รัฐสภา 18 ส.ค.-รมช.ศธ. ระบุโรงเรียนแนวชายแดนไทย-กัมพูชา เปิดการสอน-ปิดศูนย์พักพิงแล้ว ยืนยืนพร้อมรับมือสถานการณ์ไม่คาดฝันทุกมิติ เปิดคอร์สเรียนเสริม-ปรับระบบการเรียนให้ตอบสนองผู้เรียน พร้อมเยียวยาจิตใจครู-นักเรียน
นางสาวลิณธิภรณ์ วริณวัชรโรจน์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงศึกษาธิการ ตอบกระทู้ถามของนายปริญญา วงษ์เชิดขวัญ สมาชิกวุฒิสภา ที่ตั้งกระทู้ถามกระทรวงศึกษาธิการ ถึง วิธีการจัดการเรียนการสอนให้กับนักเรียนที่อยู่ในพื้นที่อพยพชายแดนไทย-กัมพูชา และนโยบายในอนาคต หากเกิดเหตุการณ์วิกฤตที่ผู้เรียนไม่สามารถเข้าเรียนได้ปกติรวมถึงแผนดูแลนักเรียนหลังจากการสู้รบจบลงว่า สถานการณ์แนวชายแดนไทย-กัมพา จำนวน 7 จังหวัด มี 4 จังหวัดที่สถานการณ์มีความเข้มข้น แต่ได้เข้าสู่สถานการณ์ปกติแล้ว ทำให้วันนี้มีการเปิดการเรียนการสอนทุกแห่ง รวมถึงปิดศูนย์พักพิงในทุกพื้นที่ แต่ก็เตรียมความพร้อมรับมือสถานการณ์ที่ไม่คาดฝันในทุกมิติ
สำหรับแผนแนวทางการปฏิบัตินั้น นางสาวลิณธิภรณ์ ยืนยันว่า มีรองรับอยู่แล้ว ทั้งในกรณีภัยสงคราม และภัยพิบัติ จะมีการปรับปรุงรายวิชาหลัก และรายวิชาบูรณาการ มุ่งไปที่การพัฒนาทักษะชีวิต กำหนดการบ้านที่จำเป็น เพื่อนำมาเป็นเครื่องมือในการเทียบผลคะแนน และยืดหยุ่นการเรียนการสอน ให้ความสำคัญในรูปแบบอื่น ๆ เข้ามาจัดการเรียนการสอน เพราะเคยผ่านสถานการณ์โควิด-19 มาแล้ว ทั้งการเรียนออนไลน์ การเรียนในห้องเรียน และการเรียนตามความต้องการของตนเอง รวมถึงการชดเชยเวลาเรียนด้วยในกรณีที่มีความจำเป็นด้วย
ส่วนข้อกังวลสำหรับนักเรียนมัธยมศึกษาตอนปลาย ที่เตรียมเลือกเข้าสู่มหาวิทยาลัยนั้น นางสาวลิณธิภรณ์ ระบุว่า ได้จัดการส่งเสริมการเรียนการสอนหลายรูปแบบ และยังได้ยื่น Portfolio กิจกรรมที่เด็กได้เข้าไปมีส่วนในศูนย์พักพิงต่าง ๆ ไม่ว่าจะเป็น ทั้งการเป็นจิตอาสา และการช่วยเหลือบุคคลอื่น
นางสาวลิณธิภรณ์ ยังยืนยันว่า แม้สถานการณ์ชายแดนจะเริ่มสงบลง มีโรงเรียนเปิดตามปกติ แต่กระทรวงศึกษาธิการได้เตรียมมาตรการเยียวยาจิตใจครู ฟื้นฟูใจเด็กจากเหตุปะทะในครั้งนี้ โดยร่วมกับกรมสุขภาพจิต กระทรวงสาธารณสุข และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องที่จะเข้าไปในพื้นที่ ดูแล และสำรวจจิตใจ เพื่อฟื้นฟูจิตใจให้นักเรียนกลับมาสู่สภาวะปกติมากขึ้น เพื่อป้องกันสภาวะสุ่มเสี่ยงความซึมเศร้าในอนาคต
ส่วนข้อกังวลเด็กจะหลุดออกจากระบบการศึกษาหรือไม่นั้น นางสาวลิณธิภรณ์ ระบุว่า เป็นหน้าที่ของกรมส่งเสริมการเรียนรู้ กระทรวงศึกษาธิการ ที่ขณะนี้ กระทรวงฯ กำลังดำเนินการอยู่ ซึ่งจากสถานการณ์โควิด-19 ที่ผ่านมา ยอมรับว่า มีเด็กหลุดออกจากระบบการศึกษาจำนวนมาก แต่หลังจากนั้นมีการติดตาม จนล่าสุดเหลือยอดผู้หลุดออกจากระบบการศึกษาราว 900,000 ราย.-319.-สำนักข่าวไทย