‘วาโย’ ฉะงบ ‘สธ.’ มากไปหรือไม่ หลังตัวชี้วัดสวนทางงบประมาณ

รัฐสภา 30 พ.ค.- ‘วาโย’ ฉะงบ ก.สาธารณสุข มากไปหรือไม่ หลังตัวชี้วัดสวนทางงบประมาณ ฝาก กมธ. หาคำตอบ ถาม ‘สมศักดิ์ ทำไมต้องสร้างศูนย์อาคารแพทย์แผนไทย ที่จังหวัดบ้านเกิดตัวเอง


ในการประชุมเพื่อพิจารณาร่างพระราชบัญญัติงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณพ.ศ. 2569 นายวาโย อัศวรุ่งเรือง สมาชิกสภาผู้แทนราษฎร (สส.) แบบบัญชีรายชื่อ พรรคประชาชน อภิปรายว่า งบประมาณแผ่นดินเพิ่มมาจากปีที่แล้วแค่ 0.7% แทบจะไม่ได้เพิ่มเลย แต่สำหรับกระทรวงสาธารณสุข แม้งบประมาณแผ่นดินจะเพิ่มมาแค่นี้ แต่กระทรวงสาธารณสุขเพิ่มมา 3.3% และหักส่วนของสำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ (สปสช.) เข้าไปด้วยเพิ่มมาเพิ่มมาเกือบ 20 เท่า

นายวาโย ระบุว่า วันนี้เมื่อปีที่แล้วรัฐมนตรีเข้าไปแถลงนโยบายที่กระทรวงสาธารณสุขกับพี่น้องชาวสาธารณสุขผ่านมาแล้ว 1 ปี โดยนโยบายกระทงของพรรคเพื่อไทยคือเรื่อง 30 บาท รักษาทุกโรค ที่จะยกระดับ 30 บาทรักษาทุกที่ด้วยบัตรประชาชนใบเดียว ต้องฝากถามไปถึงพี่น้องประชาชนว่าใช้ได้จริงหรือไม่ ซึ่งในปีนี้ได้ยกเลิก และตัดทิ้ง เป็นเพราะทำสำเร็จแล้ว หรือเพราะทำไม่ได้ ซึ่งพยายามลงทุนทำเชื่อมต่อระบบข้อมูล บริการสุขภาพดิจิทัล Thailand Health Atlas หรือแผนที่สุขภาพประเทศไทย โดยการเชื่อมต่อระบบข้อมูล เพื่อให้สามารถส่งตัวแบบไร้รอยต่อ ซึ่งในปีนี้ได้เพิ่มงบประมาณระยะที่ 2 เข้าไป


การสร้างเสริมคนให้มีสุขภาพที่ดี งบประมาณ 7 หมื่นกว่าล้าน ส่งเสริมการผลิตแพทย์พยาบาลบุคลากรสาธารณสุขไม่น้อยกว่า 42,400 คน โดยมีการของบประมาณในปีนี้ 15,000 ล้านบาท ซึ่งมีการแบ่ง 8,000 ล้านบาทเอาไปสร้างตึก ตนเองไม่ได้บอกว่าไม่ดี แต่อีก 4,000 ล้านบาทคือการซื้อของ และที่เหลือถึงจะได้เริ่มไปลงทุน

นายวาโย ระบุว่า มีการเพิ่มการเข้าถึงบริการสุขภาพ ซึ่งญาติของตนเองที่เข้าไปผ่าตัดตาในครั้งที่ผ่านมา ก็ต้องใช้เวลาตลอดทั้งวัน เพื่อทำเรื่องส่งตัว นี่คือการลงทุนงบประมาณในการทำ Smart Hospital ซึ่งมองว่าไม่ได้ประโยชน์ ทั้งยังไม่มีการลงทุนเพิ่ม นั่นแปลว่าทำเสร็จไปแล้วหรือไม่ การให้เข้าถึงโครงการ 30 บาท รักษาทุกโรค ตั้งเป้าไว้เกือบ 20 ล้านคน โดยปัจจุบันมีการทำไปแล้ว 12 ล้านคน ซึ่งเมื่อดูจากตัวเลข มีการนับรวมยอดรับยาที่ร้านยา โดยแม้จะเป็นแค่ยาพาราเซตามอนก็ตาม และในปี 69 ก็ตั้งเป้าไว้กือบ 18 ล้านคน

ส่วนผู้ที่มีภาวะพึ่งพิงในชุมชนที่ตั้งเป้าไว้เกือบ 600,000 คนโดยในปี 68 ทำได้แค่ 250,000 คน จึงมีการลดจำนวนลงมาในปี 69 เหลือแค่ประมาณ 500,000 กว่าคนเท่านั้น


งบสำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ (สปสช.) เป็นหน่วยงานที่ได้รับงบเพิ่มสูงมาก เพิ่มขึ้น 15.18% เราคาดหวังว่าจะทำอะไรให้มันเกิดการเปลี่ยนแปลง แต่การกำหนดตัวชี้วัดกลับเท่าเดิม และไม่มีรายงานว่าได้ตรงตามเป้าหรือไม่

ส่วนคลินิกชุมชน โรงพยาบาลเอกชน ที่เข้ามาร่วมบริการกับรัฐ ก็ถูกเบี้ยวหนี้ หลายโรงพยาบาลถอนตัวออกไปเพราะ สปสช. ถังแตก โดยเงินสดคงเหลือต้นงวดของ ปี 69 เหลือ 200 ล้านบาท

ส่วนที่บอกว่าจะแก้ไขปัญหายาเสพติดอย่างบูรณาการ พัฒนามินิธัญญารัตน์ Patient journey ทบทวนเชิงกฎหมาย และการที่บอกว่าการบำบัดคือเรื่องปลายน้ำ ตนเองมองว่า การบำบัดไม่ใช่เรื่องปลายน้ำ แต่การระบุตัวตน ว่าไม่ใช่ผู้ค้า และนำไปบำบัด จะเป็นการแก้ไขปัญหาเรื่องนี้ได้ ซึ่งต้องเพิ่ม Health Literacy ฝากทางกรมอนามัยด้วย ส่วนที่มีการจะยึดทรัพย์สำหรับผู้ที่มียาเสพติดนั้น แปลว่ามีการสันนิษฐานว่าเป็นผู้ค้าทั้งหมด เริ่มต้นตั้งแต่ 1 เม็ด แบบนั้นไม่ได้

ส่วนที่บอกว่าจะยกระดับเศรษฐกิจสุขภาพ ต่อยอดภูมิปัญญาไทย ซึ่งมีการออกนโยบายตั้งเงินรางวัลให้เบิกจ่ายยาสมุนไพร ซึ่งตั้งในโรงพยาบาลแพทย์แผนปัจจุบัน ตนเองไม่ได้บอกว่ายาสมุนไพรไม่ดี แต่มันต้องถูกที่ และถูกทาง โดยบอกว่าถึงขนาดให้ตัวชี้วัดเพียงแต่เป็นทางเลือก แต่กลับมีงบอุดหนุนเพิ่มให้กับโรงพยาบาลที่สามารถจ่ายยาสมุนไพรได้เยอะ ซึ่งถือเป็นการบีบให้เป็นไปในแนวทางเดียวกัน

กรมการแพทย์แผนไทยได้งบเพิ่มขึ้น 30% เพื่อมีเป้าหมายเพิ่มมูลค่าตลาดสมุนไพร ทำให้ตลาดโตขึ้น ตนเองไม่อยากไปตั้งคำถามว่าท่านรัฐมนตรีมีญาติที่นามสกุลเดียวกัน เป็นเจ้าของร้านสมุนไพรหรือไม่ แต่การกระทำเหล่านี้ เขาก็ได้ประโยชน์อยู่ดีซึ่งก็ต้องอธิบายให้ได้ ไม่ใช่มากล่าวหาแบบนี้

ส่วนงบประมาณในการเรื่องซอฟต์พาวเวอร์ไทย มีการนำงบประมาณดังกล่าว ไปจัดอีเวนท์ นึกว่าจะนำไปทำซีรี่ส์ หรือละครให้ดูจับต้องได้ ศูนย์อาคารสาธารณสุขเกี่ยวกับเรื่องการแพทย์แผนไทยและการทางเลือก ตั้งงบประมาณปี 2569 ให้แล้วเสร็จภายในปี 2570 ซึ่งมีการสร้างที่จังหวัดสุโขทัย โดยเป็นจังหวัดบ้านเกิดของท่านรัฐมนตรี จึงอยากให้มีการตอบและชี้แจงในเรื่องนี้

ส่วนการสร้างขวัญและกำลังใจบุคลากร และ อสม. สวัสดิการค่าตอบแทน ลดหนี้สินบุคลากร สื่อสารสร้างสัมพันธ์ โดยมีโครงการนับคาร์บ เพราะมีผู้ป่วยในโรคประเภท NCDs เยอะ เมื่อมีผู้ป่วยลดลง งานแพทย์ก็จะลดลง ซึ่งมีการตั้งงบประมาณปี 69 กว่า 1,200 ล้านบาท และอยากให้มีการมาเล่าให้ฟังว่านำงบประมาณดังกล่าวไปทำอะไรบ้าง

การตั้งเป้ากระจายแพทย์ไปสู่ชนบทไม่น้อยกว่า 1,000 คนต่อปีซึ่งเปรียบเทียบกับคนที่เรียนจบภาคมีเพียงปีละ 3,000 – 3,500 คนตั้งเป้าแบบนี้ไม่จำเป็นก็ได้เพราะมันทำได้อยู่แล้ว และการตั้งเป้าให้หมอลาออกหลังจบไม่เกิน 5%

ส่วน World Expo เป็นการจัดอีเวนท์ที่แพงมาก ตนเองคัดค้านเรื่องนี้มาตลอด ซึ่งในปี 69 มีการตั้งงบ 200 กว่าล้าน ในการรื้อถอนโครงการดังกล่าว จึงตั้งคำถามว่ามากไปหรือไม่.-312 -สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

ธปท.ย้ำเร่งปลดล็อกบัญชีผู้บริสุทธิ์ ทำให้ร้านค้ามั่นใจ

กรุงเทพฯ 15 ก.ย. – ธปท. ย้ำทุกหน่วยงานร่วมกำหนดเงื่อนไขปลดล็อกบัญชีไม่มีเอี่ยวบัญชีม้า สิ้นเดือน ก.ย.นี้ เพื่อให้ร้านค้ามั่นใจรับโอนเงินซื้อสินค้า นางสาวดารณี แซ่จู ผู้ช่วยผู้ว่าการ สายกำกับระบบชำระเงินฯ ธนาคารแห่งประเทศไทย กล่าวว่า จากปัญหาชาวบ้านถูกระงับธุรกรรมและระงับวงเงิน แต่ไม่ได้ระงับเงินในบัญชีในช่วงเดือนกันยายน 68 ตรวจพบบัญชีต้องสงสัยเฉลี่ย 10,000 บัญชี/สัปดาห์ ยอมรับว่าการคุมเข้มในช่วงที่ผ่านมา เพื่อต้องการกวาดเอาเส้นทางบัญชีที่เกี่ยวข้องเข้ามาตรวจสอบ ทั้งโอนเงินผ่าน e-money และคริบโตฯ ทำให้ประชาชนผู้บริสุทธิ์ได้รับผลกระทบในบางส่วน ในการทำธุรกรรมทางการเงิน ธปท. จึงเร่งหารือกับทุกหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ร่วมกำหนดเงื่อนไขร่วมกันให้เสร็จภายในสิ้นเดือน ก.ย.นี้ “ธปท., ธนาคาร, ตำรวจ ศปอท. พร้อมปลดล็อกให้กับผู้บริสุทธิ์ มุ่งเน้นบัญชีจำนวนไม่มาก เช่นวงเงิน 100-500 บาท หรือร้านค้า ที่มีการซื้อของมาประกอบอาหารหรือสินค้าในร้านเป็นประจำในยอดที่ไม่สูงมากนัก กลุ่มเหล่านี้จะเร่งตรวจสอบ เพื่อแจ้งข้อมูลให้ลูกค้าบัญชีรับทราบ พร้อมทำอย่างรวดเร็ว และมุ่งทำความเข้าใจกับร้านค้า ให้เกิดความเชื่อมั่น และรับเงินโอนจากลูกค้า เพราะที่ผ่านมายอดปฏิเสธรับโอนเงินไม่สูงมากนัก หากตรวจสอบเสร็จแล้วคาดว่าใช้เวลา 2-3 ชั่วโมง ถึง 1 […]

ครอบครัวชินวัตร ถึงเรือนจำคลองเปรม เข้าเยี่ยม “ทักษิณ”

กทม. 15 ก.ย.-ครอบครัวชินวัตร ถึงเรือนจำคลองเปรม เข้าเยี่ยม “ทักษิณ” หลังครบ 5 วันกักโรค และกรมราชทัณฑ์ อนุญาตให้ญาติเข้าเยี่ยมได้วันนี้เป็นวันแรก นายวิญญัติ ชาติมนตรี ทนายความส่วนตัวของนายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ทำเรื่องขอเข้าเยี่ยมนายทักษิณ ที่เรือนจำกลางคลองเปรม หลังครบ 5 วัน การกักตัวเฝ้าระวังโรคโควิด-19 และกรมราชทัณฑ์ อนุญาตให้ญาติตามรายชื่อ 10 คน และทนายความ เข้าเยี่ยมได้วันนี้เป็นวันแรก โดยก่อนหน้านี้ พันตำรวจโท เชน กาญจนาปัจจ์ โฆษกกรมราชทัณฑ์ เปิดเผยว่าอาการของนายทักษิณ โดยรวมดีขึ้น ความดันสูงก่อนหน้านี้ลงมาอยู่ในเกณฑ์ปกติ ซึ่งการเข้าเยี่ยมจะเป็นการพูดคุยผ่านกระจกใส เพื่อความปลอดภัย ล่าสุด ครอบครัวชินวัตรเดินทางมาถึงเรือนจำคลองเปรมแล้ว นำโดยคุณหญิงพจมาน ดามาพงศ์, น.ส.พินทองทา ชินวัตร คุณากรวงศ์ ลูกสาวคนโต และ น.ส.แพทองธาร ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี.-สำนักข่าวไทย

“บิ๊กเต่า” เปิดคดีใหม่ พระวัดดังเมืองปทุม เอี่ยวเงินวัดโยงสีกาเยอรมัน

บช.ก. 15 ก.ย. – “บิ๊กเต่า” เปิดคดีใหม่ พระวัดดังเมืองปทุมธานี เอี่ยวเงินวัดโยงสีกาเยอรมัน ฝากให้มาชี้แจงความบริสุทธิ์ หากไม่มาจะเสียหาย พล.ต.ต.จรูญเกียรติ ปานแก้ว รองผู้บัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง (รอง ผบช.ก.) เปิดเผยถึงกระแสข่าวพระวัดดังจังหวัดปทุมธานี ที่มีความเกี่ยวข้องกับเงินวัดจำนวน 12.2 ล้านบาท ที่โอนเข้าบัญชีสีการายหนึ่ง ว่า เรื่องนี้ทราบว่ามีคนแจ้งความและเป็นคดีความอยู่ที่กองบังคับการปราบปรามแล้ว ขณะนี้เจ้าหน้าที่อยู่ระหว่างการดำเนินการตรวจสอบ และได้ข้อมูลที่น่าสนใจมากพอสมควร ซึ่งสีกาคนดังกล่าวจะเกี่ยวข้องกับสีกาที่ทางตำรวจเพ่งเล็งอยู่หรือไม่จะต้องตรวจสอบในประเด็นนี้ด้วย แต่คดีนี้หลักๆ จะดูที่เส้นทางการเงินของบัญชีวัด หากพบใครเกี่ยวข้องก็จะต้องดำเนินการ ส่วนกรณีที่ทนายอนันต์ชัย ไชยเดช ประธานมูลนิธิทนายกองทัพธรรม นำหลักฐานออกมาโพสต์ผ่านโซเชียลนั้น ก็ถือว่ามีประโยชน์ต่อรูปคดี ส่วนจะเรียกเข้าสอบหรือไม่นั้นอยู่ระหว่างการพิจารณาของพนักงานสอบสวน ซึ่งคาดว่าอีกไม่นานเรื่องนี้จะชัดเจน มีรายงานว่าผู้ที่เกี่ยวข้องในเรื่องนี้พบว่ามี 8 คน รวมพระด้วยเป็น 9 คน จึงอยากฝากถึงพระว่า ให้มาชี้แจงความบริสุทธิ์ หากไม่มาจะเสียหายเนื่องจากมีหลักฐานจำนวนมาก.-419-สำนักข่าวไทย

บุกห้ามยายวัย 83 โอนเงินแก๊งคอลเซ็นเตอร์

กทม. 16 ก.ย.-บุกห้ามยายวัย 83 โอนเงินให้แก๊งคอลเซ็นเตอร์เกือบ 5 ล้าน แต่ยายไม่ฟัง ไม่เชื่อว่าโดนหลอก ไล่ตำรวจกลับไป แถมโทรฟ้องมิจฉาชีพว่าตำรวจมากวน สุดท้ายเข้าแจ้งความแล้ว เจ้าหน้าที่ตำรวจ สน.พระโขนง ตะโกนคุยกับคุณยายวัย 83 ปี ข้ามรั้วประตูบ้าน ว่า อย่าโอนเงินให้มิจฉาชีพอีก หลังธนาคารพบความผิดปกติ เนื่องจากคุณยายถอนเงินออกมาหลายล้านบาท จึงประสานงานไปที่ศูนย์ปฏิบัติการแก้ไขปัญหาอาชญากรรมออนไลน์ AOC 1441 ให้แจ้งมายังตำรวจนครบาล เพื่อตรวจสอบการโอนเงินของคุณยายโดยด่วน ปรากฏว่า เมื่อตำรวจมาถึงบ้าน คุณยายไม่เชื่อ แถมยังคุยโทรศัพท์กับตำรวจปลอมในมือถือตลอดเวลา แล้วไม่เชื่อว่า ตำรวจที่มาหน้าบ้านเป็นตำรวจจริง จนตำรวจตัวจริงอ่อนใจ ทำได้เพียงแค่ประสานงานผู้นำในชุมชนให้ช่วยดูแลคุณยาย และเตือนเรื่องนี้ ล่าสุดคุณยายมาแจ้งความแล้ว เมื่อวันที่ 13 กันยายน แต่ยังไม่ได้เงินคืน ข้อมูลของตำรวจพบว่า คุณยายโอนเงินไปทั้งหมด 5 ครั้งครั้งแรกวันที่ 3 กันยายน ฝากเงินสดเข้าบัญชีธนาคารแห่งหนึ่ง 3.5 ล้านบาทวันที่ 4 กันยายน โอนเงินสดไป 400,000 บาทวันที่ […]

ข่าวแนะนำ

ปิดล้อมกว่า 8 ชม. จับหนุ่มคลั่งควงปืนสงครามขู่ยิง ตร.

ศรีสะเกษ 17 ก.ย. – พ่อค้ายาเสพติดคลุ้มคลั่ง ควงปืนสงคราม AK-47 ขู่ยิงเจ้าหน้าที่ หลังถูกชุดปฏิบัติการ 238 พิทักษ์นครลำดวน สนธิกำลังตำรวจ ทหาร ฝ่ายปกครอง ปิดล้อมบ้านเป้าหมายพื้นที่ อ.โนนคูณ จ.ศรีสะเกษ เกลี้ยกล่อมนานกว่า 8 ชั่วโมง สุดท้ายทนแรงกดดันไม่ไหว ยอมวางอาวุธมอบตัวแต่โดยดี เจ้าหน้าที่พยายามใช้ยุทธวิธีเจรจาเกลี้ยกล่อมนายวีระศักดิ์ อายุ 35 ปี มีประวัติพัวพันการค้ายาเสพติด ครอบครองอาวุธสงคราม และยังเป็นบุคคลตามหมายจับของศาลจังหวัดสุรินทร์ ซึ่งวิ่งเข้าไปหลบภายในบ้าน ต.หนองกุง อ.โนนคูณ จ.ศรีสะเกษ หลังตำรวจแสดงตัวเข้าตรวจค้น เพราะได้รับการร้องเรียนจากชาวบ้านว่าเป็นเครือข่ายค้ายาเสพติดรายสำคัญในพื้นที่ มีพฤติกรรมอุกอาจ แต่นายวีระศักดิ์กลับวิ่งไปหยิบอาวุธปืนสงคราม AK-47 ออกมาขู่เจ้าหน้าที่ พร้อมตะโกนด้วยเสียงดุดันว่าถ้าเข้ามาจะยิง จากนั้นรีบหลบกลับเข้าไปในบ้าน เจ้าหน้าที่ต้องระดมกำลังทั้งตำรวจ ทหาร และฝ่ายปกครอง ปิดล้อมบริเวณโดยรอบอย่างแน่นหนา เพื่อป้องกันเหตุร้าย บรรยากาศตึงเครียด เจ้าหน้าที่พยายามใช้ยุทธวิธีเจรจาเกลี้ยกล่อม ทั้งให้พ่อแม่และญาติสื่อสารทางโทรศัพท์ หวังให้ผู้ต้องหายอมมอบตัวแต่ไม่เป็นผล เนื่องจากนายวีระศักดิ์ยังอยู่ในอาการคลุ้มคลั่งจากการเสพยาบ้า ถือปืนพร้อมยิงตลอดเวลา นานกว่า 8 ชั่วโมง […]

ช่องโดนเอาว์เจอ PMN-2 อีก 8 ทุ่น ทบ.ชี้เขมรยังละเมิดข้อตกลง

17 ก.ย.- ทบ. แจงตรวจพบ PMN-2 เพิ่มเติมอีก 8 ทุ่นบริเวณช่องโดนเอาว์ จ.ศรีสะเกษ ชี้กัมพูชายังคงละเมิดข้อตกลงหยุดยิง ย้ำควรรับผิดชอบและร่วมแก้ไขปัญหาอย่างจริงใจ วันนี้ (17 ก.ย.68) ที่กองบัญชาการกองทัพบก พลตรี วินธัย สุวารี โฆษกกองทัพบก เปิดเผยว่ากองทัพบกได้รับรายงานจากกองทัพภาคที่ 2 ภายหลังจากที่กำลังพลกองร้อยทหารราบที่ 132 ฐานปฏิบัติการชนะศึก ได้ร่วมกับศูนย์ปฏิบัติการทุ่นระเบิดแห่งชาติ (TMAC) ปฏิบัติการเก็บกู้ทุ่นระเบิดเพื่อเสริมภารกิจด้านความมั่นคงในพื้นที่ช่องโดนเอาว์ ฐานปฏิบัติการชนะศึก อ.กันทรลักษณ์ จ.ศรีสะเกษ วานนี้ (16 ก.ย.68) โดยได้ตรวจพบทุ่นระเบิดสังหารบุคคลแบบ PMN-2 จำนวน 8 ลูก มีสภาพใหม่ ติดตั้งในลักษณะพร้อมทำงาน ซึ่งทางหน่วยได้ทำการเก็บกู้รื้อถอนและนำเก็บเพื่อรอการทำลายเป็นที่เรียบร้อย สำหรับการตรวจพบระเบิดดังกล่าว เป็นเครื่องยืนยันว่าฝ่ายกัมพูชายังคงมีความพยายามอย่างไม่ลดละในการใช้อาวุธต่อกำลังของฝ่ายไทย ซึ่งถือเป็นการละเมิดต่อข้อตกลงหยุดยิงอย่างชัดเจน และเป็นพฤติกรรมที่สวนทางกับข้อตกลงที่กัมพูชาได้ให้ไว้ในที่ประชุม GBC เมื่อวันที่ 10 ส.ค.68 ที่ผ่านมา ในเรื่องความร่วมมือที่จะดำเนินการเก็บกู้ทุ่นระเบิด ซึ่งจากนี้กองทัพบกจะนำหลักฐานที่ได้ตรวจพบทั้งหมดในพื้นที่ รวบรวมนำส่งให้ส่วนที่เกี่ยวข้องเพื่อร้องเรียนตามกระบวนการในเวทีสากลต่างๆ ต่อไป รวมทั้งขอความร่วมมือกัมพูชา […]

ไทม์ไลน์เหตุเผชิญหน้า “บ้านหนองหญ้าแก้ว” เขมรป่วนไม่เลิก

17 ก.ย.- เปิดไทม์ไลน์เหตุเผชิญหน้า “บ้านหนองหญ้าแก้ว” เจ้าหน้าที่ใช้แก๊สน้ำตา-กระสุนยาง หลังชาวเขมรชุมนุมประท้วง ก่อความวุ่นวาย ล่าสุดสถานการณ์ทั่วไปอยู่ในความควบคุม แต่กลุ่มชาวกัมพูชายังคงปักหลักใกล้แนวชายแดน.-สำนักข่าวไทย

ทำเนียบฯ เตรียมพร้อมสถานที่รับนายกฯ-ครม.ใหม่

ทำเนียบ 17 ก.ย.- ทำเนียบรัฐบาล เตรียมพร้อมสถานที่รับนายกฯ-ครม.ใหม่ ถ่ายรูปติดบัตร ก่อนถวายสัตย์ปฏิญาณ ผู้สื่อข่าวรายงานบรรยากาศที่ทำเนียบรัฐบาลได้จัดเตรียมสถานที่สำหรับถ่ายรูปติดบัตรประจำตัวของคณะรัฐมนตรี ก่อนเข้าเฝ้าฯ ถวายสัตย์ปฏิญาณ ซึ่งเป็นไปตามขั้นตอน และยังมีการตัดแต่งต้นไม้ บริเวณโดยรอบทำเนียบรัฐบาล และตัดหญ้าด้านหน้าตึกไทยคู่ฟ้า เพื่อเตรียมพื้นที่สำหรับการถ่ายรูปหมู่คณะรัฐมนตรีชุดใหม่ ตั้งแต่เมื่อวานนี้ (16 ก.ย.) นอกจากนี้ ยังมีความเคลื่อนไหวที่ตึกบัญชาการ 1 ซึ่งเป็นห้องทำงานของรองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ตั้งแต่ช่วงวันหยุดเสาร์-อาทิตย์ที่ผ่านมา และวันนี้มีการส่งทีมงานเข้ามาดูห้องทำงานภายในตึกบัญชาการ 1 ด้วย สำหรับตำแหน่งว่าที่รองนายกรัฐมนตรี ในรัฐบาลอนุทิน มีชื่อทั้งหมด 7 คน ได้แก่ นายพิพัฒน์ รัชกิจประการ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม, นายเอกนิติ นิติทัณฑ์ประภาศ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง, ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์, นายพัฒนา พร้อมพัฒน์ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข, นายสุชาติ ชมกลิ่น รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม, นายบวรศักดิ์ อุวรรณโณ รองนายกรัฐมนตรี และนายโสภณ​ ​ซา​รัมย์​ รอง​นายก​รัฐมนตรี​ ขณะที่ตำแหน่งว่าที่รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี […]