“สมศักดิ์” ติดตามเชื่อมโยงข้อมูลสุขภาพดิจิทัล “สธ.-คณะแพทย์ มอ.”

สงขลา​ 17 ก.พ. – “สมศักดิ์” ติดตามความร่วมมือเชื่อมโยงข้อมูลสุขภาพดิจิทัล ระหว่าง สธ. – คณะแพทย์ มอ. มั่นใจช่วยต่อยอดนโยบาย 30 บาทรักษาทุกที่ เพิ่มโอกาสประชาขนเข้าถึงบริการแบบทันท่วงที เน้นย้ำรักษาข้อมูลส่วนบุคคลสำคัญที่สุด ก่อนลงตรวจเยี่ยม รพ.หนองจิก ปัตตานี หลังประสบภัยน้ำท่วมหนัก พร้อมพบปะ อสม. ย้ำพัฒนาศักยภาพ สร้างความมั่นคงยั่งยืน ผ่าน พ.ร.บ.อสม.


เมื่อวันที่ 17 ก.พ.ที่คณะแพทยศาสตร์ มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ นายสมศักดิ์ เทพสุทิน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข เดินทางลงพื้นที่ตรวจราชการก่อนเข้าร่วมประชุมคณะรัฐมนตรีอย่างเป็นทางการนอกสถานที่จังหวัดสงขลา โดยช่วงเช้าได้เป็นประธานการประชุมติดตามความก้าวหน้าความร่วมมือด้านการเชื่อมโยงและแบ่งปันข้อมูลสาธารณสุข ระหว่างกระทรวงสาธารณสุขกับมหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ โดยมี นายเดชอิศม์ ขาวทอง รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงสาธารณสุข นพ.โอภาส การย์กวินพงศ์ ปลัดกระทรวงสาธารณสุข ผศ.ดร.นิวัติ แก้วประดับ อธิการบดีมหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ ผศ.นพ.กิตติพงศ์ เรียบร้อย คณบดีคณะแพทยศาสตร์ มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ ผู้บริหารกระทรวง และมหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ เข้าร่วมประชุม

นายสมศักดิ์ กล่าวตอนหนึ่งว่า รัฐบาลมีนโยบายที่จะยกระดับระบบสาธารณสุข ให้ดีกว่าเดิม จาก 30 บาทรักษาทุกโรค มาเป็น 30 บาทรักษาทุกที่ เพื่อให้คนไทยเข้าถึงระบบบริการสุขภาพที่มีคุณภาพ ลดเวลาและค่าใช้จ่ายด้านสุขภาพของพี่น้องประชาชน การเชื่อมโยงข้อมูลสุขภาพ เป็นแนวทางสำคัญในการขับเคลื่อนนโยบายดังกล่าว ที่ผ่านมา กระทรวงสาธารณสุขได้พัฒนาระบบเชื่อมโยงข้อมูล และบริการสุขภาพในรูปแบบดิจิทัล ให้ประชาชนใช้งานผ่านแพลตฟอร์ม “หมอพร้อม” และเมื่อต้นปี 2568 ได้เปิดตัว MOPH Refer และ Imaging HUB ให้แพทย์สามารถส่งต่อผู้ป่วย ด้วยใบส่งตัวอิเล็กทรอนิกส์ และเข้าถึงข้อมูลผ่านระบบออนไลน์ เพื่อความรวดเร็วในการรักษา ลดเวลาทำงานด้านเอกสาร เพิ่มโอกาสในการดูแลผู้ป่วย อย่างทั่วถึงและทันท่วงที


“ยินดีที่ได้ทราบว่า กระทรวงสาธารณสุขและมหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ ได้จัดทำบันทึกข้อตกลงความร่วมมือ หรือ MOU เพื่อเชื่อมโยงข้อมูลบริการด้านสาธารณสุข บน Digital Health Platform ของกระทรวงสาธารณสุข รวมถึงตกลงที่จะแบ่งปันข้อมูลส่วนบุคคลร่วมกัน ผมมั่นใจว่าความร่วมมือนี้ จะก่อให้เกิดประโยชน์แก่ผู้ป่วย บุคลากรการแพทย์ทุกภาคส่วน และต่อยอดการพัฒนาระบบบริการทางการแพทย์ ที่รวดเร็วและมีคุณภาพมากขึ้น” นายสมศักดิ์กล่าว

ด้าน นายเดชอิศม์ กล่าวว่า การพัฒนาระบบบริการทางแพทย์ กระทรวงสาธารณสุขให้ความสำคัญเพื่อให้ประชาชนสะดวกสบาย บุคลากรทางการแพทย์ปฏิบัติงานง่ายมีประสิทธิภาพ โดยกระทรวงสาธารณสุขยกระดับการบริการโรงพยาบาลในสังกัด นำเทคโนโลยีมาใช้เชื่อมโยงคลังข้อมูลทางการสแพทย์ คำนึงปลอดภัยไซเบอร์ ซึ่งมอ.เป็นมหาวิทยาลัยชั้นนำอันดับ 1 ในภูมิภาค มีบทบาทผลิตบุคลาการแพทย์ เชื่อว่าความร่วมมือครั้งนี้จะช่วยเพิ่มศักยภาพลดความเหลื่อมล้ำในการเข้าถึงบริการ

นายสมศักดิ์ ให้สัมภาษณ์เพิ่มเติมว่า สำหรับการสร้างความเชื่อมั่นความปลอดภัย ข้อมูล ส่วนบุคคลนั้น เราให้ความสำคัญอย่างยิ่งยวด ในการดำเนินการทางดิจิทัล ข้อมูลส่วนบุคคลเป็นข้อมูลที่ไม่สามารถเปิดเผยให้บุคคลภายนอกรับรู้ได้ เราคำนึงถึงเป็นเรื่องแรกในการเชื่อมโยงข้อมูลสำหรับประโยชน์ของประเทศที่ได้รับในการเชื่อมโยงข้อมูล ผู้ป่วยในประเทศไทยมีจำนวนมาก การเชื่อมโยงข้อมูลทำให้แพทย์พยาบาลดำเนินการได้ง่าย ประหยัดเวลา บางครั้งคนไข้ไปรักษาในหลายหลายที่ แต่พอไปอีกที่หนึ่งก็ไม่มีข้อมูลที่จะเชื่อมโยงทำให้คนไข้เสียประโยชน์ และถ้าเรามีระบบดิจิทัลเชื่อมโยงกันอย่างนี้แล้ว จากที่เพิ่มบุคลากรทางการแพทย์จำนวนมาก ก็อาจจะเพิ่มเพียง 60% จากที่ประเมินไว้ก็ได้ หรือกรณีที่มีเอไอ สามารถเปรียบเทียบโรคอาจได้ทำได้เร็วและการรักษาโรคของหมอจะง่ายมากขึ้นเป็นประโยชน์กับประชาชน ข้อมูลมหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ทำลงลึกเรื่องการศึกษาวิเคราะห์รักษาและนำข้อมูลสอนนักศึกษา ส่วนกระทรวงสาธารณสุขมีข้อมูลด้านการรักษาจริงก็นำข้อมูลมาแชร์ให้


จากนั้นนายสมศักดิ์และคณะได้เดินทางไปตรวจเยี่ยมโรงพยาบาลหนองจิก อ.หนองจิก จ.ปัตตานี ซึ่งเป็นโรงพยาบาลที่ประสบอุทกภัยอย่างหนักในช่วงที่ผ่านมา พร้อมกับพบปะบุคลากรทางแพทย์ อสม.เพื่อเสริมพลังสร้างกำลังในการทำงาน และให้กำลังใจประชาชนผู้ประสบอุทกภัยด้วย โดยมีคณะผู้บริหารโรงพยาบาลให้การต้อนรับ โดยนายสมศักดิ์ กล่าวว่า ตนกับปลัดกระทรวงสาธารณสุขจะดูแลอย่างเต็มที่และให้กำลังใจทุกคนในการทำงาน ส่วนที่น้องอสม.ถือเป็นผู้ที่มีบทบาทสำคัญ ในการป้องกันและแก้ปัญหา โรคไม่ติดต่อเรื้อรัง หรือ NCDs ด้วยการส่งเสริมให้พี่น้องประชาชนมีพฤติกรรมสุขภาพที่ดี กินอาหารที่เหมาะสม และออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอ ปัจจุบันพี่น้อง อสม. ทุกคนกว่า 1 ล้านคน ทั่วประเทศ นับคาร์บเป็นแล้ว และได้ถ่ายทอดความรู้ เรื่องการนับคาร์บและคัดกรองสุขภาพ ให้แก่พี่น้องประชาชนแล้ว กว่า 12 ล้านคน ขอให้ความเชื่อมั่นว่า กระทรวงสาธารณสุขจะสนับสนุนการดำเนินงานของ อสม. จะพัฒนาศักยภาพ อสม. และจะดูแล อสม. ให้มีความก้าวหน้า มั่นคง และยั่งยืน ผ่านการออกกฎหมาย พ.ร.บ. อสม. ซึ่งจะช่วยดูแลพี่น้อง อสม. ทั้งในเรื่องค่าป่วยการ และสวัสดิการด้านต่าง ๆ.-319​ -สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

“ภูมิธรรม” แบ่งงาน 2 รมช.มหาดไทย เจ้าตัวคุม “โยธาฯ-ปค.”

กระทรวงมหาดไทย 14 ก.ค. –“ภูมิธรรม” แบ่งงาน 2 รมช.มหาดไทยแล้ว เจ้าตัวคุม “โยธาฯ – ปค.” ฟาก “เดชอิศม์” คุม “ที่ดิน – สถ.” สางปัญหาที่ดิน นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกฯ และรมว.มหาดไทย รักษาราชการนายกฯ กล่าวว่า ขณะนี้ตนได้แบ่งงานกับทั้ง 2 รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทยเป็นที่เรียบร้อยแล้ว ซึ่งการทำงานของทั้ง 3 คนเราทำงานเป็นทีมเดียวกัน ส่วนหลักเกณฑ์การแบ่งก็กระจายให้ทั่วถึงเพื่อช่วยกันดูแล โดยตนกำกับดูแลกรมโยธาธิการและผังเมือง กรมการปกครอง สำนักปลัดกระทรวงมหาดไทย สำนักงานรัฐมนตรี กระทรวงมหาดไทย การประสานงานส่วนราชการในสังกัด กระทรวงมหาดไทยตาม พ.ร.บ.การบริหารราชการจังหวัดชายแดนภาคใต้ พ.ศ.2553 การไฟฟ้าส่วนภูมิภาค การประปาส่วนภูมิภาค และดูหน่วยงานส่วนที่เหลือทั้งหมด โดยทั้งหมดสงวนไว้ในส่วนที่เกี่ยวข้องกับงบประมาณ และบุคคลซึ่งตนเป็นผู้ดูแล นายภูมิธรรม กล่าวต่อว่า ได้มอบหมายให้ น.ส.ธีรรัตน์ สำเร็จวาณิชย์ รมช.มหาดไทย กำกับดูแล กรมการพัฒนาชุมชน เพราะเป็นเรื่องเกี่ยวกับสตรีและการดำเนินการเรื่องผ้าไทย รวมถึงกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย […]

รถพ่วงเบรกแตกลงเขา ชนแหลก 10 คัน เจ็บ 3

นครราชสีมา 13 ก.ค. – รถพ่วงเบรกแตกลงเขามอกลางดง ชนแหลกรวมสิบคัน บาดเจ็บ 3 คน ทำถนนมิตรภาพรถติดยาวหลายกิโลเมตร คนขับรถพ่วงบาดเจ็บ แต่ยังให้การได้ รถพ่วงบรรทุกตู้คอนเทนเนอร์ ชนแหลกนับ 10 คัน บนถนนมิตรภาพ ขาเข้ากรุงเทพมหานคร ช่วงลงเขามอกลางดง กิโลเมตรที่ 37-38 อ.ปากช่อง จ.นครราชสีมา ตำรวจ สภ.กลางดง พร้อมเจ้าหน้าที่กู้ภัยหลายหน่วยระดม เข้าตรวจสอบที่เกิดเหตุ และช่วยเหลือผู้บาดเจ็บ ที่เกิดเหตุพบรถบรรทุกตู้คอนเทนเนอร์คันต้นเหตุ ยี่ห้อฮีโน่ สีขาว ทะเบียน กรุงเทพมหานคร ด้านหน้าหัวลากพังยับ นายวิทยา อายุ 34 ปี คนขับ ได้รับบาดเจ็บที่ขาซ้าย ยังนั่งอยู่บริเวณที่นั่งข้างคนขับ โดยเล่าว่า บรรทุกของมาเต็มตู้คอนเทนเนอร์ ช่วงลงเขาเกิดเบรกไม่อยู่ เนื่องจากลมหมด จึงทำให้พุ่งชนท้ายรถพ่วงบรรทุกไม้อีกคันที่อยู่ด้านหน้า จนกระเด็นไปคนละทิศละทาง ไม้กระจายเกลื่อนถนน ด้วยความแรงยังวิ่งไปเฉี่ยวชนกับรถที่วิ่งอยู่ด้านหน้าเสียหายอีก 8 คัน เป็นรถกระบะ 5 คัน, รถเก๋ง […]

มส.มีมติสั่งปลด-ถอดสมณศักดิ์ พระอาบัติปาราชิก เรียกพระ 5 รูปแจงด่วน

กรุงเทพฯ 13 ก.ค.-มหาเถรสมาคม ประชุมนัดพิเศษ มีมติสั่งปลด-ถอดสมณศักดิ์ พระอาบัติปาราชิก เผยสึกแล้ว 6 คน ยังติดต่อไม่ได้ 2 คน เตรียมแก้กฎมหาเถรสมาคม อ้างสุดล้าหลังกว่า 50 ปี ขณะที่พระเทพพัชราภรณ์ เจ้าอาวาสวัดชูจิตฯ ชิงลาออกแล้ว นายอินทพร จั่นเอี่ยม ผอ.สำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ (พศ.) แถลงข่าวภายหลังการประชุมมหาเถรสมาคมนัดพิเศษ ครั้งที่ 1/2568 ว่า สมเด็จพระสังฆราชห่วงใยต่อกระแสข่าวที่เกิดขึ้น จึงมีพระบัญชาให้มหาเถรสมาคม นิมนต์กรรมการฯประชุมเร่งด่วน ซึ่งทางกรรมการฯ มีข้อห่วงใย และมีการอภิปรายกันอย่างกว้างขวาง โดยมีมติ ดังนี้ -พระที่ถูกกล่าวหา ต้องอาบัติปราชิก ถือว่าสิ้นสุดความเป็นพระภิกษุทางวินัย และต้องสึกโดยทันที ส่วนพระที่ยังไม่ถึงขั้นปราชิก ก็ให้ปลดออกจากตำแหน่งเจ้าคณะพระสังฆาธิการทุกรูป และจะมีมติขอพระราชทานพระบรมราชานุญาตถอดสมณศักดิ์-ในระยะเร่งด่วน ให้เจ้าคณะผู้ปกครองสงฆ์ทุกระดับ ตรวจสอบดูแลและกำกับพฤติกรรมองพระในปกครองอย่างใกล้ชิด หากพบพฤติกรรมละเมิดพระธรรมวินัยให้ดำเนินการสอบสวน และรายงานมหาเถรสมาคมโดยเร็ว-กรณีพระภิกษุถูกกล่าวหาผิดพระธรรมวินัย ประเภทครุกาบัติ ให้ออกคำสั่พักการปฏิบัติหน้าที่ และให้เจ้าหน้าที่ดำเนินการตามกฏหมาย พร้อมขอให้ระมัดระวังการให้ข้อมูลต่อสื่อมวลชนและสาธารณชน เนื่องจากยังเป็นเพียงผู้ถูกกล่าวหา-และทบทวนปรับปรุงกฎระเบียบคณะสงฆ์ว่าด้วยการประทำผิดพระธรรมวินัย ประเภทครุกาบัติ โดยมหาเถรสมาคม เห็นควรขอประทานพระวินิจฉัยสมเด็จพระสังฆราช มีพระบัญชาโปรดให้แต่งตั้งคณะกรรมการพิเศษเพื่อคุ้มครองพระพุทธศาสนาคณะหนึ่ง […]

ส่งตัวดำเนินคดี นักท่องเที่ยวไทยทำร้ายทหารกัมพูชา

สุรินทร์ 13 ก.ค.-ทบ. เผยนักท่องเที่ยวไทยต่อยทหารกัมพูชา ที่ปราสาทตาเมือนธม เป็นอดีตทหารพราน ส่งตัวให้ตำรวจดำเนินคดีตามกฎหมาย เมื่อวันที่ 13 ก.ค.68 พล.ต.วินธัย สุวารี โฆษกกองทัพบกกล่าวถึงกรณีที่งนักท่องเที่ยวชาวไทย ทำร้ายร่างกายเจ้าหน้าที่ทหารกัมพูชาชุดประสานงาน ที่บริเวณปราสาทตาเมือนธม จังหวัดสุรินทร์ ว่า กองทัพบกได้รับรายงานจากกองกำลังสุรนารี ว่า เมื่อเวลาประมาณ 10.20 น. ได้เกิดเหตุการณ์นักท่องเที่ยวชาวไทยทำร้ายร่างกายเจ้าหน้าที่ทหารกัมพูชาชุดประสานงาน ณ บริเวณปราสาทตาเมือนธม โดยผู้ก่อเหตุได้ชกเจ้าหน้าที่กัมพูชา ทั้งทางด้านหลังและด้านหน้า ก่อนจะหลบหนีออกจากพื้นที่ ซึ่งเจ้าหน้าที่ฝ่ายไทยสามารถติดตามและควบคุมตัวได้ในเวลาต่อมา จากการตรวจสอบเบื้องต้น ทราบว่าผู้ก่อเหตุคือ นายสมหมาย ศรีศุกรานันทน์ อดีตอาสาสมัครทหารพราน ปัจจุบันดำรงตำแหน่งประธานชมรมทหารพรานจิตอาสาค่ายปักธงชัย และประธานเครือข่ายทหารผ่านศึกจังหวัดสมุทรสาคร ทั้งนี้ เนื่องจากบริเวณพื้นที่เกิดเหตุเป็นสถานที่ท่องเที่ยว ทางเจ้าหน้าที่ทหารฝ่ายไทย ได้ทำความเข้าใจกับผู้เสียหายไปแล้วในเบื้องต้น เพื่อพยายามไม่ให้กระทบความสัมพันธ์ในระดับเจ้าหน้าที่ทั้งสองฝ่าย สำหรับผู้ก่อเหตุ ได้ให้ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจ ดำเนินการไปตามขั้นตอนของกฎหมายต่อไป.-313.-สำนักข่าวไทย

ข่าวแนะนำ

อุตุฯ เตือนฝนตกหนักบางแห่งในภาคเหนือ-กลาง-ตะวันออก

กรุงเทพฯ 17 ก.ค. – กรมอุตุฯ เตือนฝนตกหนักบางแห่งในภาคเหนือ ภาคกลาง ภาคตะวันออก โดยเฉพาะบริเวณ จ.แม่ฮ่องสอน เชียงใหม่ เชียงราย ลำปาง พะเยา และน่าน ขอให้ประชาชนระวังอันตรายจากฝนตกหนักอาจทำให้เกิดน้ำท่วมฉับพลันน้ำป่าไหลหลาก ส่วนกรุงเทพฯ และปริมณฑล ฝนฟ้าคะนอง 70% และมีฝนตกหนักบางแห่ง กรมอุตุนิยมิวิทยาพยากรณ์อากาศ 24 ชั่วโมงข้างหน้า ประเทศไทยยังคงมีฝนฟ้าคะนอง และมีฝนตกหนักบางแห่งในภาคเหนือ ภาคกลาง และภาคตะวันออก โดยเฉพาะบริเวณ จ.แม่ฮ่องสอน เชียงใหม่ เชียงราย ลำปาง พะเยา และน่าน ขอให้ประชาชนในบริเวณดังกล่าวระวังอันตรายจากฝนตกหนักและฝนที่ตกสะสม อาจทำให้เกิดน้ำท่วมฉับพลันน้ำป่าไหลหลาก โดยเฉพาะพื้นที่ลาดเชิงเขาใกล้ทางน้ำไหลผ่านและพื้นที่ลุ่ม ทั้งนี้ เนื่องจากมีหย่อมความกดอากาศต่ำปกคลุมบริเวณประเทศเมียนมาตอนบน และประเทศลาวตอนบน ประกอบกับมรสุมตะวันตกเฉียงใต้กำลังปานกลางพัดปกคลุมทะเลอันดามัน ประเทศไทย และอ่าวไทย สำหรับคลื่นลมบริเวณทะเลอันดามันมีกำลังปานกลาง โดยทะเลอันดามันตอนบน มีคลื่นสูงประมาณ 2 เมตร ส่วนทะเลอันดามันตอนล่าง มีคลื่นสูง 1-2 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนอง คลื่นสูงมากกว่า […]

มทภ.2 เผยกำลังพลเหยียบกับระเบิดขณะลาดตระเวน เจ็บ 3

อุบลราชธานี 17 ก.ค. – แม่ทัพภาค 2 เผยกำลังพลเหยียบกับระเบิด ขณะออกลาดตระเวนจากฐานปฏิบัติการมรกต ไปยังเนิน 481 ชายแดนช่องบก อ.น้ำยืน จ.อุบลราชธานี บาดเจ็บ 3 นาย อาการปลอดภัย ชี้เป็นระเบิดตกค้างในพื้นที่สู้รบเดิม พล.ท.บุญสิน พาดกลาง แม่ทัพภาคที่ 2 ระบุว่า ชุดลาดตระเวนกองร้อยทหารพรานที่ 2302 (ชุด ลว. ร้อย ทพ.2302 ) (ดุสิต) ได้จัดกำลังพลจำนวน 14 นาย ประกอบด้วย ทพ. 2 นาย ชุด RDF 6 นาย ทหารช่าง 6 นาย ออกลาดตระเวนจากฐานปฏิบัติการมรกต ไปยังเนิน 481 ชายแดนช่องบก อ.น้ำยืน จ.อุบลราชธานี กำลังพลชุดลาดตระเวนได้ประสบเหตุเหยียบกับระเบิด บริเวณพิกัด WA 220 […]

เจ้าคณะจังหวัดพิษณุโลก-เจ้าคุณประสิทธิ์ สึกแล้ว

พิษณุโลก 16 ก.ค. – พระชั้นผู้ใหญ่ที่พัวพันสีกากอล์ฟยังทยอยสึกเพิ่ม ล่าสุด “เจ้าคณะจังหวัดพิษณุโลก” แอบสึกแล้วที่วัดสว่างอารมณ์ จ.ตาก หลังมีข่าวลือสะพัดมาตั้งแต่เช้า ขณะที่ “เจ้าคุณประสิทธิ์” ถอดใจสึกแล้ว พระราชรัตนสุธี เจ้าคณะจังหวัดพิษณุโลก เป็นพระชั้นผู้ใหญ่อีก 1 รูป ที่มีชื่อพัวพันกับสีกากอล์ฟ ซึ่งในช่วงเช้ามีข่าวลือว่าจะลาสิกาในวันนี้ ผู้สื่อข่าวไปตรวจสอบตามวัดต่างๆ ในจังหวัดพิษณุโลก โดยเฉพาะที่วัดพระศรีรัตนมหาธาตุ วรมหาวิหาร มีตำรวจนอกเครื่องแบบ และเจ้าหน้าที่ มาคอยเฝ้าดูแลตลอดเวลา กระทั่ง เวลา 12.00 น. เจ้าคณะจังหวัดพิษณุโลก ปรากฏตัวในชุดขาว คาดว่าไปลาสิกขาที่วัดสว่างอารมณ์ อำเภอบ้านตาก จังหวัดตาก สำหรับพระราชรัตนสุธี มีตำแหน่งเป็นเจ้าคณะจังหวัดพิษณุโลก ผู้อำนวยการวิทยาลัยสงฆ์พุทธชินราช เป็นพระเถระชั้นผู้ใหญ่ของจังหวัดพิษณุโลกที่ได้รับความเคารพอย่างสูงรูปหนึ่ง เพราะมีบทบาทสำคัญและมีคุณูปการขับเคลื่อนงานคณะสงฆ์ให้รุ่งเรือง นายอินทพร จั่นเอี่ยม ผู้อำนวยการสำนักพระพุทธศาสนาแห่งชาติ ออกมายืนยันเช่นกันว่า ขณะนี้อดีตเจ้าคณะจังหวัดพิษณุโลกได้ทำการลาสิกขาแล้ว และวันนี้เจ้าอาวาสวัดใหญ่จอมปราสาท ก็มารายงานตัวกับเจ้าคณะใหญ่หนกลางด้วยเช่นเดียวกัน กรณีเอกสารสำนักพุทธจังหวัดสมุทรสาครหายออกไปจากวัด ซึ่งขณะนี้ได้มีการตั้งคณะกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริง เพราะขณะนี้ยังไม่ชัดเจนว่าเอกสารยังมีอยู่หรือไม่ และถ้าหากเอกสารหายไปจริงก็ถือว่าเป็นการผิดวินัย และเจ้าอาวาสบกพร่อง ต้องไปดูด้วยว่าสาเหตุที่หายเพราะอะไร เพราะเอกสารทางราชการมีการรับส่งเป็นระบบ […]

เปิดคำสารภาพ “สีกากอล์ฟ”

กทม. 16 ก.ค.-เปิดคำสารภาพ “สีกากอล์ฟ” ด้านอดีตพระมหาบุญเลิศ แฉถูกสีกากอล์ฟ กุเรื่องลวงไปบ้านพัก ซ้ำถูกเชิดเงิน 1 แสน เตรียมเข้าแจ้งความเอาผิดเพิ่ม พล.ต.ต.ประสงค์ เฉลิมพันธ์ ผู้บังคับการป้องกันปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับการทุจริตและประพฤติมิชอบ (ผบก.ปปป.) กล่าวถึงความคืบหน้าคดีน.ส.วิลาวัลย์ หรือ สีกากอล์ฟ อายุ 35 ปี ว่า จากการสอบปากคำเมื่อวานที่ผ่านมา เจ้าตัวให้การเป็นประโยชน์ต่อรูปคดีเป็นอย่างมาก พร้อมให้ความร่วมมือกับทางเจ้าหน้าที่เป็นอย่างดี ซึ่งในวันพรุ่งนี้ทางพนักงานสอบสวน บก.ปปป. จะนำตัวส่งฝากขังยังศาลอาญาคดีทุจริตและประพฤติมิชอบกลาง เพื่อฝากขังเป็นผัดแรก ด้านพ.ต.อ.เอนก เตาสุภาพ รองผู้บังคับการปราบปราม (รอง ผบก.ป.) กล่าวถึงความคืบหน้าการสอบปากคำ น.ส.วิลาวัลย์ ในส่วนของคดีข่มขืนใจและรีดเอาเงินทิดแหล่ อดีตผู้ช่วยเจ้าอาวาสวัดโสธรฯ ว่า เบื้องต้น สีกากอล์ฟ ให้ความร่วมมือกับเจ้าหน้าที่เป็นอย่างดี รวมถึงให้ข้อมูลที่เป็นประโยชน์ต่อรูปคดี ซึ่งจากการสอบปากคำเบื้องต้นเจ้าตัวยังคงให้การปฏิเสธตลอดข้อกล่าวหา โดยยอมรับในข้อเท็จจริงว่าเคยมีสัมพันธ์ลึกซึ้งกับพระผู้ใหญ่รูปต่างๆ จริง ส่วนกรณีที่ถูกกล่าวหาว่าข่มขู่รีดเอาเงิน และบังคับทิดแหล่ ให้ร่างหนังสือร้องเรียนเจ้าคุณอาชว์ อดีตเจ้าอาวาสวัดตรีฯ เรื่องการมีเพศสัมพันธ์กับหญิงสาว เจ้าตัวอ้างว่าไม่เป็นความจริง แต่ยอมรับว่าเป็นคนให้ทิดแหล่ร่างหนังสือดังกล่าวจริง เพียงแต่เป็นการไหว้วาน ไม่ได้เป็นการบังคับ […]