รับชันสูตรศพ “ผกก.โจ้” ยาก เหตุศพไม่อยู่สภาพเดิม

สน.ประชาชื่น 11 มี.ค. – ผู้ช่วย ผบ.ตร. รับชันสูตรศพ ผกก.โจ้ ยาก เพราะศพไม่อยู่ในสภาพเดิม ยันดูวงจรปิดไม่พบพิรุธ ยังยิ้มแย้มทักทายผู้ต้องขัง ยกมือไหว้ผู้คุม แต่พบเลือดหยดข้างศพ และแขนซ้ายมีรอยกัดของสัตว์ขนาดเล็ก


พล.ต.ท.สมประสงค์ เย็นท้วม ผู้ช่วยผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ เรียกประชุมชุดสืบสวน พนักงานสอบสวน สน.ประชาชื่น ทีมแพทย์สถาบันนิติเวชวิทยา โรงพยายาบาลตำรวจ พิสูจน์หลักฐาน เพื่อเร่งรัดติดตามคดีการตายของ พ.ต.อ.ธิติสรรค์ อุทธนผล หรือ อดีตผู้กำกับโจ้ เสียชีวิตภายในเรือนจำ โดยเปิดเผยภายหลังประชุมนานกว่า 3 ชั่วโมง ว่า ขณะนี้พนักงานสอบสวนได้ทำสำนวนคดีคืบหน้าไปมากแล้วในหลายๆ ด้าน ทั้งพยานหลักฐานต่าง ๆ รวมไปถึงภาพกล้องวงจรปิดในวันเกิดเหตุ โดยประเด็นที่ต้องสอบสวนสืบสวน ในเรื่องการเสียชีวิตของอดีต ผกก.โจ้ อาทิ ช่วงเหตุการณ์เกิดอะไรขึ้น มีผู้อยู่หรือเห็นเหตุการณ์หรือไม่ โดยจะมีการสอบปากคำพยานในกลุ่มต่างๆ อาทิ ผู้ที่อยู่ในเรือนจำ ผู้ต้องขัง ผู้เห็นหตุการณ์ เจ้าหน้าที่เรือนจำ รวมถึงแพทย์ที่ชันสูตรพลิกศพ

ส่วนพยานหลักฐาน ภาพจากกล้องวงจรปิดบริเวณห้องขังอดีต ผกก.โจ้ ผ้าที่ใช้ผูกคอ เบื้องต้นทางกรมราชทัณฑ์ ได้ส่งภาพกล้องวงจรปิด บริเวณห้องขังผกก.โจ้ มาให้บางส่วน เป็นภาพในวันเกิดเหตุ เป็นมุมภาพ 2 กล้อง ที่อยู่บริเวณหน้าห้องขัง มีความยาวทั้งวัน แต่ภาพจากกล้อง 2 ตัว ไม่เห็นมุมในห้องขัง จึงทำให้ไม่เห็นช่วงเวลาผูกคอ


จากการตรวจสอบภาพจากกล้องเบื้องต้นไม่พบความผิดปกติ ไม่พบพิรุธ ไม่มีบุคคลใดเดินเข้า-ออกห้องขัง ก่อน ผกก.โจ้ เข้าห้องขังยังยิ้มแย้มทักทายผู้ต้องขังรายอื่นและยกมือไหว้ผู้คุม ส่วนการจะเข้าห้องขังได้นั้นจะต้องมีเจ้าหน้าที่คอยไขกุญแจห้องขังของ ผกก.โจ้ ทุกครั้ง ยืนยันไม่พบว่ามีผู้ใดเข้า-ออกจากห้องขังนอกจากตัว ผกก.โจ้

ส่วนการสอบปากคำเจ้าหน้าที่ราชทัณฑ์ เบื้องต้นให้การว่า ในวันเกิดเหตุ เจ้าหน้าที่เรือนจำได้พบผู้กำกับโจ้เสียชีวิตประมาณ 20.00 น. ขณะที่กำลังจะนำยาแก้เครียดไปให้ โดยเจ้าหน้าที่พยายามเรียกชื่อแต่ไม่มีการตอบรับ จึงก้มมองผ่านช่องประตูและพบว่าผู้กำกับโจ้ นั่งอยู่ก่อนจะทำการเขย่า แต่ก็ไร้การตอบรับ จึงนำมือสอดเข้าไปปรากฏว่าพบผ้าที่คอที่ถูกผูกไว้กับกรงประตู เจ้าหน้าที่จึงรีบไปนำกรรไกรมาตัดออกแต่ตัดไม่ขาด จึงรีบวิ่งกลับไปนำคัตเตอร์มาตัดผ้าออกเพื่อช่วยชีวิต ซึ่งตนได้ตรวจสอบดูกล้องวงจรปิดแล้วก็เป็นไปตามคำให้การ

ต่อมาเจ้าหน้าที่ตำรวจได้รับแจ้งเหตุการเสียชีวิตประมาณ 23.00 น. แต่สามารถเข้าไปตรวจสอบที่เกิดเหตุได้ในเวลา 10.00 น. ของอีกวัน พร้อมด้วยหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ซึ่ง ผกก.โจ้ เสียชีวิตไปแล้ว 14 ชั่วโมง เนื่องจากผลชันสูตรเบื้องต้นสันนิษฐานว่า เสียชีวิตช่วง 20.00 น. ทั้งนี้เจ้าหน้าที่ตำรวจไม่สามารถเข้าไปในที่เกิดเหตุได้ตั้งแต่ได้รับแจ้งนั้น เนื่องจากจะต้องมีหลายฝ่ายเข้าไปร่วมตรวจสอบพร้อมกัน ซึ่งทางกรมราชทัณฑ์เป็นผู้นัดให้เข้าไปในเวลาดังกล่าว


เมื่อ พฐ.เข้าตรวจสอบ สภาพศพของ ผกก.โจ้ ไม่ได้นั่งอยู่ตรงจุดผูกคอแต่นอนหงายมีผ้าสีขาวคลุมอยู่ และพบผ้าขนหนูถูกตัด มีชิ้นหนึ่งผูกอยู่ที่กรง และอีกชิ้นอยู่ที่พื้น ซึ่งขนาดผ้าอยู่ที่ประมาณ 1.12 เมตร โดยขณะนี้ทางกองพิสูจน์หลักฐานได้นำผ้าขนหนูไปตรวจหา DNA คาดว่าจะใช้เวลาในการตรวจประมาณ 1 สัปดาห์ รวมถึงลักษณะปมการผูกของผ้า

นอกจากนี้ ขณะที่ตำรวจไปพบศพนั้น มีการทิ้งระยะเวลาไว้นาน 14 ชั่วโมง และมีการเปลี่ยนแปลงท่าการตายของศพก่อนที่ตำรวจจะไปพบเป็นศพ (จากนั่งเป็นนอน) จึงจะทำให้การชันสูตรศพยากขึ้น และต้องตรวจสอบว่าผ้าที่คลุมอยู่เป็นของใช้ส่วนตัว หรือของทางเรือนจำ ส่วนภายในห้องขังยังพบรอยเลือดเล็กน้อยที่อยู่ใกล้ศพจำนวน 2 หยด แต่ทางกองพิสูจน์หลักฐานสามารถยืนยันได้ว่าเป็นเลือดมนุษย์และได้มีการเก็บเลือดดังกล่าวไปเพื่อทำการตรวจ DNA แล้ว และยังพบว่ามีรอยกัดจากสัตว์ขนาดเล็กอยู่ที่บริเวณแขนซ้ายของศพอีกด้วย

ทั้งนี้ ในวันนี้พนักงานสอบสวนเข้าไปสอบปากคำผู้ที่เกี่ยวข้องประกอบด้วย ผู้คุมที่อยู่เวร ผู้ต้องขังที่อยู่ห้องบริเวณรอบข้าง ซึ่งขณะนี้อยู่ในระหว่างการสอบสวน โดยคดีการตายและคดีการถูกทำร้ายร่างกาย จะทำไปควบคู่กัน ซึ่งการตายนั้นตำรวจตั้งไว้ 2 ประเด็น คือ ตายเองหรือถูกทำให้ตาย ในส่วนทางสถาบันนิติเวชวิทยา โรงพยาบาลตำรวจจะมีการใชันสูตรพลิกศพ ผกก.โจ้ ซ้ำอีกหรือไม่ ต้องขึ้นอยู่กับทางครอบครัวผู้เสียชีวิต แต่ขณะนี้ยังไม่มีการร้องขอเข้ามา

เบื้องต้นเจ้าหน้าที่ตำรวจตั้งกรอบระยะเวลาในการทำคดีนี้ไว้ 30 วัน เพื่อทำทุกอย่างให้ชัดเจน เนื่องจากเป็นคดีที่ให้ประชาชนสนใจ ไม่มีมวยล้มต้มคนดูต้องทำคดีอย่างตรงไปตรงมา.-416-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

หนุ่มขี่จยย. พุ่งชนฝาคอนกรีต ตกบ่อร้อยสายไฟดับสลด

11 ส.ค.- หนุ่มวัย 26 ขี่รถจักรยานยนต์ฝ่าแนวกั้นพุ่งชนฝาคอนกรีต ร่างกระเด็นตกบ่อร้อยสายไฟใต้ดิน ลึก 10 เมตร จมน้ำดับสลด เมื่อเวลา 00.30 น.วันที่ 11 ส.ค.68 ร.ต.ท.เจนวิทย์ เหลือผล รองสารวัตร(สอบสวน) สน.ทุ่งสองห้อง รับแจ้งอุบัติเหตุรถจักรยานยนต์พุ่งตกบ่อร้อยสายไฟใต้ดิน ถนนแจ้งวัฒนะ ขาออก บริเวณหน้าศาลปกครอง แขวงทุ่งสองห้อง เขตหลักสี่ กทม. จึงรุดตรวจสอบพร้อมอาสาสมัครมูลนิธิป่อเต็กตึ๊ง ที่เกิดเหตุใกล้สถานีรถไฟฟ้า ศูนย์ราชการเฉลิมพระเกียรติ เป็นถนน 5 เลน บริเวณช่องทางซ้าย 3 เลนปิดเป็นพื้นที่ก่อสร้างโครงการร้อยสายไฟใต้ดิน พบรถจักรยานยนต์สีครีม ทะเบียน กทม. ล้มคว่ำหน้ารถพังยับพุ่งชนเครื่องปั่นไฟฟ้า ใกล้บ่อมีความลึก 10 เมตร เจ้าหน้าที่จึงใช้อุปกรณ์โรยตัวลงไปตรวจสอบพบผู้ขับขี่จมน้ำเสียชีวิต นำร่างขึ้นมาทราบชื่อนายสันติสุข (สงวนนามสกุล) อายุ 26 ปี สวมเสื้อยืดคอกลม แขนสั้น นุ่งกางเกงกีฬาขาสั้นสีน้ำเงิน ตามร่างกายมีบาดแผล กระโหลกศีรษะแตก เจ้าหน้าที่จึงบันทึกรวบรวมที่เกิดเหตุไว้เป็นหลักฐาน สอบถามคนงานที่อยู่บริเวณจุดเกิดเหตุให้การว่า […]

“ขัตติยา” ชี้ภารกิจชายแดนเป็นผลงานร่วมทุกฝ่าย ใต้ร่ม ศบ.ทก.

กทม. 10 ส.ค.-“ขัตติยา” สส.เพื่อไทย ชี้โพลฯ ประชาชนเชื่อมั่นกองทัพสูง แต่ภารกิจชายแดนเป็นผลงานร่วมทุกฝ่าย ใต้ร่ม ศบ.ทก. น.ส.ขัตติยา สวัสดิผล สส.บัญชีรายชื่อและรองโฆษกพรรคเพื่อไทย โพสต์ X ถึงผลสำรวจล่าสุดของนิด้าโพล ที่ให้ความไว้วางใจกองทัพสูงกว่ารัฐบาลและกระทรวงการต่างประเทศ ว่าอยากชวนมองภาพให้ครบว่า ทุกหน่วยงานของรัฐที่เกี่ยวข้อง ล้วนทำงานร่วมเป็นทีมเดียวกัน ภายใต้ศูนย์เฉพาะกิจบริหารสถานการณ์บริเวณชายแดนไทย-กัมพูชา หรือ ศบ.ทก. ศูนย์นี้จัดตั้งขึ้นตั้งแต่เดือนมิถุนายน โดยรวมเอาหลายภาคส่วนเข้ามาทำงานร่วมกัน ทั้งกระทรวงกลาโหม สภาความมั่นคงแห่งชาติ กระทรวงมหาดไทย กระทรวงการต่างประเทศ กระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม กระทรวงพาณิชย์ กระทรวงแรงงาน กองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในราชอาณาจักร สำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สำนักข่าวกรองแห่งชาติ ผู้บัญชาการทหารสูงสุด และผู้บัญชาการทหารบก ทุกฝ่าย คือทีมไทยแลนด์ ที่แบ่งบทบาทหน้าที่และประสานงาน เพื่อเป้าหมายเดียวกัน คือ การรักษาอธิปไตยของประเทศ และปกป้องความปลอดภัยของชีวิตประชาชน แม้กองทัพจะมีบทบาทสำคัญเป็นด่านหน้าในพื้นที่ชายแดน แต่ก็ไม่ได้ทำงานแยกเดี่ยวหรือเป็นอิสระจากภาคส่วนอื่นๆ หากทำงานเคียงบ่าเคียงไหล่กับทุกหน่วยงานภายใต้ร่มของ ศบ.ทก. ในสถานการณ์ที่ท้าทายเช่นนี้ ไม่มีหน่วยงานใดสามารถทำงานบรรลุเป้าหมายได้เพียงลำพัง ความสำเร็จต้องเกิดจากการร่วมแรงร่วมใจของทุกภาคส่วน.-314.-สำนักข่าวไทย

วันแม่แห่งชาติ ขึ้นทางด่วนฟรี 𝟯 สายทาง

กทม. 9 ส.ค.-วันแม่แห่งชาติ 12 สิงหาคม 2568 กทพ. แจ้งยกเว้นค่าผ่านทางพิเศษของทางพิเศษรวม 𝟯 สายทาง ดังนี้ ทางพิเศษเฉลิมมหานคร จำนวน 𝟮𝟭 ด่าน ทางพิเศษศรีรัช จำนวน 𝟯𝟮 ด่าน และทางพิเศษอุดรรัถยา จำนวน 𝟭𝟬 ด่าน นายอนุกูล พฤกษานุศักดิ์ รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า ตามที่รัฐบาลประกาศให้วันจันทร์ ที่ 11 สิงหาคม 2568 เป็นวันหยุดพิเศษ ทำให้มีวันหยุดต่อเนื่องกันรวม 4 วัน (9-12 สิงหาคม 2568) เพื่อให้ประชาชนเดินทางท่องเที่ยวภายในประเทศ และช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจของประเทศในภาพรวม โดยการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) คาดการณ์สถานการณ์ “คนไทย” เดินทาง “ท่องเที่ยวภายในประเทศ” วันหยุดยาวช่วงวันแม่แห่งชาติ ระหว่างวันที่ 9-12 สิงหาคม 2568 จะสร้างรายได้สะพัดทั่วประเทศ 13,750 ล้านบาท […]

“มาริษ” แจงโทรเคลียร์ รมว.ต่างประเทศสิงคโปร์ ปมถูกบิดเบือนคำพูด

สุรินทร์ 9 ส.ค. – “มาริษ” แจงโทรเคลียร์ “วิเวียน” รมว.ต่างประเทศสิงคโปร์ ถูกบิดเบือนคำพูด ย้ำไม่ได้วิจารณ์เชิงลบ แต่ห่วงภาวะผู้นำทำงานได้ไม่เต็มที่เพราะมีอุปสรรคขัดขวาง นายมาริษ เสงี่ยมพงษ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีที่มีบางสื่อบิดเบือนคำพูดของนายวิเวียน บาลากริชนิน (Vivian Balakrishnan) รัฐมนตรีว่าการกระทรวงต่างประเทศสิงคโปร์ ซึ่งตนไม่สบายใจตั้งแต่ต้น และได้สะท้อนไปว่าการแสดงความคิดเห็นในเรื่องที่ละเอียดอ่อนเหล่านี้มักจะทำให้เกิดความเข้าใจผิด และจะมีคนเอาคำพูดท่านไปใช้ประโยชน์ในการโจมตีทางการเมือง นายมาริษ เปิดเผยว่า ได้คุยโทรศัพท์กับนายวิเวียน เพื่อแสดงความห่วงกังวล เขายอมรับแล้วอนุญาตให้ช่วยชี้แจง อธิบายกับสื่อมวลชนที่เป็นสื่อหลัก เพราะข้อความที่แปลผิดได้แพร่สะพัดอยู่ในโซเชียลมีเดีย “นายวิเวียนไม่ได้มีความประสงค์ที่จะไปตั้งคำถามในเรื่องภาวะผู้นำของใครทั้งสิ้น เขาเพียงแต่พูดว่าอยากเห็นการทูตทำงานอย่างเต็มที่ เพราะการทูตจะแก้ไขปัญหาได้หากอยู่ในจุดที่สมดุล และเมื่อไรที่ภาวะผู้นำถูกขัดขวาง ไม่ว่าจะด้วยปัจจัยอะไรก็ตาม มันจะมีผลกระทบให้การแก้ไขปัญหาซับซ้อนมากยิ่งขึ้น” นายมาริษ กล่าว นายมาริษ กล่าวย้ำว่า สิ่งที่นายวิเวียนพูด จะพยายามสื่อสารเพื่อให้ทุกคนได้ตระหนักว่าอยากเห็นผู้นำได้ทำงานอย่างเต็มที่ ไม่มีอุปสรรคขัดขวาง ซึ่งจะเป็นสิ่งสำคัญที่จะทำให้การแก้ไขปัญหาลุล่วงไปได้อย่างสมบูรณ์.-319-สำนักข่าวไทย

ข่าวแนะนำ

“ภูมิธรรม” นำจุดเทียนถวายพระพรชัยมงคล เนื่องในวันเฉลิมพระชนมพรรษา 12 สิงหาคม 2568

สนามหลวง 12 ส.ค.- “ภูมิธรรม” และภริยา เป็นประธานในพิธีถวายเครื่องราชสักการะและพิธีจุดเทียนถวายพระพรชัยมงคล เนื่องในโอกาสวันเฉลิมพระชนมพรรษา สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง 12 สิงหาคม 2568 เวลา 20.05 น. ณ เวทีใหญ่ ท้องสนามหลวง นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรี รักษาราชการแทนนายกรัฐมนตรี พร้อมด้วย นางอภิญญา เวชยชัย ภริยา เป็นประธานในพิธีถวายเครื่องราชสักการะและพิธีจุดเทียนถวายพระพรชัยมงคล เนื่องในโอกาสวันเฉลิมพระชนมพรรษา สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง 12 สิงหาคม 2568 โดยมีประธานวุฒิสภา (ผู้แทนประธานรัฐสภา) ประธานศาลฎีกาและคู่สมรส ประธานองค์กรตามรัฐธรรมนูญพร้อมคู่สมรส คณะรัฐมนตรีและคู่สมรส เลขาธิการนายกรัฐมนตรี ข้าราชการชั้นผู้ใหญ่ ทหาร ตำรวจ พลเรือน และภาคประชาชน เข้าร่วมพิธีอย่างพร้อมเพรียง เมื่อรักษาราชการแทนนายกรัฐมนตรี และภริยา ถึงบริเวณพิธีท้องสนามหลวง ขึ้นสู่เวที รักษาราชการแทนนายกรัฐมนตรี ประธานวุฒิสภา (ผู้แทนประธานรัฐสภา) ประธานศาลฎีกา […]

จากแม่ถึงลูกทหารบาดเจ็บ เหตุปะทะไทย-กัมพูชา

ขอนแก่น 12 ส.ค. – ครอบครัวตระกูลบุญธรรมในอำเภอบ้านไผ่ จังหวัดขอนแก่น ที่ลูกชายทหารเกณฑ์บาดเจ็บจากเหตุปะทะชายแดนไทย-กัมพูชา แม้สื่อสารกันน้อย แต่ความรักของแม่ลูก ไม่ได้ลดน้อยลง และพร้อมสนับสนุนลูกชายสู่เส้นทางทหารอาชีพตามความตั้งใจ หลังไปเป็นรั้วของชาติ แล้วเปลี่ยนแปลงไปในทางที่ดีขึ้น.-สำนักข่าวไทย

มทภ.2 ลั่นพร้อมใช้สิทธิปกป้องกำลังพล-ปรับแผนลาดตระเวน

12 ส.ค.- “แม่ทัพภาค2” ชี้เขมรแอบลอบวางทุ่นระเบิด ละเมิดเงื่อนไขหยุดยิง หวังยั่วยุ พร้อมใช้สิทธิปกป้องคุ้มครองกำลังพล เป็นเรื่องหน้างานไม่เกี่ยวเจรจา เชื่อเขมรไม่ยอมรับตามเงื่อนไขที่ไทยเสนอ เล็งใช้กล้องวงจรปิด ปรับแผนการลาดตระเวน เผยรายงานรัฐบาล-ผบ.ทบ.แล้ว จ่อประท้วงระดับสากล เมื่อวันที่ 12 ส.ค.68 พล.ท.บุญสิน พาดกลาง แม่ทัพภาคที่ 2 เปิดเผยว่า เหตุการณ์ที่ทหารพราน ร้อย.ทพ.2610 เหยียบกับระเบิดระหว่างปฏิบัติภารกิจลาดตระเวน ในพื้นที่บริเวณปราสาทตาเมือนธม อำเภอพนมดงรัก จังหวัดสุรินทร์ ส่งผลให้กำลังพลได้รับบาดเจ็บสูญเสียขาซ้าย 1 นาย คือ ส.อ.ธีรพล เพียขันที ขณะนี้ปลอดภัยแล้ว ซึ่งเหตุเกิดในจุดแนววางรั้วลวดหนามทางด้านทิศตะวันตก ถ้าหันหน้าเข้าเขมรจะอยู่ฝั่งขวาของตัวปราสาท และห่างจากตัวปราสาทประมาณ 1 กิโลเมตร เรียกว่าช่องจุ๊บตาโมก สันนิษฐานว่าเขมรลักลอบมาวางระกับเบิดช่วงที่ถอนกำลังทหารออกไป ซึ่งวันนี้ทหารไปตรวจสอบแนววางลวดหนาม บริเวณดังกล่าวอยู่ในเขตแดนไทย เป็นเส้นทางที่ใช้ลาดตระเวนประจำอยู่ในฝั่งไทยอยู่แล้ว อย่างไรก็ตาม เหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ถือเป็นการยั่วยุ ผิดเงื่อนไขการหยุดยิง เพราะการวางทุ่นระเบิด ถือเป็นการยิงเหมือนกัน เราจะมีมาตรการตอบโต้ และรายงานให้รัฐบาลรับทราบตามขั้นตอนแล้ว หลังจากนี้จะนำไปสู่ขั้นตอนการประท้วงในระดับสากล พล.อ.พนา แคล้วปลอดทุกข์ […]

เฉลิมพระเกียรติพระบรมราชชนนีพันปีหลวง

ทบ.ยิงสลุตหลวง เฉลิมพระเกียรติ สมเด็จพระบรมราชชนนีพันปีหลวง

12 ส.ค. – ทบ.ยิงสลุตหลวง เฉลิมพระเกียรติ สมเด็จพระบรมราชชนนีพันปีหลวง เนื่องในวันเฉลิมพระชนมพรรษา 12 สิงหาคม 2568 วันนี้เวลา 12.00 น. ณ ท้องสนามหลวง กองทัพบก โดยกองพันทหารปืนใหญ่ที่ 1 กรมทหารปืนใหญ่ที่ 1 รักษาพระองค์ ยิงสลุตหลวงจำนวน 21 นัด เพื่อเฉลิมพระเกียรติ สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง เนื่องในวันเฉลิมพระชนมพรรษา 12 สิงหาคม 2568 โดยกองร้อยปืนใหญ่ยิงสลุต ใช้ปืนใหญ่เบากระสุนวิถีราบ แบบ 80 ขนาด 75 มิลลิเมตร จำนวน 4 กระบอก ทำการยิงตามจังหวะของเพลงสรรเสริญพระบารมี จำนวน 21 นัด จังหวะ 5 วินาที ทีละกระบอก นับรอบจากขวาไปซ้าย ใช้เวลายิงทั้งหมด 1 นาที 40 […]