สธ.แนะประชาชน ประเมินความเสี่ยงโรคหัวใจ

สธ.27 ก.พ.-ปลัดสธ.แนะผู้ชื่นชอบการออกกำลังกาย ประเมินความเสี่ยงโรคหัวใจ เพื่อวางแผนการออกกำลังกาย ลดอันตรายจากภาวะหัวใจขาดเลือด เตรียมหารือที่ประชุมคณะกรรมการการแพทย์ฉุกเฉินแห่งชาติ ปรับระบบการแพทย์ฉุกเฉิน


 

นพ.โสภณ เมฆธน ปลัดกระทรวงสาธารณสุข (สธ.)ให้สัมภาษณ์ว่า ได้รับรายงานการเสียชีวิตอดีตนักกีฬาทีมชาติที่เสียชีวิตหลังเล่นฟุตบอล ที่สนามกีฬาภายในกระทรวงสาธารณสุข จาก นพ.เกียรติภูมิ วงศ์รจิต รองปลัดกระทรวงฯแล้ว กระทรวงสาธารณสุขต้องขอแสดงความเสียใจกับครอบครัว และเพื่อนๆของผู้เสียชีวิตด้วย ไม่มีใครอยากให้มีเหตุการณ์เช่นนี้เกิดขึ้น ได้หาข้อเท็จจริง จะพยายามปรับระบบการแพทย์ฉุกเฉินภายในกระทรวงสาธารณสุขให้ดีขึ้น เพื่อดูแลเจ้าหน้าที่และประชาชนที่มาออกกำลังกายที่อาจเกิดภาวะฉุกเฉินขึ้น


 

ปลัดสธ.กล่าวต่อว่า เตรียมนำเข้าที่ประชุมคณะกรรมการการแพทย์ฉุกเฉินแห่งชาติต่อไป เบื้องต้น มีแผนจะดำเนินการ ดังนี้  1.ได้สั่งการให้สถาบันบำราศนราดูรที่อยู่ใกล้สุด เป็นหลักในการเตรียมพร้อมให้บริการด้านการแพทย์ฉุกเฉิน 2.จัดอบรมบุคลากรในกระทรวงสาธารณสุข เรื่องการปฐมพยาบาล การช่วยฟื้นคืนชีพและการใช้เครื่องกระตุกหัวใจ(AED) 3.วางแผนกระจายเครื่องกระตุกหัวใจ(AED) ให้ครอบคลุมพื้นที่

 


อย่างไรก็ตาม ขอแนะนำประชาชนทุกคน โดยเฉพาะผู้ที่มีอายุ 35 ปีขึ้นไป ต้องตรวจสุขภาพปีละครั้งเพื่อทราบสถานะสุขภาพและความเสี่ยงสุขภาพ และผู้ชื่นชอบการอกกำลังกาย ควรเข้ารับการประเมินความเสี่ยงประเมินความเสี่ยงโรคหัวใจ จะได้วางแผนการออกกำลังกายให้เหมาะสม ลดอันตรายจากภาวะหัวใจขาดเลือด  ซึ่งโรคหัวใจจัดเป็นโรคฉุกเฉินอันตรายที่มีแนวโน้มเพิ่มขึ้นต่อเนื่อง ข้อมูลในปี 2557 คนไทยเสียชีวิตจากโรคหัวใจและหลอดเลือด กว่า 58,000 คน โดยผู้มีความเสี่ยงป่วยเป็นโรคหัวใจและหลอดเลือดสูงกว่าคนอื่น ได้แก่ โรคเบาหวาน โรคความดันโลหิตสูง โรคไขมันในเลือดสูง คนอ้วน ควรปฏิบัติตามคำแนะนำแพทย์ ดูแลระดับน้ำตาล ความดันโลหิต ไขมันในเลือด ควบคุมน้ำหนักตัวให้อยู่ในเกณฑ์ปกติ เลิกสูบบุหรี่  เลือกรับประทานอาหารไม่หวาน ไม่มัน ไม่เค็ม

 

สำหรับสัญญาณอาการของโรคหัวใจ ได้แก่ เจ็บแน่นหน้าอกคล้ายถูกของหนักกดทับ ปวดร้าวไปที่ไหล่ แขนด้านซ้าย หายใจลำบาก หากมีอาการที่กล่าวมาให้รีบนั่งพัก บอกเพื่อน ผู้ที่อยู่ใกล้ชิด  เพื่อนำส่งโรงพยาบาลที่อยู่ใกล้ที่สุดทันทีหรือโทรแจ้งสายด่วน 1669 .-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

คลอดลูกแฝดตกตึก

หญิงวัย 31 เพิ่งคลอดลูกแฝด พลัดตกตึก 18 ชั้น รพ.ดัง เสียชีวิต

สลด! หญิงวัย 31 ปี เพิ่งคลอดลูกแฝด พลัดตกตึก 18 ชั้น โรงพยาบาลดัง เสียชีวิต ด้านโรงพยาบาลแถลงแสดงความเสียใจต่อครอบครัวผู้เสียชีวิต พร้อมทบทวนมาตรการป้องกันไม่ให้เกิดเหตุแบบนี้ขึ้นอีก

ทหารควง M16 ยิงเพื่อนตำรวจดับคาบ้านพัก

ทหารพรานควง M16 บุกยิงเพื่อนตำรวจเสียชีวิตภายในบ้านพัก ก่อนขี่รถจักรยานยนต์ออกจากบ้านผู้ตาย เข้ามอบตัวกับตำรวจ สภ.เมืองปัตตานี เบื้องต้นคนก่อเหตุให้การวกวน เนื่องจากอยู่ในอาการหลอน

ลูกน้องปืนโหดรัวยิงหัวหน้างานดับคา สนง.ปฏิรูปที่ดินฯ

ลูกน้องชักปืนกระหน่ำยิงหัวหน้างานดับกลางห้องทำงาน สำนักงานปฏิรูปที่ดิน จ.น่าน ก่อนลั่นไกยิงตัวเอง ปมเหตุขัดแย้งเรื่องงาน

จนท.ปะทะเดือด! เสียงปืนสงบพบศพคนร้าย 4 ศพ

ตำรวจ ทหาร ฝ่ายปกครอง นำกำลังปิดล้อมตรวจค้นพื้นที่ อ.กรงปินัง จ.ยะลา เกิดการปะทะ เสียงปืนสงบพบศพคนร้าย 4 ศพ ยึดอาวุธสงคราม 3 กระบอก

ข่าวแนะนำ

นักวิชาการชี้เลือกตั้งนายก อบจ.ไม่ใช่ภาพสะท้อนเลือกตั้งใหญ่

การเลือกตั้งนายกและสมาชิกสภาองค์การบริหารส่วนจังหวัด ผ่านพ้นไปแล้วทั้ง 47 จังหวัด ขณะนี้รอประกาศผลอย่างเป็นทางการจาก กกต. แต่ผลที่ออกมาชี้ให้เห็นว่าผู้สมัครที่มีเครือข่ายพรรคการเมืองใหญ่สนับสนุนได้ชัยชนะหลายจังหวัด แต่นักวิชาการชี้ว่ายังไม่สามารถสะท้อนให้เห็นภาพชัดถึงผลสนามเลือกตั้งใหญ่ในอนาคตได้

เปิดใจ 5 ตัวประกันคนไทย บอกเหมือนตายแล้วเกิดใหม่

เปิดใจ 5 ตัวประกันคนไทย บอกเหมือนตายแล้วเกิดใหม่ ได้ชีวิตใหม่ ไม่สิ้นเคยหวัง เชื่อว่าต้องได้กลับบ้านในสักวัน เผยอยากกินลาบ-ซอยจุ๊

ดาวเทียมพบฝุ่นหนักในอาเซียน หลายประเทศทะลุ 190 AQI

ดาวเทียมพบฝุ่นหนักในอาเซียน “เมียนมา ลาว กัมพูชา มาเลเซีย” หลายประเทศทะลุ 190 AQI ส่วนไทย อีก 2 วัน มีลมแรงช่วยพัดฝุ่นกระจายตัวดีขึ้น ด้าน ปภ.ช. สั่งพรุ่งนี้ (3 ก.พ.) ดีเดย์ ทุกหน่วยทั่วประเทศเคาะประตูบ้าน “ห้ามเผา” ฝ่าฝืนจับสถานเดียว