นนทบุรี 22 ก.ค. – กรมพัฒนาธุรกิจการค้าเผยบริษัทใหม่ มิ.ย. 5,731 ราย เพิ่มร้อยละ 3 หลังคลายล็อกดาวน์ โดยเฉพาะธุรกิจขนส่งสินค้ามาแรงรับค้าออนไลน์โตสวนกระแส
นายวุฒิไกร ลีวีระพันธุ์ อธิบดีกรมพัฒนาธุรกิจการค้า เปิดเผยว่า การจดทะเบียนธุรกิจเดือนมิถุนายน 2563 มีผู้ประกอบธุรกิจยื่นขอจดทะเบียนจัดตั้งห้างหุ้นส่วนบริษัทใหม่ทั่วประเทศ 5,731 ราย เมื่อเทียบกับเดือนพฤษภาคมที่ผ่านมาเพิ่มขึ้นร้อยละ 37 และเทียบเดือนมิถุนายน 2562 เพิ่มขึ้นร้อยละ 3 มูลค่าทุนจดทะเบียน 14,757 ล้านบาท เมื่อเทียบกับพฤษภาคม 2563 เพิ่มขึ้นร้อยละ 53 แต่เทียบกับมิถุนายน 2562 ลดลงร้อยละ 3 โดยธุรกิจจัดตั้งใหม่สูงสุด 3 อันดับแรก ได้แก่ ธุรกิจก่อสร้างอาคารทั่วไป 612 ราย คิดเป็น ร้อยละ 11 รองลงมา คือ ธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ 271 ราย คิดเป็นร้อยละ 5 และอันดับ 3 คือ ธุรกิจขนส่งและขนถ่ายสินค้า รวมถึงคนโดยสาร 188 ราย คิดเป็นร้อยละ 3
อย่างไรก็ตาม ธุรกิจเลิกประกอบกิจการ 1,336 ราย เทียบกับพฤษภาคม 2563 เพิ่มขึ้นร้อยละ 48 และเทียบกับมิถุนายน 2562 เพิ่มขึ้นร้อยละ 6 มูลค่าทุนจดทะเบียน 5,132 ล้านบาท เทียบกับพฤษภาคม 2563 เพิ่มร้อยละ 73 และเทียบกับมิถุนายน 2562 เพิ่มร้อยละ 3 โดยธุรกิจที่เลิกกิจการสูงสุด 3 อันดับแรก ได้แก่ ธุรกิจก่อสร้างอาคารทั่วไป 111 ราย คิดเป็นร้อยละ 8 รองลงมา คือ ธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ 69 ราย คิดเป็นร้อยละ 5 และธุรกิจให้คำปรึกษาด้านการจัดการ 36 ราย คิดเป็นร้อยละ 3
สำหรับยอดรวมการจัดตั้งธุรกิจใหม่ในช่วง 6 เดือนปี 2563 (ม.ค.-มิ.ย.) จำนวน 33,337 ราย ลดลงร้อยละ 13 ทุนจดทะเบียนรวม 104,571 ล้านบาท ลดลงร้อยละ 13 และธุรกิจเลิกกิจการ 6,227 ราย ลดลงร้อยละ 7 ทุนจดทะเบียน 26,347 ล้านบาท เพิ่มขึ้นร้อยละ 18
ทั้งนี้ ปัจจัยที่ส่งผลให้ผู้ประกอบธุรกิจมีการจดตั้งธุรกิจใหม่เดือนมิถุนายน 2563 เพิ่มขึ้น เนื่องจากการคลายล็อกดาวน์ ส่งผลให้กิจกรรมทางเศรษฐกิจมีการขับเคลื่อน ทำให้มีความมั่นใจในการลงทุนทำธุรกิจเพิ่มขึ้น โดยมีธุรกิจที่น่าจับตา คือ ธุรกิจขนส่งและขนถ่ายสินค้า รวมถึงคนโดยสาร ที่มีการตั้งใหม่เข้ามาเป็นอันดับที่ 3 จากปกติจะเป็นธุรกิจภัตตาคารและร้านอาหาร เพื่อรองรับการขยายตัวของการค้าออนไลน์และบริการขนส่งสินค้าจากการซื้อขายออนไลน์
ล่าสุดมีธุรกิจดำเนินกิจการ ณ วันที่ 30 มิถุนายน 2563) จำนวน 765,775 ราย มูลค่าทุน 18.44 ล้านล้านบาท แยกเป็นห้างหุ้นส่วนจำกัด ห้างหุ้นส่วนสามัญนิติบุคคล 186,682 ราย คิดเป็น 24.38% บริษัทจำกัด 577,822 ราย คิดเป็น ร้อยละ 75.46 และบริษัทมหาชนจำกัด 1,271 ราย คิดเป็นร้อยละ 0.16 ตามลำดับเป็นต้น.-สำนักข่าวไทย