กรุงเทพฯ 9 ก.ย. – จับตา! วันนี้ (9 ก.ย. 68) ศาลฎีกาฯ นัดฟังคำสั่งคดีบังคับโทษ “ทักษิณ ชินวัตร” ปมรักษาตัวชั้น 14 รพ.ตำรวจ
เมื่อวานนี้ (8 ก.ย.) ช่วงบ่าย นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี บินจากสิงคโปร์ ด้วยเครื่องบินเจ็ตส่วนตัว เดินทางกลับมาถึงประเทศไทยแล้ว โดยเครื่องบินลงจอดที่ลานจอดเครื่องบินส่วนบุคคล ท่าอากาศยานดอนเมือง หรือ M Jets ดอนเมือง และมีการปรากฏตัวของนายทักษิณ สวมเสื้อเชิ้ตสีฟ้า และมีใบหน้ายิ้มแย้ม เดินออกมาขึ้นรถที่จอดรอหน้าอาคารผู้โดยสาร ก่อนขึ้นรถเบนซ์ออกจากสนามบินไปพร้อมกับรถยนต์และรถตู้ อีกคัน
มีรายงานว่า เครื่องบินส่วนตัวนายทักษิณ มีผู้โดยสารเดินทางมาด้วยกัน 6 คน มีนายทักษิณ, นายสมชาย วงศ์สวัสดิ์, นางเยาวภา วงศ์สวัสดิ์ น้องสาวของนายทักษิณ และภรรยาของนายสมชาย ร่วมเดินทางมาด้วย พร้อมกับผู้ติดตามอีก 3 คน เป็นไปตามคำยืนยันว่าจะกลับไทยไม่เกินวันที่ 8 กันยายน เพื่อมาศาลในคดีชั้น 14
ศาลฎีกาฯ ยกคำร้อง“ชาญชัย” ขอห้าม “ทักษิณ” ออกนอกประเทศ
ด้านนายชาญชัย อิสระเสนารักษ์ อดีต สส.พรรคประชาธิปัตย์ เดินทางมาฟังคำสั่งศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง ที่ได้ยื่นคำร้องขอให้ศาลออกข้อกำหนดห้ามนายทักษิณเดินทางออกนอกราชอาณาจักร จนกว่าจะมีคำสั่งจากกรณีการบังคับโทษของนายทักษิณเป็นไปตามคำพิพากษาหรือไม่
หลังฟังคำสั่ง นายชาญชัย ระบุว่า ศาลพิจารณาคำร้องเเล้วเห็นว่าตนเองไม่ใช่ผู้เสียหายโดยตรงในคดีดังกล่าว จึงไม่มีสิทธิที่จะยื่นคำร้องศาล จึงมีคำสั่งยกคำร้องขอห้ามไม่ให้นายทักษิณเดินทางออกนอกราชอาณาจักร ขณะนี้นายทักษิณได้กลับมาประเทศไทยแล้ว ตนมองว่าเป็นเรื่องที่ดี เพื่อให้กระบวนการพิจารณาคดีเป็นไปด้วยอย่างสมบูรณ์ หากนายทักษิณยอมเดินทางมาศาล อย่างมากสุดก็แค่ถูกจำคุก 1 ปี หรือรอดพ้นความผิด แต่เชื่อว่าผลการพิจารณาจะทำให้ ป.ป.ช. นำไปขยายเรื่องดำเนินการต่อ หากพบเจ้าหน้าที่ให้การช่วยเหลือและมีความผิด จะนำไปสู่การสืบสวนสอบสวน และอาจเป็นไปได้ว่าจะมีบุคคลระดับรัฐมนตรีมีความผิดด้วยซึ่งวันนี้นายชาญชัย จะเดินทางมาฟังการพิจารณาของศาลด้วย
ศาลฎีกาจัดระเบียบรองรับอ่านคดีบังคับโทษ “ทักษิณ” ชั้น 14
บรรยากาศที่ศาล เจ้าหน้าที่ศาลและตำรวจ สน.ชนะสงคราม ใช้กำลังเจ้าหน้าที่รวม 100 นาย ดูแลความปลอดภัย รวมทั้งได้กำหนดพื้นที่เพื่อรักษาความเรียบร้อย โดยจะอนุญาตให้สื่อมวลชนที่ลงทะเบียน 45 คน กับศาลฎีกาเท่านั้น ที่สามารถเข้าฟังเเละสามารถนำรถทีมข่าวมาจอดบริเวณด้านหลังอาคารศาลฎีการิมคลองหลอดได้ ส่วนสื่อมวลชนที่ไม่ได้ขออนุญาต รวมทั้งกลุ่มมวลชนที่จะมาให้กำลังใจนายทักษิณ ให้รวมตัวกันที่ ลานพระแม่ธรณีบีบมวยผม เชิงสะพานผ่านพิภพลีลา โดยจะมีเเผงเหล็กกั้นไว้ สำหรับรถของคู่ความในคดีนี้จะอนุญาตให้เข้าทางประตูด้านหลังอาคารศาลฎีกา ฝั่งคลองหลอดเพื่อความเป็นระเบียบเรียบร้อย.-สำนักข่าวไทย