ปักกิ่ง 29 ก.ย. – พรรคคอมมิวนิสต์จีน ซึ่งเป็นพรรครัฐบาล จะจัดการประชุมในเดือนตุลาคมนี้ เพื่อวางแผนกำหนดทิศทางการพัฒนาทางสังคมและเศรษฐกิจของประเทศในอีก 5 ปีข้างหน้า ท่ามกลางความพยายามในการรักษาแรงผลักดันทางเศรษฐกิจ ขณะเดียวกันก็ต้องรับมือกับความขัดแย้งทางการค้ากับชาติตะวันตก
สำนักข่าวซินหัว ของทางการจีน รายงานวันจันทร์ว่า คณะกรรมการกลาง ซึ่งเป็นหน่วยงานขนาดใหญ่ที่สุดที่มีอำนาจตัดสินใจขั้นสูงสุดของพรรค จะจัดการประชุมเต็มคณะ หรือ “เพลนัม” (Plenum) ระหว่างวันที่ 20-23 ตุลาคม การประชุมครั้งนี้จะเป็นครั้งที่ 4 นับตั้งแต่การประชุมสมัชชาใหญ่พรรคคอมมิวนิสต์จีนครั้งล่าสุดในปี 2022
การประชุมสมัชชาใหญ่พรรคคอมมิวนิสต์จีนจัดขึ้นทุก 5 ปี เพื่อกำหนดเป้าหมายนโยบายทางสังคมและเศรษฐกิจของจีน โดยปกติแล้วจะมีการประชุมเต็มคณะแบบปิด 7 ครั้ง ในช่วงระหว่างสมัชชา
อย่างไรก็ตาม เนื่องจากการเลื่อนการประชุมเต็มคณะครั้งที่ 3 ออกไปอย่างไม่ทราบสาเหตุเป็นเวลานานถึง 9 เดือน จนต้องจัดขึ้นในเดือนกรกฎาคม 2024 ทำให้คาดการณ์ว่าพรรคฯ จะทบทวนแผนพัฒนา 5 ปี สำหรับช่วงปี 2026-2030 ในการประชุมเต็มคณะครั้งที่ 4 ก่อนสิ้นปี
ระยะเวลา 5 ปีข้างหน้าจะเป็นโอกาสสำคัญสำหรับผู้กำหนดนโยบายในการเปลี่ยนทิศทางเศรษฐกิจไปสู่การบริโภคภายในประเทศ จากรูปแบบเดิมที่เน้นการค้าและการลงทุนเป็นหลัก สำหรับความท้าทายในปัจจุบันที่จีนกำลังเผชิญ ได้แก่ แรงกดดันจากภาวะเงินฝืดมหาศาลที่เกิดจากปัญหาตลาดอสังหาริมทรัพย์ที่ยืดเยื้อ ความเชื่อมั่นผู้บริโภคที่ลดลง ภาวะกำลังการผลิตส่วนเกิน และสงครามราคาในภาคส่วนต่าง ๆ ตั้งแต่ยานยนต์ไฟฟ้าไปจนถึงแพลตฟอร์มจัดส่งอาหารออนไลน์
โดยปกติแล้ว แผนพัฒนา 5 ปีจะถูกเผยแพร่ในช่วงเริ่มต้นของการประชุมรัฐสภาประจำปีของจีนในเดือนมีนาคม
การประชุมเต็มคณะครั้งที่ 4 ที่กำลังจะมาถึง จะจัดขึ้นประมาณหนึ่งสัปดาห์ก่อนที่ประธานาธิบดีสี จิ้นผิง จะเดินทางเยือนเกาหลีใต้ เพื่อเข้าร่วมการประชุมสุดยอดความร่วมมือทางเศรษฐกิจเอเชีย-แปซิฟิก หรือ เอเปก (APEC) ซึ่งคาดการณ์ว่าเขาจะได้พบกับ ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ของแห่งสหรัฐ ซึ่งมาตรการภาษีของเขายังคงเป็นปัจจัยบดบังแนวโน้มเศรษฐกิจระยะสั้นและระยะกลางของจีน.-813.-สำนักข่าวไทย