กรุงเทพฯ 3 ก.ค.-สุวรรณภูมิ-กองด่านควบคุมโรคติดต่อ สธ.เปิดตัวระบบตรวจสารคัดหลั่งหาเชื้อโควิด-19 ทราบผลใน 90 นาที ให้ความแม่นยำร้อยละ 95 นำร่องใช้กับกลุ่มนักท่องเที่ยวต่างชาติที่เป็นนักธุรกิจและประสานกระทรวงต่างประเทศประสงค์เดินทางเข้าไทย
นาวาอากาศโทสุธีรวัฒน์ สุวรรณวัฒน์ ผู้อำนวยการท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ พร้อมด้วยนายแพทย์สุวิช ธรรมปาโล ผู้อำนวยการกองด่านควบคุมโรคติดต่อระหว่างประเทศ ร่วมแถลงข่าวถึงความพร้อมที่จะผ่อนคลายตามประกาศสำนักงานการบินพลเรือนระหว่างประเทศ (กพท.) ที่จะอนุญาตให้บุคคลและอากาศยานเดินทางเข้าประเทศไทยครอบคลุมบุคคลสัญชาติไทยและบุคคลที่ไม่ได้ถือสัญชาติไทย ที่แจ้งขออนุญาตผ่านกระทรวงการต่างประเทศเดินทางเข้าประเทศ ดังนั้น เพื่อป้องกันการระบาดของโควิด-19 สอดคล้องกับแนวปฏิบัติของศูนย์บริหารสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (โควิด-19) หรือ ศบค. และการผ่อนคลายตามประกาศของ กพท. ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิจึงได้ประสานกับกระทรวงสาธารณสุขจัดทำจุดคัดกรองควบคุมโรคติดต่อระหว่างประเทศ โดยตั้งห้องปฏิบัติการหรือแล็บ ตรวจหาเชื้อโควิด-19 โดยตรวจจากสารคัดหลั่งทางพันธุกรรม หรือ PCR ซึ่งระบบดังกล่าวปัจจุบันเป็นที่ยอมรับแม่นยำถึงร้อยละ 95 และทราบผลภายใน 90 นาที หรือไม่เกิน 2 ชั่วโมง
ผอ.สุวรรณภูมิ ย้ำว่าการดำเนินการดังกล่าวจะเริ่มจากผู้ที่ประสงค์เดินทางเข้าไทยประสานขอออนุญาตผ่านกระทรวงการต่างประเทศด้วยตนเองหรือผ่านตัวแทนธุรกิจ (เอเยนซี่) เมื่อกระทรวงการต่างประเทศ ประสานอนุญาตการเดินทางมาสุวรรณภูมิแล้ว ก็จะอนุญาตให้มีการเดินทางเข้ามาตามรายชื่อที่กำหนด โดยวันนี้จะมีการนำร่องทดสอบใช้กับผู้โดยสารที่เป็นคนไทย ซึ่งเดินทางกลับจากต่างประเทศไม่เกิน 200 คน และในอนาคตระบบ PCR จะขยายไปตั้งแล็บที่ท่าอากาศยานระหว่างประเทศทุกแห่งของไทย โดยท่าอากาศยานสุวรรณภูมิติดตั้ง PCR 14 เครื่อง สามารถทำการตรวจสูงสุด 28 คนต่อชั่วโมง ไม่เกิน 200 คนต่อวัน โดยได้เตรียมพื้นที่บริเวณประตูทางเข้า (GATE) D3 และ D4 เพื่อเป็นห้องพักคอยของผู้โดยสารที่รอผลตรวจ
นพ.สุวิช กล่าวว่า การตรวจระบบ PCR ผู้ประสงค์จะเดินทางประสานผ่านเอเยนซี่จะต้องรับภาระค่าตรวจรายละ 3,000 บาท ค่าใช้จ่ายดังกล่าวจะยกเว้นให้แก่เจ้าหน้าที่การทูตเท่านั้น โดยเมื่อตรวจคัดกรองแล้วบุคคลเหล่านี้ แม้ไม่ต้องกักตัว 14 วันใน State Quarantine แต่การเดินทางไปที่ต่าง ๆ จะมีเจ้าหน้าที่ทางการแพทย์ประกบติดตามไปด้วย รวมทั้งมีการกันบุคคลเหล่านี้ไม่ให้เดินทางเข้าพื้นที่สาธารณะ หรือใช้ระบบขนส่งสาธารณะ โดยค่าใช้จ่ายเกี่ยวกับบริการดังกล่าวเอเยนซี่ที่ประสานการเดินทางจะเป็นผู้รับค่าใช้จ่ายทั้งหมด
ทั้งนี้ การนำมาตรการ PCR มาใช้นั้น ทั้งท่าอากาศยานสุวรรณภูมิและกระทรวงสาธารณสุข ยืนยันว่าถือเป็นจุดเริ่มต้นในการผ่อนคลายที่จะทำให้การเดินทางเข้ามาประเทศไทยภายหลังการระบาดของโควิด-19 ในประเทศ ซึ่งสถานการณ์ดีขึ้นตามลำดับนำไปสู่การเดินทางมากขึ้นในอนาคต.-สำนักข่าวไทย