กสม.ส่ง จนท.ร่วมพิธีฌาปนกิจ “ซีอุย”

กสม.23 ก.ค.-กสม.ส่งเจ้าหน้าที่ไปร่วมการเคลื่อนย้ายศพ “ซีอุย” ที่ศิริราช และร่วมพิธีฌาปนกิจที่วัดบางแพรกใต้


นายวัส ติงสมิตร ประธานกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ เปิดเผยว่า ศิริราชพยาบาล ได้มีหนังสือแจ้งสำนักงานคณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ (กสม.) ว่า เช้าวันนี้มีการเคลื่อนย้ายศพนายซีอุย แซ่อึ้ง จากศิริราชพยาบาลไปยังวัดบางแพรกใต้ จังหวัดนนทบุรี เพื่อทำการฌาปนกิจในตอนบ่าย ขอเชิญผู้แทนสำนักงาน กสม. ร่วมเป็นสักขีพยานด้วย สำนักงาน กสม. ได้ส่งผู้แทนไปร่วมดำเนินการแล้ว

นายวัส กล่าวเพิ่มเติมว่า เรื่องนี้ เมื่อเดือนมิถุนายน 2562 ตัวแทนชาวบ้านอำเภอทับสะแก จังหวัดประจวบคีรีขันธ์ ได้ร้องเรียนต่อ กสม. ขอให้ตรวจสอบกรณีที่คณะแพทยศาสตร์ศิริราชพยาบาลนำร่างของนายซีอุย แซ่อึ้ง ผู้ได้รับโทษประหารชีวิตไปจัดแสดงในพิพิธภัณฑ์นิติเวชศาสตร์สงกรานต์ นิยมเสน ตั้งแต่ปี 2502 ซึ่งอาจเป็นการละเมิดสิทธิมนุษยชน โดยขอให้คณะแพทยศาสตร์ศิริราชพยาบาลในฐานะผู้ถูกร้อง ยกเลิกการจัดแสดงร่างของนายซีอุย และขอนำร่างนายซีอุยไปดำเนินการประกอบพิธีกรรมทางศาสนา เนื่องจากนายซีอุยถือเป็นชาวบ้านผู้เคยอาศัยอยู่ในอำเภอทับสะแก จังหวัดประจวบคีรีขันธ์ กสม. จึงดำเนินการตรวจสอบและประสานหาข้อยุติร่วมกับศิริราชพยาบาลและกรมราชทัณฑ์ ต่อมาในการประชุม กสม. ด้านคุ้มครองและมาตรฐานการคุ้มครองสิทธิมนุษยชน เมื่อวันที่ 5 กุมภาพันธ์ 2563 กสม. พิจารณาแล้วเห็นว่า นายซีอุยหรือลีอุย แซ่อึ้ง ถูกศาลอุทธรณ์พิพากษาลงโทษประหารชีวิต ในความผิดฐานฆ่าผู้อื่นโดยไตร่ตรองไว้ก่อนฯ และเมื่อวันที่ 16 กันยายน 2502 เรือนจำกลางบางขวางได้ดำเนินการประหารชีวิตนายซีอุย ซึ่งระเบียบการประหารชีวิตนักโทษในขณะนั้นกำหนดว่า ถ้ามีญาติมาติดต่อขอรับศพไปเรือนจำจะอนุญาตให้ก็ได้ หากไม่มีญาติ ก็ให้รีบจัดการฝังได้ แต่ไม่ปรากฏว่ามีญาติพี่น้องของนายซีอุยมาขอรับศพไป และไม่ทราบว่าเหตุใดจึงมีการมอบศพของนายซีอุยแก่ผู้ถูกร้อง มีเพียงข้อมูลที่ปรากฏในมรณบัตรของนายซีอุยซึ่งเจ้าหน้าที่เรือนจำแจ้งการตายต่อสำนักทะเบียนเทศบาลเมืองนนทบุรีเท่านั้นว่า “ศพให้เก็บที่โรงพยาบาลศิริราช” 


จากนั้นมา ศพของนายซีอุยจึงถูกนำไปจัดแสดงที่พิพิธภัณฑ์นิติเวชศาสตร์สงกรานต์ นิยมเสน เพื่อเป็นวิทยาทานให้เกิดการเรียนรู้ทางด้านนิติเวชศาสตร์ แต่รูปแบบการจัดแสดงศพของนายซีอุย มีการปิดป้ายให้ข้อมูลการจัดแสดงบริเวณด้านบนของตู้บรรจุศพว่า “Si Quey ซีอุย แซ่อึ้ง (มนุษย์กินคน)” 

“กสม. ได้พิจารณาข้อเท็จจริงดังกล่าว ประกอบ มาตรา 32 ของรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย พุทธศักราช 2560 และประมวลกฎหมายอาญาในความผิดเกี่ยวกับศพ อันมีบทบัญญัติที่รับรองและคุ้มครองศพ ชื่อเสียงและเกียรติยศของผู้ที่เสียชีวิตไปแล้วด้วย จึงเห็นว่า แม้ว่าการจัดแสดงศพของนายซีอุยจะมีประโยชน์ในอันที่จะก่อให้เกิดการเรียนรู้แก่สาธารณชนทางด้านนิติเวชศาสตร์ แต่ถือเป็นหน้าที่ของผู้ถูกร้องที่จะต้องปกปิดข้อมูลส่วนบุคคล เช่น ชื่อ ชื่อสกุล ประวัติ อาชีพ ครอบครัว ของผู้เสียชีวิต เพื่อมิให้เข้าข่ายหมิ่นประมาทหรือละเมิดสิทธิของผู้เสียชีวิต ญาติและครอบครัว ดังนั้น รูปแบบและวิธีการจัดแสดงของผู้ถูกร้อง เป็นการเปิดเผยชื่อ ชื่อสกุล และใช้ถ้อยคำที่มีลักษณะไม่เหมาะสม จึงถือเป็นการละเมิดสิทธิในชื่อเสียงเกียรติยศของนายซีอุย แต่เมื่อวันที่ 4 มิถุนายน 2562 ผู้ถูกร้องได้ปรับปรุงข้อความในป้ายจัดแสดง และเมื่อวันที่ 3 กรกฎาคม 2562 ผู้ถูกร้องได้ประกาศติดตามหาญาติของนายซีอุย เพื่อเปิดโอกาสให้ญาติได้ร่วมหารือเพื่อดำเนินการเกี่ยวกับศพของนายซีอุยให้เหมาะสมและถูกต้องตามกฎหมาย  แต่เมื่อครบกำหนดในวันที่ 4 สิงหาคม 2562 แล้ว ไม่มีบุคคลใดที่สามารถแสดงตัวได้ว่าเป็นทายาทหรือญาติของนายซีอุย ต่อมาเมื่อวันที่ 7 สิงหาคม 2562 ผู้ถูกร้องจึงได้แถลงต่อสาธารณะว่าได้นำศพของนายซีอุยออกจากพิพิธภัณฑ์ฯ แล้ว การดำเนินการของผู้ถูกร้องในส่วนนี้จึงถือได้ว่าเป็นการแก้ไขปัญหาอย่างเหมาะสมแล้ว กสม. จึงมีมติให้ยุติเรื่อง” ประธาน กสม. กล่าว


นายวัส กล่าวเพิ่มเติมว่า ส่วนกรณีที่ตัวแทนชาวบ้านอำเภอทับสะแก จังหวัดประจวบคีรีขันธ์ ขอนำศพของนายซีอุยไปประกอบพิธีกรรมทางศาสนานั้น กสม. เห็นว่า ข้อเท็จจริงไม่ปรากฏว่า มีญาติของนายซีอุยมาติดต่อขอรับศพ และแม้ระยะเวลาจะผ่านพ้นมาเนิ่นนานกว่า 60 ปี แต่สถานะทางกฎหมายของศพนายซีอุยยังคงถือเป็นศพนักโทษชายเด็ดขาดโดยไม่เปลี่ยนแปลง ในชั้นนี้ กสม. จึงเห็นว่า เรือนจำกลางบางขวางซึ่งเป็นเรือนจำแห่งท้องที่ที่ทำการประหารชีวิตนายซีอุย สามารถเป็นผู้ดำเนินการเผาหรือฝังศพนายซีอุยตามระเบียบกระทรวงยุติธรรมว่าด้วยหลักเกณฑ์และวิธีการประหารชีวิตนักโทษ พ.ศ. 2546 ข้อ 18 ได้ จึงมีข้อสังเกตในส่วนนี้ไปยังผู้ถูกร้องและกรมราชทัณฑ์ เพื่อประสานความร่วมมือกันในการจัดการศพนายซีอุยให้เป็นไปอย่างเหมาะสมให้แล้วเสร็จโดยเร็ว 

“วันนี้ เรื่องราวของนายซีอุยก็เดินทางมาถึงบทสุดท้าย หลังจากมีการฌาปนกิจศพแล้ว การจัดการอัฐินายซีอุยตามที่ชาวบ้านทับสะแกประสงค์ น่าจะไม่มีปัญหาแต่อย่างใด” ประธาน กสม. กล่าวปิดท้าย .-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

สะพานยกระดับกำลังก่อสร้าง ถล่มทับด่วนระดับที่ 1 ตายแล้ว 5

สะพานยกระดับโครงการทางพิเศษพระราม 3-ดาวคะนอง ที่กำลังก่อสร้าง พังถล่มทับด่วนระดับที่ 1 เบื้องต้นเสียชีวิตแล้ว 5 ราย บาดเจ็บ 27 คน เร่งคนหาผู้สูญหาย พร้อมปิดทางขึ้น-ลง ทางพิเศษเฉลิมมหานครชั่วคราว

รัฐบาลเตรียมแผนถวายความสะดวกในหลวง-ราชินี เตรียมเสด็จฯ เยือนต่างประเทศ

รัฐบาลเตรียมแผนถวายความสะดวกในหลวง-ราชินี เตรียมเสด็จฯ เยือนต่างประเทศอย่างเป็นทางการ

อากาศเย็นหลงฤดู

กรมอุตุฯ เตือนอากาศเย็นหลงฤดู 16-20 มี.ค.นี้

กรมอุตุฯ เตือนอากาศเย็นหลงฤดู 16-20 มี.ค.นี้ อีสานลดฮวบ 5-8 องศาฯ ภาคอื่นๆ ลดลง 2-4 องศาฯ ส่งผลให้มีพายุฝนฟ้าคะนอง ลูกเห็บตก และอาจมีฟ้าผ่าบางพื้นที่

ข่าวแนะนำ

เปิดภาพความเสียหายคานถล่ม เร่งย้ายซากออก

เปิดภาพความเสียหายเหตุคานหนักกว่า 800 ตัน พังถล่มขณะก่อสร้างทางยกระดับพระราม 3-ดาวคะนอง เจ้าหน้าที่เร่งนำซากคานปูนและเหล็กออกมา สมาคมวิศวกรโครงสร้างฯ ลงพื้นที่หาสาเหตุ ด้านผู้ว่าฯ กทม. แสดงความเสียใจกับผู้เสียชีวิต ห่วงอาการคนเจ็บ

วีซ่าไทย

“ทูตรัศม์” ยันในแง่มนุษยธรรม รัฐบาลไทยตัดสินใจถูกต้องแล้ว

“ทูตรัศม์” บอกคอมเมนต์เป็นเอกฉันท์ เรื่องสิทธิมนุษยชน หลังสหรัฐฯ ออกมาตรการวีซ่ากับไทย ยืนยันในแง่มนุษยธรรม รัฐบาลไทยตัดสินใจถูกต้องแล้ว

Ciudad Juarez gets a rosy view of a rare total lunar eclipse

แห่ชมจันทรุปราคาสีเลือด

เม็กซิโกซิตี 15 มี.ค.- เมื่อช่วงค่ำคืนที่ผ่านมา ผู้คนในหลายประเทศมีโอกาสได้รับชมปรากฎการณ์จันทรุปราคาเต็มดวงที่ทำให้พระจันทร์กลายเป็นสีแดงเข้ม และเป็นปรากฏการณ์ทางธรรมชาติที่เกิดขึ้นไม่บ่อยครั้ง ลาตินอเมริกาเป็นภูมิภาคหนึ่งที่สามารถรับชมจันทรุปราคาเต็มดวงได้ในเมืองใหญ่ของหลายประเทศ  โดยที่กรุงการากัส ของเวเนซุเอลา และกรุงโบโกตาของโคลอมเบีย มีผู้คนจำนวนมากให้ความสนใจมาร่วมชมปรากฎการณ์นี้ที่ท้องฟ้าจำลองของทั้ง 2 ประเทศได้จัดกิจกรรมรับชมจันทรุปราคาขึ้น ส่วนที่เม็กซิโก ผู้คนสามารถรับชมได้ตั้งแต่กรุงเม็กซิโกซิตี้ขึ้นไปถึงเมืองซิวดัดฮัวเรซทางภาคเหนือ โดยภาพของดวงจันทร์เมื่อคืนที่ผ่านมาปรากฎให้เห็นเป็นสีแดงเข้ม หรือที่เรียกกันว่าพระจันทร์สีเลือด  ข้อมูลขององค์การบริหารหารบินและอวกาศแห่งชาติหรือนาซาระบุว่า จันทรุปราคาเต็มดวงครั้งนี้กินเวลาทั้งหมด 66 นาที เกิดขึ้นเป็นครั้งแรกในภูมิภาคลาตินอเมริกานับจากปี 2565 นอกจากนี้ยังมีอีกหลายทวีปที่สามารถมองเห็นจันทรุปราคาเต็มดวงครั้งนี้ได้เช่นกัน ไม่ว่าจะเป็นอเมริกาเหนือ บางส่วนของแอฟริกา และยุโรป ออสเตรเลียและญี่ปุ่น  ขณะที่บางพื้นที่จะมองเห็นจันทรุปราคาแบบไม่เต็มดวง.-816(814).-สำนักข่าวไทย