รับมือก๊าซฯ หดตัวรุนแรงเตรียมให้ ปตท.นำเข้าแอลเอ็นจีเพิ่มอีก 3.5 ล้านตัน

กรุงเทพฯ 20 ธ.ค. – กระทรวงพลังงานเตรียมแผนรับมือกรณีหากประมูลแหล่งสัมปทานปิโตรเลียมหมดอายุ (บงกช-เอราวัณ) ล่าช้า อาจจะให้ ปตท.สร้างสถานีรับจ่ายแอลเอ็นจี ที่ 1 หรือเทอร์มินัล 1 เพิ่มจาก 11.5 ล้านตัน/ปี เป็น  15 ล้านตัน/ปี และเจรจามาเลเซียขอซื้อก๊าซจากแหล่งพัฒนาร่วมไทย-มาเลเซีย (เจดีเอ) ในส่วนของมาเลเซียมาใช้ชั่วคราว


นายวีระศักดิ์ พึ่งรัศมี อธิบดีกรมเชื้อเพลิงธรรมชาติ เปิดเผยว่า ขณะนี้กรมฯ รอความชัดเจนจากสภานิติบัญญัติแห่งชาติ (สนช.) ว่าจะเห็นชอบแก้ไขกฎหมายปิโตรเลียมและภาษีปิโตรเลียมเสร็จสิ้นเมื่อใด เพราะหากล่าช้าจะกระทบต่อการเปิดประมูลแหล่งสัมปทานปิโตรเลียมที่จะหมดอายุ คือ แหล่งของเชฟรอนและบงกช โดยหากประมูลล่าช้าเกินปี  2560-2561 ผลกระทบ คือ ก๊าซฯ ในปี 2564-2565 จะลดจากแผนไปอย่างมากจากเดิมที่คาดว่าแหล่งที่จะหมดอายุจะลดกำลังผลิตก๊าซฯ ลงจาก 2,100 ล้านลูกบาศก์ต่อวันเหลือ 1,500 ล้านลูกบาศก์ฟุตต่อวัน ปริมาณก็อาจจะหายไปอย่างรุนแรง

ดังนั้น เพื่อไม่ให้กระทบต่อความมั่นคงทางด้านการผลิตกระแสไฟฟ้า กระทรวงฯ ต้องเตรียมพร้อมหลายแนวทางไม่ให้เกิดปัญหาไฟดับ ซึ่งต้องยอมรับว่าต้นทุนค่าไฟฟ้าก็จะได้รับผลพวงหากช่วงนั้น ราคานำเข้าก๊าซเพิ่มสูงขึ้น


ทั้งนี้ แนวทางที่เตรียมไว้ ได้แก่ 1.ให้ ปตท.เตรียมศึกษาการขยายการนำเข้าแอลเอ็นจีเทอร์มินอล 1 จาก 11.5 ล้านตัน เป็น 15 ล้านตันต่อปี เพราะปัจจุบันเทอร์มินอล 1 ได้รับการอนุมัติ การศึกษาผลกระทบสิ่งแวดล้อม (อีเอชไอเอ) ให้ก่อสร้างได้ถึง 15 ล้านตันอยู่แล้ว  2.เจรจากับมาเลเซียเพื่อขอซื้อก๊าซฯ จากแหล่งเจดีเอในสัดส่วนของมาเลเซีย โดยปัจจุบันนี้ไทยใช้ก๊าซฯ จากแหล่งเจดีเอ 800 ล้านลูกบาศก์ฟุตต่อวันก็จะต้องเจรจาซื้อก๊าซฯ เจดีเอในส่วนของมาเลเซียระยะสั้น 1 ปี หรือปี 2565 ประมาณ 400 ล้านลูกบาศก์ฟุตต่อวัน

“ปี 2564-2565 ถ้าประมูลแหล่งสัมปทานหมดอายุล่าช้าจะต้องนำเข้าก๊าซเพิ่ม เป็น 13-14 ล้านตันต่อปีขณะที่คลังนำเข้าแอลเอ็นจีเทอร์มินอล 1 ได้รับอนุมัติขณะนี้มีเพียง 11.5 ล้านตันต่อปี ทางแก้ไขปัญหาก็อาจต้องอนุมัติให้ ปตท.สร้างเพิ่มอีก 3.5 ล้านตัน และเจรจากับมาเลเซียในการขอซื้อก๊าซฯ จากแหล่งเจดีเอมาใช้อีกประมาณ  400 ล้านลูกบาศก์ฟุตต่อวัน” นายวีระศักดิ์ กล่าว

นายวีระศักดิ์ กล่าวว่า คณะกรรมการนโยบายพลังงานแห่งชาติ (กพช.) ได้อนุมัติแผนจัดหาก๊าซธรรมชาติระยะยาว (2559-2579 ) ฉบับปรับปรุงใหม่  โดยใช้สมมติฐานโรงไฟฟ้าถ่านหิน จังหวัดกระบี่ และเทพา จังหวัดสงขลา ไม่สามารถก่อสร้างได้ตามแผน และแผนอนุรักษ์พลังงาน และแผนพัฒนาพลังงานทดแทนเดินหน้าได้เพียงร้อยละ  70  เท่านั้นส่งผลให้ต้องใช้ก๊าซฯ เข้ามาทดแทน ขณะเดียวกันความต้องการใช้ก๊าซธรรมชาติสำหรับรถยนต์ (NGV) อยู่ในระดับต่ำ ส่วนการใช้ก๊าซฯ ภาคอุตสาหกรรมเติบโต ขณะที่โรงแยกก๊าซในประเทศจะลดกำลังการผลิตจากแหล่งในอ่าวไทยที่ป้อนโรงแยกทยอยหมดลง โดยคาดว่าภายใน 10 ปีข้างหน้าการผลิตก๊าซจากแหล่งในประเทศจะเหลือร้อยละ  50 เท่านั้นแผนที่ปรับปรุงใหม่จึงประเมินว่าความต้องการใช้ก๊าซฯ จะขยับขึ้นจาก 4,600 ล้านลูกบาศก์ฟุตต่อวัน  เป็น 5,062 ล้านลูกบาศก์ฟุตต่อวัน โดยแผนดังกล่าวเบื้องต้นให้ ปตท.สร้างเทอร์มินอล 2 นำเข้าแอลเอ็นจี 7.5 ล้านตัน ให้การไฟฟ้าไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย (กฟผ.) สร้างคลังแอลเอ็นจีลอยน้ำ (เอฟเอสอาร์ยู) 5 ล้านตัน และ ปตท.ร่วมทุนสร้างเอฟเออาร์ยูฝั่งเมียนมาร์ อีก 3 ล้านตันต่อปี โดยทุกโครงการจะต้องเร่งรัดก่อสร้างโดยเร็วที่สุด.-สำนักข่าวไทย


ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

Taiwanese actress Barbie Hsu, who died of influenza at 48 sepia

“ซันไช่” นางเอกจาก F4 ซีรีส์ดังไต้หวันเสียชีวิตแล้ว

ไทเป 3 ก.พ.- ต้าเอส หรือที่ผู้ชมรู้จักในบทบาท “ซันไช่” นางเอกจากเรื่องรักใสใส หัวใจสี่ดวง (Meteor Garden) ซีรีส์ดังของไต้หวันในช่วงปี 2544 เสียชีวิตในวัย 48 ปี เพราะอาการแทรกซ้อนจากไข้หวัดใหญ่ ต้าเอสหรือบาร์บี สวี มีชื่อจริงว่า สวี ซีหยวน เป็นที่รู้จักไปทั่วเอเชียจากซีรีส์ดังที่คนมักเรียกกันสั้น ๆ เอฟ 4 (F4) มีข่าวลือแพร่สะพัดในโลกออนไลน์เมื่อวันที่ 2 กุมภาพันธ์ว่า เธอเสียชีวิตแล้ว และยิ่งเป็นกระแสหนักขึ้นไปอีกเมื่อนายหวัง เสี่ยวเฟย อดีตสามีที่เป็นนักธุรกิจได้เปลี่ยนรูปโพรไฟล์ในสื่อสังคมออนไลน์เป็นสีดำ และในเช้าวันนี้น้องสาวของเธอ สวี ซีตี้ ที่รู้จักในวงการบันเทิงว่า เสี่ยวเอส ยืนยันด้วยการส่งถ้อยแถลงถึงสถานีโทรทัศน์ทีวีบีเอส นิวส์ (TVBS News) ว่าพี่สาวของเธอถึงแก่กรรมเพราะปอดอักเสบที่เป็นอาการแทรกซ้อนจากไข้หวัดใหญ่ ต้าเอสเกิดเมื่อวันที่ 6 ตุลาคม 2519 เริ่มเข้าวงการในฐานะศิลปินคู่กับเสี่ยวเอสในชื่อวง เอสโอเอส  “S.O.S” เมื่อปี 2537 เธอมีลูก 2 คนกับอดีตสามี […]

“เต้ มงคลกิตติ์” หอบกล้องวงจรปิด 34 จุดคดี “แตงโม” มอบดีเอสไอ

นายมงคลกิตติ์ สุขสินธารานนท์ ที่ปรึกษาหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ เข้าพบ พ.ต.ต.ณฐพล ดิษยธรรม ผู้เชี่ยวชาญเฉพาะด้านคดีคุ้มครองผู้บริโภคและสิ่งแวดล้อม ในฐานะหัวหน้าคณะพนักงานสืบสวนข้อเท็จจริงคดีการเสียชีวิตของ น.ส.ภัทรธิดา (นิดา) พัชรวีระพงษ์ หรือแตงโม เพื่อมอบหลักฐานและให้ข้อมูลดีเอสไอ หลังรับเป็นเลขสืบสวนที่ 20/2568

“อนุทิน” ยังไม่รู้ ปม “โจ้มหาเฮง” แจ้งความเอาผิดคุณนายผู้ว่าฯ เบี้ยวค่าสลาก

“อนุทิน” บอกยังไม่รู้ ปม “โจ้มหาเฮง” แจ้งความเอาผิดคุณนายผู้ว่าฯ เบี้ยวเงินค่าสลาก ชี้หากจริง ผู้ว่าฯ เหนื่อยแน่

ข่าวแนะนำ

ตร.เชื่อชิงทอง 113 บาท ก่อเหตุคนเดียว วางแผนมาอย่างดี

เหตุคนร้ายชิงทองในร้านทองกลางห้างดัง ย่านลำลูกกา จ.ปทุมธานี ได้ทองรูปพรรณ 113 บาท มูลค่ากว่า 5 ล้านบาท ตำรวจเชื่อคนร้ายก่อเหตุเพียงคนเดียว และวางแผนมาเป็นอย่างดี

บึ้มสนั่นโรงพัก! มือมืดซุกระเบิดใต้รถกระบะของตำรวจ

2 เหตุไม่สงบ จ.นราธิวาส คนร้ายซุกระเบิดรถเจ้าหน้าที่ก่อนจุดบึ้ม ขณะจอดที่ สภ.ศรีสาคร ส่วนที่ อ.ยี่งอ ไฟไหม้รถปลัดอำเภอ เร่งตรวจสอบเอี่ยวป่วนใต้หรือไม่

ระงับจ่ายไฟ

“ภูมิธรรม” สั่งระงับจ่ายไฟฟ้าชายแดน ยันไม่ต้องเข้า ครม.

“ภูมิธรรม” ใช้อำนาจรองนายกฯ ความมั่นคง สั่งระงับจ่ายไฟฟ้าชายแดน ยันทำได้ทันทีไม่ต้องเข้า ครม. พร้อมเปิดระเบียบ กฟภ.สั่งตัดไฟฟ้าเองได้ หากพบกระทบความมั่นคง ลั่นหากหน่วยไหนไม่ทำตาม จะดึงตัวมาช่วยราชการ ชี้ไม่ใช่แม่พระใจดี ที่จะนิ่งเฉยได้ หากเมียนมาไม่ดำเนินการภายใน ก็ต้องรับผลกระทบ