กรุงเทพฯ 22 ก.ค.- ตำรวจนครบาล 5 เร่งประชุมชุดสืบสวนกลางดึก ยังไม่สรุปสาเหตุรถตู้ลักพาตัวสาว เป็นเรื่องการลักลอบค้าประเวณี หรือปมชู้สาว เร่งติดตามเบาะแสรถตู้ที่ใช้ก่อเหตุ โดยเลขทะเบียนที่ผู้เสียหายให้ข้อมูล ตรวจสอบแล้วไม่พบในระบบ
ตำรวจฝ่ายสืบสวน สน.ทุ่งมหาเมฆ พาพยานหลายปากที่คาดว่าจะเห็นเหตุการณ์ที่เกี่ยวข้องกับเหตุคนขับรถตู้เฉี่ยวชนแท่งแบริเออร์ โดยมีชายหนุ่มเกาะอยู่หน้ารถ ขัดขวางไม่ให้บังคับพาตัวแฟนสาวไป เหตุเกิดบริเวณเชิงสะพานไทย-เบลเยี่ยม ถนนพระราม 4 ใกล้สวนลุมพินี เมื่อประมาณ 03.00 น. วานนี้ ไปสอบปากคำหาความเชื่อมโยง เพื่อหาข้อเท็จจริงของการเกิดเหตุการณ์ดังกล่าว โดยมีรองผู้บังคับการตำรวจนครบาล 5 ร่วมซักถามข้อเท็จจริงด้วย
พล.ต.ต.สามารถ ศรีสิริวิบูลย์ชัย ผู้บังคับการตำรวจนครบาล 5 เปิดเผยว่า ได้สั่งการให้ชุดสืบสวนติดตามเบาะแสของรถตู้ยี่ห้อโฟล์คสวาเกน สีบรอนซ์ ที่ใช้แผ่นป้ายกระดาษปิดเลขทะเบียนที่แท้จริง โดยยืนยันว่าเลขทะเบียนที่ผู้เสียหายให้ข้อมูล ตรวจสอบกับกรมการขนส่งทางบกแล้ว ไม่ปรากฏว่ามีการขึ้นทะเบียนรถคันดังกล่าวไว้ในระบบ จึงสันนิษฐานว่า คนขับรถตู้ที่ก่อเหตุ น่าจะเป็นพนักงานคนขับรถที่นำรถนายจ้างไปใช้งาน และจากคำให้การของผู้เสียหาย คาดว่าเป็นคนไทยอายุประมาณ 40-50 ปี
ส่วนปมเหตุในการบังคับพาไป ยังไม่สรุปว่าเป็นเรื่องการลักลอบค้าประเวณี หรือปมชู้สาว เนื่องจากหลังผู้เสียหายเข้าแจ้งความแล้ว ก็มีอาการเศร้าเสียใจอย่างมาก คาดว่ายังได้รับความกระทบกระเทือนต่อจิตใจอยู่ ซึ่งฝ่ายสืบสวนก็ยังไม่ตัดประเด็นใดประเด็นหนึ่งทิ้ง ต้องขอเวลาสอบสวนอีกระยะจึงจะมีความชัดเจนขึ้น
สำหรับการป้องปรามการลักลอบค้าประเวณีบริเวณสวนลุมพินี ซึ่งอยู่ในพื้นที่รับผิดชอบของ สน.ลุมพินี มีการดำเนินคดีกับผู้กระทำผิดและจัดทำประวัติผู้ต้องหาไว้ แต่เนื่องจากความผิดดังกล่าวมีเพียงอัตราโทษปรับ ทำให้ผู้กระทำผิดไม่เข็ดหลาบ กลับไปกระทำผิดซ้ำได้อีก ซึ่งก็กำชับฝ่ายปราบปรามในการหมั่นตรวจตราไปแล้ว
อย่างไรก็ตาม เนื่องจากคดีนี้อาจส่งผลเสียต่อชื่อเสียงของผู้เสียหาย จึงฝากขอให้สื่อมวลชนระมัดระวังการนำเสนอข่าวนี้ด้วย.-สำนักข่าวไทย