กรุงเทพฯ 26 ก.ค. – กระทรวงสาธารณสุข ย้ำฉีดวัคซีนสลับชนิดให้ภูมิต้านทานสูง มีงานวิจัยรองรับ ขอให้ประชาชนออกมารับวัคซีนตามนัด เพื่อสร้างภูมิคุ้มกันหมู่ ลดติดเชื้อเสียชีวิตจากโควิด-19
นายแพทย์รุ่งเรือง กิจผาติ โฆษกกระทรวงสาธารณสุข เปิดเผยว่า ด้วยสถานการณ์การระบาดโควิด-19 พบการติดเชื้อสายพันธุ์เดลตาเพิ่มสูงขึ้น คณะกรรมการโรคติดต่อแห่งชาติจึงเห็นชอบฉีดวัคซีนโควิด-19 แบบสลับชนิด เพื่อเกิดประโยชน์กับประชาชนมากที่สุดในสถานการณ์ขณะนี้ การฉีดเข็มที่ 1 เป็นซิโนแวค และเข็มที่ 2 แอสตราเซเนกา จะกระตุ้นระดับภูมิคุ้มกันให้สูงและเร็วขึ้น เพียงพอป้องกันการติดเชื้อ เจ็บป่วยรุนแรง และเสียชีวิต สามารถควบคุมโรคเป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพและทันต่อสถานการณ์ของโรค ซึ่งจากการให้ซิโนแวคก่อน จากนั้น 3-4 สัปดาห์ กระตุ้นด้วยแอสตราเซนากา ผลปรากฏว่ากระตุ้นภูมิต้านทานสูงขึ้นในเวลาระยะเวลาอันรวดเร็ว
โฆษกกระทรวงสาธารณสุข ย้ำอีกว่า การฉีดวัคซีนสลับเข็มมีข้อมูลวิชาการและผลการศึกษาวิจัยรองรับ เพื่อให้ประชาชนมีภูมิคุ้มกันเร็วที่สุดและเหมาะที่สุด ในขณะที่ไวรัสมีการเปลี่ยนแปลงพันธุกรรมไปมาก หากยังคงให้วัคซีนในลักษณะเดิมจะทำให้เสียเวลาในการสร้างภูมิ ที่สำคัญสามารถบริหารจัดการวัคซีนให้เพียงพอกับประชาชนและประสิทธิผลควบคุมโรคจะสูงมาก ชี้ข้อมูลจากโซเชียลอาจมีข้อมูลเท็จ บิดเบือน ขอให้เชื่อมั่นผู้ทรงคุณวุฒิที่ให้ข้อมูลด้านวิชาการต่างๆ ถึงความจำเป็นที่ต้องใช้วัคซีนสลับชนิด.-สำนักข่าวไทย