แถลงจุดยืนหลัง 44 อดีต สส.ก้าวไกล ถูกเรียกรับทราบข้อกล่าวหา

พรรคประชาชน 18 ก.พ.- “เท้ง” นำ 44 อดีต สส.ก้าวไกล แถลงจุดยืนหลังถูกเรียกรับทราบข้อกล่าวหาผิดจริยธรรม เตรียมขอขยายเวลา อ้างติดเตรียมข้อมูลอภิปราย เชื่อเป็นการเมืองแน่ เล็งไม่นิ่งเฉยกรณีประธาน ป.ป.ช. ดอดพบประธานสภา


นายณัฐพงศ์ เรืองปัญญาวุฒิ ผู้นำฝ่ายค้านในสภาผู้แทนราษฎร ในฐานะหัวหน้าพรรคประชาชน แถลงจุดยืนต่อกรณีที่ คณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) ส่งหนังสือให้อดีต 44 สส.พรรคก้าวไกล ที่เคยลงชื่อเสนอร่างกฎหมายแก้ไขความผิดคดี ม.112 ไปรับทราบข้อกล่าวหา โดยยืนยันการทำหน้าที่ของพวกตนทุกคนในการยื่นร่างแก้ไขกฎหมาย เป็นการใช้อำนาจหน้าที่ตามกระบวนการ นิติบัญญัติ ไม่ควรที่จะต้องผิดกฎหมายข้อหนึ่งข้อใดเลย ไม่ควรจะต้องถูกร้องเป็นเรื่องของความผิดจริยธรรมร้ายแรง ดังนั้นพวกตนยืนยันที่จะเดินหน้าต่อ และช่วงนี้อยู่ในช่วงของการเตรียมการอภิปรายไม่ไว้วางใจรัฐบาล และกรณีนี้มีกรอบเวลา 15 วัน ดังนั้นหลังจากนี้จะขอใช้การขยายกรอบเวลาออไปก่อน และหลังจากรับทราบข้อกล่าวหาของป.ป.ช.ในเบื้องต้นแล่วอย่างน้อยเพื่อให้พวกเราสามารถรับทราบรายละเอียดข้อกล่าวหาของป.ป.ช.รวมถึงพยานหลักฐานที่ทางป.ป.ช ได้รวบรวมมาก่อน และขอยืนยันพวกเราไม่ได้มีความเสียสมาธิใดๆ และคดีนี้ไม่ส่งผลกระทบกับพวกเราใด ๆ ทั้งสิ้น ยังยืนเดินหน้าทำงาน เพื่อพี่น้องประชาชนต่อไป

นายณัฐพงษ์ กล่าวว่าขณะนี้ทุกคนได้ เตรียมแก้ข้อกล่าวหาแล้ว เบื้องต้นแล้วทราบมาว่าคดีนี้ไม่ใช่คดีชุด ดูตามความผิดที่เขากล่าวหาเราเป็นรายบุคคล ดังนั้นในตัวคดีดังกล่าว เราเตรียมทีมกฎหมายเป็นที่เรียบร้อยแล้ว ที่จะแก้ข้อกล่าวหาใดๆ ก็ตามที่ดูเป็นรายบุคคล ไม่ยอมที่จะให้ป.ป.ช. มัดมารวมทำเป็นคดีกลุ่มที่จะมาเป็นกระบวนการ จึงอยากให้ใช้มาตรฐานเดียวกัน หากย้อนกลับไปดูหลายกรณี ใช้เวลาการฟ้องร้องเป็นรายบุคคลใช้เวลาหลายส่วนเป็นปี ก่อนที่ป.ป.ช.จะยื่นไปศาลฎีกา เราไม่อยากให้ป.ป.ช.มีหลายมาตรฐาน ไม่อยากให้คดีนี้ เร่งรัดจนผีดสังเกต


ทั้งนี้การเข้าชี้แจงข้อกล่าวหามีการแบ่งไว้แล้ว แต่จะเป็นใครบ้างนั้นยังไม่เปิดเผย เพราะเกรงว่าจะกระทบต่อการทำงาน ยืนยันชุดใหญ่หลายสิบคน แต่เป็นใครบ้างยังไม่ขอเปิดเผย แต่สิ่งที่พวกเราทำได้คือการเดินหน้าทำงานอย่างเต็มที่ และเชื่อมั่นว่าเพื่อนสมาชิกรวมทั้งเพื่อนส.ส.คนอื่นสามารถทำหน้าที่ของตัวเองได้อย่างเต็มที่ ทั้งในและนอกสภา ดังนั้นสิ่งที่ทำอยู่ยืนยันไม่เสียสมาธิ ต่อการฟ้องร้องดำเนินคดีในลักษณะนี้เดินหน้าทำงานต่อ สุดท้ายเสียงของประชาชน ก็จะเป็นคนที่สนับสนุนเราต่อไป

“ยืนยันไม่น่าส่งผลกระทบใด ๆ ต่อการอภิปรายไม่ไว้วางใจ เพราะเราจะขยายสิทธิเวลาในการรับทราบข้อกล่าวหาเพราะเรามีภารกิจสำคัญในการอภิปรายไม่ไว้วางใจที่จะเกิดขึ้นในช่วงเดือนมีนาคมนี้” นายณัฐพงษ์ กล่าว

เมื่อถามว่าได้วางแผนรองรับอย่างไร หากเกิดผลในทางลบ นายณัฐพงษ์ กล่าวว่า ตรงนั้นเป็นเรื่องในอนาคตที่เราต้องดูก่อน ถ้าเกิดเคสกรณีแบบนั้นจริงๆ คิดว่าไม่กระทบต่อการทำงานใด ๆ และการความเป็นสภาผู้แทนราษฎรไม่ใช่ทำงานแค่ในสภาอย่างเดียว แต่เราสามารถทำงานเพื่อประชาชน ดำรงตำแหน่งที่ไหนก็ได้ แต่ยังไม่ขอตอบล่วงหน้าเร็วเกินไป เพราะยังไม่ได้รับทราบ ข้อกล่าวหาของป.ป.ช.รวมทั้งพยานหลักฐานที่มีอยู่เมื่อถามว่า มองเป็นประเด็นการเมือง หรือไม่ นายณัฐพงศ์กล่าวว่าหลายคนมีการตั้งข้อสงสัยว่าเกี่ยวข้องอะไรกันหรือไม่กับกรณีที่เกิดขึ้น ตัวประธานเอง เกี่ยวข้องไหมกับการที่มีการยื่นหนังสือเร็วๆนี้ คิดว่าสามารถประเมินได้ แต่ไม่อยากให้เป็นเรื่องของการคาดเดา ขอดูข้อเท็จจริงก่อนว่าเป็นอย่างไร


ประเด็นเรื่องนี้เป็นประเด็นที่ค่อนข้างใหญ่และตนในฐานะสส.ฝ่ายค้าน ไม่สามารถที่จะนิ่งเฉยต่อกรณีนี้ได้ ซึ่งวาระที่ประชุมสส.วันนี้ จะหารือเรื่องนี้อยู่ และเชื่อมั่นว่า เพื่อนสมาชิกของพรรคประชาชนทุกคนจะเห็นด้วยในหลักการส่วนจะดำเนินการอย่างไรตามข้อกฎหมายที่มีอยู่ ซึ่งมีอยู่หลายช่องทาง ขอรอหารือในที่ประชุมสส. ก่อน แต่หลักฐานที่เห็นชัด ก็คือมีการเข้าชื่อเพื่อร้องเรียนต่อตัวประธานป.ป.ช. และการที่ไปพบประธานรัฐสภา ซึ่งเป็นคนหนึ่งที่อยู่ในกระบวนการร้องเรียนต่างๆ อยู่ขณะนี้ ถือเป็นสิ่งที่เป็นผลประโยชน์ทับซ้อน หรือพูดง่ายๆว่าเข้าไป”วิ่ง”เพื่อเป่าคดีหรือไม่ ซึ่งลักษณะเช่นนี้ไม่ควรเกิดขึ้น ดังนั้นก็สรุปอย่างที่ตนได้บอกไปว่า พวกเราในฐานะพรรคฝ่ายค้านคงไม่นิ่งเฉยต่อกรณีดังกล่าว

สำหรับมีคนจากพรรคประชาชนไปเป็นพยาน 4คนนั้น นายณัฐพงศ์ กล่าวว่ เราไม่ขอเปิดเผยรายชื่อและถือเป็นเอกสิทธิ์ของแต่ละคน ยังไม่ขอให้รายละเอียดขอรับทราบข้อกล่าวหาจากป.ป.ช. ก่อนจะได้รู้ถึงหลักฐานต่างๆ ที่มี และไม่คิดว่าเกี่ยวข้องกับการ “ลอยแพ” หรือไม่ลอยแพพรรค เพราะเอกสิทธิ์ที่จะให้ปากคำ หรือกล่าวหา อยู่ที่ตัวพวกเขาเอง สุดท้ายเราก็รู้กันอยู่ว่าคดีนี้เป็นคดีทางการเมือง ซึ่งประชาชนที่กำลังเฝ้ามองอยู่ ก็จะตัดสินได้เองว่าใครที่อยู่ข้างประชาชนมากที่สุด และยืนยันว่าเราดำเนินการโดยอาศัยอำนาจนิติบัญญัติที่ฟ้องร้องว่าเราผิดจริยธรรมร้ายแรงนั้นไม่ควรเกิดขึ้น และมองว่าตัวปัญหาคือง รัฐธรรมนูญ จึงให้ความสำคัญกับการแก้ไขรัฐธรรมนูญ แต่ก็รู้สึกเสียดายว่าการประชุมร่วมรัฐสภาที่ผ่านมาประชุมล่ม ไม่สามารถแก้ไขได้ หากเป็นเช่นนี้ปัญหาการฟ้องร้องทางจริยธรรมให้นักการเมืองหลุดออกจากตำแหน่งก็ยังคงมีอยู่ต่อไป.-312 -สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

น้ำท่วมเชียงใหม่

เชียงใหม่น้ำท่วมหลายชุมชน ปิดน้ำตก 3 แห่ง

เชียงใหม่ 26 พ.ค.-เชียงใหม่ฝนตกหนัก น้ำป่าไหลหลาก สั่งปิดน้ำตก 3 แห่ง เกรงจะเกิดอันตราย ขณะที่ในเขตเทศบาลนครเชียงใหม่ น้ำท่วมหลายชุมชน ระบายน้ำไม่ทัน บางจุดรถเล็กไม่สามารถผ่านได้ ฝนตกหนัก ทั่วทั้งจังหวัดเชียงใหม่ เมื่อคืนที่ผ่านมา ทำให้เกิดน้ำป่าไหลหลากลงลำห้วย ทางหัวหน้าอุทยานแห่งชาติดอยสุเทพ เชียงใหม่ สั่งปิดน้ำตก 3 แห่ง ทั้งน้ำตกแม่สา น้ำตกตาดหมอก อำเภอแม่ริม และน้ำตกหมอกฟ้า อำเภอแม่แตง เนื่องจากปริมาณน้ำเพิ่มสูงขึ้นและมีสีแดงขุ่น กระแสน้ำไหลเชี่ยวกราก เกรงว่าจะเกิดอันตรายกับนักท่องเที่ยว ขณะที่ในเขตเทศบาลนครเชียงใหม่ ฝนที่ตกหนักบนดอยสุเทพ และในตัวเมืองเชียงใหม่ ทำให้น้ำป่าบนดอยสุเทพ ไหลหลากลงลำห้วยมาตามทางระบายน้ำและไหลลงลำคลองคูไหว ทำให้เอ่อล้น จนระบายน้ำไม่ทัน เข้าท่วมขังในชุมชนศรีปิงเมือง ชุมชนฟ้าใหม่ ชุมชนกาดก้อม ระดับน้ำท่วมขังสูง 30-50 เซนติเมตร รถเล็กไม่สามารถผ่านได้ ทำให้ประชาชนและร้านค้าได้รับผลกระทบเป็นบริเวณกว้าง ประกอบกับนักเรียนกำลังเดินทางไปเรียน อย่างไรก็ตามขณะนี้ทางเทสบาลนครเชียงใหม่ กำลังเร่งสูบระบายน้ำอย่างเร่งด่วน.-สำนักข่าวไทย

กรมอุตุฯ เตือนทั่วไทยรับมือฝนถล่ม-ระวังน้ำท่วมฉับพลัน

กทม. 25 พ.ค.- กรมอุตุฯ เตือนทั่วไทยฝนตกหนักถึงหนักมาก อาจเกิดน้ำท่วมฉับพลัน น้ำป่าไหลหลาก และดินโคลนถล่ม กรมอุตุนิยมวิทยา เผยบริเวณภาคเหนือ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ภาคกลาง รวมทั้งกรุงเทพมหานครและปริมณฑล ภาคตะวันออก และภาคใต้ฝั่งตะวันตกมีฝนตกหนักถึงหนักมาก ขอให้ประชาชนในบริเวณประเทศไทยระวังอันตรายจากฝนตกหนักถึงหนักมากและฝนที่ตกสะสม ซึ่งอาจทำให้เกิดน้ำท่วมฉับพลัน น้ำป่าไหลหลาก และดินโคลนถล่ม โดยเฉพาะพื้นที่ลาดเชิงเขาใกล้ทางน้ำไหลผ่านและพื้นที่ลุ่ม ควรหลีกเลี่ยงการเดินทางผ่านบริเวณที่มีฝนฟ้าคะนอง และเส้นทางที่มีปัญหาน้ำท่วมซ้ำซาก โดยเฉพาะพื้นที่ลุ่มต่ำซึ่งอาจเกิดน้ำท่วมขังในระยะสั้นได้ สำหรับเกษตรกรควรเตรียมการป้องกัน โดยการปรับปรุงระบบทางระบายน้ำในแปลงเพาะปลูก เพื่อลดผลกระทบและความเสียหายที่อาจเกิดขึ้นกับผลผลิตทางการเกษตรและสัตว์เลี้ยง เนื่องจากร่องมรสุมพาดผ่านประเทศไทยตอนบน และภาคใต้ตอนบน ประกอบกับมรสุมตะวันตกเฉียงใต้ที่พัดปกคลุมทะเลอันดามัน ประเทศไทยและอ่าวไทยมีกำลังปานกลาง สำหรับคลื่นลมบริเวณทะเลอันดามันมีกำลังปานกลาง โดยทะเลอันดามันตอนบนมีคลื่นสูงประมาณ 2 เมตร ส่วนทะเลอันดามันตอนล่างมีคลื่นสูง 1-2 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 2 เมตร ขอให้ชาวเรือบริเวณอ่าวไทยและทะเลอันดามันเดินเรือด้วยความระมัดระวัง และหลีกเลี่ยงการเดินเรือในบริเวณที่มีฝนฟ้าคะนอง สำหรับเรือเล็กบริเวณทะเลอันดามันตอนบนควรงดออกจากฝั่งไว้ด้วย .-สำนักข่าวไทย

กว่า 130 ชม. ภารกิจสำเร็จ! กู้ร่างคนงานตกหลุมเสาเข็ม

กทม. 25 พ.ค.- ภารกิจสำเร็จ! ทีมกู้ภัยนำร่าง “นายดาว” คนงานพลัดตกหลุมเสาเข็ม ก่อสร้างรถไฟฟ้าสายสีส้ม ขึ้นมาด้านบนสำเร็จ หลังใช้เวลาปฏิบัติการกว่า 130 ชั่วโมง ความคืบหน้ากรณีนายศราวุฒิ หรือ นายดาว อายุ 33 ปี ชาวศรีสะเกษ คนงานที่พลัดตกลงไปในหลุมเสาเข็มความลึก 19 เมตร บริเวณพื้นที่ก่อสร้างโครงการรถไฟฟ้าสายสีส้ม ช่วงบางขุนนนท์-ศูนย์วัฒนธรรมแห่งประเทศไทย บริเวณปากซอยหลานหลวง 6 และ 8 แขวงมหานาค เขตป้อมปราบศัตรูพ่าย กรุงเทพฯ เมื่อช่วงบ่ายวันที่ 19 พ.ค. ที่ผ่านมา เข้าสู่วันที่ 6 แล้ว หลังจากเมื่อวานนี้ เจ้าหน้าที่ได้คาดพิกัดที่อาจพบร่างผู้เสียชีวิตที่ระดับความลึก 11.5 เมตร ล่าสุดเมื่อเวลา 19.00 น.วันที่ 24 พ.ค. บริเวณซอยหลานหลวง 8 เจ้าหน้าที่ทีมกู้ภัย USAR และมูลนิธิร่วมกตัญญู ยังคงพยายามเร่งค้นหาเพื่อกู้ร่างนายศราวุฒิ ขึ้นมาอย่างต่อเนื่อง โดยมี […]

“บังยา บองหลาคิงส์” รุดจับแม่งูจงอาง ไล่ฉกชาวบ้านวิ่งป่าราบ

สงขลา 25 พ.ค.- ชาวสวนยางสงขลา ผวา! แม่งูจงอางหวงไข่ดุมาก ไล่ฉกเจ้าของสวนวิ่งป่าราบ ต้องหยุดกรีดยาง ร้อนถึง “บังยาบองหลาคิงส์” ราชางูจงอางภาคใต้ ต้องมาช่วยจับ บังยา บองหลาคิงส์ ราชางูจงอางของภาคใต้ ตีรถด่วนจาก จ.กระบี่ มาช่วยจับงูจงอางนอนฟักไข่เฝ้ารังอยู่ในป่าสวนยาง พื้นที่บ้านควนยาง หมู่ 9 ต.สำนักแต้ว อ.สะเดา จ.สงขลา ซึ่งเป็นสวนยางของนายปรีชา อายุ 46 ปี ซึ่งตอนนี้เดือดร้อนมาก ไม่กล้าไปกรีดยางเพราะมีแม่งูจงอางมานอนฟักไข่เฝ้ารังติดกับต้นยาง ครั้งแรกที่ไปเจอตอนไปกรีดยางเมื่อ 8 พ.ค.ที่ผ่านมา เกือบโดนฉกมาแล้วเพราะเข้าไปใกล้รัง จนต้องวิ่งหนีสุดชีวิต หลังจากนั้นก็ไม่กล้าขึ้นไปกรีดยางอีกเลย จนต้องแจ้งขอความช่วยเหลือไปยัง บังยา บองหลาคิงส์ ให้มาช่วยจับ เมื่อทีมงานบังยา บองหลาคิงส์ มาถึงก็ต้องเดินเท้าขึ้นไปที่ป่าสวนยาง ซึ่งอยู่ห่างจากหมู่บ้านพอสมควร เมื่อไปถึงก็พบแม่งูจงอางตัวนี้นอนอยู่บนรังไม่ไปไหน และดุมากชูคอฉกตลอดเวลาหากเข้าใกล้ บังยาต้องหลอกล่ออยู่สักพักก็อาศัยจังหวะความนิ่งใช้มือเปล่าล็อกคอเอาไว้ได้ เป็นแม่งูสาวน่าจะท้องแรกหรือท้องสอง ยาวเกือบ 3 เมตร และเมื่อรื้อรังดูก็มีไข่อยู่ในรัง 28 ฟองและอีกไม่เกิน 10 […]

ข่าวแนะนำ

รวบเจ้าของหอพักโหดย่านรังสิต ข้อหากรรโชกทรัพย์

ปทุมธานี 28 พ.ค. – ตำรวจปทุมธานี บุกรวบเจ้าของหอพักย่านรังสิต พร้อมครอบครัว ข้อหากรรโชกทรัพย์ หลังมีนักศึกษาแจ้งความร้องทุกข์ว่า เจ้าของหอพักแห่งนี้ทำร้ายร่างกาย ยึดทรัพย์สินอื่นๆ ของผู้เช่าโดยไม่ยอมคืน พล.ต.ต.ยุทธนา จอนขุน ผู้บังคับการตำรวจปทุมธานี นำหมายจับศาลจังหวัดปทุมธานี ลงวันที่ 27 พ.ค. ในข้อหากรรโชกทรัพย์ เข้าจับกุม พ.ต.อ.พูลศักดิ์ อายุ 64 ปี นางพัชรียา อายุ 56 ปี และนางสาวพูลชนก อายุ 28 ปี ที่หอพักใน 7 ต.หลักหก อ.เมือง จ.ปทุมธานี จากกรณีมีนักศึกษากว่า 20 ราย เข้ามาแจ้งความร้องทุกข์กับตำรวจ สภ.ปากคลองรังสิต และเจ้าหน้าที่ สคบ. ว่าเจ้าของหอพักแห่งนี้ทำร้ายร่างกายนักศึกษา ยึดเอกสารหลักฐานทางราชการ ยึดทรัพย์สินอื่นๆ ของผู้เช่าโดยไม่ยอมคืน บางจังหวะการจับกุมจะเห็นได้ว่ามีการโต้เถียงกันและมีการขัดขืน แต่สุดท้ายต้องยอมจำนนต่อหมายจับ พล.ต.ต.ยุทธนา เปิดเผยว่า ตำรวจขอหมายจับจากศาลไป 3 […]

คนร้ายบุกยิงในงานกีฬาสี อบต.เกาะสะท้อน อส.-ครู เจ็บ 4

นราธิวาส 28 พ.ค. – คนร้ายบุกยิงในงานกีฬาสีต้านยาเสพติด อ.ตากใบ จ.นราธิวาส ทำให้อาสาสมัครรักษาดินแดนบาดเจ็บ 3 คน ครูบาดเจ็บ 1 คน ส่วนเหตุคนร้ายยิงใส่ป้อมหน้า สภ.จะแนะ ตำรวจเสียชีวิต 1 นาย เจ็บ 1 นาย เจ้าหน้าที่เร่งไล่ล่าคนร้าย คนร้ายชุดสีดำเดินถือปืนเข้ามาในลานกีฬาเซปักตะกร้อ งานแข่งขันกีฬาต้านยาเสพติด อบต.เกาะสะท้อน อ.ตากใบ จ.นราธิวาส จากนั้นรัวยิงชุดแรก 4 นัด คนที่ร่วมแข่งขันพากันวิ่งหลบหนี จากนั้นคนร้ายรัวยิงอีก 3 นัด ซึ่งภาพหลุดจากวิถีกล้องไปแล้ว เบื้องต้นเจ้าหน้าที่และหน่วยงานความมั่นคงเข้าตรวจสอบที่เกิดเหตุ พบผู้บาดเจ็บ 4 คน ประกอบด้วย 1.นายสุกรี ครูโรงเรียนบ้านเกาะสะท้อน 2.อาสารักษาดินแดนฮัมดานุดดีน 3.อาสารักษาดินแดนมุสลิม และนายไซนุดดิน ก่อนนำตัวส่งโรงพยาบาลตากใบ สอบสวนทราบว่าคนร้าย 6 คน ใช้จักรยานยนต์เป็นพาหนะ 3 คัน ขี่เข้ามาโดยปะปนกับประชาชน และก่อเหตุยิงผู้เข้าร่วมแข่งขันกีฬาต้านยาเสพติดจนมีผู้บาดเจ็บ หลังเกิดเหตุนายอำเภอตากใบลงพื้นที่เยี่ยมผู้บาดเจ็บ […]

นายกฯ ยกหูคุย “ฮุน มาเนต” คลี่คลายเหตุปะทะชายแดน

รัฐสภา 28 พ.ค.- นายกฯ รับทราบเหตุปะทะชายแดนไทย-กัมพูชา เผยยกหูคุยตรง “นายกฯ ฮุน มาเนต” ให้สถานการณ์คลี่คลายเร็วที่สุด ปัดตอบกรณี “ทักษิณ” ประกาศสงครามกับว้าแดง-สถานการณ์ใต้ นางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ให้สัมภาษณ์ก่อนเดินทางออกจากอาคารรัฐสภา ในเวลา 17.40 น. ถึงสถานการณ์ชายแดนไทยไทย-กัมพูชา บริเวณด่านช่องบก จ.อุบลราชธานี ว่า ได้รับรายงานแล้ว และจะมีการพูดคุยกันของผู้บัญชาการทหารบก (ผบ.ทบ.) ส่วนตนเองได้พูดคุยกับกระทรวงกลาโหมแล้ว ซึ่งเดี๋ยวก็คงมีข้อตกลงกันออกมา ขณะเดียวกัน ตนเองก็ได้มีการพูดคุยกับ พลเอกฮุน มาเนต นายกรัฐมนตรีกัมพูชาด้วย ไม่มีอะไร ซึ่งมีความเข้าใจตรงกันว่าจะทำให้สถานการณ์คลี่คลายลงโดยเร็วที่สุด และไม่อยากให้เกิดเหตุการณ์อีก ส่วนจะมีการใช้ความสัมพันธ์ส่วนตัวของนายกรัฐมนตรีสองประเทศหรือไม่ นายกรัฐมนตรี ยืนยันว่า ความสัมพันธ์ของตนเองกับนายกฯ กัมพูชา ก็เป็นไปได้ด้วยดี เมื่อถามว่า กรณีที่นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ประกาศสงครามกับว้าแดง เพื่อแก้ปัญหายาเสพติด รัฐบาลมีแนวทางการแก้ปัญหาอย่างไร นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ค่ะ ส่วนเหตุการณ์ความรุนแรงในสามจังหวัดชายแดนภาคใต้ ที่เกิดขึ้นหลายเหตุการณ์ในวันนี้ […]

ทอ. ยันไม่มีภัยคุกคาม หลังพบเครื่องบินต้องสงสัยใกล้ชายแดน

กองทัพอากาศ 28 พ.ค.- ทอ. ยันไม่มีภัยคุกคามต่อประเทศ หลังตรวจพบเครื่องบินต้องสงสัยใกล้ชายแดนไทย บริเวณตรงข้าม อ.พบพระ จ.ตาก พล.อ.ท.ประภาส สอนใจดี โฆษกกองทัพอากาศ เปิดเผยว่า เมื่อเวลา 13.03 น. กองทัพอากาศได้สั่งการให้เครื่องบินขับไล่ F-16 จำนวน 2 เครื่อง จากหน่วยบิน กองบิน 4 ปฏิบัติภารกิจการบินป้องกันทางอากาศ วิ่งขึ้นจากสนามบินตาคลี หลังหน่วยควบคุมอากาศยานและแจ้งเตือน ตรวจพบเครื่องบินต้องสงสัยใกล้ชายแดนไทย บริเวณตรงข้ามอำเภอพบพระ จังหวัดตาก เครื่องบินต้องสงสัยลำดังกล่าว เป็นอากาศยานสมรรถนะสูงแบบ YAK-130 มีทิศทางบินมุ่งเข้าสู่เขตแดนไทยในระยะใกล้ กองทัพอากาศ จึงสั่งการบินพิสูจน์ทราบและแสดงท่าทีป้องปราม ตามมาตรการปกติ เพื่อเฝ้าระวังและยืนยันสถานการณ์ จากการติดตามพบว่า เครื่องบินดังกล่าวได้เปลี่ยนทิศทางและออกจากเขตใกล้ชายแดนไทย ในเวลา 13.16 น. โดยไม่แสดงพฤติกรรมรุกราน หรือมีเจตนาเป็นภัยคุกคามต่อความมั่นคงของประเทศแต่อย่างใด “กองทัพอากาศ ขอยืนยันว่า เหตุการณ์ครั้งนี้เป็นส่วนหนึ่งของภารกิจปกติในการเฝ้าระวังป้องกันน่านฟ้า ซึ่งกองทัพอากาศดำเนินการอย่างเข้มแข็งและสม่ำเสมอ เพื่อรักษาอธิปไตยของประเทศ สร้างความปลอดภัย และความมั่นใจให้แก่ประชาชน” โฆษกกองทัพอากาศ กล่าว ทั้งนี้ […]