สมุทรปราการ 9 ก.ค. – เสียงสะท้อนจากชาวกิ่งแก้ว หลังกระทรวงอุตสาหกรรมสั่งปิดโรงงานหมิงตี้ฯ และให้ย้ายออกจากชุมชน ขณะที่หลายคนวอนหน่วยงานที่เกี่ยวข้องทบทวนมาตรการความปลอดภัยกิจการโรงงาน
เหตุระเบิดถังเก็บสารเคมี สไตรีนโมโนเมอร์ ของบริษัท หมิงตี้เคมีคอล 1 ใน 2 ผู้ผลิตเม็ดโฟมรายใหญ่ของประเทศ ภายในซอยกิ่งแก้ว 21 อ.บางพลี จ.สมุทรปราการ สะท้อนให้เห็นถึงสถานที่ตั้งของโรงงานและความปลอดภัย เมื่อโรงงานกลายเป็นศูนย์กลางของชุมชน นำมาสู่การตั้งคำถามถึงการจัดผังเมืองว่า เหตุใดจึงเกิดชุมชนรายล้อมโรงงานอุตสาหกรรมแห่งนี้ วันนี้ยังคงปิดพื้นที่โดยรอบไม่ให้ผู้ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องเข้า-ออก และกระทรวงอุตสาหกรรม ได้สั่งปิดโรงงานดังกล่าวและให้ย้ายออกจากพื้นที่
หญิงรายนี้เป็นผู้บาดเจ็บจากเหตุโรงงานหมิงตี้ฯ ระเบิด เธอเล่าว่า วันเกิดเหตุนอนอยู่บนห้องชั้น 2 เสียงระเบิดดังบึ้ม ก่อนกระจก กระเบื้อง จะหล่นใส่แขนขวาและขาทั้ง 2 ข้าง ได้รับบาดเจ็บ เธอบอกว่า โรงงานเป็นเหมือนหม้อข้าวที่หล่อเลี้ยงชีวิตและครอบครัว อยู่ที่นี่มานานแล้ว ไม่อยากให้ย้ายออกไป
ขณะที่ชาวบ้านโดยรอบโรงงานในรัศมี 300-500 เมตร เกือบ 80% เห็นด้วยกับการสั่งให้โรงงานย้ายออกจากพื้นที่ หวั่นจะเกิดเหตุซ้ำ ที่ผ่านมารู้แค่ว่ามีโรงงาน แต่ไม่รู้ว่าเป็นโรงงานสารเคมี อย่างลุงรายนี้อยู่ที่นี่มานานเกือบ 60 ปี ยืนยันจะอยู่ที่นี่ต่อไป ไม่คิดย้ายออก เพราะอยู่มาก่อนก่อตั้งโรงงาน
ความสูญเสียที่เกิดขึ้น สร้างความไม่มั่นใจให้กับประชาชน แม้ว่าจะมีการสั่งปิดและให้โรงงานย้ายออกนอกพื้นที่ แต่ชาวบ้านยังต้องการให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องทบทวนมาตรการความปลอดภัยของการประกอบกิจการโรงงาน โดยเฉพาะโรงงานที่ใช้สารเคมีอันตรายที่อยู่ใกล้ชุมชน
ด้านนายก อบต.บางพลีใหญ่ ยินดีจะให้ย้ายโรงงานออกนอกพื้นที่ เพื่อความสบายใจของชาวบ้าน ส่วนจะกระทบต่อรายได้หรือไม่นั้น นายก อบต. ยันเสียงแข็งไม่กระทบแน่นอน
จากการตรวจสอบข้อมูลของ อบต.บางพลีใหญ่ พบว่า ประชากรส่วนใหญ่ประกอบอาชีพในโรงงานอุตสาหกรรม ซึ่ง อบต.บางพลีใหญ่ มีโรงงานอุตสาหกรรมมากถึง 539 แห่ง หนึ่งในนั้นคือ โรงงานหมิงตี้เคมีคอล ต้องจับตาว่า เหตุระเบิดครั้งนี้จะนำไปสู่การตรวจสอบสถานที่ตั้งของกิจการโรงงานอื่นหรือไม่. – สำนักข่าวไทย