แถลงจุดยืนหลัง 44 อดีต สส.ก้าวไกล ถูกเรียกรับทราบข้อกล่าวหา

พรรคประชาชน 18 ก.พ.- “เท้ง” นำ 44 อดีต สส.ก้าวไกล แถลงจุดยืนหลังถูกเรียกรับทราบข้อกล่าวหาผิดจริยธรรม เตรียมขอขยายเวลา อ้างติดเตรียมข้อมูลอภิปราย เชื่อเป็นการเมืองแน่ เล็งไม่นิ่งเฉยกรณีประธาน ป.ป.ช. ดอดพบประธานสภา


นายณัฐพงศ์ เรืองปัญญาวุฒิ ผู้นำฝ่ายค้านในสภาผู้แทนราษฎร ในฐานะหัวหน้าพรรคประชาชน แถลงจุดยืนต่อกรณีที่ คณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) ส่งหนังสือให้อดีต 44 สส.พรรคก้าวไกล ที่เคยลงชื่อเสนอร่างกฎหมายแก้ไขความผิดคดี ม.112 ไปรับทราบข้อกล่าวหา โดยยืนยันการทำหน้าที่ของพวกตนทุกคนในการยื่นร่างแก้ไขกฎหมาย เป็นการใช้อำนาจหน้าที่ตามกระบวนการ นิติบัญญัติ ไม่ควรที่จะต้องผิดกฎหมายข้อหนึ่งข้อใดเลย ไม่ควรจะต้องถูกร้องเป็นเรื่องของความผิดจริยธรรมร้ายแรง ดังนั้นพวกตนยืนยันที่จะเดินหน้าต่อ และช่วงนี้อยู่ในช่วงของการเตรียมการอภิปรายไม่ไว้วางใจรัฐบาล และกรณีนี้มีกรอบเวลา 15 วัน ดังนั้นหลังจากนี้จะขอใช้การขยายกรอบเวลาออไปก่อน และหลังจากรับทราบข้อกล่าวหาของป.ป.ช.ในเบื้องต้นแล่วอย่างน้อยเพื่อให้พวกเราสามารถรับทราบรายละเอียดข้อกล่าวหาของป.ป.ช.รวมถึงพยานหลักฐานที่ทางป.ป.ช ได้รวบรวมมาก่อน และขอยืนยันพวกเราไม่ได้มีความเสียสมาธิใดๆ และคดีนี้ไม่ส่งผลกระทบกับพวกเราใด ๆ ทั้งสิ้น ยังยืนเดินหน้าทำงาน เพื่อพี่น้องประชาชนต่อไป

นายณัฐพงษ์ กล่าวว่าขณะนี้ทุกคนได้ เตรียมแก้ข้อกล่าวหาแล้ว เบื้องต้นแล้วทราบมาว่าคดีนี้ไม่ใช่คดีชุด ดูตามความผิดที่เขากล่าวหาเราเป็นรายบุคคล ดังนั้นในตัวคดีดังกล่าว เราเตรียมทีมกฎหมายเป็นที่เรียบร้อยแล้ว ที่จะแก้ข้อกล่าวหาใดๆ ก็ตามที่ดูเป็นรายบุคคล ไม่ยอมที่จะให้ป.ป.ช. มัดมารวมทำเป็นคดีกลุ่มที่จะมาเป็นกระบวนการ จึงอยากให้ใช้มาตรฐานเดียวกัน หากย้อนกลับไปดูหลายกรณี ใช้เวลาการฟ้องร้องเป็นรายบุคคลใช้เวลาหลายส่วนเป็นปี ก่อนที่ป.ป.ช.จะยื่นไปศาลฎีกา เราไม่อยากให้ป.ป.ช.มีหลายมาตรฐาน ไม่อยากให้คดีนี้ เร่งรัดจนผีดสังเกต


ทั้งนี้การเข้าชี้แจงข้อกล่าวหามีการแบ่งไว้แล้ว แต่จะเป็นใครบ้างนั้นยังไม่เปิดเผย เพราะเกรงว่าจะกระทบต่อการทำงาน ยืนยันชุดใหญ่หลายสิบคน แต่เป็นใครบ้างยังไม่ขอเปิดเผย แต่สิ่งที่พวกเราทำได้คือการเดินหน้าทำงานอย่างเต็มที่ และเชื่อมั่นว่าเพื่อนสมาชิกรวมทั้งเพื่อนส.ส.คนอื่นสามารถทำหน้าที่ของตัวเองได้อย่างเต็มที่ ทั้งในและนอกสภา ดังนั้นสิ่งที่ทำอยู่ยืนยันไม่เสียสมาธิ ต่อการฟ้องร้องดำเนินคดีในลักษณะนี้เดินหน้าทำงานต่อ สุดท้ายเสียงของประชาชน ก็จะเป็นคนที่สนับสนุนเราต่อไป

“ยืนยันไม่น่าส่งผลกระทบใด ๆ ต่อการอภิปรายไม่ไว้วางใจ เพราะเราจะขยายสิทธิเวลาในการรับทราบข้อกล่าวหาเพราะเรามีภารกิจสำคัญในการอภิปรายไม่ไว้วางใจที่จะเกิดขึ้นในช่วงเดือนมีนาคมนี้” นายณัฐพงษ์ กล่าว

เมื่อถามว่าได้วางแผนรองรับอย่างไร หากเกิดผลในทางลบ นายณัฐพงษ์ กล่าวว่า ตรงนั้นเป็นเรื่องในอนาคตที่เราต้องดูก่อน ถ้าเกิดเคสกรณีแบบนั้นจริงๆ คิดว่าไม่กระทบต่อการทำงานใด ๆ และการความเป็นสภาผู้แทนราษฎรไม่ใช่ทำงานแค่ในสภาอย่างเดียว แต่เราสามารถทำงานเพื่อประชาชน ดำรงตำแหน่งที่ไหนก็ได้ แต่ยังไม่ขอตอบล่วงหน้าเร็วเกินไป เพราะยังไม่ได้รับทราบ ข้อกล่าวหาของป.ป.ช.รวมทั้งพยานหลักฐานที่มีอยู่เมื่อถามว่า มองเป็นประเด็นการเมือง หรือไม่ นายณัฐพงศ์กล่าวว่าหลายคนมีการตั้งข้อสงสัยว่าเกี่ยวข้องอะไรกันหรือไม่กับกรณีที่เกิดขึ้น ตัวประธานเอง เกี่ยวข้องไหมกับการที่มีการยื่นหนังสือเร็วๆนี้ คิดว่าสามารถประเมินได้ แต่ไม่อยากให้เป็นเรื่องของการคาดเดา ขอดูข้อเท็จจริงก่อนว่าเป็นอย่างไร


ประเด็นเรื่องนี้เป็นประเด็นที่ค่อนข้างใหญ่และตนในฐานะสส.ฝ่ายค้าน ไม่สามารถที่จะนิ่งเฉยต่อกรณีนี้ได้ ซึ่งวาระที่ประชุมสส.วันนี้ จะหารือเรื่องนี้อยู่ และเชื่อมั่นว่า เพื่อนสมาชิกของพรรคประชาชนทุกคนจะเห็นด้วยในหลักการส่วนจะดำเนินการอย่างไรตามข้อกฎหมายที่มีอยู่ ซึ่งมีอยู่หลายช่องทาง ขอรอหารือในที่ประชุมสส. ก่อน แต่หลักฐานที่เห็นชัด ก็คือมีการเข้าชื่อเพื่อร้องเรียนต่อตัวประธานป.ป.ช. และการที่ไปพบประธานรัฐสภา ซึ่งเป็นคนหนึ่งที่อยู่ในกระบวนการร้องเรียนต่างๆ อยู่ขณะนี้ ถือเป็นสิ่งที่เป็นผลประโยชน์ทับซ้อน หรือพูดง่ายๆว่าเข้าไป”วิ่ง”เพื่อเป่าคดีหรือไม่ ซึ่งลักษณะเช่นนี้ไม่ควรเกิดขึ้น ดังนั้นก็สรุปอย่างที่ตนได้บอกไปว่า พวกเราในฐานะพรรคฝ่ายค้านคงไม่นิ่งเฉยต่อกรณีดังกล่าว

สำหรับมีคนจากพรรคประชาชนไปเป็นพยาน 4คนนั้น นายณัฐพงศ์ กล่าวว่ เราไม่ขอเปิดเผยรายชื่อและถือเป็นเอกสิทธิ์ของแต่ละคน ยังไม่ขอให้รายละเอียดขอรับทราบข้อกล่าวหาจากป.ป.ช. ก่อนจะได้รู้ถึงหลักฐานต่างๆ ที่มี และไม่คิดว่าเกี่ยวข้องกับการ “ลอยแพ” หรือไม่ลอยแพพรรค เพราะเอกสิทธิ์ที่จะให้ปากคำ หรือกล่าวหา อยู่ที่ตัวพวกเขาเอง สุดท้ายเราก็รู้กันอยู่ว่าคดีนี้เป็นคดีทางการเมือง ซึ่งประชาชนที่กำลังเฝ้ามองอยู่ ก็จะตัดสินได้เองว่าใครที่อยู่ข้างประชาชนมากที่สุด และยืนยันว่าเราดำเนินการโดยอาศัยอำนาจนิติบัญญัติที่ฟ้องร้องว่าเราผิดจริยธรรมร้ายแรงนั้นไม่ควรเกิดขึ้น และมองว่าตัวปัญหาคือง รัฐธรรมนูญ จึงให้ความสำคัญกับการแก้ไขรัฐธรรมนูญ แต่ก็รู้สึกเสียดายว่าการประชุมร่วมรัฐสภาที่ผ่านมาประชุมล่ม ไม่สามารถแก้ไขได้ หากเป็นเช่นนี้ปัญหาการฟ้องร้องทางจริยธรรมให้นักการเมืองหลุดออกจากตำแหน่งก็ยังคงมีอยู่ต่อไป.-312 -สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

สมุทรปราการอ่วม! ปิด 25 โรงเรียนหนีน้ำท่วม

สมุทรปราการ 8 ก.ย.- สมุทรปราการอ่วม! ระดับน้ำยังท่วมสูง หลังฝนตกหนักทั้งคืน ด้าน สพท. สั่งปิดแล้ว 25 โรงเรียน ปรับให้สอนแบบออนไลน์ สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษา หรือ สพท. สั่งปิด 25 โรงเรียนจังหวัดสมุทรปราการ 1 วัน พร้อมปรับการเรียนเป็นแบบออนไลน์ เพื่อความปลอดภัยของนักเรียนและผู้ปกครอง หลังฝนตกหนักทั้งคืน ถนนสายสำคัญหลายเส้นถูกน้ำท่วม บางแห่งสูงกว่า 30 เซนติเมตร รวมถึงตรอกซอกซอยต่าง ๆ โดยบางพื้นที่น้ำได้ไหลเข้าท่วมบ้านเรือนประชาชน ขณะเดียวกันหลายจุดยังคงมีน้ำท่วมขัง ระบายออกไม่ได้ เนื่องจากระดับน้ำในคลองสายหลักสูง ประกอบกับน้ำทะเลหนุน เจ้าหน้าที่เร่งระบายน้ำ หากฝนไม่ตกลงมาซ้ำ คาดว่าบ่ายวันนี้สถานการณ์จะเข้าสู่สภาวะปกติ ทั้งนี้ มีรายงานว่าเกิดเหตุ หนุ่มวัย 17 ปี เข็นรถจักรยานยนต์ฝ่าน้ำ ถูกไฟรั่วจากแบริเออร์ก่อสร้างบนถนนแพรกษา ช็อตเสียชีวิตต่อหน้าเพื่อนบ้าน เจ้าหน้าที่เร่งสอบหาสาเหตุและป้องกันเหตุซ้ำ -สำนักข่าวไทย

ศาลสั่งจำคุก 2 ปี 8 เดือน ไม่รอลงอาญา “สส.ลูกเกด” คดี ม.112

กรุงเทพฯ 8 ก.ย. – ศาลสั่งจำคุก 4 ปี “ลูกเกด ชลธิชา” สส.ประชาชน คดี ม.112 คำให้การเป็นประโยชน์ลดโทษเหลือ 2 ปี 8 เดือน ส่าสุดศาลให้กันประกันตัวแล้ว กำหนดเงื่อนไขห้ามเดินทางออกนอกราชอาณาจักร เว้นแต่จะได้รับอนุญาต วันนี้ ( 8 ก.ย.) ที่ห้องพิจารณา 901 ศาลอาญา ถ.รัชดาภิเษก ศาลนัดฟังคำพิพากษาคดีดูหมิ่นสถาบัน หมายเลขดำ อ.595/65 ที่พนักงานอัยการฝ่ายคดีอาญา 4 เป็นโจทก์ ฟ้อง น.ส.ชลธิชา แจ้งเร็ว หรือลูกเกด สส.พรรคประชาชน จ.ปทุมธานี เป็นจำเลยในความผิด ดูหมิ่นสถาบัน ตามประมวลกฎหมายอาญา ม.112 , พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ ฯ ม.4 (3) จากกรณีเมื่อวันที่ 8 พ.ย.63 จำเลยได้โพสต์ข้อความ ลงในเฟซบุ๊กตัวเอง เกี่ยวกับราษฎรสาส์น […]

รื้อทั้งยวง! โผ ครม.อนุทิน 1 เหตุ “ธรรมนัส” คุมท่องเที่ยว ภท.ต้องเกลี่ยใหม่

กรุงเทพฯ 7 ก.ย. – โผ ครม. “อนุทิน 1” รื้อทั้งยวง หลัง “ธรรมนัส” คุมท่องเที่ยว ทำภูมิใจไทยต้องเกลี่ยใหม่ “ไชยชนก” ดีอี “ซาบีดา” วัฒนธรรม รอเปิดคนนอก “กลาโหม-ยุติธรรม” แว่วพลตำรวจโท อดีตรองผู้การภาค 3 ติดโผ จับตา “ศักดิ์ดา” ร่วมด้วย​ ด้าน “นิพนธ์” จ่อดันลูกสาวเป็นรัฐมนตรีป้ายแดง เมื่อวันที่ 7 กันยายน 2568 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สำหรับโผ ครม.ล่าสุด พรรคภูมิใจไทยจะได้เก้าอี้รัฐมนตรีส่วนใหญ่ประมาณ 12 ที่นั่ง โดยนายอนุทิน ชาญวีรกูล นั่งนายกรัฐมนตรี ควบรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย นายทรงศักดิ์ ทองศรี นั่งรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย น.ส.ซาบีดา ไทยเศรษฐ์ นั่งรัฐมนตรีว่าการกระทรวงวัฒนธรรม นายไชยชนก ชิดชอบ เลขาธิการพรรค จะนั่งตำแหน่งรัฐมนตรีว่าการกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม ขณะที่นายสุรศักดิ์ พันธ์เจริญวรกุล […]

ชัยภูมิน้ำท่วมหนัก หลังฝนตกตลอดคืน

ชัยภูมิ 7 ก.ย.-น้ำท่วมหนักใน 3 อำเภอของจังหวัดชัยภูมิ หลังฝนตกหนักตลอดทั้งคืน สภาพภายในวัดดอนไผ่ ริมถนนชัยภูมิ-นครสวรรค์ อำเภอบ้านเขว้า จังหวัดชัยภูมิ เมื่อช่วงเช้าวันนี้ (7 ก.ย.) หลังพายุฝนกระหน่ำตลอดทั้งคืน ระดับน้ำท่วมสูง 50 เซนติเมตร พระสงฆ์ต้องอพยพหนีน้ำท่วมไปฉันอาหารอยู่บนที่สูง ขณะนี้ระดับน้ำยังไม่ลดลง นอกจากนี้ ยังเกิดน้ำท่วมใน 3 อำเภอ คือ อำเภอเมือง ย่านเศรษฐกิจในตัวอำเภอแก้งคร้อ และอำเภอบ้านเขว้า น้ำป่าสีแดงขุ่นไหลเข้าท่วมถนนสาย 225 ชัยภูมิ-นครสวรรค์ รวมถึงร้านค้า บ้านเรือนประชาชน โดยเฉพาะที่วัดกลางโนนแดง และวัดดอนไผ่ สาเหตุมาจากกรมทางหลวงก่อสร้างถนน 4 เลน ตัดผ่านบ้านโนนแดง ต.โนนแดง อ.บ้านเขว้า ทำให้น้ำป่าที่ไหลมาจากเขาภูแลนคา ไม่สามารถไหลไปลงแม่น้ำชีได้.-สำนักข่าวไทย

ข่าวแนะนำ

“3 สส.” บัญชีรายชื่อใหม่ รายงานตัวต่อสภาแล้ว

รัฐสภา 10 ก.ย.- “3 สส.” บัญชีรายชื่อใหม่ “ทิพานัน-พล.ต.อ.อัศวิน-รุ่งเรือง” รายงานตัวต่อสภาแล้ว พร้อมผลักดันกฎหมายที่เป็นประโยชน์กับประเทศ น.ส.ทิพานัน ศิริชนะ สส.พรรครวมไทยสร้างชาติ ได้เข้ารายงานตัวต่อสำนักงานเลขาธิการสภาผู้แทนราษฎร ตามประกาศสภาผู้แทนราษฎร เนื่องจากนายสุชาติ ชมกลิ่น ได้มีหนังสือขอลาออกจากการเป็น สส.บัญชีรายชื่อ ตั้งแต่วันที่ 8 กันยายน 2568 เป็นเหตุให้สมาชิกภาพของนายสุชาติ สิ้นสุดลง จึงประกาศให้ผู้มีชื่อในลำดับถัดไปในบัญชีรายชื่อของพรรครวมไทยสร้างชาติ เลื่อนขึ้นมาเป็น สส. แทน โดย น.ส.ทิพานัน กล่าวว่า การเป็น สส. คือผู้แทนของประชาชน วันนี้เป็นอีกก้าวหนึ่งที่ได้เป็นตัวแทนในการทำงานฝ่ายนิติบัญญัติ ซึ่งการมีกฎหมายที่ถูกต้องชัดเจนเป็นเรื่องที่ดี และจะทำหน้าที่นี้อย่างดีที่สุด ทั้งนี้มีกฎหมายที่ต้องอยากขับเคลื่อนโดยเฉพาะกฎหมายที่เกี่ยวกับเด็กและเยาวชน รวมถึงเรื่องสิ่งแวดล้อม เช่น เรื่องอากาศที่มีผลกระทบกับคนไทย นอกจากนี้ยังมี พล.ต.อ.อัศวิน ขวัญเมือง สส.พรรครวมไทยสร้างชาติ เข้ารายงานตัวต่อสำนักเลขาธิการสภาผู้แทนราษฎร เนื่องจากนายธนกร วังบุญคงชนะ ได้มีหนังสือขอลาออกจากการเป็น สส.บัญชีรายชื่อ ตั้งแต่วันที่ 8 กันยายน 2568 เป็นเหตุให้สมาชิกภาพของนายธนกร […]

จับตา! ประชุม GBC “ไทย-กัมพูชา” ที่เกาะกง

10 ก.ย.- “ไทย-กัมพูชา” เปิดโต๊ะเจรจา GBC สมัยพิเศษ ที่จังหวัดเกาะกง รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงกลาโหม นำคณะผู้แทนระดับสูง ร่วมหารือสร้างความร่วมมือด้านความมั่นคง ลดความตึงเครียด และเดินหน้ามาตรการสร้างสันติสุขชายแดน พลเอก ณัฐพล นาคพาณิชย์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงกลาโหม และว่าที่รัฐมนตรีกลาโหม นำคณะผู้แทนไทย เข้าร่วมประชุมคณะกรรมการชายแดนทั่วไปไทย–กัมพูชา หรือ GBC สมัยพิเศษ ครั้งที่ 1/2568 โดยมี คณะผู้แทนประกอบด้วย พลเอก ธราพงษ์ มะละคำ รองปลัดกระทรวงกลาโหม, พลอากาศเอก นนทรี อินทรสาลี รองผู้บัญชาการทหารสูงสุด, นายชำนาญวิทย์ เตรัตน์ รองปลัดกระทรวงมหาดไทย ด้านกิจการความมั่นคงภายใน, นายวรณัฐ คงเมือง รองเลขาธิการสภาความมั่นคงแห่งชาติ, พลเอก กันตพจน์ เศรษฐารัศมี ผู้อำนวยการสำนักนโยบายและแผนกลาโหม, พลเอก ธงชัย รอดย้อย เสนาธิการทหารบก, พลเรือเอก ไพโรจน์ เฟื่องจันทร์ เสนาธิการทหารเรือ และพลอากาศเอก วชิระพล […]

อุตุฯ เตือนไทยตอนบนฝนตกหนักบางแห่ง-กทม.ฟ้าคะนอง 70%

กรุงเทพฯ 10 ก.ย. – กรมอุตุฯ เตือนไทยตอนบนมีฝนตกหนักบางแห่ง ขอให้ประชาชนบริเวณดังกล่าวระวังอันตรายจากฝนตกหนัก ส่วนกรุงเทพฯ และปริมณฑล ฝนฟ้าคะนอง 70% และมีฝนตกหนักบางแห่ง กรมอุตุนิยมวิทยาพยากรณ์อากาศ 24 ชั่วโมงข้างหน้า ประเทศไทยตอนบนมีฝนตกหนักบางแห่ง ขอให้ประชาชนในบริเวณดังกล่าวระวังอันตรายจากฝนตกหนักและฝนที่ตกสะสม ซึ่งอาจทำให้เกิดน้ำท่วมฉับพลันและน้ำป่าไหลหลาก โดยเฉพาะพื้นที่ลาดเชิงเขาใกล้ทางน้ำไหลผ่านและพื้นที่ลุ่ม เนื่องจากร่องมรสุมพาดผ่านภาคเหนือ และตอนบนของภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ประกอบกับมรสุมตะวันตกเฉียงใต้กำลังปานกลางยังคงพัดปกคลุมทะเลอันดามัน ภาคใต้ และอ่าวไทย สำหรับคลื่นลมบริเวณทะเลอันดามันตอนบนมีกำลังปานกลาง โดยมีคลื่นสูงประมาณ 2 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 2 เมตร ส่วนทะเลอันดามันตอนล่างและอ่าวไทยตอนบนมีคลื่นสูง 1-2 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 2 เมตร ขอให้ชาวเรือเดินเรือด้วยความระมัดระวัง และหลีกเลี่ยงการเดินเรือในบริเวณที่มีฝนฟ้าคะนอง กรุงเทพฯ และปริมณฑล มีฝนฟ้าคะนอง ร้อยละ 70 ของพื้นที่ และมีฝนตกหนักบางแห่ง อุณหภูมิต่ำสุด 24-26 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 31-33 องศาเซลเซียส.-สำนักข่าวไทย

กระบะส่งน้ำพุ่งชนเสาไฟล้ม 24 ต้น ทำไฟไหม้ร้านอาหาร บ้าน-ร้านค้าพัง

เชียงใหม่ 8 ก.ย.-วินาศสันตะโร กระบะส่งน้ำพุ่งชนเสาไฟฟ้าล้ม 24 ต้น บนถนนหนองฮ่อ อ.เมืองเชียงใหม่ ทำให้ไฟไหม้ร้านอาหาร บ้าน-ร้านค้ากว่า 10 หลัง พังเสียหาย ส่วนรถเสียหายนับสิบคัน ไฟฟ้าดับเป็นวงกว้าง อุบัติเหตุเกิดขึ้นช่วงบ่ายที่ผ่านมา หลังรถกระบะบรรทุกน้ำดื่มเอกชนพุ่งชนเสาไฟฟ้าบนถนนหนองฮ่อ ต.ช้างเผือก อ.เมืองเชียงใหม่ ก่อนถึง สภ.ช้างเผือก อ.เมืองเชียงใหม่ ประมาณ 300 เมตร โดยรถกระบะได้พุ่งชนเสาไฟฟ้าจนหักโค่นลงมา ก่อนที่รถจะเกี่ยวเข้ากับสายไฟลากไปอีกหลายสิบเมตร ทำให้สายไฟถูกดึงจนทำให้เสาไฟฟ้าโค่นล้มต่อๆ กันลงมาขวางถนนรวมแล้วกว่า 24 ต้น เสาไฟกิ่งเสียหาย 25 ต้น ทับบ้านเรือนประชาชนและร้านค้าพังเสียหายกว่า 10 หลัง และยังมีรถยนต์ที่จอดไว้ในบ้าน ริมถนน และที่ขับผ่านมา ถูกทับเสียหายเบื้องต้นมากกว่า 10 คัน นอกจากนี้สายไฟฟ้าที่ถูกดึงจนขาดยังทำให้เกิดเพลิงไหม้ร้านอาหารบริเวณดังกล่าวจนวอดเสียหายเกือบทั้งหมด อุบัติเหตุที่เกิดขึ้นทำให้กระแสไฟฟ้าดับเป็นวงกว้างและสร้างความแตกตื่นตกใจให้กับชาวบ้านเป็นอย่างมาก ขณะที่ตำรวจและหน่วยกู้ภัยเข้าตรวจสอบที่เกิดเหตุ พบรถกระบะสีขาว เป็นรถขนส่งน้ำดื่มอยู่ในสภาพด้านหน้าพังยับ ถังน้ำดื่มตกเกลื่อน พบผู้บาดเจ็บเป็นชาย 2 คน เป็นพนักงานขับรถและคนงานที่นั่งมาด้วย เจ้าหน้าที่ได้ช่วยกันนำออกมาจากรถนำส่งโรงพยาบาล โดยพนักงานที่นั่งมาด้วยบาดเจ็บสาหัสเจ้าหน้าที่ต้องปั๊มหัวใจก่อนเร่งนำส่งโรงพยาบาล […]