สธ.ยันเดินหน้าจ่ายค่าตอบแทนเป็นกำลังใจให้ อสม.19 เดือน

กรุงเทพฯ 27ก.ค.- กระทรวงสาธารณสุข ยืนยัน พร้อมผลักดันให้อาสาสมัครสาธารณสุขประจำหมู่บ้านทั่วไทย ได้รับค่าตอบแทน 500 บาทต่อคน เต็มระยะเวลา 19 เดือน เพื่อเป็นกำลังใจและสมกับความทุ่มเท เสียสละ ในการขจัดโรคโควิด-19 ให้หมดจากไทย


นพ.สุขุม กาญจนพิมาย ปลัดสธ.

นายแพทย์สุขุม กาญจนพิมาย ปลัดกระทรวงสาธารณสุข กล่าวว่า การที่ประเทศไทยสามารถควบคุมการระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 หรือโรคโควิด-19 ได้เป็นอย่างดีจนเป็นที่ยอมรับในระดับโลกนั้น นอกจากได้รับความร่วมมือจากประชาชนชาวไทยเป็นอย่างดี อาทิ การสวมหน้ากากอนามัย เว้นระยะห่างทางสังคม และปฏิบัติตามคำแนะนำของภาครัฐอย่างเคร่งครัดแล้วนั้น ยังได้รับความร่วมมือจากขุมพลังสำคัญคืออาสาสมัครสาธารณสุขประจำหมู่บ้าน (อสม.) ทั่วประเทศ ที่ร่วมทำหน้าที่ขับเคลื่อนระบบเฝ้าระวัง ป้องกันการแพร่ระบาดของโรคอย่างเข้มแข็ง ทั้งการลงพื้นที่ให้คำแนะนำ เยี่ยมเยียนพี่น้องในชุมชน และติดตามผู้มีความเสี่ยงให้เข้าสู่กระบวนการสอบสวนโรค หรือกักตัว ซึ่งเป็นการทำงานที่มีความเสี่ยงสูง ทำให้พี่น้อง อสม.หลายคนต้องเจ็บป่วย หรือแม้กระทั่งเสียชีวิตระหว่างการปฏิบัติงาน ดังนั้นการสร้างเสริมขวัญกำลังใจของพี่น้อง อสม. จึงเป็นสิ่งที่ภาครัฐพึงให้ความสำคัญเป็นอย่างยิ่ง เพราะพลัง อสม.มีส่วนในขับเคลื่อนระบบสาธารณสุขไทยให้สามารถผ่านวิกฤตโรคโควิด-19 ได้

นพ.ธเรศ กรัษนัยรวิวงค์ อธิบดีกรมสนับสนุนบริการสุขภาพ

ด้านนายแพทย์ธเรศ กรัษนัยรวิวงค์ อธิบดีกรมสนับสนุนบริการสุขภาพ (กรม สบส.) กล่าวว่า ตั้งแต่เกิดการระบาดของโรคโควิด-19 อสม.ได้มีส่วนสำคัญในการป้องกัน ควบคุมโรคอย่างเข้มแข็ง จนมีผลงานเป็นที่ประจักษ์ โดยมีการเคาะประตูบ้านให้ความรู้แก่ประชาชน แนะนำและเป็นตัวอย่างในการปฏิบัติตามมาตรการป้องกัน ควบคุมโรค ภายใต้วิถีชีวิตใหม่ (New Normal) สร้างความตระหนักไม่ให้ชุมชนการ์ดตก อีกทั้งรับหน้าที่เป็นด่านหน้าในการค้นหา คัดกรองประชากรกลุ่มเสี่ยงกว่า 14 ล้านครัวเรือน และติดตามกลุ่มผู้ที่มีความเสี่ยงมากกว่า 1 ล้านคน ซึ่งเป็นการทำงานที่มีความเสี่ยงสูง ต้องทุ่มเท เสียสละทั้งเวลา และค่าใช้จ่ายของ อสม. ทั้งที่ตัวของ อสม.เองก็เป็นกลุ่มบุคคลที่ได้รับผลกระทบในด้านเศรษฐกิจและสังคมจากการระบาดของโรคโควิด-19 เฉกเช่นเดียวกับประชาชนทั่วไป


ดังนั้น เพื่อเป็นการตอบแทนและให้กำลังใจต่อความทุ่มเท เสียสละ ตรากตรำทำงานอย่างหนักของ พี่น้อง อสม. กระทรวงสาธารณสุขเห็นควรให้ อสม. ได้รับค่าตอบแทน เยียวยา ชดเชย และเสี่ยงภัยในการป้องกันโรคโควิด-19 จำนวน 500 บาท เป็นระยะเวลา 19 เดือน (มีนาคม 2563-กันยายน 2564) ตามระยะเวลาพระราชกำหนดเงินกู้ ถึงแม้ว่าสถานการณ์ของโรคโควิด-19 จะดีขึ้น แต่ อสม. ยังคงปฏิบัติหน้าที่ดูแลประชาชนต่อไปอย่างเข้มข้น ทั้งการเฝ้าระวัง ป้องกัน ควบคุมโรค และการดูแลพัฒนาคุณภาพชีวิตด้านต่างๆ ของประชาชนอันเกิดจากผลกระทบของโรคโควิด-19 โดยเฉพาะการฟื้นฟูเยียวยาด้านจิตใจแก่คนในชุมชน.-สำนักข่าวไทย


ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

ประหารชีวิตแอมไซยาไนด์

ศาลอาญาพิพากษาประหารชีวิต “แอม ไซยาไนด์”

ศาลอาญาพิพากษาประหารชีวิต “แอม ไซยาไนด์” ส่วนอดีตสามี คุก 1 ปี 4 เดือน “ทนายพัช” คุก 2 ปี ไม่รอลงอาญา ชดใช้ ให้ผู้เสียหายกว่า 2 ล้านบาท

นายกฯ ถกตั้งนายพลตำรวจ 41 ตำแหน่ง ยันไม่มีการเมืองแทรก

นายกฯ ถกแต่งตั้งนายพลตำรวจ 41 ตำแหน่ง ยันไม่มีการเมืองแทรก ยึดตาม พ.ร.บ.ตำรวจ ฉบับใหม่ พลิกโผ ‘สยาม บุญสม’ ผงาดคุมนครบาล ‘สันติ ชัยนิรามัย’ นั่ง ผบช.ปส. ‘ไตรรงค์ ผิวพรรณ’ โยกคุมไซเบอร์ ‘ภาณุมาศ บุญญลักษม์’ ขึ้นเป็น ผบช.สตม.

ดีเอสไอพบเส้นเงินโอนจากแม่ถึงนักการเมือง ส. เกือบ 100 ล้าน

ดีเอสไอพบเส้นเงินโอนจากแม่ถึงนักการเมือง ส. เกือบ 100 ล้านบาท จำนวนนี้พบโอนจาก “บอสพอล-บอสปีเตอร์” ด้วย เร่งขยายผลมีบอสรายอื่นโอนเข้าบัญชีดังกล่าวอีกหรือไม่

ข่าวแนะนำ

อุตุฯ เผยเหนือ-อีสาน อากาศเย็นในตอนเช้า ภาคใต้ฝนตกหนักบางแห่ง

กรมอุตุฯ เผยภาคเหนือ ภาคอีสาน มีอากาศเย็นในตอนเช้า ขอให้ประชาชนบริเวณประเทศไทยตอนบนดูแลรักษาสุขภาพเนื่องจากสภาวะอากาศที่เปลี่ยนแปลง ส่วนภาคใต้ มีฝนตกหนักถึงหนักมากบางแห่ง

“เอวา” เสือโคร่งสายแบ๊ว ดาวรุ่งดวงใหม่

หน้าตาที่น่ารักบ้องแบ๊วเหมือนแมวตัวโต ตกหัวใจคนรักสัตว์กันไปเต็มๆ สำหรับน้องเอวา เสือโคร่งสายแบ๊วของเชียงใหม่ไนท์ซาฟารี นอกจากหน้าตาน่ารักแล้วยังมีความสามารถหลายอย่าง จนกลายเป็นดาวรุ่งดวงใหม่ ที่ผู้คนแห่ไปชมความน่ารักกันอย่างคึกคัก คาดจะช่วยดึงนักท่องเที่ยวไปที่เชียงใหม่ไนท์ซาฟารีเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ

ต้อนรับอบอุ่น “โอปอล” รองอันดับ 3 มิสยูนิเวิร์ส 2024 ถึงไทย

กลับถึงไทยแล้ว “โอปอล สุชาตา” รองอันดับ 3 มิสยูนิเวิร์ส 2024 ปรากฏตัวในชุดไทย สวยสง่า แฟนนางงามต้อนรับอย่างอบอุ่น

“สนธิ” ยื่นถอด “ตั้ม-เดชา” ออกจากทนาย

“สนธิ ลิ้มทองกุล” หอบหลักฐานบุกสภาทนายความ ถอดทนายตั้ม-ทนายเดชา ออกจากทนาย ระบุ ได้รับมอบอำนาจจาก “มาดามอ้อย” แล้ว เดินหน้าเอาผิด ทนายตั้มแบบสุดซอย ไม่ให้มีคนตกเป็นเหยื่อผู้รู้กฎหมายอีก