนไลน์ ด้วยข้อความภาษาอังกฤษ พร้อมติด #TruthFromThailand ร่วมกันสื่อสารให้โลกได้รับรู้ว่าเราไม่ได้เริ่ม แต่เราจะไม่ยอมแพ้ พล.ต.ท.ไตรรงค์ ผิวพรรณ ผบช.สอท. เปิดเผยถึงกรณีที่สถานการณ์ความตึงเครียดที่เกิดขึ้นในพื้นที่ชายแดนไทย–กัมพูชา โดยมีรายงานข่าวจากหลายสำนักและบทวิเคราะห์ของนักวิชาการนานาชาติ ที่ชี้ให้เห็นถึงความเชื่อมโยงระหว่างความขัดแย้งดังกล่าวกับปฏิบัติการด้านความมั่นคงทางไซเบอร์ และการปราบปรามเครือข่ายอาชญากรรมข้ามชาติ ว่า เจ้าหน้าที่ตำรวจไซเบอร์ขอชี้แจงว่า ภารกิจสำคัญของเราคือ การปกป้องประชาชนไทยจากภัยคุกคามทางเทคโนโลยีทุกรูปแบบ โดยเฉพาะอาชญากรรมที่มีลักษณะเป็นเครือข่ายข้ามชาติ เช่น แก๊งคอลเซ็นเตอร์ เว็บไซต์พนันออนไลน์ เครือข่ายฟอกเงิน โดยจับกุมผู้ต้องหาที่เข้ามาทางด่านสระแก้วจัมผู้ต้องตามหมายจับ 13 ราย เป็นคดีที่หลอกลวงพี่น้องประชาชน อีก 7 ราย มีร้องทุกข์กล่าวโทษในข้อหาหลอกลวงพี่น้องประชาชน และจะมีกลับเข้ามีอีก 200 กว่านายจะเดินทางกับเข้ามา แต่เมื่อ สถานการณ์ไม่น่ากลัวและทราบว่าจะมีการหยุดยิงจึงไม่เดินทางกับ แต่ยังมีการหลอกลวงทั้งในและต่างประเทศ โดยตลอดปีที่ผ่านมากองบัญชาการตำรวจสืบสวนสอบสวนอาชญากรรมทางเทคโนโลยี ได้ดำเนินการจับกุมและดำเนินคดีต่อเครือข่ายเหล่านี้อย่างจริงจัง ภายใต้กรอบของกฎหมายภายในประเทศ และการประสานความร่วมมือกับหน่วยงานบังคับใช้กฎหมายในต่างประเทศ เพื่อสกัดกั้นเส้นทางการเงิน การดำเนินธุรกิจผิดกฎหมาย และการใช้ประเทศไทยเป็นฐานปฏิบัติการของกลุ่มทุนสีเทา พล.ต.ท.ไตรรงค์ กล่าวอีกว่า จากการสืบสวนในหลายคดีที่ผ่านมา พบความเชื่อมโยงกับ กลุ่มผู้มีอิทธิพลและนักการเมืองจากประเทศเพื่อนบ้าน โดยเฉพาะในกัมพูชา […]

เปิด 7 ข้อตกลง วงหารือ “กองทัพภาค 2 – กัมพูชา”

29 ก.ค.- กองทัพภาคที่ 2 หารือผู้บัญชาการทางทหารฝ่ายกัมพูชา ก่อนได้ข้อสรุปตกลงร่วมกัน 7 ข้อ พลตรี กิติศักดิ์ ถาวร โฆษกกองทัพภาคที่ 2 เปิดเผยกับทีมข่าวว่า เมื่อช่วงเวลา 10.00 น. ที่ผ่านมา ผู้แทนกองทัพภาคที่ 2 ได้พบปะกับผู้บัญชาการทหารภูมิภาคที่ 4 ของกัมพูชา ในพื้นที่ช่องจอม จ.สุรินทร์ โดยได้หารือและมีข้อตกลงร่วมกัน 7 ข้อ ประกอบด้วย อย่างไรก็ตาม การหารือดังกล่าวใช้เวลาเพียงไม่นาน ก่อนที่รถตู้ของผู้บังคับบัญชาในพื้นที่ฝั่งไทย จะขับออกจากด่านช่องจอมไป -สำนักข่าวไทย