สธ.13 ก.ค.-“หมอยง” แจง หลักฐานทางวิชาการฉีดวัคซีนสลับชนิดเข็ม 1 ซิโนแวค เข็ม 2 แอสตราฯ ช่วยสร้างภูมิคุ้มกันได้เร็ว ในระยะเวลาอันสั้นเพียง 6 สัปดาห์ หากรอฉีดแอสตราฯ 2 เข็มอาจไม่ทันกาล เพราะเดลตาแพร่เร็วติดง่ายกว่าเมื่อก่อนมาก ย้ำไม่จำเป็นต้องถามหาไทม์ไลน์ แต่ต้องมีวินัยป้องกันตนเองให้ดี
ศ.นพ.ยง ภู่วรวรรณ หัวหน้าศูนย์เชี่ยวชาญเฉพาะทางด้านไวรัสวิทยาคลินิก ภาควิชากุมารเวชศาสตร์ คณะแพทยศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย กล่าวว่า ขณะนี้ประเทศไทยมีการฉีดวัคซีนยังไม่ถึง 13 ล้านโดส (28 ก.พ.-12 ก.ค.64)สาเหตุที่ไม่ถึงเป้าหมายของการมีปริมาณวัคซีนที่จำกัด ดังนั้น จึงจำเป็นต้องปรับรูปแบบการบริหารวัคซีนให้เกิดประโยชน์สูงสุด พร้อมชี้แจงว่าวัคซีนที่ใช้กันทุกยี่ห้อทั่วโลก มีต้นแบบและพัฒนามาจากไวรัสอู่ฮั่น ซึ่งได้มีการผลิตเป็นวัคซีนใช้มากกว่า 1 ปีแล้ว ประสิทธิภาพเริ่มลดลง ซึ่งต้องยอมรับว่าเพราะไวรัสมีการเปลี่ยนแปลงกลายพันธุ์เพื่อความอยู่รอด ทั้งแพร่เร็วและ หลบหนีภูมิต้านทาน ซึ่งบริษัทที่ผลิตวัคซีนมาก่อน ทุกยี่ห้อก็กำลังเผชิญกับปัญหานี้ และกำลังเร่งพัฒนาวัคซีนชุดใหม่ วัคซีนที่ผลิตจากเชื้อตาย (ซิโนแวค ซิโนฟาร์ม) ถือว่ามีความปลอดภัยมากที่สุด เป็นวัคซีนโบราณที่คุ้นเคยกันมา 50 ปี กระตุ้นได้สูงเท่าคนเคยป่วย ในไวรัสอู่ฮั่นแต่เนื่องจากเป็นการพัฒนาในไวรัสแต่ปัจจุบันไวรัสมีการกลายพันธุ์ ส่วนไวรัสเวกเตอร์ (แอสตราฯ) เป็นการตัดแต่งดีเอ็นเอของไวรัส และนำเอาส่วนที่ไม่มีฤทธิ์ และเป็นหมัน มาพัฒนาเป็นวัคซีน ทำให้ก่อความรุนแรง แพร่โรคไม่ได้ กระตุ้นให้ร่างกายสร้างภูมิต้านทาน
ศ.นพ.ยง กล่าวว่า เมื่อรู้แล้วว่าประสิทธิภาพของวัคซีนลดลงทุกตัว ไวรัสมีการกลายพันธุ์ เป็นอัลฟา เดลตา เบตา ดังนั้นจึงต้องการวัคซีนที่มีการกระตุ้นภูมิคุ้มกันที่สูงจึงจะสามารถแก้ไขการกลายพันธุ์ของเชื้อไวรัสได้ ดังนั้นในทางปฏิบัติต้องพิจารณา หาก ถ้าฉีดแอสตราฯ 2 เข็ม ห่าง 10 สัปดาห์ จึงจะสร้างภูมิคุ้มกันได้ แต่เดิมคิดว่า เพียงแอสตราฯ 1 เข็ม สามารถป้องกันไวรัสเดลตาได้ แต่ความจริงไม่ใช่ แต่หากรอครบ 2 เข็มจึงจะป้องกันได้ แต่ก็ต้องรอนานถึง 10 สัปดาห์ ดังนั้น เพื่อให้เกิดภูมิคุ้มกันเร็วที่สุด ในขณะที่ไวรัสมีการเปลี่ยนแปลงไปมา หากฉีดซิโนแวค 2 เข็ม อาจสร้างภูมิคุ้มกันไม่พอที่จะต่อสู้กับเดลตา และหากจะรอให้ฉีดแอสตราฯ 2เข็ม เพื่อให้ภูมิคุ้มกันขึ้นก็อาจช้าไป ดังนั้นจึงมีพิจารณาสลับเข็มในการรับวัคซีนเพื่อกระตุ้นภูมิคุ้มกันให้เร็วในระยะเวลาอันสั้น โดยให้ควรฉีดซิโนแวค (เชื้อตาย) ก่อนเป็นเข็มที่ 1 เปรียบได้กับการทำให้ร่างกายติดเชื้อ สอนหน่วยความจำของร่างกายเอาไว้ จากนั้นเข็มที่ 2 จึงค่อยฉีดแอสตราฯ (ไวรัสเวกเตอร์) เปรียบได้กับการกระตุ้นให้เซลล์ของร่างกายสร้างภูมิ โดยพบว่าภูมิคุ้มสูงขึ้นเร็ว ภายใน 6 สัปดาห์ แม้จะไม่เท่ารับ แอสตรา 2 เข็ม
ศ.นพ.ยง กล่าวว่า เปรียบเทียบการรับวัคซีนสร้างภูมิคุ้มกัน ในแอสตราฯ 2เข็ม ภูมิต้านทานประมาณ 900 ยูนิต แต่หากรับซิโนแวค ตามด้วยแอสตราฯ ภูมิต้านทานได้เกือบ 800 ยูนิต และเมื่อเปรียบกับซิโนแวค 2 เข็มอยู่ที่ 100 ยูนิต ส่วนการติดเชื้อในธรรมชาติ 70-80 ยูนิต ดังนั้นในสถานการณ์การระบาดของโรคที่มีการกลายพันธุ์ ทำให้ไม่สามารถระยะห่างการรับวัคซีนในแต่ละเข็ม และรอการสร้างภูมิคุ้มกัน ในแอสตราฯ 2เข็ม ที่ต้องเวลาเกือบ 12 สัปดาห์ ดังนั้นจึงเห็นควรให้มีการฉีดวัคซีนสลับชนิด เพื่อสร้างภูมิคุ้มในระยะเวลาอันสั้น พร้อมยืนยันการฉีดวัคซีนสลับชนิดมีความปลอดภัยแน่ หลังมีการฉีดสลับในไทยมากถึง 1,200 คน และมีการลงทะเบียนผ่านหมอพร้อม ไม่พบอาการข้างเคียง พร้อมย้ำว่าไวรัสโควิดสายพันธุ์เดลตามีการแพร่เชื้อได้เร็วและง่าย ไม่จำเป็นต้องถามหาไทม์ไลน์อีกต่อไป เพราะหายาก ติดง่าย แต่ต้องป้องกันตนเอง มีวินัยตนเองที่ดี ทั้งการสวมหน้ากาก ระยะห่าง สุขอนามัยต้อง 100% .-สำนักข่าวไทย