“ภูมิธรรม” ย้ำสิ้นเดือนนี้ออกหมายจับขบวนการทุจริตยา

องค์การทหารผ่านศึก 12 มี.ค.- “ภูมิธรรม” ย้ำสิ้นเดือนนี้ออกหมายจับขบวนการทุจริตยา รพ.ทหารผ่านศึก มีทั้งระดับหัวหน้าและเครือข่าย สั่งพัฒนาระบบจ่ายยาแบบ รพ.เอกชน เพื่อความคล่องตัว-โปร่งใส ไม่ฟันธงทำกันมาเป็นสิบปี แต่ถ้าสอบถึงใครก็ดำเนินการทั้งสิ้น


นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม แถลงภายหลังเป็นประธานการประชุมสภาทหารผ่านศึก โดยกล่าวถึงความคืบหน้าการสืบสวนกรณีคดีทุจริตยาโรงพยาบาลทหารผ่านศึก ว่า เรื่องนี้สำคัญมาก เพราะสังคมกำลังเฝ้ามองอยู่ และเราได้รับข่าวสาร และมีผู้แทนราษฎรเขียนโน้ตถึงตน จึงได้สั่งการให้ตรวจสอบ โดยไม่ได้นิ่งนอนใจและตอบสนองทันที พร้อมตั้งกรรมการสอบ และได้เรียกผู้อำนวยการองค์การสงเคราะห์ทหารผ่านศึก มาคุย ซี่งการสอบสวนขั้นต้นถือว่าคืบหน้าไปด้วยดี ขณะนี้กำลังตรวจสอบผู้ที่อยู่ในเครือข่าย ว่าป่วยเป็นโรคนั้นจริงหรือไม่ ซึ่งก็มีการจ่ายยาให้ อีกทั้งมีผู้ป่วยเบาหวานแต่พอไปตรวจเลือดแล้วก็พบว่าไม่ได้เป็น แต่ส่วนที่ป่วยจริงๆก็มี ตอนนี้ก็สอบปากคำไปเกือบ 150 คนแล้ว และมีการไปสอบเพิ่มเติมที่ จ.ลพบุรี และสมุทรปราการ ซึ่งเป็นสถานที่ที่มีรายชื่อเครือข่ายปรากฏอยู่

นอกจากนี้ ยังมีคนที่ไม่ได้อยู่ในรายชื่อ แต่อาสามาให้ข้อมูลอีก 30 กว่าราย นี่เป็นเฉพาะจุดแรกที่เริ่มสอบสวน ซึ่งตนได้เชิญให้เจ้าหน้าที่ ป.ป.ท. และ ปปง. เข้ามาร่วมตรวจสอบ เพราะเราต้องดูเรื่องเส้นทางการเงินด้วย ซึ่งได้รับความร่วมมืออย่างดี คาดว่าสิ้นเดือนมีนาคมนี้จะสามารถออกหมายจับได้ เพราะตอนนี้ได้พบเครือข่ายและผู้เกี่ยวข้องแล้ว แต่ขอให้ชัดเจนออกหมายจับก่อน ค่อยว่ากัน


“มีทั้งผู้เกี่ยวข้องระดับสูงและเครือข่ายต่างๆ รวมทั้งหัวหน้าหน่วย หัวหน้าส่วนที่เป็นเครือข่ายในการดำเนินการ ดังนั้นมีนาคมนี้น่าจะจบ และจะมีการชี้แจงสื่อมวลชนชัดเจนขึ้น ขณะเดียวกันเราก็สอบต่อด้วยอีกทางว่าหมดเครือข่ายนี้หรือยัง หรือมีต่อ เพราะเราพบหลายจุดซึ่งอาจจะอยู่ในเครือข่ายเดียวกัน ก็จะขอเวลาดำเนินการ ซึ่งตั้งแต่เป็นข่าวเราก็เริ่มดำเนินการเลย คิดว่าภายใน 1 เดือนก็คงจบเรื่องนี้ชัดเจน”

เมื่อถามว่า ถ้ารอจนถึงสิ้นเดือนมีนาคม จะมีการทำลายพยานหลักฐานหรือไม่ เพราะขณะนี้ยังไม่มีคำสั่งให้พักงานเจ้าหน้าที่บางส่วน นายภูมิธรรม กล่าวว่า เดี๋ยวรอ เพราะมันมีหลายหน่วย พร้อมยืนยันว่า หลักฐานทำลายไม่ได้ เพราะเราเข้าไปกำชับเข้มงวดในการตรวจสอบอยู่แล้ว อีกทั้งหลักฐานที่เราได้มาก็พอสมควร กำลังหารายละเอียดให้ครบถ้วน จึงขอไม่เปิดเผยรายละเอียดมากกว่านี้ เพราะอยู่ในกระบวนการ แต่ยืนยันว่าสิ้นเดือนมีนาคม มีความชัดเจน

เมื่อถามว่า นอกจากโรงพยาบาลทหารผ่านศึกแล้ว อาจมีโรงพยาบาลรัฐอื่นๆ ที่กระทำในลักษณะนี้เช่นกัน หรือไม่ นายภูมิธรรม กล่าวว่า ขณะนี้พบที่โรงพยาบาลทหารผ่านศึกแห่งเดียว แต่ก็กำลังสอบต่อว่าจะมีแค่นี้ หรือจะมีเพิ่มอีก ซึ่งการตรวจสอบจะเห็นความชัดเจนมากน้อยแค่ไหน ก็ต้องดูอีกที จึงยังไม่ควรพูดอะไรที่ยังไม่ชัดเจน


เมื่อถามถึงกรอบระยะเวลาในการตรวจสอบ เพราะมีการแบ่งทำงานถึง 5 ทีม ทีมละ 100 คน นายภูมิธรรม บอกว่า ตอนนี้มีการแยกสอบทั้ง ป.ป.ท. ปปง. อผศ. และตำรวจ เพราะเราได้แจ้งความไว้ชัดเจนแล้ว ซึ่งผลที่ออกมาจะเป็นประโยชน์ต่อประชาชนแน่นอน

เมื่อถามว่า ขบวนการทำกันมาเป็น 10 ปีแล้ว การตรวจสอบจะย้อนหลังไปถึงผู้ที่เกษียณไปแล้วหรือไม่ นายภูมิธรรม กล่าวว่า เขาทำมา 10 ปีแล้วจริงหรือไม่ ตอบไม่ได้ แต่เราพบ ณ ขณะนี้ ก็ต้องทำให้ชัดเจนก่อน ส่วนถ้าสอบแล้วต่อไปถึงไหนเราก็ต้องไปตรงนั้น เพราะความผิดมันขึ้นอยู่กับอายุความ และความเป็นจริง

“ถ้าความเป็นจริงมันถึง เราก็ต้องเอาให้ถึง และผมได้พูดในที่ประชุมว่าเราเป็นองค์กรที่เกี่ยวข้องและเป็นประโยชน์ต่อทหารหาญที่สละชีพ และทุพพลภาพจากการสู้รบเพื่อปกป้องประเทศชาติ แทนที่เงินเหล่านี้จะไปช่วยพวกเขาได้มากขึ้น กลับถูกเบียดยังไป เราก็ต้องดำเนินการ จึงบอกเจ้าหน้าที่ไปว่าขอให้ดำเนินการอย่างตรงไปตรงมา และเต็มที่ เข้มงวด ให้ถูกต้องตามระเบียบกฎหมาย และข้อบังคับอย่างเคร่งครัด ได้อย่างไรก็เอาอย่างนั้น ก็จะเป็นโอกาสที่จะทำให้สังคมเชื่อมั่น ในสิ่งที่เราเป็นอยู่ รวมถึงได้เสนอรายละเอียดเพิ่มเติมว่า ขอให้ไปวางระบบดูแลที่เข้มงวดกว่านี้ เพราะโรงพยาบาลเอกชนก็มีระบบในการเบิกจ่ายยา ก็ขอให้ไปศึกษาไปดู ถ้าจัดการตรงนี้แล้ว ก็ต้องวางระบบไปพร้อมด้วย”

นายภูมิธรรม ยอมรับว่า ระบบที่มีการจัดวางใหม่ อาจจะกระทบต่อการบริการประชาชนบ้าง แต่โรงพยาบาลเอกชน หรือโรงพยาบาลรัฐที่ทันสมัย อย่างเช่นโรงพยาบาลรามาธิบดี โรงพยาบาลจุฬาลงกรณ์ และโรงพยาบาลศิริราช เขาก็ใช้กันได้ แม้ประชาชนจะได้ได้รับผลกระทบบ้าง แต่ก็ต้องทำให้โปร่งใส และตนคิดว่าทุกวันนี้มันไม่ได้พัฒนาระบบป้องกันอย่างเดียว แต่ต้องพัฒนาระบบให้รวดเร็วมากขึ้นอีก สามารถจองคิวได้ พร้อมยืนยันไม่มีอะไรต้องเป็นห่วงในเรื่องนี้-313 .-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

ยกระดับห้าม จยย.-รถเข็น จากกัมพูชาเข้าไทย

สระแก้ว 23 มิ.ย.-ตอบโต้ทันควัน! ไทยสั่งห้ามรถเข็น-จยย.เขมร เข้ามาเด็ดขาด บรรยากาศด่านคลองลึกตึงเครียด เจรจาระดับเจ้าหน้าที่ หลังกัมพูชางดนำเข้าน้ำมันไทย เมื่อวันที่ 23 มิ.ย.68 ผู้สื่อข่าวรายงาน บรรยากาศบริเวณจุดผ่านแดนถาวรบ้านคลองลึก อ.อรัญประเทศ จ.สระแก้ว ก่อนการเปิดด่านฝั่งกัมพูชา ในเวลา 09.00 น. ว่า มีตึงเครียดผิดปกติ โดยปกติจะมีแรงงานกัมพูชาจำนวนมากขี่รถจักรยานยนต์ รถพ่วงข้าง และรถชาลี มารอข้ามแดนเข้ามาทำงานในตลาดโรงเกลือ แต่เช้าวันนี้ภาพดังกล่าวหายไปอย่างสิ้นเชิง หลังทางฝั่งไทย “ยกระดับตอบโต้” ต่อมาตรการของกัมพูชาที่ประกาศงดรับน้ำมันและก๊าซจากไทย กองกำลังบูรพา ได้กำหนดมาตรการควบคุมพื้นที่เพิ่มเติม เพื่อรักษาความปลอดภัยสูงสุดบริเวณพื้นที่ชายแดน และการป้องกันลักลอบกระทำผิดกฎหมายต่างๆ โดยไม่อนุญาตให้รถเข็นคนเดิน (ตั้งแต่ 2 ล้อขั้นไป), รถจักรยานยนต์ที่ติดแผ่นป้ายทะเบียนราชอาณาจักรกัมพูชา และรถจักรยานยนต์ ดัดแปลงทุกประเภท ของกัมพูชา เข้ามาในราชอาณาจักรไทย บริเวณ จุดผ่านแดนถาวรบ้านคลองลึก, จุดผ่านแดนถาวรสะพานมิตรภาพไทย-กัมพูชา บ้านหนองเอี๋ยน-สตึงบท, จุดผ่านแดนถาวรบ้านเขาดิน, จุดผ่อนปรนการค้าบ้านตาพระยา และจุดผ่อนปรนการค้าบ้านหนองปรือ โดยให้หน่วยที่รับผิดชอบ บังคับใช้มาตรการดังกล่าว ตั้งแต่วันที่ 23 มิ.ย. เวลา […]

ทหารกัมพูชาพาชาวบ้าน พระ-แม่ชี ขึ้นปราสาทตาเมือนธม

สุรินทร์ 23 มิ.ย.-มาแบบไหนอีก ทหารกัมพูชาพาชาวบ้าน พระสงฆ์ แม่ชีนับพัน ขึ้นปราสาทตาเมือนธม พร้อมทำพิธีกราบไหว้ หลังจากมีคณะปั่นจักรยานไทยเข้าทำกิจกรรมที่ปราสาทตาเมือนธม อำเภอพนมดงรัก จังหวัดสุรินทร์ อย่างคึกคัก และมีชาวไทยจากหลายพื้นที่แห่เที่ยวให้กำลังใจทหารแนวหน้า หลังมีข่าวทั้ง 2 ฝ่ายประกาศปิดด่านเพิ่ม ขณะที่ฝั่งกัมพูชา ก็ตอบโต้ฝ่ายไทยอย่างไม่ลดละ มีนักท่องเที่ยวเพิ่มขึ้นอย่างเห็นได้ชัด โดยเฉพาะเมื่อวานนี้ (22 มิ.ย.68) ตลอดทั้งวัน มีชาวบ้าน พระสงฆ์ และแม่ชี นับพันคนขึ้นมาเที่ยวบนตัวปราสาทตาเมือนธม พร้อมทำพิธีกราบไหว้ ทำให้เจ้าหน้าที่ทหารไทยต้องคุมเข้มอย่างหนัก เพื่อไม่ให้ทำผิดเงื่อนไข ทั้งนี้ มีรายงานว่า ในช่วงบ่ายวันนี้ พล.อ.พนา แคล้วปลอดทุกข์ ผู้บัญชาการทหารบก พร้อมคณะ เตรียมลงพื้นที่ให้กำลังใจกำลังพล และติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิดด้วย.-715.-สำนักข่าวไทย

รัฐบาลสั่งจับกุมอุปกรณ์เสพติดรูปแบบใหม่ วางขายโจ๋งครึ่ม

ทำเนียบ 23 มิ.ย.-รัฐบาลสั่งจับกุมอุปกรณ์เสพติดรูปแบบใหม่ ล่อใจเยาวชน ทำคล้ายยาดม ลูกอม วางขายโจ๋งครึ่ม ในแพลตฟอร์มออนไลน์ เตือนผู้ปกครองเข้าถึงเยาวชนง่าย อันรายถึงชีวิต นายอนกูล พฤกษานุศักดิ์ รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า รัฐบาลได้สั่งการ ในการจับกุมยาเสพติดและสารเสพติดในรูปแบบต่าง ๆ อย่างต่อเนื่อง โดยได้สั่งการให้เจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องทั้งตำรวจไซเบอร์และส่วนราชการอื่นๆ ให้ดำเนินการจับกุมและปราบปรามให้เข้มข้นขึ้น โดยสถานการณ์และสถิติการใช้ยาเสพติดในไทย ปี 2568 แม้ภาครัฐจะดำเนินมาตรการปราบปรามและสกัดกั้นการลักลอบนำเข้าและจำหน่าย รวมถึงบำบัดผู้ติดยาเสพอย่างต่อเนื่อง แต่ปัญหายาเสพติดในประเทศไทยยังคงเป็นภัยเงียบที่สร้างปัญหาและทำลายเศรษฐกิจและประชาชน โดยเฉพาะในกลุ่มเยาวชนและวัยแรงงาน ซึ่งเป็นกำลังสำคัญของประเทศ นายอนุกูล กล่าวว่า จากข้อมูลผลการติดตาม เฝ้าระวังผลิตภัณฑ์อันตรายต่อสุขภาพของทุกหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ขณะนี้พบสารเสพติดพันธุ์ใหม่ กลายพันธุ์แปลงร่าง ปรับรูปแบบหน้าตาผลิตภัณฑ์ให้สวยงามน่ารักมากขึ้น โดยผลิตเลียนแบบลูกอม ปรุงรสชาติผลไม้ และออกแบบบรรจุภัณฑ์ให้มีความสวยงามสดใส มีดีไซน์คล้ายกล่องขนม ดูยากขึ้น จนแยกไม่ออกว่าเป็นผลิตภัณฑ์เสพติด หรือกล่องขนม ซึ่งมีทั้งผลิตภัณฑ์ที่นำเข้าจากต่างประเทศและผลิตในไทย โดยวางจำหน่ายอย่างเปิดเผยในแพลตฟอร์มออนไลน์ ราคาเริ่มต้นเพียงหลักร้อยบาทเท่านั้น สำหรับผลิตภัณฑ์อันตรายที่พบมีดังนี้1.บุหรี่ไฟฟ้าพันธุ์ใหม่ GEN 6ปรับเปลี่ยนรูปลักษณ์ผลิตภัณฑ์ให้ดูเหมือนยาดมแท่งจนแยกไม่ออก มีการโฆษณาว่าคล้ายยาดม แต่มีส่วนผสมเป็นนิโคติน 3-5% โดยรู้จักในชื่อ พอดจมูก พอดยาดม สูบได้ทั้งทางจมูกและทางปาก […]

ชายถูกตีหัวทิ้งศพริมถนน พบก่อนตายโพสต์ภาพหลักฐานสำคัญ

สมุทรสาคร 22 มิ.ย.- พบศพชายถูกตีศีรษะเสียชีวิตริมถนน สืบหาเบาะแสจากโซเชียลเจอหลักฐานสำคัญ ตำรวจเร่งล่าตัวผู้ก่อเหตุ ผู้เสียชีวิตทราบชื่อคือนายอ้วน อายุ 33 ปี สภาพถูกของแข็งตีที่ศีรษะเป็นแผลฉกรรจ์ ถูกทิ้งร่างไว้ริมถนนแคราย หมู่ 5 ต.แคราย อ.กระทุ่มแบน จ.สมุทรสาคร ข้างศพมีขวดเบียร์ตกอยู่ และฝั่งตรงข้ามมีรถจักรยานยนต์ จอดอยู่หน้าร้านโชห่วยใกล้จุดพบศพ คาดว่าเป็นของผู้เสียชีวิต โดยก่อนหน้านี้มีพลเมืองดีขับรถส่งน้ำแข็งผ่านมาพบร่าง จึงโทรแจ้งตำรวจ สภ.กระทุ่มแบนให้มาตรวจสอบ ช่วงตีสี่วันนี้   ตำรวจสังเกตเสื้อที่ผู้เสียชีวิตสวมใส่มีคำสกรีนเป็นชื่อเฟซบุ๊ก จึงเข้าไปตรวจสอบ พบว่าประมาณตีหนึ่ง ผู้เสียชีวิตสวมเสื้อตัวเดียวกัน และโพสต์ภาพคู่กอดคอกับชายคนหนึ่ง ระบุข้อความว่า “จบสะทีนะปัญหาหมู่บ้าน” และที่น่าสังเกตคือวิวในรูปเป็นริมถนนและมีขวดเบียร์ที่พบข้างศพตั้งอยู่ด้านหน้าด้วย และในโพสต์ มีคนมาแสดงความคิดเห็น ข้อความสำคัญว่า “ใครเป็นญาติครับติดต่อผมหน่อย เค้าโดนตี” เรื่องนี้ตำรวจจะเร่งตรวจสอบวงจรปิด คาดว่าจะติดตามตัวผู้ก่อเหตุได้เร็ววันนี้ .-สำนักข่าวไทย

ข่าวแนะนำ

นายกฯ เปิดประชุมนานาชาติหน่วยยามฝั่งอาเซียน ไร้ตัวแทนกัมพูชาร่วม

พัทยา 25 มิ.ย.-ไร้เงาตัวแทนกัมพูชา นายกฯ เปิดการประชุมนานาชาติหน่วยยามฝั่งอาเซียน ชมสาธิตวิธีการช่วยอากาศยานประสบภัยในทะเล นางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี เป็นประธานในพิธี และกล่าวเปิดการประชุมนานาชาติหน่วยยามฝั่งอาเชียน (ASEAN Coast Guard Forum 2025: ACF 2025) และการฝึกค้นหา และช่วยเหลืออากาศยานประสบภัยในทะเล และการแพทย์ฉุกเฉินในทะเล ที่ประเทศไทยได้รับเกียรติเป็นเจ้าภาพจัดประชุม ระหว่างวันที่ 24-27 มิถุนายน 2568 เพื่อส่งเสริมความปลอดภัย มั่นคง มั่งคั่ง ในอาเซียน ณ โรงแรมฮิลตัน พัทยา อำเภอบางละมุง จังหวัดชลบุรี โดยมีพลเรือเอก จิรพล ว่องวิทย์ ผู้บัญชาการทหารเรือให้การต้อนรับ โดยนายกรัฐมนตรี ได้กล่าวต้อนรับผู้แทนจากประเทศสมาชิกอาเซียน ประเทศผู้สังเกตการณ์ และพันธมิตรสำคัญที่เข้าร่วมการประชุมในครั้งนี้สู่เมืองพัทยา และแสดงความยินดีที่ได้มีโอกาสเข้าร่วมในพิธีเปิดเวทีความร่วมมืออันสำคัญของภูมิภาค ซึ่งเป็นเวทีที่หน่วยรักษาความปลอดภัยชายฝั่ง หน่วยงานบังคับใช้กฎหมายทางทะเล และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องของประเทศสมาชิกอาเซียน ได้มาพบปะ แลกเปลี่ยนมุมมอง และเสริมสร้างความร่วมมือเพื่อยกระดับความมั่นคงทางทะเลร่วมกัน นายกรัฐมนตรี ยังกล่าวถึงความสำคัญของความมั่นคง และความปลอดภัยทางทะเล ซึ่งมีความสำคัญอย่างยิ่งต่อภูมิภาค เนื่องจากท้องทะเลไม่เพียงเป็นเส้นทางการค้าสำคัญ […]

ป.ป.ช.รับสอบคลิปเสียงนายกฯ ไม่กดดัน โฟกัสคลิปเสียงต้องแปลชัดเจน

ชลบุรี 25 มิ.ย.-เลขาฯ ป.ป.ช. เผย ป.ป.ช.รับสอบคลิปเสียง นายกฯ ไม่กดดัน ยังอยู่ขั้นตอนรับมาตรวจสอบ โฟกัสที่คลิปเสียง ต้องแปลข้อความชัดเจน เพราะเป็นสองภาษา เบื้องต้นไม่ต้องเชิญ “แพทองธาร” มาสอบ นายสาโรจน์ พึงรำพรรณ เลขาธิการคณะกรรมการ ป.ป.ช. กล่าวภายหลังเปิดโครงการสื่อมวลชนสัมพันธ์ สำนักงาน ป.ป.ช. ที่จ.ชลบุรี ถึงคดีคลิปเสียง นส.แพทองธาร นายกรัฐมนตรี กับนายฮุนเซน ว่า เรื่องนี้ มีการร้องมาที่ ป.ป.ช. ก็เป็นเรื่องปกติเมื่อมีการร้องในคดีสำคัญ สำนักงาน ป.ป.ช. ต้องสรุปรายงานให้ที่ประชุมคณะกรรมการรับทราบ ซึ่งคดีสำคัญเมื่อ ที่ประชุมรับทราบแล้วก็จะกำหนดสิ่งที่ต้องดำเนินการเบื้องต้น ระยะเวลา เมื่อเสร็จต้องกลับมาพิจารณาในที่ประชุม จึงไม่ใช่ 10 วันส่งศาลตามที่เป็นข่าว ยังอยู่ในขั้นตอนรับมาตรวจสอบ ปกติ ถ้าอยู่ในอำนาจหน้าที่ก็รับมา เนื่องจากเป็นคดีสำคัญ จึงมีมติต้องมารายงานให้กรรมการ ป.ป.ช.ทราบเป็นระยะ กรณีนี้ ร้องฝ่าฝืนจริยธรรมอย่างร้ายแรง ถ้าประเด็นรายละเอียดต้องสอบน้อย ก็ใช้เวลาไม่นาน แต่ถ้ามีรายละเอียดมากก็กำหนด 6 เดือน […]

ชาวกัมพูชากว่า 500 คน แห่กลับประเทศด่านช่องจอม จ.สุรินทร์

สุรินทร์ 25 มิ.ย.-ชาวกัมพูชากว่า 500 คน ส่วนมากเป็นแรงงานและผู้ป่วย แห่กลับประเทศผ่านด่านช่องจอม จ.สุรินทร์ หลังฝั่งกัมพูชาเปิดด่าน เวลา 10.00 น. โดยใช้เวลาเปิดเพียง 30 นาทีเท่านั้น บริเวณจุดผ่านแดนถาวรช่องจอม ตำบลด่าน อำเภอกาบเชิง จังหวัดสุรินทร์ เช้าวันนี้ทางฝั่งไทยได้เปิดประตูด่านตั้งแต่เวลา 06.00-22.00 น. โดยดำเนินการตามมาตรการและคำสั่งจากกองทัพภาคที่2 อย่างเข้มงวด เพื่อดำเนินการตามมนุษยธรรมเท่านั้น ไม่อนุญาตให้ผู้คนผ่านเข้าออกและขนส่งสินค้า แต่ก็มีปัญาหาจากฝั่งกัมพูชา ในวันนี้กลับปิดด่าน โดยทางฝั่งกัมพูชาอ้างต้องรอคำสั่งจากผู้ว่าอุดรมีชัยเท่านั้น ทำให้มีชาวกัมพูชาจำนวนมากมารอคิวเดินทางกลับ ส่วนมากจะเป็นแรงงานและผู้ป่วยมาหาหมอแล้วเดินทางกลับ ล่าสุด กัมพูชาเปิดประตูแล้วเมื่อเวลา 10.00 น. มีชาวกัมพูชากว่า 500 คน เดินทางกลับ ส่วนคนไทยกลับเข้ามามีน้อย ขณะเจ้าหน้าที่ทั้งไทยและกัมพูชา ตรวจคุมเข้ม โดยไม่ให้ชาวกัมพูชาผ่านเข้ามาและคนไทยไม่ให้ผ่านเข้ากัมพูชาเด็ดขาด รวมไปถึงรถขนส่งสินค้า แต่มีชาวกัมพูชาบางคนไม่เข้าใจ พยายามจะเข้ามาโดยอ้างเอกสารถูกต้อง เจ้าหน้าที่ทั้งไทยและกัมพูชา ได้มาทำความเข้าใจและให้เดินทางกลับ โดยทางกัมพูชาได้ปิดประตูด่านแล้วเวลา 10.30 น. ใช้เวลาเปิดเพียง 30 นาทีเท่านั้น.-สำนักข่าวไทย

ทะลักด่านคลองลึก หลังอนุโลมเปิดด่านให้กลับภูมิลำเนา

สระแก้ว 24 มิ.ย. – วุ่นเล็กน้อย วันแรกปิดจุดผ่านแดนถาวรบ้านคลองลึก จ.สระแก้ว ชาวไทย-กัมพูชาที่ตกค้าง ต่างเร่งรีบเดินทางกลับให้ทันกำหนดเวลา 20.00 น. หลังอนุโลมเปิดด่านให้กลับภูมิลำเนา วันนี้วันเดียว ส่วนนักเรียน-นักศึกษา ยังคงผ่านแดนได้ตามปกติ.-สำนักข่าวไทย