กระบี่ 24 ก.ค.- ส.ป.ก.กระบี่ เข้าเจรจากลุ่มชาวบ้านที่ตั้งเต็นท์ค้านรื้อถอนต้นปาล์มน้ำมันเนื้อที่ 973 ไร่ โดยระบุซื้อที่ดินต่อจากบริษัทแห่งหนึ่งโดยไม่ทราบว่าเป็นที่ ส.ป.ก. เบื้องต้นชาวบ้านขอเวลา 5 วัน เดินทางไปร้อง ก.เกษตรฯ
ชาวบ้านในพื้นที่ ต.เขาพนม และพื้นใกล้เคียง รวมกว่า 30 คน ตั้งเต็นท์บริเวณทางเข้าสวนปาล์มน้ำมันในพื้นที่หมู่ 3 ต.เขาพนม อ.เขาพนม จ.กระบี่ คัดค้านการที่สำนักงานปฏิรูปที่ดินเพื่อเกษตรกรรม (ส.ป.ก.กระบี่) นำรถแบ็กโฮเข้าเตรียมรื้อถอนต้นปาล์มน้ำมัน เนื้อที่ 973 ไร่ ตามแผนการนำพื้นที่เป้าหมายมาจัดสรรที่ดินให้ผู้ยากไร้รายละ 5 ไร่
ต่อมาเจ้าหน้าที่ ส.ป.ก.กระบี่ พร้อมกำลังตำรวจ สภ.เขาพนม เข้าชี้แจงทำความเข้าใจกับชาวบ้าน พร้อมระบุว่าพระราชกฤษฎีกาเมื่อวันที่ 31 ธ.ค.31 กำหนดให้พื้นที่ดังกล่าวให้เป็นเขตปฏิรูปที่ดิน และเกษตรกรสิ้นสิทธิการเข้าทำประโยชน์ จึงต้องจัดสรรที่ดินให้ผู้ยากไร้คนอื่น เนื่องจากปัจจุบันมีผู้ครอบครอง 34 ราย
นายอุสาห์ ชาสวัสดิ์ อายุ 51 ปี ตัวแทนชาวบ้านที่ซื้อที่ดินบริเวณดังกล่าวเปิด เปิดเผยว่า ซื้อที่ดินต่อจากบริษัทแห่งหนึ่งในราคาไร่ละ 60,000 บาท เมื่อปี 2559 โดยไม่ทราบว่าเป็นที่ ส.ป.ก. จนกระทั่งมีการเข้าปักป้ายว่าเป็นที่ดิน ส.ป.ก.แปลงใหญ่ และมีการเพิกถอนสิทธิผู้ครอบครองที่เป็นนอมินีให้บริษัทดังกล่าว จึงได้ยื่นเรื่องต่อศาลปกครองเพื่อขอความเป็นธรรม
ล่าสุด ยื่นหนังสือต่อ ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า รมช.เกษตรฯ ซึ่งได้รับปากว่าจะช่วยเหลือ หลังจากเดินทางมาที่ อ.เขาพนม เมื่อปี 2562 แต่เรื่องก็เงียบหาย จนวันนี้มีการนำรถเข้ามาเพื่อทำลายต้นปาล์ม จึงได้นำเต็นท์มาตั้งเพื่อขอความเห็นใจ หากทำลายต้นปาล์ม พวกตนที่กู้หนี้ยืมสินมาซื้อที่ดิน ก็จะสิ้นเนื้อประดาตัว เพราะเงินทั้งหมดเอามาซื้อที่ดินดังกล่าว
เบื้องต้น ส.ป.ก.กระบี่ เจรจากับชาวบ้าน โดยชาวบ้านที่ซื้อที่ดินบริเวณดังกล่าวขอเวลา 5 วัน เพื่อเดินทางไปยื่นหนังสือที่กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ต่อไป.-สำนักข่าวไทย