ทำเนียบรัฐบาล 27 ก.ค. -พบผู้ป่วยโควิด-19 ใหม่ 4 ราย มาจากต่างประเทศทั้งหมด เตรียมพิจารณาผ่อนคลายเปิดเรียน 100% ไม่ต้องสลับวันเรียน แต่ต้องเข้มมาตรการทางสาธารณสุข
นพ.ทวีศิลป์ วิษณุโยธิน โฆษกศูนย์บริหารสถานการณ์โควิด-19 (ศบค.) แถลงสถานการณ์โควิด-19 ประจำวัน ว่า วันนี้ (27 ก.ค.) ไทยมีรายงานผู้ป่วยใหม่ 4 ราย รวมผู้ป่วยสะสม 3,295 ราย รักษาหาย 3,111 ราย รักษาอยู่ 126 ราย ไม่มีผู้เสียชีวิตเพิ่ม ทำให้ยอดผู้เสียชีวิตอยู่ที่ 58 ราย โดยผู้ป่วยใหม่มาจากต่างประเทศทั้งหมด แบ่งเป็น จากสหรัฐอเมริกา 3 ราย เป็นนักท่องเที่ยวหญิงไทย อายุ 44 ปี เดินทางถึงไทย 20 กรกฎาคม 2563 เข้าพักในสถานกักกันตัวที่รัฐจัดให้ที่จ.ชลบุรี และตรวจพบเชื้อวันที่ 25 กรกฎาคม แต่ไม่มีอาการ อีก 2 ราย เป็นนักศึกษาชายไทย อายุ 25 ปีและนักศึกษาหญิงไทย อายุ 21 ปี ถึงไทยวันที่ 25 กรกฎาคม ผ่านการคัดกรองที่ด่านควบคุมโรค พบว่า มีอาการเข้าเกณฑ์ คือ ผู้ป่วยชาย มีอาการไข้และเจ็บคอ และผู้ป่วยหญิงมีอาการไข้และจมูกไม่ได้กลิ่น จึงตรวจหาเชื้อใหม่ในวันที่ 25 กรกฎาคม ผลตรวจพบเชื้อ ส่วนอีก 1 ราย มาจากไต้หวัน เป็นชายไทย อายุ 30 ปี อาชีพ พนักงานโรงงาน เดินทางถึงไทยวันที่ 21 กรกฎาคม เข้าพักในสถานกักกันตัวที่รัฐจัดให้ที่กรุงเทพฯ ตรวจพบเชื้อวันที่ 25 กรกฎาคม และพบว่ามีอาการถ่ายเหลว
โฆษกศบค. กล่าวว่า สำหรับสถานการณ์ทั่วโลก ผู้ติดเชื้อรวม 16,412,794 ราย เสียชีวิต 652,039 ราย สหรัฐฯ พบติดเชื้อมากที่สุด 4,371,839 ราย เสียชีวิต 149,849 ราย รองลงมา คือ บราซิล ติดเชื้อรวม 2,419,901 ราย และอินเดีย ติดเชื้อรวม 1,436,019 ราย ขณะที่ไทยอยู่อันดับที่ 106 ของโลก ทั้งนี้ มีอยู่ 5 ประเทศที่มีการระบาดรอบ 2 ได้แก่ ฮ่องกง ญี่ปุ่น ออสเตรเลีย อิสราเอล และโครเอเชีย ด้านประเทศเวียดนาม มีรายงานว่าปลอดเชื้อมาหลายวัน แต่เมื่อวันที่ 25 กรกฎาคม พบว่า มีผู้ติดเชื้อใหม่ 1 ราย และเมื่อวานนี้ (26 ก.ค.) พบว่า มีผู้ติดเชื้อเพิ่มขึ้นอีก 3 ราย เวียดนามจึงมีมาตรการเข้ม งดรับนักท่องเที่ยวต่างชาติในดานังเป็นเวลา 14 วัน รวมทั้งรณรงค์สวมหน้ากากอนามัย เว้นระยะห่าง ยกเลิกการจัดงานต่าง ๆ ทันที
“สำหรับมาตรการผ่อนคลายการเดินทาง กรมการขนส่งทางบก ได้รายงานกับ ศบค.ว่า มาตรการต่าง ๆ ได้รับความร่วมมือจากผู้ประกอบการและขนส่งของภาครัฐและเอกชนเป็นอย่างดี ทั้งการเดินทาง การจองตั๋วล่วงหน้า และการปฏิบัติตนของพนักงานขับรถ ซึ่งประเมินผลรถโดยสารระหว่างจังหวัดตั้งแต่วันที่ 28 มิถุนายน ถึง 19 กรกฎาคม พบว่า 99.70 เปอร์เซ็นต์ สวมหน้ากากอนามัย” นพ.ทวีศิลป์ กล่าว
โฆษกศบค. กล่าวว่า สำหรับการเปิดสถานศึกษา ที่ก่อนหน้านี้กังวลว่าจะทำให้เกิดการแพร่ระบาด ขณะนี้ ศบค.มอบหมายให้กรมควบคุมโรคและกระทรวงศึกษาธิการพิจารณา พบว่าผ่านมา 1 เดือนยังไม่พบการติดเชื้อในกลุ่มนี้ โดยเด็กเป็นกลุ่มเสี่ยงในการติดเชื้อค่อนข้างต่ำ และไม่เคยพบการป่วยเป็นกลุ่มก้อน เนื่องจากตัวรับในโพรงจมูกที่เป็นตัวรับเชื้อของเด็กน้อยกว่าผู้ใหญ่ ดังนั้น การรับเชื้อในเด็กก็น้อยลงไปด้วย
“สิ่งที่กังวลคือจะไม่มีเด็กรับเชื้อ เพราะสามารถเป็นผู้มีเชื้อ แล้วนำไปส่งต่อถึงผู้ใหญ่ในบ้านได้ ซึ่งเป็นเรื่องที่ต้องป้องกัน อย่างไรก็ตาม ขณะนี้มี 4,500 กว่าโรงเรียน ที่ยังต้องสลับวันเรียน เนื่องจากสถานที่เรียนค่อนข้างคับแคบ แต่ยอมรับว่า มีผลกระทบในด้านต่าง ๆ ทั้ง การเรียนรู้ของนักเรียนที่ถดถอยลง การเหลื่อมล้ำของการเข้าถึงทรัพยากรทางการศึกษา ผลกระทบทางโภชนาการ ขาดปฏิสัมพันธ์ทางสังคม การออกจากการเรียนกลางคัน และผู้ปกครองอาจจะต้องลางาน สูญเสียรายได้” นพ.ทวีศิลป์ กล่าว โฆษกศบค. กล่าวว่า กระทรวงสาธารณสุขและกระทรวงศึกษาธิการประชุมร่วมกันถึงข้อพิจารณาในการผ่อนคลาย โดยให้นักเรียนไปเรียนได้ตามปกติ แต่มาตรการเสริมต้องเข้มข้น ด้วยการจัดห้องเรียน จัดโต๊ะเรียนให้ห่างกันมากที่สุดเท่าที่จะทำได้ กรณีห้องแอร์ ให้เปิดประตูและหน้าต่างช่วงพักเที่ยงหรือช่วงที่ไม่มีการเรียนการสอน บันทึกข้อมูลการป่วยโรคทางเดินหายใจ ซึ่งการดำเนินการทั้งหมดนี้ จะกำกับโดยคณะกรรมการสถานศึกษาและหน่วยสาธารณสุขในพื้นที่ สอดคล้องกับการประเมินของกรมอนามัยหลังการเปิดภาคเรียน พบว่าสถานศึกษามีมาตรการป้องกันการแพร่เชื้อถึง 99.4% ส่วนข้อมูลเด็กป่วยมีเพียง 687 คน ที่มีอาการไข้หวัด ไอ น้ำมูก เจ็บคอ แต่ไม่ได้เป็นโควิด-19 ซึ่งถือว่า เด็กป่วยน้อยลง.-สำนักข่าวไทย