พบสัญญาณดี กำจัดสารเคมีโรงงานหมิงตี้

สมุทรปราการ 8 ก.ค. – อ.บางพลี จ.สมุทรปราการ เตรียมตั้งจุดรับคำร้องจากชาวบ้านที่ได้รับผลกระทบจากเหตุเพลิงไหม้โรงงานโฟมซอยกิ่งแก้ว ขณะที่สถานการณ์ในภาพรวมพบสัญญาณดี หลังเจ้าหน้าที่นำสารเคมีชนิดหนึ่งเข้าไปลดอุณหภูมิในถังเก็บสารเคมี


เวลาประมาณ 07.30 น. เจ้าหน้าที่ชุดเข้าตรวจสอบและเก็บกู้สารเคมีไวไฟได้รับสัญญาณที่ดี หลังเมื่อคืนเจ้าหน้าที่ลงมือควบคุมสถานการณ์อย่างเต็มที่ และหยุดภารกิจประมาณเที่ยงคืน ด้วยการลำเลียงสารเคมี DEHA เข้าไปในถังบรรจุสารเคมีไวไฟที่อยู่ในถังเก็บขนาดใหญ่ เพื่อให้สารเคมีไวไฟนั้นกลายเป็นสภาพเป็นของเหลวธรรมดาที่ไม่ติดไฟ และเตรียมขนย้ายออกไปกำจัด

เจ้าหน้าที่ผู้คุมการปฏิบัติงานเปิดเผยว่า อุณหภูมิของสารเคมีภายในถังที่เฝ้าระวังอยู่ ต่ำกว่าที่คาดการณ์ไว้ คาดว่าน่าจะเคลียร์พื้นที่ได้ตามแผนที่วางไว้ แต่อาจมีอุปสรรคเล็กน้อย คือ การลำเลียงสาร DEHA เพราะทางเดินมีซากปรักหักพังกีดขวางอยู่


สำหรับภารกิจเมื่อคืนที่ผ่านมา ขณะเจ้าหน้าที่ลำเลียงสาร DEHA เข้าไปในพื้นที่ ปรากฏว่ามีผู้ได้รับผลกระทบในระบบทางเดินหายใจ 2 คน เจ้าหน้าที่ได้นำตัวส่งโรงพยาบาล ล่าสุดอาการปลอดภัย

เตรียมตั้งจุดรับคำร้องชาวบ้านที่เดือดร้อน
ส่วนที่ศูนย์บัญชาการเหตุการณ์ จ.สมุทรปราการ นายอำเภอบางพลี พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่ ปภ. และ อบต.บางพลี ร่วมกันหารือแนวทางการช่วยเหลือชาวบ้านที่ได้รับผลกระทบ เบื้องต้นอยู่ระหว่างหารือ โดยมีรายงานว่าจะตั้งจุดรับคำร้องจากชาวบ้านที่ได้รับความเดือดร้อน


สำหรับยอดผู้เสียหายที่เข้าแจ้งความที่ สภ.บางแก้ว ตั้งแต่วันที่ 5 -7 กรกฎาคม พบว่ามีมากถึง 570 ราย มูลค่าความเสียหายรวม 251 ล้านบาท ส่วนชาวบ้านที่อาศัยตั้งแต่ซอยกิ่งแก้ว 19-25 ในรัศมี 1 กิโลเมตร ยังไม่ได้รับอนุญาตให้เข้าพื้นที่


ส่วนที่โรงพยาบาลจุฬารัตน์ 9 แอร์พอร์ต ซึ่งมีการย้ายผู้ป่วยตั้งแต่วันเกิดเหตุ ล่าสุดเตรียมพร้อมสถานที่ด้วยการฉีดพ่นยาฆ่าเชื้อทั่วโรงพยาบาล พร้อมทำความสะอาดจุดต่างๆ โดยเริ่มให้บุคลากรทางการแพทย์บางส่วนเข้ามาเตรียมพร้อมให้บริการในแผนก, ศูนย์แพทย์เฉพาะทาง และคลินิกต่างๆ ในโรงพยาบาล หลังจากนี้หากพร้อมให้บริการตามปกติจะทำการแจ้งอีกครั้ง

วสท.เข้าตรวจบ้านที่เสียหายจากเหตุเพลิงไหม้โรงงาน
เจ้าหน้าที่ระดมวิศวกรอาสาปูพรมตรวจบ้านที่ได้รับผลกระทบจากเหตุโรงงานระเบิด เพื่อสร้างความปลอดภัย ก่อนประชาชนย้ายกลับเข้าอยู่อาศัย

นายธเนศ วีระศิริ นายกวิศวกรรมสถานแห่งประเทศไทย ในพระบรมราชูปถัมภ์ นำวิศวกรอาสา 25 คน ลงพื้นที่สำรวจความเสียหายบ้านเรือนประชาชนที่ได้รับผลกระทบจากเหตุเพลิงไหม้โรงงานหมิงตี้ เคมีคอล ในรัศมี 1 กิโลเมตร จากจุดเกิดเหตุ เพื่อจัดโซนนิ่งความปลอดภัย หลังจังหวัดสมุทรปราการ อนุญาตให้ประชาชนบางส่วนสามารถกลับเข้าอยู่อาศัยได้

ส่วนใหญ่พบว่าบ้านเสียหายจากแรงระเบิด จึงต้องได้รับการประเมินความปลอดภัยก่อนที่จะเข้าไปอยู่อาศัย ซึ่งวิศวกรอาสาจะประเมินความเสียหายทางกายภาพ 4 ข้อ ทั้งรอยแตกร้าวหรือความเอียง ตำแหน่งรอยร้าวของเสาและรอยร้าวแนวนอน รอยร้าวบริเวณคอเสาและคาน และเสียงลั่น รวมถึงการตกร่วงของคอนกรีต

ด้านเจ้าของบ้านคนหนึ่งให้ข้อมูลว่า บ้านตั้งอยู่ห่างจากจุดเกิดเหตุ 1.8 กิโลเมตร รับรู้ถึงแรงระเบิดและต้องอพยพออกมา โดยเพิ่งกลับมาสำรวจบ้านเมื่อวาน และพบว่าเสียหายหลายจุด ทั้งฝ้าหน้าบ้านบริเวณโรงจอดรถ และตัวบ้านโดยมีรอยร้าวหลายจุด ทำให้กังวลเรื่องความปลอดภัย เพราะไม่ทราบว่าแรงระเบิดกระทบถึงโครงสร้างหรือไม่

ด้านนายอรรถพล เจริญชันษา อธิบดีกรมควบคุมมลพิษ เข้าตรวจสอบบริเวณโรงงานหมิงตี้ เคมีคอล จำกัด หลังช่วงเย็นวานนี้เจ้าหน้าที่ได้ฉีดพ่นสารออร์แกนิกเปอร์ออกไซด์ เพื่อให้สารสไตรีน โมโนเมอร์ มีสภาพหนืดและติดไฟยากขึ้น ซึ่งเจ้าหน้าที่กรมควบคุมมลพิษจะตรวจสอบทั่วพื้นที่ เพื่อให้แน่ใจว่าสารสไตรีน ทั้งที่อยู่ในถังเก็บและที่หลุดรอดออกมาถูกฉีดพ่นด้วยสารออร์แกนิกเปอร์ออกไซด์อย่างทั่วถึง เพื่อไม่ให้เกิดไฟปะทุขึ้นมาซ้ำอีก จากนั้นจึงจะพิจารณาวิธีการจัดเก็บหรือเคลื่อนย้าย

สำหรับการตรวจวัดคุณภาพอากาศเป็นวันที่ 3 พบว่าเป็นปกติแล้ว แต่ยังเฝ้าระวังรัศมี 1 กิโลเมตรแรก พร้อมตรวจวัดคุณภาพอากาศและน้ำอย่างต่อเนื่อง

ด้านนายนายวราวุธ ศิลปอาชา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม กล่าวถึงความคืบหน้าการควบคุมสารเคมีอันตรายในโรงงานหมิงตี้ เคมิคอลว่า พรุ่งนี้ (9 ก.ค.) จะทราบผลสารตัวอย่างที่ส่งไปห้องตรวจทั้งสารสไตรีน โมโนเมอร์, บีโอซี รวมไปถึงคราบน้ำมันว่ามีมากน้อยเพียงใด ส่วนมาตรการควบคุมการระบายน้ำพื้นที่โรงงาน ล่าสุดกรมชลประทานได้ปิดประตูระบายน้ำฝั่งตะวันตกเรียบร้อย ขณะเดียวกันองค์กรท้องถิ่นได้ปิดประตูระบายน้ำฝั่งตะวันออก เพื่อคุมไม่ให้สารปนเปื้อนลงไปในแหล่งน้ำธรรมชาติ

อย่างไรก็ตาม สารสไตรีน เป็นสารที่มีความหน่วงเฉพาะน้อยกว่าน้ำ ดังนั้นจะลอยอยู่เหนือน้ำและไม่ผสมกัน รวมถึงเป็นสารที่มีจุดเดือดต่ำ ดังนั้นโอกาสระเหยไปในอากาศจึงมีสูง หากตกค้างในท่อระบายน้ำ คาดว่าภายใน 24-48 ชั่วโมง จะระเหยไป ส่วนค่าสารประกอบอินทรีย์ระเหยง่ายก็จะทราบพร้อมกับผลการตรวจดังกล่าวเช่นกัน คาดว่าน่าจะอยู่ในปริมาณที่ปลอดภัย. – สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

ทหารทำร้าย

ทบ.ตั้ง กก.สอบปมกรมยุทธศึกษาทหารบก ทำร้ายผู้ใต้บังคับบัญชา

“ธนเดช” เผย กมธ.ทหาร รับเรื่องร้องเรียนเจ้ากรมยุทธศึกษาทหารบก ทำร้ายร่างกายผู้ใต้บังคับบัญชา ขณะ ทบ. ตั้งกรรมการสอบแล้ว หวังเป็นตัวอย่างการลงโทษผู้บังคับบัญชาระดับสูงหากพบผิดจริง

“บิ๊กแจ๊ส” ลั่นพร้อมดูแลสนามกอล์ฟธูปะเตมีย์ ให้เป็นปอดประชาชน

“บิ๊กแจ๊ส” ลั่นหากได้รับถ่ายโอน อบจ.ปทุมฯ พร้อมจัดงบดูแลสนามกอล์ฟธูปะเตมีย์ ให้เป็นปอดประชาชน หลังขาดพื้นที่ออกกำลังกาย แต่จะกระทบความมั่นคงหรือไม่เป็นเรื่องละเอียดอ่อนต้องคุยกันต่อ

ข่าวแนะนำ

ประหารชีวิตแอมไซยาไนด์

ศาลอาญาพิพากษาประหารชีวิต “แอม ไซยาไนด์”

ศาลอาญาพิพากษาประหารชีวิต “แอม ไซยาไนด์” ส่วนอดีตสามี คุก 1 ปี 4 เดือน “ทนายพัช” คุก 2 ปี ไม่รอลงอาญา ชดใช้ ให้ผู้เสียหายกว่า 2 ล้านบาท

ยิ่งลักษณ์ขอกลับไทย

“มาริษ” แจง “ยิ่งลักษณ์” ไม่ได้ประสาน กต. ขอกลับไทย

“มาริษ” รมว.ต่างประเทศ เผยยังอยู่ระหว่างพิจารณาบุคคลเป็นคณะกรรมการ JTC ย้ำจะทำให้เร็วที่สุด แจง “ยิ่งลักษณ์” ไม่ได้ประสาน กต. ขอกลับไทย ไม่รู้ “ทักษิณ” ถือกี่สัญชาติ

ตั้งตั้งนายพลสีกากี

จับตา! วันนี้ นายกฯ ประชุม ก.ตร.แต่งตั้งนายพลสีกากี

จับตาวันนี้ (20 พ.ย.) นายกรัฐมนตรีนั่งหัวโต๊ะประชุม ก.ตร. วาระแต่งตั้ง “นายพลสีกากี” ระดับ “รอง ผบ.ตร.-ผู้ช่วย ผบ.ตร.-ผู้บัญชาการ” รวม 25 ตำแหน่ง

ประเทศปลอดภัย

ไอซ์แลนด์เป็นประเทศปลอดภัยสุดสำหรับนักท่องเที่ยว

ไอซ์แลนด์ได้รับการจัดอันดับให้เป็นประเทศที่ปลอดภัยที่สุดสำหรับนักท่องเที่ยวในการเดินทางไปท่องเที่ยวในปีหน้า 2025