กรุงเทพฯ 10 ส.ค.-บอร์ด สปสช. มีมติเห็นชอบเพิ่มสิทธิประโยชน์ยาบัญชี จ(2) รวม 4 รายการ ขยายข้อบ่งใช้เพิ่ม 2 รายการ และเพิ่มเป็นยาใหม่ 2 รายการ รวมเป็นภาระงบประมาณราว 76.4 ล้านบาท มีเป้าหมายสำหรับผู้ป่วยระบบบัตรทองปี 2565 รวม 316 คน
ที่ประชุมคณะกรรมการหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ (บอร์ด สปสช.) ครั้งที่ 9/2564 เมื่อวันที่ 2 ส.ค. 2564 ซึ่งนายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุขในฐานะประธาน ได้มอบให้ รศ.พญ.ประสบศรี อึ้งถาวร กรรมการหลักประกันสุขภาพแห่งชาติทำหน้าที่ประธานการประชุมแทน ได้มีมติเห็นชอบในหลักการเพิ่มสิทธิประโยชน์ยาบัญชี จ(2) รายการใหม่ จำนวน 4 รายการ เป็นสิทธิประโยชน์ในระบบหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ ปีงบประมาณ 2565 โดยจะใช้เงิน “รายได้สูง(ต่ำ)กว่าค่าใช้จ่ายสะสม” ของเงินกองทุนหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ ปี 2564 จำนวนไม่เกิน 77 ล้านบาทสำหรับการดำเนินการ
ทั้งนี้ ยาบัญชี จ(2) เป็นรายการยาสำหรับผู้ป่วยที่มีความจำเป็นเฉพาะ เป็นยาที่ต้องอาศัยความรู้ ความชำนาญเฉพาะโรค หรือใช้เทคโนโลยีขั้นสูง และเป็นยาที่มีราคาแพงมาก ดังนั้นเพื่อให้เข้าถึงยาได้อย่างสมเหตุผลและคุ้มค่า จึงต้องมีการจัดกลไกกลางเป็นพิเศษในกำกับการใช้ยาภายใต้ความรับผิดชอบร่วมกันของระบบประกันสุขภาพ ซึ่งดูแลโดยกรมบัญชีกลาง กระทรวงการคลัง, สำนักงานประกันสังคม กระทรวงแรงงาน, สำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ (สปสช.) และหน่วยงานอื่นๆ ที่เกี่ยวข้อง
นพ.จักรกริช โง้วศิริ รองเลขาธิการ สปสช. เปิดเผยว่า การเพิ่มสิทธิประโยชน์ยาบัญชี จ(2) ดังกล่าว เป็นไปตามข้อเสนอคณะอนุกรรมการพัฒนาบัญชียาหลักแห่งชาติ เมื่อวันที่ 4 มิ.ย. 2564 โดยยาทั้ง 4 รายการ ประกอบด้วย 1. อิมานิทิบ (Imatinib) 2. ดาซาทินิบ (Dasatinib) 3. โทซิลิซูแมบ (Tocilizumab) 4. เซฟตาซิดิม/อาวิแบคแทม (Ceftazidime/avibactam) ซึ่งมีเป้าหมายสำหรับผู้ป่วยระบบหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ ปี 2565 รวม 316 คน คิดเป็นภาระงบประมาณราว 76.41 ล้านบาท
สำหรับยาอิมานิทิบ (Imatinib) และดาซาทินิบ (Dasatinib) จะขยายข้อบ่งใช้ในผู้ป่วยโรคมะเร็งเม็ดเลือดขาวแบบเฉียบพลัน ชนิดลิมฟอยด์ Acute Lymphoblastic Leukemia (ALL) ที่มี Ph+ ขณะที่ยาโทซิลิซูแมบ (Tocilizumab) จะเพิ่มเป็นสิทธิประโยชน์สำหรับการรักษาโรคข้ออักเสบไม่ทราบสาเหตุ ชนิด Systemic (Systemic Juvenile Idiopathic Arthritis: SJIA) ในเด็กอายุตั้งแต่ 2 ปีขึ้นไป ที่ไม่ตอบสนองต่อการรักษามาตรฐาน ส่วนยาเซฟตาซิดิม/อาวิแบคแทม (Ceftazidime/avibactam) จะเพิ่มเป็นสิทธิประโยชน์สำหรับการรักษาผู้ป่วยที่ติดเชื้อ Carbapenem-resistant Enterobacteriaceae ที่ไวต่อยาเซฟตาซิดิม/อาวิแบคแทม (Ceftazidime/avibactam) ในผู้ป่วยที่มีข้อห้ามใช้ยาโคลิสติน (Colistin) ซึ่งเป็นยาปฏิชีวนะที่ออกฤทธิ์โดยยับยั้งการเจริญเติบโตของเชื้อแบคทีเรียในร่างกาย ใช้รักษาโรคที่เกิดจากการติดเชื้อแบคทีเรียบางชนิด
นพ.จักรกริช กล่าวว่า บอร์ด สปสช. ได้มีมติเห็นชอบให้เพิ่มสิทธิประโยชน์ยาจำนวน 4 รายการ นี้ในปีงบประมาณ 2565 โดยใช้เงิน “รายได้สูง(ต่ำ)กว่าค่าใช้จ่ายสะสม” ของเงินกองทุนหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ ปี 2564 จำนวนไม่เกิน 77 ล้านบาท และดำเนินการได้ทันที.-สำนักข่าวไทย