กรุงเทพฯ 3 ก.พ. – นายมงคล ลีลาธรรม กรรมการผู้จัดการ ธนาคารพัฒนาวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อมแห่งประเทศไทย เปิดเผยว่า คณะกรรมการธนาคารอนุมัติมาตรการช่วยเหลือผู้ประกอบการเอสเอ็มอีลูกค้าธนาคารที่ได้รับผลกระทบจากน้ำท่วมพื้นที่ภาคใต้เพิ่มเติมจากมาตรการเดิมอีกในวงเงินไม่เกิน 2 ล้านบาทต่อราย หลังจากลงพื้นที่พบปะพูดคุยกับลูกค้าธนาคารอย่างใกล้ชิด โดยก่อนหน้านี้ธนาคารออกมาตรการวงเงินสินเชื่อฉุกเฉินเพื่อฟื้นฟูกิจการไปแล้วรายละ 500,000 บาท พร้อมพักชำระหนี้เป็นระยะเวลา 6 เดือน โดยลูกค้าสามารถใช้หลักประกันเดิมค้ำประกัน และหรือให้บรรษัทประกันสินเชื่ออุตสาหกรรมขนาดย่อม (บสย.) ค้ำประกันเพิ่มได้
นายมงคล กล่าวว่า ได้ลงสำรวจพื้นที่จังหวัดตรัง พัทลุง นครศรีธรรมราช สุราษฎร์ธานี และเกาะสมุย พร้อมส่งทีมงานลงสำรวจความเสียหาย 12 จังหวัดประสบภัยพิบัติภาคใต้ ได้พูดคุยสอบถามความต้องการความช่วยเหลือของลูกค้าธนาคาร พบว่ามีลูกค้าธนาคารที่อยู่ในพื้นที่ภัยพิบัติภาคใต้กว่า 10,458 ราย แบ่งเป็น ลูกค้าที่มีวงเงินกู้เดิมไม่เกิน 1 ล้านบาท 7,777 ราย ลูกค้าที่มีวงเงินกู้เดิมมากกว่า 1 ล้านบาท แต่ไม่เกิน 5 ล้านบาท 2,382 ราย และลูกค้าที่มีวงเงินกู้เดิมมากกว่า 5 ล้านบาท 299 ราย ซึ่งลูกค้าส่วนใหญ่ที่ได้รับผลกระทบทั้งทางตรงและทางอ้อมจะมีธุรกิจอยู่ในกลุ่มอุตสาหกรรมการท่องเที่ยว อาทิ ธุรกิจโรงแรม รีสอร์ท และธุรกิจค้าปลีกค้าส่ง ซึ่งเป็นธุรกิจที่ต้องใช้เงินทุนหมุนเวียนในกิจการค่อนข้างมาก การขยายวงเงินสินเชื่อฉุกเฉินเพื่อฟื้นฟูกิจการเป็นรายละไม่เกิน 2 ล้านบาท จึงเป็นมาตรการเพิ่มที่สำคัญช่วยเหลือลูกค้าธนาคารทุกกลุ่ม เพื่อนำไปใช้เป็นเงินทุนในการฟื้นฟู ปรับปรุง และหมุนเวียนในธุรกิจ ทำให้สามารถดำเนินกิจการต่อได้
ทั้งนี้ ลูกค้าจะได้รับวงเงินสินเชื่อฉุกเฉินเพื่อฟื้นฟูกิจการแบ่งตามวงเงินกู้เดิมที่มีกับธนาคาร คือ วงเงินกู้รวมเดิมไม่เกิน 1 ล้านบาท สามารถได้รับความช่วยเหลือสูงสุด 500,000 บาท ลูกค้าที่มีวงเงินกู้รวมเดิมมากกว่า 1 ล้านบาท แต่ไม่เกิน 5 ล้านบาท สามารถได้รับความช่วยเหลือสูงสุด 1 ล้านบาท และลูกค้าที่มีวงเงินกู้รวมเดิมมากกว่า 5 ล้านบาท สามารถได้รับความช่วยเหลือสูงสุด 2 ล้านบาท คาดว่าจะมีลูกค้าธนาคารเข้าร่วมมาตรการช่วยเหลือนี้ไม่น้อยกว่า 2,700 ล้านบาท.-สำนักข่าวไทย