ทำเนียบฯ 3 ก.ค.-ศบค. ย้ำช่วงวันหยุดยาวต้องเที่ยวอย่างมีสติเพื่อความปลอดภัย ห่วงกลุ่มกิจการกิจกรรมที่มีความเสี่ยงสูง ไม่อยากให้ต้องปิดกิจการอีก แจงต่างชาติเข้าประเทศเพื่อการแพทย์ต้องอยู่โรงพยายาลอย่างน้อย 14 วัน
นพ.ทวีศิลป์ วิษณุโยธิน โฆษกศูนย์บริหารสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (โควิด-19) หรือ ศบค. กล่าวถึงกรณีวันหยุดยาว 4 วันในช่วงสุดสัปดาห์นี้ ซึ่งตรงกับวันอาสาฬหบูชา และวันเข้าพรรษา ว่า ศบค.มีความห่วงใยมากในกิจการและกิจกรรมสีแดง หรือมีความเสี่ยงสูง อาทิ ผับ บาร์ คาราโอเกะ ในการผ่อนคลายมาตรการระยะที่ 5 เพราะในต่างประเทศเกิดการระบาดจากจุดนี้ ซึ่งการลงทะเบียนใช้บริการนั้นมีความสำคัญ และการควบคุมโรค เป็นภารกิจของคนทั้งชาติ เช่นเดียวกับการสวมหน้ากากอนามัย หรือหน้ากากผ้า เมื่อ ศบค.และรัฐบาลผ่อนคลายให้แล้ว อยากขอความร่วมมือประชาชนทุกคน ใช้ชีวิตอย่างมีสติ เที่ยวอย่างปลอดภัย แม้จะไม่มีรายงานการติดเชื้อในประเทศมาแล้ว 39 วัน แต่เพื่อไม่ให้เกิดการต้องปิดกิจการอีก เพื่อให้ผ่านระยะที่ 5 นี้ไปด้วยดี
“พล.อ.พรพิพัฒน์ เบญญศรี ผู้บัญชาการทหารสูงสุด ในฐานะหัวหน้าศูนย์ปฏิบัติการแก้ไขสถานการณ์ฉุกเฉินด้านความมั่นคง (ศปม.) เน้นย้ำเรื่องผิวสัมผัสร่วมกันว่ามีความสำคัญสูง ขอความร่วมมือไม่ดื่มจากแก้วเดียวกัน สูบบุหรี่ด้วยกัน เพราะอาจจะทำให้ติดเชื้อโคโรนาไวรัส อย่างที่เคยเกิดขึ้นมาแล้ว ขอให้ทุกคนปฏิบัติตัวเหมือนระยะ 1-4 ที่ผ่านมา การ์ดอย่าตก และการสวมหน้ากากมีความจำเป็นในช่วงที่ยังไม่มีวัคซีน เพื่อป้องกันการติดเชื้อ” นพ.ทวีศิลป์ กล่าว
ส่วนกรณีชาวต่างชาติที่เข้ามารักษาตัวที่โรงพยาบาลมีผู้ติดตามได้หรือไม่นั้น นพ.ทวีศิลป์ กล่าวว่า สามารถมีผู้ติดตามได้ไม่เกิน 3 คน ต้องมีใบนัดจากแพทย์และโรงพยาบาลในการรักษา ต้องมีใบอนุญาตการเดินทางตรวจหาเชื้อก่อนเดินทาง และเมื่อเดินทางถึงประเทศไทย เมื่อเข้ามาแล้วต้องอยู่ในโรงพยาบาล 14 วันอย่างน้อย ไม่อนุญาตให้เดินทางกลับก่อนเพื่อความมั่นใจ.-สำนักข่าวไทย