fbpx

“ชลน่าน” กังวลหากเสนอ “บิ๊กป้อม” แข่ง อาจได้เกิน 375 เสียง

พรรคเพื่อไทย 14 ก.ค.- “ชลน่าน” รับกังวลขั้วรัฐบาลเดิมอาจเสนอชื่อ “บิ๊กป้อม” แข่งโหวตนายกฯ รอบ 2 ชี้มีโอกาสได้เกิน 375 เสียง รอคุย 8 พรรคร่วมฯ ยังเสนอ “พิธา” ชิงนายกฯ หรือไม่ เชื่อไม่มีทางตัน


นพ.ชลน่าน ศรีแก้ว หัวหน้าพรรคเพื่อไทย กล่าวถึงความกังวลว่าจะมีการเสนอชื่อ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ หัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ ขึ้นมาแข่งในการโหวตเลือกนายกรัฐมนตรี ครั้งที่ 2 ว่า เป็นความกังวลและห่วงใยของตัวเอง ถ้ามีเหตุการณ์นั้นเกิดขึ้นจริง มีข้อกังวลถึงผลโหวตที่จะให้กับคู่แข่งอาจเกิดผลสัมฤทธิ์ขึ้นมาทันทีจาก 188 เสียง ถ้าเขารวมกันแน่น แล้วบวกกับเสียง ส.ว. ก็มีโอกาสเกิน 375 เสียง

ส่วนจะดันชื่อนายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ เป็นนายกรัฐมนตรีอยู่หรือไม่ นพ.ชลน่าน กล่าวว่า พรรคเพื่อไทยยังเคารพสิทธิของก้าวไกล ในฐานะเป็นพรรคอันดับหนึ่งในการจัดตั้งรัฐบาล เพราะฉะนั้นจะดันหรือไม่ ก็ขึ้นอยู่กับพรรคก้าวไกล ที่จะเสนอในการพูดคุยระหว่างพรรคก้าวไกลกับพรรคเพื่อไทย และระหว่างการพูดคุย 8 พรรคร่วมฯ


เมื่อถามว่า ดูแล้วเสียง ส.ว. ท่าจะยาก นพ.ชลน่าน กล่าวว่า ไม่มีอะไรง่าย โดยเฉพาะการเมืองที่ไม่ปกติอย่างที่พรรคก้าวไกลพูด แต่บนพื้นฐานของความเป็นไปได้ ถ้าคาดการณ์ว่าอะไรจะเกิดขึ้นแล้ว เราสูญเสียไป คงเป็นสิ่งที่ต้องมาปรึกษาหารือกัน ว่าจะป้องกันไม่ให้เกิดขึ้นอย่างไร เปรียบเสมือนว่า รู้อยู่แล้วว่าจะมีการโหวตในวันที่ 19 กรกฎาคมนี้ โดยไม่มีหลักหรือไม่มั่นใจ แล้วมีคนแข่ง ก็จะเป็นอย่างที่ตั้งสมมติฐานกันว่า เราอาจจะแพ้ ดังนั้น ต้องมาพูดคุยกันว่าจะทำอย่างไร

ส่วนในการพูดคุยระหว่างพรรคก้าวไกล และพรรคเพื่อไทย จะมีข้อเสนอเปลี่ยนชื่อแคนดิเดตนายกรัฐมนตรี ในการโหวตครั้งที่ 2 หรือไม่ นพ.ชลน่าน กล่าวว่า อยู่ที่ข้อเสนอและการพูดคุย

ส่วนหากพรรคก้าวไกล ยังยืนยันจะเสนอชื่อนายพิธา พรรคเพื่อไทยจะแสดงท่าทีอย่างไร นพ.ชลน่าน กล่าวว่า ต้องให้สิทธิกับพรรคก้าวไกล พรรคอันดับหนึ่งที่เป็นแกนนำ พรรคเพื่อไทยลง MOU ไปแล้ว และชัดเจนจะสนับสนุนจนสุดความสามารถ ซึ่งยังยืนยันอยู่


เมื่อถามถึงนิยามคำว่า สุดความสามารถ นพ.ชลน่าน กล่าวว่า ไม่มีคำนิยาม ขึ้นอยู่กับความพึงพอใจ ความเป็นเหตุเป็นผล ถ้าทำถึงที่สุดแล้วก้าวไกลเห็นชอบ ภาพรวมไม่มีผลกระทบ ไม่มีผลเสียหาย ถ้าจบได้นั่นคือนิยามคำว่าถึงที่สุด พร้อมย้ำว่า ขณะนี้ที่ยังไม่พูดคุยกันว่าจะยังเสนอชื่อนายพิธาในรอบสอง แต่หากมีข้อสรุปแล้วก็จะเป็นไปตามสิ่งที่พูดคุยกัน ขณะเดียวกันมองว่า เรื่องเงื่อนไขข้อบังคับที่ว่า ญัตติที่ตกไปแล้วจะเสนอซ้ำไม่ได้ ในมุมเราคิดว่าไม่ใช่เรื่องจำเป็นและสำคัญ แต่หากท่านอื่นจะยกมาก็เป็นเรื่องที่สภาฯ จะต้องพิจารณา ส่วนฝ่ายเราที่มีความมุ่งมั่นจะเสนอในญัตติเดิม ก็ต้องหาเหตุผลมาหักล้างให้ได้

ส่วนความพอใจที่ว่า จุดของความพอใจอยู่ตรงไหน และความพอใจหลักยังอยู่ที่ประชาชนอยู่หรือไม่ นพ.ชลน่าน กล่าวว่า เรื่องนิยามความพึงพอใจของนักการเมืองและพรรคการเมืองจะอยู่เหนือประชาชนและประเทศชาติไปไม่ได้ จะทำอะไรจนเป็นเหตุให้ประชาชนเดือดร้อน ประเทศเสียหายคงไม่ได้ ไม่ใช่ว่าผมพอใจที่จะทำอย่างนี้ไปเรื่อยๆ และเกิดความเสียหาย คงเป็นสิ่งที่ไม่เหมาะสม คงไม่น่าจะเป็นสิ่งที่ต้องสนับสนุนกันในเรื่องอย่างนั้น

ทั้งนี้ ถึงเวลาของพรรคอันดับสองแล้วหรือไม่ หลังพรรคอันดับหนึ่งดูเหมือนว่าน่าจะไม่ได้เสียงสนับสนุนถึงเป้า นพ.ชลน่าน กล่าวว่า 8 พรรคร่วมฯ คำนึงถึงผลที่จะเกิดขึ้น ถ้าโหวตวันที่ 19 กรกฎาคมนี้ ไม่ใช่ชื่อนายพิธา แต่เป็นชื่ออื่น ไม่ได้อยู่ในนาม 8 พรรคร่วมฯ นั่นคือความต้องการ ความคาดหวังของประชาชนถูกทำลายทันที ทั้งนี้ ไม่มีคำว่า 8 พรรคร่วมฯ “อาจจะ” เสนอชื่ออื่น อยู่ที่การพูดคุย

เมื่อถามถึงข้อเสนอของนายปิยบุตร แสงกนกกุล แกนนำคณะก้าวหน้า หากแก้ไขมาตรา 272 ไม่ได้ ให้ถอยไปเป็นฝ่ายค้าน นพ.ชลน่าน กล่าวว่า ก็เป็นความเห็นของผู้นำทางจิตวิญญาณของพรรคก้าวไกล เขาจะปฏิบัติหรือไม่ เราไม่ทราบ แต่เราไม่มีข้อผูกมัดอะไร ที่จะเป็นหรือไม่เป็นฝ่ายค้าน เพราะประชาชนเสียงข้างมากเลือกให้มาเป็นฝ่ายจัดตั้งรัฐบาล ไม่ได้เลือกให้มาเป็นฝ่ายค้าน และไม่ขอให้ความเห็น หรือวิพากษ์วิจารณ์ สิ่งที่นายปิยบุตร ระบุว่า ให้ยอมเป็นแกะดำใน 4 ปีนี้ เพื่อให้ 4 ปีข้างหน้าจะได้คะแนนเสียงมากกว่า 20 ล้านเสียง

ส่วนการพูดคุยระหว่างพรรคก้าวไกล และพรรคเพื่อไทย จะชัดเจนหรือไม่ว่า 8 พรรคร่วมฯ จะส่งชื่อใครชิงนายกรัฐมนตรี นพ.ชลน่าน กล่าวว่า คงต้องรอข้อสรุปก่อน เพราะถ้าเราไม่ชัดเจน เมื่อถึงวันที่ 19 กรกฎาคม อีกฝ่ายหนึ่งมีเจตนาที่จะเสนอคู่แข่ง และเดินเข้าไปสู่กับดักตรงนั้น เท่ากับเรายอมรับความพ่ายแพ้ เราเอาความหวังของประชาชน 25 ล้านเสียง ไปทลายอยู่ตรงนั้น เชื่อว่าประชาชนรับไม่ได้

เมื่อถามว่า 25 ล้านเสียงของประชาชน เป็นฉันทามติให้ 8 พรรคจัดตั้งรัฐบาล หรือเป็นฉันทามติเพื่อให้นายพิธา เป็นนายกรัฐมนตรี นพ.ชลน่าน กล่าวว่า นายพิธาเป็นหัวหน้าพรรคอันดับหนึ่ง เป็นผู้รวบรวมได้ 312 เสียง และในเชิงสัญลักษณ์ ประชาชน 14 ล้านเสียง สนับสนุนเขา และ 27 ล้านเสียง ที่รวมตัวแทนประชาชนที่เลือกเข้ามา นั่นหมายความว่า ประชาชนเลือกนายพิธา

ส่วนที่มีการพูดกันว่า ถ้ามีก้าวไกล ยังไง ส.ว.ก็ไม่เลือก นพ.ชลน่าน กล่าวว่า เท่าที่รู้เป็นเพียงความคิดเห็นของ ส.ว.บางคน พร้อมปฏิเสธไม่ทราบกระแสข่าวว่า พรรคเพื่อไทยไปดิว ส.ว.ได้ประมาณ 40 เสียง

เมื่อถามว่า ขณะนี้ยังมีทางไปต่อ หรือเป็นทางตัน สำหรับการโหวตนายกรัฐมนตรี นพ.ชลน่าน กล่าวว่า ไม่มีทางตัน ประเทศชาติต้องมีนายกรัฐมนตรี ต้องมีรัฐบาล ประชาชนต้องมีโอกาส

“เชื่อว่า ทุกฝ่ายไม่ปิดทางตันให้กับประเทศและประชาชน ส่วนจะมีแนวโน้มในการพูดคุยกับ ส.ส. ขั้วรัฐบาลเดิมหรือไม่นั้น สิ่งที่เกิดขึ้นจากการประชุมเมื่อวานเป็นเหตุนำเข้าแห่งการพูดคุย เพราะเรามุ่งหวังเสียง 376 เสียง เป็นรัฐบาลของประชาชน และอะไรที่เป็นต้นเหตุที่ทำให้ไปไม่ถึง ก็ต้องนำมาวิเคราะห์พูดคุย ว่าจะแก้เหตุตรงนั้นได้อย่างไร” นพ.ชลน่าน กล่าว

ส่วนที่พรรคก้าวไกลไม่ลดเพดานแก้มาตรา 112 และจะเสนอแก้มาตรา 272 ปิดสวิตช์ ส.ว. นพ.ชลน่าน กล่าวว่า เรื่องมาตรา 112 เป็นเรื่องที่ประกาศชัดเจนเป็นนโยบาย ดังนั้นเขาต้องมีจุดยืนในตรงนี้ เราต้องเคารพสิทธิเสรีภาพในการดำเนินการนโยบาย เราคงไม่ก้าวล่วง ที่จะขอให้ลดหรือไม่ลดอย่างไร ส่วนเรื่องแก้มาตรา 272 นั้น ยังไม่ได้พูดคุย ซึ่งต้องมาพูดคุยหาแนวทางร่วมกัน และคงต้องไปถาม ส.ว. ว่าเรื่องนี้จะยิ่งสร้างความไม่พอใจให้หรือไม่ เพราะอาจจะมี ส.ว.บางคนที่สบายใจก็ได้ เพราะมีช่องทางที่จะปลดเขาออกจากพันธนาการ.-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

นายกตรวจน้ำท่วมเชียงราย

นายกฯ บินเชียงราย ติดตามสถานการณ์น้ำท่วม

“นายกฯ แพทองธาร” ลงพื้นที่ติดตามสถานการณ์น้ำท่วม เตรียมมอบถุงยังชีพแก่ผู้ประสบภัยในพื้นที่ จ.เชียงราย พร้อมตรวจเยี่ยมการลำเลียงสิ่งของช่วยเหลือของกองทัพ

ชิงทองระนอง68บาท

รวบแล้วโจรชิงทอง 68 บาท กลางห้างดังระนอง

รวบแล้ว 2 คนร้ายชายหญิง จี้ชิงทอง 68 บาท ในห้างดังกลางเมืองระนอง ฝ่ายชายรับสารภาพ ชีวิตตกต่ำ ไม่มีรายได้ จึงชวนหลานสาววัย 16 ปี มาร่วมก่อเหตุชิงทอง

น้องชายรัวยิงพี่สาวตายกลางงานศพแม่ อ้างฉุนไม่ให้ร่วมจัดงานศพ

น้องชายชักปืนรัวยิงพี่สาวเสียชีวิตกลางงานศพแม่ ภายหลังน้องชายเข้ามอบตัวกับตำรวจ อ้างเหตุผลฆ่าเพราะโมโห รู้สึกว่าพี่สาวใจดำมากที่กีดกันไม่ให้ตนช่วยจัดงานศพแม่

บุกทลายโรงงานผลิตยาเถื่อน ย่านทุ่งครุ

เจ้าหน้าที่ อย. ร่วมสืบนครบาล บุกทลายโรงงานผลิตยาเถื่อน ย่านทุ่งครุ มีเบาะแสต้นตอการทะลักของยาเขียวเหลือง ตะลึงพบซากจิ้งจกตายในหม้อต้ม ขณะที่เจ้าของโรงงานยันประกอบอาชีพโดยสุจริต

ข่าวแนะนำ

อุตุฯ เตือนพายุ “ซูลิก” ฉบับที่ 12 ฝนถล่มหลายจังหวัด

กรมอุตุฯ ออกประกาศเตือนพายุ “ซูลิก” ฉบับที่ 12 ภาคเหนือ อีสาน กลาง รวมทั้งกรุงเทพฯ-ปริมณฑล ภาคตะวันออก และภาคใต้ มีฝนตกหนักถึงหนักมากกับมีลมแรง

ชายแดนแม่สายยังเละจมโคลน จับตาพายุลูกใหม่

แม้จะผ่านน้ำท่วมใหญ่ในรอบร้อยปีมาหลายวันแล้ว แต่ตอนนี้ชายแดนแม่สายยังเต็มไปด้วยความเสียหายและดินโคลนจำนวนมาก ชาวบ้านหลายคนยังไม่สมารถกลับเข้าบ้านได้

นายกฯ ตรวจความพร้อมการจัดขบวนพยุหยาตราทางชลมารค

นายกฯ ตรวจความพร้อมการจัดขบวนพยุหยาตราทางชลมารค การซ้อมเป็นรูปขบวนเรือในแม่น้ำเจ้าพระยา ครั้งที่ 7 ณ โรงเรือพระราชพิธี ท่าวาสุกรี และวัดอรุณราชวรารามราชวรมหาวิหาร ขณะที่ “เจ้าอาวาสวัดอรุณฯ” ให้กำลังใจทำหน้าที่ได้เต็มที่-ประสบความสำเร็จ

พายุโซนร้อน “ซูลิก” ทำฝนตกหนัก 76 จังหวัด 19-23 ก.ย.

พายุดีเปรสชันบริเวณชายฝั่งประเทศเวียดนามตอนบนทวีกำลังขึ้นเป็นพายุโซนร้อน “ซูลิก” แล้ว คาดขึ้นฝั่งเวียดนามคืนนี้ หัวพายุส่งผลให้ภาคตะวันออกเฉียงเหนือและภาคตะวันออกมีฝนแล้ว ช่วงระหว่างวันที่ 19-23 ก.ย.67 มีพื้นที่เสี่ยงฝนตกหนักถึงหนักมาก 76 จังหวัด