กรุงเทพฯ 24 ก.ค. – ตลาดหลักทรัพย์ ปิดวันนี้ที่ระดับ 1,340.92 จุด ลดลง 18.73 จุด (-1.38%) มูลค่าการซื้อขาย 46,529.79 ล้านบาท
การซื้อขายหุ้นวันนี้ ดัชนีหุ้นไทยเคลื่อนไหวในแดนลบตลอดทั้งวัน โดยดัชนีทำระดับสูงสุดที่ 1,350.93 จุด และทำระดับต่ำสุด 1,337.21 จุด
นายถนอมศักดิ์ สหรัตน์ชัย ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการและหัวหน้าฝ่ายวิจัย บล.กรุงไทย ซีมิโก้ กล่าวว่า ตลาดหุ้นไทยวันนี้ปรับตัวลงตามตลาดต่างประเทศ ทั้งตลาดหุ้นในภูมิภาคเอเชียที่ติดลบ เช่นเดียวกับตลาดในยุโรปที่เทรดบ่ายนี้ก็ปรับตัวลง เหมือนกับดาวโจนส์ฟิวเจอร์สที่ติดลบ จากความตึงเครียดระหว่างสหรัฐฯ และจีน หลังจีนมีการตอบโต้สหรัฐฯด้วยการสั่งปิดสถานกงสุลสหรัฐที่เมืองเฉิงตู ซึ่งมองว่าเป็นประเด็นการเมือง และมีความกังวลว่าจะลุกลามไปอย่างอื่นอีก
นอกจากนี้ สถานการณ์การแพร่ระบาดไวรัสโควิด-19 ทั้งในสหรัฐฯ และบราซิล ก็ยังมีผู้ติดเชื้อที่มีจำนวนสูงอยู่มาก รวมถึงเริ่มเห็นแรงขายจากหุ้นในกลุ่มเทคโนโลยีในสหรัฐฯ ทั้งที่กำไรก็ออกมาดีกว่าคาด แต่การที่ถูกขายออกมาอาจเป็นการมองถึงแนวโน้มที่กังวลว่าจะผ่านจุดสูงสุดไปแล้ว ตรงนี้ส่งผลให้ตลาดหุ้นไต้หวัน และตลาดหุ้นเกาหลีใต้ ต่างปรับตัวลงไปด้วย
ส่วนตลาดบ้านเราจะปิดทำการระยะยาว ดังนั้น ตลาดฯจึงเป็นลักษณะของ Wait & See โดยนักลงทุนบางรายเลือกที่ขายทำกำไรและถือเงินสดไว้ก่อน เพื่อรอดูหลายปัจจัยในสัปดาห์หน้าที่จะต้องติดตาม เป็นการประชุมธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด), ผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (GDP) ไตรมาส 2/2563 ของสหรัฐฯ รวมถึงรอดูการทยอยประกาศผลประกอบการของบริษัทจดทะเบียนที่จะประกาศออกมาหลายบริษัทในสัปดาห์หน้า
แนวโน้มการลงทุนในสัปดาห์หน้า นายถนอมศักดิ์ กล่าวว่า ตลาดฯยังมีโอกาสที่จะปรับตัวขึ้นไปได้ จากหุ้นขนาดกลาง-เล็กที่ยังไปได้อยู่ และยังรอลุ้นผลประชุมเฟด และ GDP ของสหรัฐฯ ที่น่าจะออกมาเชิงบวก พร้อมให้แนวรับ 1,330 จุด ส่วนแนวต้าน 1,360-1,380 จุด
ด้านประเภทนักลงทุนสถาบันขายสุทธิ 1,904.92 ล้านบาท บัญชีบริษัทหลักทรัพย์ขายสุทธิ 1,182.69 ล้านบาท นักลงทุนต่างชาติขายสุทธิ 2,904.65 ล้านบาท และนักลงทุนในประเทศซื้อสุทธิ 5,992.25 ล้านบาท.-สำนักข่าวไทย