รมว.แรงงาน ยันแรงงานไม่ขาดแคลน พร้อมก้าวสู่ประเทศไทย 4.0

ก.แรงงาน 24ก.พ.-ก.แรงงาน เตรียมพร้อมพัฒนาฝีมือแรงงานไทยทุกกลุ่ม เพื่อให้เพียงพอความต้องการแรงงานในทุกอุตสาหกรรม รองรับความต้องการตลาดในอนาคต และก้าวสู่ประเทศไทย 4.0 


 

นายอนันต์ชัย อุทัยพัฒนาชีพ ผู้ตรวจราชการกระทรวงแรงงาน ในฐานะโฆษกกระทรวงแรงงาน เปิดเผยว่า พล.อ.ศิริชัย ดิษฐกุล รมว.แรงงาน ได้กำชับให้มุ่งเน้นดูแลพัฒนาฝีมือแรงงานไทยทุกกลุ่ม เพื่อสนองตอบความต้องการแรงงานในทุกอุตสาหกรรมตามกรอบแนวคิดการพัฒนาทรัพยากรมนุษย์ของประเทศ ระยะ 20 ปี(พ.ศ.2560-2579)จุดเริ่มต้นความสำเร็จอยู่ที่การวางรากฐานในช่วง 5 ปีแรก โดยได้บูรณาการกับ15 หน่วยงาน จัดทำยุทธศาสตร์ระยะ  5 ปีแรก  ภายใต้ “แผนแม่บทด้านแรงงาน (พ.ศ.2560–2564)”โดยคณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบให้กระทรวงแรงงาน เป็นหน่วยงานหลักร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง จัดทำแผนแม่บทพัฒนาแรงงานไทย เพื่อให้สอดคล้องกับสถานการณ์ทางเศรษฐกิจ การลงทุน การพัฒนาเขตเศรษฐกิจพิเศษ  รวมทั้งการพัฒนาศักยภาพแรงงานรองรับความต้อง การของตลาดแรงงานในอนาคต และการก้าวสู่ประเทศไทย 4.0


ภาพข่าวรมวแรงงานยันแรงงานไม่ขาดแคลน (2)

นายอนันต์ชัย กล่าวว่า จากข้อมูลความต้องการแรงงานกลุ่ม First S- curve และNew S–curve ใน 10 อุตสาหกรรม ในปี2560–2564 พบว่า มีความต้องการแรงงานในภาพรวมเฉลี่ย 69,242 คนต่อปี โดยอุตสาหกรรมที่มีความต้องการแรงงานมากที่สุด 3 อันดับ ได้แก่ ท่องเที่ยวกลุ่มรายได้ดีและการท่องเที่ยวเชิงสุขภาพ มีความต้องการแรงงานเฉลี่ยต่อปีมากที่สุด จำนวน 18,558 คน รองลงมา ได้แก่ อุตสาหกรรมแปรรูปอาหาร จำนวน 10,794 คน และอุตสาหกรรมดิจิทัล จำนวน 9,192 คน

 


ส่วนความคืบหน้าในการดำเนินการเตรียมแรงงานเพื่อรองรับอุตสาหกรรมในอนาคตนั้น กระทรวงและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องได้ดำเนินการ ดังนี้ ในปี 2560 ความต้องการแรงงานใน 10 อุตสาหกรรมเป้าหมาย 72,440 คน ได้ฝึกเตรียมคนไว้ ทั้งสิ้น 205,281 คน แบ่งเป็นการฝึกคนเตรียมเข้าทำงาน 6,540 คน พัฒนาศักยภาพแรงงานใหม่7,700คนและทวิภาคี/สหกิจศึกษา 191,041 คน นอกจากนี้มีการฝึกอบรมพัฒนาทักษะฝีมือให้แก่ทหารก่อนปลดประจำการ เป้าหมายอีก 3,000 คน

 

ปี2561 ความต้องการแรงงานใน10 อุตสาหกรรมเป้าหมาย 70,525 คน ได้ฝึกเตรียมคนไว้ทั้งสิ้น 191,850 คน แบ่งเป็นฝึกคนเตรียมเข้าทำงาน 10,000 คน พัฒนาศักยภาพแรงงานใหม่ 15,400 คน และทวิภาคี/สหกิจศึกษา 166,450 คน นอกจากนี้มีการฝึกอบรมพัฒนาทักษะฝีมือให้แก่ทหารก่อนปลดประจำการ เป้าหมายอีก 10,000 คน

 

ปี 2562 ความต้องการแรงงานใน 10 อุตสาหกรรมเป้าหมาย 68,933 คน ได้ฝึกเตรียมคนไว้ ทั้งสิ้น 179,337 คน แบ่งเป็นฝึกคนเตรียมเข้าทำงาน 10,410 คน พัฒนาศักยภาพแรงงานใหม่ 23,100 คน และทวิภาคี/สหกิจศึกษา 145,827 คน

 

ปี2563ความต้องการแรงงานใน 10 อุตสาหกรรมเป้าหมาย 67,647 คน ได้ฝึกเตรียมคนไว้ ทั้งสิ้น 167,613 คน แบ่งเป็นฝึกคนเตรียมเข้าทำงาน 10,841 คน พัฒนาศักยภาพแรงงานใหม่  23,100 คน และทวิภาคี/สหกิจศึกษา 133,673 คน

 

ปี2564 ความต้องการแรงงานใน 10 อุตสาหกรรมเป้าหมาย 66,666 คน ได้ฝึกเตรียมคนไว้ ทั้งสิ้น 156,482 คน แบ่งเป็นฝึกคนเตรียมเข้าทำงาน 11,293 คน พัฒนาศักยภาพแรงงานใหม่23,100 คน และทวิภาคี/สหกิจศึกษา122,089 คน

นอกจากอุตสาหกรรมหลักดังกล่าว ทางกระทรวงยังเตรียมกำลังแรงงานให้สอดคล้องความต้องการนายจ้างและตลาดแรงงานเพื่อรองรับอุตสาหกรรมย่อยต่างๆ ในอนาคต โดยเฉพาะความต้องการแรงงานในประเภทกิจการที่คนไทยไม่นิยมทำ ส่วนแรกได้อนุญาตให้แรงงานต่างด้าว 3 สัญชาติ (เมียนมา ลาวและกัมพูชา) เข้ามาอย่างถูกต้องตามกฎหมาย 2,615,703 คน รวมทั้งการนำเข้าแรงงานตาม MOU กับเวียดนาม ซึ่งอยู่ระหว่างเจรจากับ 41 บริษัทนำเข้าแรงงานของไทย

 

นอกจากนี้ยังมีแรงงานพื้นที่สูง 560,00 คน ที่ได้รับอนุญาตให้ทำงานตามความรู้ความสามารถทุกประเภทงาน  รวมทั้งฝึกทักษะให้ทหารประจำการ เมื่อปลดออกไปแล้วสามารถเข้าสู่ตลาดแรงงานตามที่กระทรวงแรงงานทำ MOA กับกระทรวงกลาโหมไว้แล้ว

 

“รมว.แรงงานย้ำว่า ขอให้ภาคเอกชนมั่นใจว่า กระทรวงสามารถตอบสนองความต้องการแรงงานเพื่อรองรับอุตสาหกรรมให้ขับเคลื่อนเศรษฐกิจในประเทศได้ แรงงานที่จบใหม่จะได้รับพัฒนาทักษะให้สูงขึ้นตรงความต้องการก่อนเข้าสู่ตลาดแรงงาน แรงงานต่างด้าวที่จะเข้ามาตามความต้องการนายจ้างก็จะนำเข้าตามระบบ MOUให้ถูกต้องตามกฎหมาย แต่ภาคอุตสาหกรรมก็ต้องปรับกระบวนการผลิต ใช้เทคโนโลยีสมัยใหม่ มีแนวทางรักษาคนให้อยู่ในระบบได้ รองรับรูปแบบการทำงานที่เปลี่ยนแปลงไป ส่วนกลุ่มแรงงานส่วนหนึ่งที่ไม่สามารถพัฒนาทักษะให้อยู่ในอุตสาหกรรมหลักได้ก็พัฒนาไปอยู่ภาคอุตสาหกรรมอื่น ๆให้สามารถประกอบอาชีพดำรงชีพได้อย่างมีความสุข” นายอนันต์ชัย กล่าว .-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

โค้งสุดท้ายเลือกตั้ง นายก อบจ.อุบลฯ เดือด ส่งท้ายปี

ใกล้เข้ามาทุกขณะสำหรับการเลือกตั้งนายก อบจ.อุบลราชธานี วันอาทิตย์ที่ 22 ธันวาคมนี้ ซึ่งถือเป็นสนามเลือกตั้งท้องถิ่นขนาดใหญ่ส่งท้ายปีนี้ การแข่งขันดุเดือดเกินคาด ผู้สมัครต่างเร่งหาเสียงกันอย่างเต็มที่ โดยมีผู้สมัคร 4 คน ลงชิงชัย ไปติดตามบรรยากาศโค้งสุดท้ายว่าใครจะเป็นผู้คว้าชัย

ทอ.ส่ง F-16 ขึ้นบินป้องน่านฟ้า หลังมีอากาศยานไม่ทราบฝ่าย เหนือชายแดนไทย-เมียนมา

กองทัพอากาศส่งเครื่องบินขับไล่ F-16 ขึ้นบิน เพื่อพิสูจน์ฝ่ายและสกัดกั้นอากาศยานไม่ทราบฝ่าย บริเวณแนวชายแดนไทย-เมียนมา จ.ตาก

อุตุฯ เผยอีสาน-เหนือ อากาศหนาว กทม.อุณหภูมิลดลงเล็กน้อย

กรมอุตุฯ เผยภาคอีสาน ภาคเหนือ มีอากาศเย็นถึงหนาว ส่วนภาคกลาง ภาคตะวันออก ภาคใต้ตอนบน มีอากาศเย็นในตอนเช้า ส่วนกรุงเทพฯ-ปริมณฑล อุณหภูมิลดลงเล็กน้อย ขอให้ประชาชนบริเวณดังกล่าวดูแลรักษาสุขภาพเนื่องจากสภาพอากาศหนาวเย็น

lightened Christmas tree in front of U.S. Capitol

รู้จัก “ชัตดาวน์” ของสหรัฐและผลกระทบ

วอชิงตัน 20 ธ.ค.- หน่วยงานจำนวนมากของรัฐบาลสหรัฐเสี่ยงต้องปิดทำการชั่วคราว หรือที่เรียกว่า กัฟเวิร์นเมนต์ ชัตดาวน์ (government shutdown) หลังผ่านพ้นเที่ยงคืนวันนี้ (20 ธันวาคม) ตามเวลาสหรัฐ หากรัฐสภาไม่สามารถผ่านร่างงบประมาณฉบับใหม่ได้ทันเวลา หลังจากสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรสหรัฐลงมติไม่เห็นชอบร่างงบประมาณฉบับใหม่เมื่อวานนี้ สาเหตุที่เสี่ยงชัตดาวน์ ปกติแล้วรัฐสภาสหรัฐ ซึ่งประกอบด้วยสภาผู้แทนราษฎรและวุฒิสภาจะต้องจัดสรรงบประมาณให้แก่หน่วยงานรัฐบาลกลางทั้งหมด 438 แห่งก่อนวันที่ 1 ตุลาคมของทุกปี แต่ที่ผ่านมาสมาชิกรัฐสภามักทำไม่ได้ตามกำหนดเวลา และมักผ่านร่างงบประมาณชั่วคราวเพื่อให้หน่วยงานรัฐบาลสามารถดำเนินการได้ต่อไปในระหว่างที่สมาชิกรัฐสภาหารือกันเพื่อผ่านร่างงบประมาณจริง ร่างงบประมาณชั่วคราวฉบับปัจจุบันจะหมดอายุเมื่อเข้าสู่เช้าวันเสาร์ตามเวลาสหรัฐ สมาชิกรัฐสภาพรรครีพับลิกันและพรรคเดโมแครตเตรียมร่างกฎหมายที่จะขยายเวลาไปจนถึงวันที่ 14 มีนาคม 2568 แต่นายโดนัลด์ ทรัมป์ ว่าที่ประธานาธิบดีเรียกร้องให้สมาชิกรัฐสภาพรรครีพับลิกันลงมติไม่เห็นด้วย และเมื่อวันพฤหัสบดีที่ผ่านมา สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรสหรัฐลงมติไม่เห็นชอบร่างงบประมาณที่เสนอใหม่ ดังนั้นหากรัฐสภาไม่สามารถผ่านร่างงบประมาณฉบับใหม่ได้ก่อนที่ร่างงบประมาณชั่วคราวฉบับปัจจุบันจะหมดอายุ ก็จะเกิดการชัตดาวน์ เพดานหนี้ที่ทรัมป์ต้องการให้แก้ นายทรัมป์ยังต้องการให้สมาชิกรัฐสภาแก้ปัญหาเรื่องการกำหนดเพดานหนี้ประเทศให้รัฐบาลสามารถกู้ยืมได้มากขึ้น ก่อนที่เขาจะสาบานตนรับตำแหน่งประธานาธิบดีในวันที่ 20 มกราคม 2568 รัฐสภาสหรัฐเป็นผู้กำหนดเพดานหนี้สาธารณะที่อนุญาตให้รัฐบาลก่อหนี้ แต่เนื่องจากรัฐบาลมักใช้จ่ายมากกว่ารายได้ที่ได้จากการจัดเก็บภาษี สมาชิกรัฐสภาจึงต้องคอยแก้ปัญหานี้เป็นครั้งคราว รัฐสภาสหรัฐกำหนดเพดานหนี้สาธารณะครั้งแรกในปี 2482 โดยกำหนดไว้ที่ 45,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ (ราว 1.55 ล้านล้านบาทในปัจจุบัน) และนับจากนั้นเป็นต้นมาได้ขยายเพดานหนี้แล้วทั้งหมด 103 […]

ข่าวแนะนำ

เติมน้ำมันไม่จ่าย

แท็กซี่เติมน้ำมันไม่จ่าย ซิ่งหนีพุ่งชนรถ 5 คันรวด

ตำรวจชัยภูมิ ไล่ล่าแท็กซี่เติมน้ำมัน แล้วซิ่งหนี ไม่จ่ายเงิน แถมยังขับพุ่งชนรถตำรวจ รถเก๋งและรถ 6 ล้อ รวม 5 คันรวด

ขับรถชนคน

คนร้ายขับรถชนกลุ่มคนในตลาดคริสต์มาสเยอรมนี ดับ 2 ราย

คนร้ายขับรถยนต์พุ่งเข้าชนกลุ่มคนจำนวนมากที่จับจ่ายซื้อของและเที่ยวชมตลาดคริสต์มาสในเยอรมนีในช่วงเย็นวันศุกร์ตามเวลาท้องถิ่น

นักการเมืองแห่งปี

“แพทองธาร” ปลื้ม นอร์ทโพล ประชาชนให้เป็น “นักการเมืองแห่งปี”

“แพทองธาร” นายกฯ ปลื้ม นอร์ทโพล เผยประชาชนยกให้เป็น “นักการเมืองแห่งปี” รับกดดัน แต่ขอทำงานเต็มที่-ไม่สร้างดราม่า ชี้ ครม.ทุกคนทำงานหนัก หากช่วยกันจะพัฒนาประเทศ