มติบอร์ดโรคติดต่อฯ ฉีดวัคซีนสลับชนิด ซิโนแวคเข็ม1 แอสตราฯเข็ม2 ในปชช.ทั่วไป

สธ. 12 ก.ค.-มติที่ประชุมคณะกรรมการโรคติดต่อฯ เห็นชอบฉีดวัคซีนสลับชนิด เข็ม 1 ซิโนแวค และเข็ม 2 แอสตราฯ ในประชาชนทั่วไป และต่อไปจะไม่ฉีดซิโนแวค 2 เข็มอีกแล้ว เพื่อสร้างภูมิคุ้มกันสูงขึ้นในระยะเวลาอันสั้น หลังข้อมูลทางวิชาการพบว่าฉีดสลับชนิดประสิทธิภาพสูงเท่าแอสตราฯ 2 เข็ม และยังไม่อนุมัติใช้ Rapid Antigen Test ใช้ในคนทั่วไป และเห็นชอบฉีดวัคซีนบูสเตอร์โดส กระตุ้นภูมิคุ้มกันให้บุคลากรการแพทย์ด่านหน้าในเดือนกรกฎาคม


นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข กล่าวถึงผลการประชุมของคณะกรรมการโรคติดต่อแห่งชาติ ว่า ที่ประชุมมีมติเห็นชอบ 4 เรื่อง ได้แก่

1 .เห็นชอบให้ประชาชนฉีดวัคซีนสลับชนิดกัน ระหว่างซิโนแวค และแอสตราฯ ห่างกัน 3 -4 สัปดาห์ เพิ่มประสิทธิภาพและป้องกันเชื้อเดลตา เพื่อสร้างภูมิคุ้มกันให้สูงขึ้น ให้ รพ.ต่างๆ ดำเนินการได้ทันที



2 .ให้มีการบูสเตอร์โดสวัคซีนเข็ม 3 ในกลุ่มบุคลากรทางการแพทย์ด่านหน้า โดยระยะห่างระหว่างเข็ม 2 และเข็ม 3 อยู่ที่ 3-4 สัปดาห์ ตอนนี้มีบุคลากรที่ได้รับวัคซีนครบ 2 เข็มแล้ว และสามารถฉีดกระตุ้นได้ทันที (พรุ่งนี้) และต่อไปจะใช้วัคซีนแอสตราฯ เป็นหลัก

3 .ส่วนเรื่อง Rapid Antigen Test มาใช้ ขณะนี้ยังคงอนุมัติให้ใช้ในสถานพยาบาลกว่า 300 แห่ง และมีรวม 24 ยี่ห้อที่ผ่านการขึ้นทะเบียน สามารถนำมาใช้ได้ ส่วนการอนุญาตให้ตรวจเองที่บ้านได้นั้น จะสามารถทำได้ในเร็วๆ นี้ แต่ต้องให้กรมควบคุมโรคมอบให้คณะกรรมการโรคติดต่อจังหวัดวางแนวชี้แจงให้เข้าใจ และเกิดการปฎิบัติอย่างเคร่งครัด

และ 4.เห็นชอบมาตรการกักตัวที่บ้านและชุมชนได้ สืบเนื่องมากจากปัญหาเตียงเต็มในสถานพยาบาล แต่ต้องเป็นผู้ป่วยสีเขียวไม่มีอาการและสมัครใจอยู่บ้านชุมชน สามารถปฏิบัติตัวแยกกักได้ โดย สปสช.จะสนับสนุนอุปกรณ์ดูแลตนเอง และอาหารให้กับผู้ป่วย พร้อมกันนี้ยังจะยังหน่วยปฐมภูมิที่มีอยู่ 200 ทีมลงพื้นที่เยี่ยมบ้าน เพื่อดูแลผู้ป่วยที่บ้าน และกลับมาจาก รพ. หลังการรักษา 10 วัน พร้อมให้มีการตรวจ Rapid Antigen Test ซ้ำ เพื่อความมั่นใจ และภายใน 2 สัปดาห์นี้จะเร่งรัดฉีดวัคซีนใน 2 กลุ่มทั้งผู้สูงอายุ และ ป่วย 7 กลุ่มโรคเรื้อรัง ให้ได้ 1 ล้านคน


ทั้งนี้ มีข้อมูลรายงานในการฉีดวัคซีนสลับชนิดกันระหว่างซิโนแวคเข็ม 1 และเข็ม 2 เป็นแอสตราฯ จะช่วยกระตุ้นภูมิกันได้เท่ากับการรับ แอสตราฯ 2 เข็ม และต่อไปจะไม่มีการฉีดวัคซีนซิโนแวค 2 เข็มอีกต่อไป เพราะสามารถสร้างภูมิคุ้มกันในระยะสั้น. -สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

สำนักสงฆ์หูตาทิพย์

ขุดพบ 12 ศพ ในสำนักสงฆ์ลัทธิประหลาด “สอนหู-ตาทิพย์”

ขุดพบ 12 ศพ ในสำนักสงฆ์ลัทธิประหลาด “สอนหู-ตาทิพย์” พระอ้างใช้สอนวิปัสสนากรรมฐาน เบื้องต้นอายัดไว้พิสูจน์ดีเอ็นเอ พร้อมเอาผิดหัวหน้าสำนักสงฆ์ ฐานนำศพเก็บไว้ในสถานที่ที่ไม่ใช่สุสานและฌาปนสถาน

“สนธิ” ยื่นถอด “ตั้ม-เดชา” ออกจากทนาย

“สนธิ ลิ้มทองกุล” หอบหลักฐานบุกสภาทนายความ ถอดทนายตั้ม-ทนายเดชา ออกจากทนาย ระบุ ได้รับมอบอำนาจจาก “มาดามอ้อย” แล้ว เดินหน้าเอาผิด ทนายตั้มแบบสุดซอย ไม่ให้มีคนตกเป็นเหยื่อผู้รู้กฎหมายอีก

รัสเซียยิงขีปนาวุธข้ามทวีปรุ่นใหม่ถล่มยูเครน

ประธานาธิบดีวลาดิเมียร์ ปูติน ของรัสเซีย แถลงยืนยันว่ารัสเซียยิงขีปนาวุธข้ามทวีปรุ่นใหม่ถล่มภาคตะวันออกยูเครนเมื่อวานนี้ ตอบโต้ที่ยูเครนใช้ขีปนาวุธที่ได้รับมอบจากสหรัฐและอังกฤษ

ข่าวแนะนำ

โค้งสุดท้าย ศึกสองนารีชิงเก้าอี้ นายก อบจ.นครฯ

เหลือไม่ถึง 2 วันแล้ว ที่ชาวนครศรีธรรมราชจะได้ออกไปใช้สิทธิเลือกตั้งนายก อบจ.นครฯ ศึกนี้เป็นการสู้กันเองของพรรคร่วมรัฐบาล ฝ่ายหนึ่งต้องการรักษาฐานที่มั่นไว้ให้ได้ อีกฝ่ายต้องการเจาะฐานให้แตก เพื่อหวังครองที่นั่งการเมืองระดับชาติในสมัยหน้า

ร้อนระอุโค้งสุดท้าย ศึกชิงเก้าอี้ นายก อบจ.อุดรธานี

การเลือกตั้งนายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดอุดรธานี ครั้งนี้ดุเดือดเกินคาด ผู้สมัครจาก 2 พรรคใหญ่ลงชิงชัย ต่างเร่งเครื่องเต็มที่ในโค้งสุดท้าย การเลือกตั้งจะเกิดขึ้นในวันอาทิตย์ที่ 24 พ.ย.นี้ ใครจะเป็นผู้คว้าชัยชนะและสร้างการเปลี่ยนแปลงครั้งสำคัญให้จังหวัดอุดรธานี ไปติดตามจากรายงาน

ความเห็นนักวิชาการ คดีทักษิณ

ศาลรัฐธรรมนูญมีมติไม่รับคำร้อง นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรีและพรรคเพื่อไทย ร่วมกันกระทำการอันเป็นการใช้สิทธิหรือเสรีภาพเพื่อล้มล้างการปกครอง ขณะที่นักวิชาการชี้ว่าไม่ได้พลิกไปจากความคาดหมาย และผลจากคดีนี้ ไม่ทำให้เกิดจุดเปลี่ยนทางการเมือง แต่ก็ยังมีจุดเสี่ยงที่ต้องระวัง