เตรียมเรียก2คนสำคัญเอี่ยวรถลัมโบร์กีนีให้ปากคำ

กรุงเทพฯ 6 ก.พ.- ตำรวจกำลังพิจารณาเรียกบุคคลสำคัญอีก 2 คนให้ปากคำในฐานะพยานหรือผู้ต้องสงสัย ส่วนจะเป็นลูกนักการเมืองหรือไฮโซคนใดไม่สามารถเปิดเผยได้


พลตำรวจตรีพรชัย เจริญวงศ์ รองผู้บัญชาการปราบปรามยาเสพติด เปิดเผยภายหลังร่วมหารือหน่วยงาน ปปส. และ ปปง. ถึงความคืบหน้าการจับกุมเครือข่ายยาเสพติดของนายไซซะนะ แก้วพิมพา นักค้ายาเสพติดว่า ผลการหารือในวันนี้พบว่ายังมีรายละเอียดอีกหลายรายการ เนื่องจากเอกสารประกอบในทางสืบสวนมีจำนวนมาก ประกอบกับต้องหาหลักฐานของ นายอัครกิตติ์ วรโรจน์เจริญเดช หรือ เบนซ์ เรซซิ่ง เพิ่มเติมบางส่วน หรืออาจต้องเรียกมาสอบปากคำอีกครั้ง ขึ้นอยู่กับการพิจารณาของพนักงานสอบสวน และต้องประสานหลายหน่วยงาน ร่วมตรวจสอบหาพยานหลักฐาน โดยเฉพาะกรมการขนส่งทางบก จะต้องตรวจสอบหมายเลขทะเบียนรถลัมโบร์กีนีทะเบียน กจ 51 กรุงเทพมหานคร อย่างละเอียด และเตรียมเชิญผู้หญิงที่อ้างว่า ใช้รถหมายเลขทะเบียนตรงกันกับของนายเบนซ์ มาสอบปากคำด้วย ดังนั้นคณะกรรมการจึงเห็นควรต้องตรวจสอบเอกสารหลักฐาน ดังกล่าวให้ชัดเจนอีกระยะ แต่ได้มีการวางกรอบไว้ เพื่อให้ดำเนินการให้เร็วที่สุดภายในสัปดาห์นี้ เนื่องจากคดีนี้อยู่ในความสนใจของประชาชน

พร้อมกันนี้ได้ตั้งคณะทำงานชุดเล็กขึ้นมา เพื่อตรวจสอบบุคคลที่อาจเกี่ยวข้องกับนายอัครกิตติ์ หรือเบนซ์ โดยพนักงานสอบสวนเตรียมเชิญอีกอย่างน้อย 2 คน มาให้ปากคำ เกี่ยวข้องกับรถยนต์ของเบนซ์เรสซิ่ง แต่เปิดเผยไม่ได้ว่า เป็นลูกนักการเมือง หรือบุคคลมีชื่อเสียงรายใดหรือไม่ โดยพนักงานสอบสวนจะเป็นคนพิจารณาว่า จะเป็นการเรียกในฐานะพยานสนับสนุนข้อมูล หรือในฐานะผู้ต้องสงสัย


ทั้งนี้ในส่วนของนายเบนซ์ จะต้องนำเอกสารหลักฐาน ของรถยนต์ lamborghini และเอกสารการกู้ยืมเงิน 6 ล้านบาท จากนายบอยมาแสดงกับทางเจ้าหน้าที่ตำรวจเพื่อความชัดเจน ซึ่งการเข้าชี้แจงแสดงความบริสุทธิ์ใจ เห็นว่า เป็นสิ่งที่นายอัครกิตติ์ สามารถกระทำได้ แต่หากในทางการสืบสวนสอบสวน พบหลักฐานกระทำผิดที่เชื่อว่าน่าจะเพียงพอสำหรับการดำเนินการต่อไป

ขณะที่คนใกล้ตัวนายเบนซ์ อย่าง แพท ณปภา ตันตระกูล นางเอกสาว ซึ่งเป็นภรรยา จะมีการเชิญมาให้ข้อมูลหรือไม่ ต้องให้พนักงานสอบสวนพิจารณาในช่วงกรอบระยะเวลาหนึ่งสัปดาห์นี้.-สำนักข่าวไทย


ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

มุกใหม่มิจฉาชีพ

มุกใหม่มิจฉาชีพ! ป่วนโทรแจ้ง ตร. เกิดเหตุร้ายที่บ้านเหยื่อ

อินฟลูฯ สาว สายทำอาหาร ถูกมิจฉาชีพอ้างเป็นตำรวจโทรหา แต่เธอไม่เชื่อ โดนท้าอีก 10 นาทีเจอกัน ปรากฏว่า มีตำรวจจาก 2 โรงพักบุกมาที่บ้านจริง

“วราวุธ” ระบุการแข่งขัน อบจ.-สุพรรณบุรี ไม่มีปัญหา

“วราวุธ” ระบุการแข่งขัน อบจ.-สุพรรณบุรี ไม่มีปัญหา บอกสนามใหญ่ ไม่เข้าไปก้าวก่ายสนามท้องถิ่น ซ้ายก็เพื่อน ขวาก็พวก

ครม.เคาะแจกเงินหมื่นเฟส 2 ผู้สูงอายุ 60 ปี

“จุลพันธ์” เผย ครม.เห็นชอบโครงการกระตุ้นเศรษฐกิจผ่านกลุ่มผู้สูงอายุ วงเงิน 4 หมื่นล้านบาท คาดว่าจะดำเนินการทันก่อน 29 ม.ค.68 รวม 3 มาตรการ สร้างเม็ดเงินหมุนเวียนในระบบ 1.4-1.5 แสนล้านบาท

ข่าวแนะนำ

นายกฯ เสียใจ “เจจูแอร์” ไถลออกรันเวย์ สั่งตรวจสอบช่วยเหลือหากมีคนไทย

นายกฯ แสดงความเสียใจเหตุเครื่องบินสายการบินเจจูแอร์ ไถลออกรันเวย์ไฟลุกท่วม พร้อมสั่งตรวจสอบช่วยเหลือหากมีคนไทย

28 dead as jet carrying 181 people crashes while landing in S. Korea's Muan

เครื่องบินจากกรุงเทพฯ ไปเกาหลีใต้ชนหลังออกนอกรันเวย์

โซล 29 ธ.ค.- เครื่องบินของสายการบินเชจูแอร์ (Jeju Air) ที่เดินทางจากกรุงเทพฯ ไปยังเกาหลีใต้ ลื่นไถลออกนอกทางวิ่งหรือรันเวย์ และชนกับรั้วกั้นที่ท่าอากาศยานนานาชาติมูอัน มีผู้เสียชีวิตแล้ว 28 คน เว็บไซต์สำนักข่าวยอนฮับของทางการเกาหลีใต้ รายงานว่า ตำรวจและนักดับเพลิงในเกาหลีใต้แจ้งว่า เหตุเกิดเมื่อเวลา 09.07 น. วันนี้ตามเวลาเกาหลีใต้ ตรงกับเวลา 07.07 น. วันนี้ตามเวลาไทย เมื่อเครื่องบินของเชจูแอร์ เที่ยวบิน 7ซี2216 (7C2216) นำผู้โดยสาร 175 คน ลูกเรือ 6 คน เดินทางออกจากกรุงเทพฯ ไปลงจอดที่ท่าอากาศยานนานาชาติมูอัน ห่างจากกรุงโซลไปทางตะวันตกเฉียงใต้ราว 288 กิโลเมตร เครื่องบินลื่นไถลออกนอกรันเวย์และชนกับรั้วกั้น เป็นเหตุให้เครื่องบินได้รับความเสียหายอย่างหนักและเกิดไฟไหม้ เจ้าหน้าที่ยืนยันว่า มีผู้เสียชีวิตแล้ว 28 คน ทั้งหมดนั่งอยู่ที่ส่วนท้ายของเครื่องบิน คาดว่ายอดผู้เสียชีวิตจะเพิ่มขึ้นอีก ผู้โดยสารส่วนใหญ่เป็นชาวเกาหลีใต้ที่เดินทางกลับจากไทย มีเพียง 2 คนที่เป็นชาวไทย เจ้าหน้าที่สามารถดับไฟที่ไหม้ครื่องบินได้แล้ว และกำลังปฏิบัติการค้นหาและกู้ภัย รวมทั้งเริ่มการสืบสวนสอบสวน ณ […]

อุณหภูมิลดอีก 1-3 องศาฯ “อีสาน-เหนือ” อากาศเย็นถึงหนาว

กรมอุตุฯ รายงานไทยตอนบน อุณหภูมิลดลงอีก 1-3 องศาฯ กับมีลมแรง อีสานและเหนือ อากาศเย็นถึงหนาว ส่วนภาคกลาง รวมทั้งกรุงเทพฯ และปริมณฑล ภาคตะวันออก และภาคใต้ตอนบน อากาศเย็น ภาคใต้ฝนเพิ่ม ตกหนักถึงหนักมากบางแห่ง ระวังน้ำท่วมฉับพลันและน้ำป่าไหลหลาก

เกาะติดทุกโหมดการเดินทางเทศกาลปีใหม่ 2568

เกาะติดทุกโหมดการเดินทางขาออกเทศกาลปีใหม่ 2568 ถนนทุกสาย และระบบขนส่งสาธารณะทุกโหมด มีประชาชนทะลักเดินทางตั้งแต่เย็นวานนี้ (27 ธ.ค.) ภาพรวมเป็นอย่างไร พูดคุยกับนายวิทยา ยาม่วง รองปลัดกระทรวงคมนาคม ในฐานะ ผอ.ศูนย์ปลอดภัยคมนาคม.