กรุงเทพฯ 8 เม.ย. – หลังดีเอสไอรับคดีตึก สตง.ถล่ม เป็นคดีพิเศษ วันนี้ (8 เม.ย.) กรรมการคดีพิเศษได้ลงพื้นที่สังเกตการณ์และหารือแรงงานที่เกี่ยวข้องกับพยานหลักฐาน เพื่อใช้ในคดีกับผู้ที่เข้าข่ายกระทำความผิด ขณะที่ กทม. ยืนยันใช้แผนเดิมในการรื้อถอนอาคาร โดยวันนี้จะพยายามตัดยอดส่วนบนให้ได้ 5 เมตร เพื่อหาร่างผู้ติดอยู่ในโซน B และ C
พ.ต.ต.วรณัน ศรีล้ำ ผู้อำนวยการกองคดีคุ้มครองผู้บริโภค กรมสอบสวนคดีพิเศษ หรือดีเอสไอ ลงพื้นที่อาคาร สตง.ถล่ม ย่านจตุจักร เพื่อตรวจสอบประเด็นที่อาจเกี่ยวข้องกับความผิดตาม พ.ร.บ.การประกอบธุรกิจของคนต่างด้าว พ.ศ. 2542, ความผิดตาม พ.ร.บ.ว่าด้วยมาตรฐานผลิตภัณฑ์อุตสาหกรรม พ.ศ. 2511 และ พ.ร.บ.ว่าด้วยความผิดเกี่ยวกับการเสนอราคาต่อหน่วยงานของรัฐ พ.ศ. 2542
ภายหลังเฝ้าสังเกตการณ์อยู่ระยะหนึ่ง พ.ต.ต.วรณัน เปิดเผยว่า วันนี้ได้มีการเชิญเจ้าหน้าที่ 3 หน่วยงาน มาหารือ ได้แก่ สถาบันนิติวิทยาศาสตร์, กรมโยธาธิการและผังเมือง และสำนักงานมาตรฐานผลิตภัณฑ์อุตสาหกรรม เพื่อตรวจดูหลักฐานไปพร้อมๆ ในคราวเดียว โดยพุ่งเป้าไปที่หลักๆ ใน 3 ประเด็น คือ เกี่ยวกับนอมินีถือหุ้น การแข่งขันราคาที่ไม่เป็นธรรม และคุณภาพวัสดุอุปกรณ์ก่อสร้างอาคาร เป็นไปตามมาตรฐานอุตสาหกรรม หรือไม่
โดยกรมสอบสวนคดีพิเศษจะพิจารณาในประเด็น ที่ว่าบริษัทผู้รับเหมาก่อสร้างอาคาร สตง. เข้าข่ายความผิดตามพระราชบัญญัติการประกอบธุรกิจของคนต่างด้าว และกฎหมายเกี่ยวกับการเสนอราคาหรือไม่ ส่วนประเด็นอื่นๆ ที่เกี่ยวข้องจะรับไว้พิจารณาควบคู่กันไป
จากนั้นจะประสาน กทม. ว่าประสงค์อะไร และต้องการความร่วมมืออะไร จากดีเอสไอ โดยจะใช้เวลาให้น้อยที่สุดและทำงานให้ตรงประเด็นที่สุด
เมื่อ 10.30 น. วันนี้ เจ้าหน้าที่นำรถแบ็กโฮชนิดหัวเจาะ เข้าทำการเจาะแท่งปูนขนาดใหญ่บนยอดกองซากตึก สตง. พร้อมกับพร้อมกับฉีดน้ำเพื่อลดฝุ่นละอองฟุ้งกระจาย

รองศาสตราจารย์ ทวิดา กมลเวช รองผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร อธิบายว่า การใช้รถแบ็กโฮหัวเจาะขึ้นไปก็เพื่อเจาะแท่นปูนขนาดใหญ่ เพื่อตัดเหล็กเส้น มีเป้าหมายเพื่อจัดการกับยอดด้านบนประมาณ 5 เมตร เนื่องจากจุดเป้าหมายพบร่างอยู่ที่โซน B และโซน C จำนวนมาก เนื่องจากช่วงเกิดเหตุมีคนงานทำงานอยู่ที่ชั้น 20-30 เป็นส่วนมาก จึงพยายามเข้าพื้นที่นี้ให้ได้
ส่วนโซน A และไม่มีบันได แต่ผ่านมากว่า 10 วัน ตรวจสอบแล้วจะเป็นการย่อยและทำฐานให้แน่น เพราะช่วงที่อาคารล้มโอนไปทาง B และ C
ส่วนภารกิจค้นหาร่างคนงานใต้ซากอาคาร เดินหน้าทำกันทุกๆ นาที โดยคืนที่ผ่านมาต่อเนื่องเช้าวันนี้ สามารถนำร่างคนงานที่ติดอยู่ออกมาได้เพิ่ม 4 ราย ในพื้นที่บริเวณโซน B จำนวนผู้เสียชีวิตจากอาคาร สตง.ถล่ม เพิ่มขึ้นเป็น 21 คนแล้ว และยังมีสูญหายอีก 73 คน
ในช่วงเช้าญาติของคนงานที่ติดใต้ซากอาคาร ได้นำธูป 1 ดอก มาจุดบอกกล่าวเจ้าหน้าที่เจ้าทางและสิ่งศักดิ์สิทธิ์ เพื่อขอให้เปิดทางให้พบร่างของคนงานที่ติดอยู่ใต้ซากอาคาร ด้วยความโศกเศร้า เนื่องจากเป็นเวลาย่างเข้าสู่วันที่ 12 วันแล้วที่ญาติของแรงงานกลุ่มนี้เฝ้าติดตามความเคลื่อนไหวของเจ้าหน้าที่ในการค้นหาร่างของผู้ที่ติดใต้ซากอาคาร .-สำนักข่าวไทย