ก.อุตฯ ระบุ S-curve ลงทุน EEC 1.5 แสนล้าน

กรุงเทพฯ 10 ก.พ. – ก.อุตสาหกรรม คาด ปีนี้  S-curve ลงทุน EEC 1.5 แสนล้าน ชงนายกฯ หนุน กองทุนพัฒนา SMEs และ ศูนย์ทดสอบยางล้อ


นายสมชาย หาญหิรัญ ปลัดกระทรวงอุตสาหกรรม เปิดเผยว่า วันนี้ (10 ก.พ.60) กระทรวงอุตสาหกรรมเป็นเจ้าภาพจัดการประชุมคณะหัวหน้าส่วนราชการระดับกระทรวงหรือเทียบเท่า ครั้งที่ 2/2560 ซึ่ง กระทรวงฯ  เตรียมประเด็นการนำเสนอ 4 เรื่องสำคัญ ได้แก่ 1.กระทรวงอุตสาหกรรมและการขับเคลื่อน Thailand 4.0    2.การดำเนินงานตามข้อสั่งการ 3.การขอรับการสนับสนุนจากนายกรัฐมนตรี และ 4.การบูรณาการกับส่วนราชการอื่น

“กระทรวงฯ ได้จัดทำแผนยุทธศาสตร์การพัฒนาอุตสาหกรรมไทย 4.0 ระยะ 20 ปี (พ.ศ.2560-2579) ซึ่งสอดคล้องกับยุทธศาสตร์ชาติและแผนพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ ฉบับที่ 12 โดยมีเป้าหมายในการเพิ่มอัตราการเติบโตต่อปีของภาคอุตสาหกรรมอย่างต่อเนื่อง ประกอบด้วย การขยายตัวของ GDP การลงทุน การส่งออก           การเพิ่มผลิตภาพ และการสร้างนักอุตสาหกรรมใหม่ ที่เป็นการวางรากฐานการพัฒนาของภาคอุตสาหกรรมและวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อม (SMEs) ในอนาคต


ที่ผ่านมาได้มีการดำเนินงานสำคัญ ได้แก่ การขับเคลื่อนอุตสาหกรรมเป้าหมาย S-curve โดยต่อยอด                 5 อุตสาหกรรมเดิมที่มีศักยภาพและผลักดันให้เกิดการลงทุนใน 5 อุตสาหกรรมใหม่ เป็น 10 อุตสาหกรรมแห่งอนาคตของไทย ตัวอย่างเป้าหมาย เช่น ยานยนต์สมัยใหม่ จะพัฒนาเป็นฐานการผลิตรถยนต์ไฟฟ้า EV อิเล็กทรอนิกส์อัจฉริยะ สู่การเป็นศูนย์กลางการออกแบบฯ การแปรรูปอาหาร สู่ท๊อปเท็นการส่งออกและเป็นศูนย์กลางการผลิตอาหารเพื่อสุขภาพ แฟชั่น สร้างกรุงเทพเป็นเมืองแฟชั่นของเอเชีย หุ่นยนต์ เป็นผู้นำการผลิตและใช้หุ่นยนต์ในอาเซียน การแพทย์ครบวงจร เป็นศูนย์ R&D ผลิตภัณฑ์ยาและสมุนไพร อาหารทางการแพทย์ เครื่องมือแพทย์ของภูมิภาค การบิน มีการผลิตชิ้นส่วนอากาศยานในประเทศ เชื้อเพลิงชีวภาพและเคมีชีวภาพ สู่การเป็นฮับพลาสติกชีวภาพของโลก เป็นต้น

ในปี 2559 กระทรวงฯ ได้เร่งรัดการลงทุนอุตสาหกรรมที่เป็น S-curve จำนวน 1,219 ราย มูลค่าลงทุน 135,000 ล้านบาท และในปี 2560 คาดว่าจะมีการลงทุน ประมาณ 150,000 ล้านบาท รวมทั้งได้เตรียมพื้นที่รองรับการลงทุนใหม่ในระเบียงเศรษฐกิจพิเศษภาคตะวันออก หรือ(Eastern Economic Corridor : EEC )ในจังหวัดชลบุรี ระยอง และฉะเชิงเทรา รวมกว่า 180,000 ไร่ ตลอดจนได้ทยอยพัฒนาระบบการอนุญาตที่ใช้เทคโนโลยีสารสนเทศ (E-License) มากขึ้น

สำหรับ การพัฒนา SMEs ได้มีโครงการที่เหมาะสมกับช่วงวงจรชีวิตของธุรกิจ แบ่งเป็น 3 กลุ่มใหญ่ ๆ คือ             กลุ่มผู้ประกอบการใหม่ มุ่งสร้างเอสเอ็มอีที่มีไอเดียสู่ผู้ประกอบการเชิงสร้างสรรค์ที่มีนวัตกรรม.   กลุ่มเอสเอ็มอีรายเดิม จะส่งเสริมดิจิทัลเพื่อปรับธุรกิจสู่ SMEs ยุค 4.0 และกลุ่มเอสเอ็มอีที่ประสบปัญหา ได้เปิดศูนย์ SME Rescue Center เพื่อเข้ากระบวนการพลิกฟื้น ช่วยเหลือแล้วกว่า 2,600 ราย


ที่ผ่านมา นายกรัฐมนตรี กำชับกระทรวงฯ ใน 3 เรื่อง คือ การตรวจสอบโรงงานที่มีการร้องเรียนซ้ำซาก 30 โรงงาน , การตรวจสอบโรงงานที่อยู่บริเวณริมแม่น้ำสายหลัก ซึ่งปีที่ผ่านมาตรวจสอบแล้ว 800โรงงาน ปีนี้จะตรวจสอบอีก 1,800 โรงงานและ การพัฒนา EEC ซึ่งขณะนี้ได้มีการจัดตั้งสำนักงานประจำอยู่ที่อาคารสำนักงานปลัดกระทรวงอุตสาหกรรม และมีการจัดทำแผนยุทธศาสตร์และแผนปฏิบัติการ EEC แล้วเสร็จ และจัดตั้ง One Stop Service ที่นิคมอุตสาหกรรมแหลมฉบัง จังหวัดชลบุรี ส่วนความคืบหน้า                  ของร่าง พ.ร.บ.เขตเศรษฐกิจพิเศษภาคตะวันออก คาดว่าจะประกาศใช้อย่างช้าภายในครึ่งปีแรกของปี 2560”

สำหรับประเด็นที่กระทรวงฯ จะขอรับการสนับสนุนจากนายกรัฐมนตรี มีด้วยกัน 2 เรื่อง คือ การจัดตั้งกองทุนพัฒนาเอสเอ็มอีตามแนวประชารัฐ จำนวน 2 หมื่นล้าน ที่มุ่งหวังให้เป็นกองทุนเพื่อช่วยเหลือและสนับสนุน SMEs ปรับธุรกิจสู่ยุค 4.0 และเปลี่ยนสู่การผลิตสินค้าและบริการที่มีมูลค่าเพิ่มสูงขึ้นตามนโยบาย Thailand 4.0 ตั้งเป้าหมายจะสามารถช่วยเหลือผู้ประกอบการที่มีศักยภาพโดยเฉพาะที่อยู่ในภูมิภาคได้เข้าถึงแหล่งเงินทุนไม่น้อยกว่า 9,070 ราย เกิดมูลค่าทางเศรษฐกิจในระดับฐานราก 75,200 ล้านบาท  และโครงการศูนย์ทดสอบยานยนต์และยางล้อแห่งชาติ โดยการขอรับการสนับสนุนงบประมาณปี 2561 ในระยะที่ 1 เป็นการสร้างสนามทดสอบยางล้อ UN R117 จัดซื้อครุภัณฑ์สำหรับการทดสอบ รวมถึงการติดตั้งเครื่องมือทดสอบ ส่วนงบประมาณระยะที่ 2 จะเป็นศูนย์การทดสอบยานยนต์และชิ้นส่วน

ทั้งนี้ กระทรวงฯ เสนอประเด็นที่ต้องดำเนินงานบูรณาการร่วมมือกับหน่วยงานอื่นอีก 3 เรื่อง คือ 1.โครงการความปลอดภัยและอาชีวอนามัยของประเทศไทย เพื่อลดการเกิดอุบัติเหตุ อุบัติภัย และโรคจากการทำงาน

สร้างเสริมความปลอดภัยและคุณภาพชีวิตของคนงาน โดยจะเดินหน้ารณรงค์ทั่วประเทศในปี 2560 2.เหมืองแร่ทองคำ ได้รายงานความคืบหน้าที่ผ่านมา จากการที่กระทรวงฯ ได้ร่วมกับอีก 3 กระทรวงหลัก โดย กระทรวงอุตสาหกรรมกับกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ได้ร่วมกันกำกับดูแลการฟื้นฟูพื้นที่ฯ ในเบื้องต้นได้พิจารณาแผนฟื้นฟูฯ และให้บริษัทที่เกี่ยวข้อง ไปปรับปรุงแผน ซึ่งจะมีการลงพื้นที่ตรวจสอบติดตามเป็นระยะๆ กระทรวงสาธารณสุข ที่ดูแลด้านสุขภาพประชาชนในพื้นที่ ได้จัดตรวจสุขภาพอย่างน้อยปีละ 1 ครั้ง มีทีมแพทย์             เยี่ยมบ้านประชาชน ฯลฯ และกระทรวงแรงงาน ซึ่งรับดูแลพนักงานที่ได้รับผลกระทบจากการระงับการประกอบกิจการเหมืองทองคำ ในเบื้องต้นได้รับขึ้นทะเบียนผู้ประกันตนกรณีว่างงานแล้ว จำนวน 477 คน และให้ประกันสังคมจ่ายผลประโยชน์ทดแทนแก่ลูกจ้างทุกคน และได้จัดฝึกอบรมเพื่อพัฒนาฝีมือแรงงานด้วย และ 3.หมู่บ้านอุตสาหกรรมสร้างสรรค์ เพื่อเป็นต้นแบบของการพัฒนาสินค้าและบริการจากทุนวัฒนธรรมเชื่อมโยงกับการท่องเที่ยว โดยมีเป้าหมายพัฒนา 1 จังหวัด 1 หมู่บ้านให้ครบทั่วประเทศ ในปีนี้จะนำร่อง 9 หมู่บ้าน

ปลัดกระทรวงอุตสาหกรรม กล่าวว่า “เพื่อให้การพัฒนาอุตสาหกรรมและผู้ประกอบการไปสู่ประเทศไทย 4.0 ให้เห็นภาพอย่างชัดเจน กระทรวงฯ เองได้ปรับตัวเพื่อขับเคลื่อนอุตสาหกรรมเป้าหมาย S-Curve และพัฒนา SMEs เข้าสู่ยุค 4.0 โดยจะดูแลส่งเสริมผู้ประกอบการในทุกระดับให้มีขีดความสามารถในการแข่งขันที่สูงขึ้น ซึ่งการปรับบทบาทและโครงสร้างกระทรวงฯ จะแบ่งเป็น 2 ช่วง คือ ระยะที่ 1 จะเรียบร้อยภายใน 6 เดือนแรกของปี 2560 ซึ่งสามารถดำเนินการได้ทันที  ส่วนระยะที่ 2 จะเสร็จสิ้นภายในปี 2562 ที่จะมีการปรับปรุงกฎหมายเดิมและออกกฎหมายใหม่ เชื่อว่าจะสามารถดูแลส่งเสริมเศรษฐกิจอุตสาหกรรมไทยได้อย่างมีประสิทธิภาพ  มีผลงานให้เห็นเป็นรูปธรรมที่ชัดเจนยิ่งขึ้น”-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

เหล้าเถื่อนลาว

เสียชีวิตรายที่ 6 คลัสเตอร์เหล้าเถื่อนในลาว

คลัสเตอร์เหล้าเถื่อนในลาว มีนักท่องเที่ยวต่างชาติเสียชีวิตเพิ่มรายที่ 6 เป็นหญิงชาวออสเตรเลีย เสียชีวิตขณะรักษาตัวในไทย

ย้ายเจ้ากรมยุทธศึกษา ทบ.

ย้ายเจ้ากรมยุทธศึกษาทหารบก ช่วยปฏิบัติราชการที่กองบัญชาการกองทัพบก หลังถูกร้องทำร้ายร่างกายผู้ใต้บังคับบัญชา พร้อมช่วยเจ้าทุกข์ย้ายหน่วยตามร้องขอ

ไฟไหม้โรงงานพัดลม เผาวอดเสียหายกว่า 50 ล้าน

ไฟไหม้โรงงานผลิตพัดลมรายใหญ่ จ.สมุทรสาคร ระดมรถดับเพลิงระงับเหตุ กว่า 5 ชม. จึงควบคุมไว้ได้ในวงจำกัด เบื้องต้นเสียหายกว่า 50 ล้านบาท

ข่าวแนะนำ

ศึกชิงนายก อบจ.เพชรบุรี แชมป์เก่ายังแรง

เลือกตั้งนายก อบจ.เพชรบุรี ไม่คึกคัก ผลไม่เป็นทางการ “ชัยยะ อังกินันทน์” แชมป์เก่า คะแนนนำทิ้งห่างคู่แข่ง ด้านเลขาฯ กกต. เผยภาพรวมทั้ง 3 จังหวัด คนมาใช้สิทธิน้อย คาดเบื่อเลือกตั้ง 2 รอบ

คะแนนไม่เป็นทางการ เลือกตั้งนายก อบจ.นครฯ

ลุ้นผลคะแนนเลือกตั้งนายก อบจ.นครศรีธรรมราช นับเสร็จแล้วบางหน่วย ล่าสุด ณ เวลา 19.40 น. “วาริน ชิณวงศ์” เบอร์ 2 จากทีมนครเข้มแข็ง ชนะคู่แข่งขาดลอยในหลายหน่วย คะแนนทิ้งห่างแชมป์เก่า “กนกพร เดชเดโช” เบอร์ 1 จากพรรค ปชป.

ลุ้นผลเลือกตั้งนายก อบจ.อุดรธานี

การเลือกตั้งนายก อบจ.อุดรธานี ขณะนี้การนับคะแนนตามหน่วยต่างๆ เสร็จสิ้นแล้ว อยู่ในขั้นตอนการรวมคะแนน ซึ่งในเขตเมือง ผลปรากฏว่าผู้สมัครจากพรรคประชาชนมีคะแนนนำ แต่อำเภอรอบนอก ตัวแทนพรรคเพื่อไทยมีคะแนนนำอยู่หลายหน่วยเลือกตั้ง

เร่งประสานอินเตอร์โพลขอหมายแดงล่าตัว “หมอบุญ”

ตำรวจเตรียมออกหมายจับเครือข่าย “หมอบุญ” ฉ้อโกง ลอต 2 รวมทั้งเร่งประสานอินเตอร์โพล ออกหมายแดงล่าตัว “หมอบุญ” กลับมาดำเนินคดี